เพื่อนฝากเตือนมาค่ะเพื่อนเจอเองกับตัว สำหรับคนที่กำลังจะใช้ครีม หาหมอ หรือทำไรโดยไม่หาข้อมูลก่อนค่ะ
คือว่าเมื่อสองปีก่อน ฉันอยากจะจี้ไฝที่ขาออกแต่ไม่อยากไปหาหมอ เลยใช้สบู่ผสมปูนแดงและก้วางไว้ค่ะ คือมันจะเหมือนกัดๆผิว แล้วก้แสบนิดๆ ปรากดว่าแผลของฉันกลายเป็นแผลแปลกๆ เหมือนมีเลือดไปคลั่งตรงแผลนะค่ะ แล้วมันก้ไม่หาย เลยตัดสินใจไปหาหมอ อ้อ ลืมบอกไปค่ะว่า ตอนนั้นมีแตกลายที่ต้นขาด้วย แต่แค่นิดเดียวค่ะ เป็นเส้นเลกๆบางๆไม่ใหย่มาก พอไปถึงที่คลีนิกหมอที่เซนทรัลพระราม3 (เปนคลีนิกที่ถูกๆนะค่ะ) เค้าก้ใช้เลเซอจี้ตรงแผลที่ฉันจี้ไฝ แล้วก้ให้ยาสำหรับทาแตกลายค่ะ หมอยังบอกอีกว่ายาตัวนร้ช่วยให้ขาว ฉันก้ละเลงเลยค่ะปรากดว่าแผลไฝดีขึ้น แต่แตกลายนั้นมันแตกมากขึ้นค่ะ แต่ตอนนั้นไม่เอะใจมาก ฉันเลยไปซื้อretin-A มาทา เพาะเหนในเนตเค้าเชียร์ให้ใช้ อาทิดนึงหลังใช้ กล่ยเปนแผลค่ะ แต่ก้ม่เอะใจอะรัย ปรากดว่าเปนแผลที่เจบมากค่ะ สุกท้ายตกสะเกด พอหายจากสะเกด ก้แตกเยอะมากถึงขั้นสุดท้ายค่ะ แล้วก้ดำเปนปืดวงกว้างที่ข้อพับด้วย ฉันจึงปรึกษาแม่ แม่ให้ไปหาหมอวิชัยรพเซนหลุยค่ะ เพาะเค้าเปนอันดับหนึ่งทางด้านนี้ พอไปถึงวันแรกหมอเค้าตกใจมากค่ะ ที่ขาฉันเปนแบบนี้ จนถึงวันนี้ก้เกือบ1ปีแล้วค่ะที่รักษา แต่มันก้ยังม่ค่อยหายดี
สรุปเลยนะค่ะ ถ้าเพื่อนๆทุกคนอยากจะใช้ผลิตภันใด หรือส่วนผสมไหนก็อยากจะให้คิดให้ดีก่อนค่ะว่าผิวเรามันบอบบางมั้ย และมันสมควรที่เราจะใช้รึปล่าว และสุดท้ายนี่สิ่งที่อยากเตือนมากที่สุดคือ เรื่องหมอค่ะ คือฉันไม่ได้หมายความว่าไปคลีนิกถูกๆแล้วมันจะไม่ดีนะค่ะ แต่ฉันอยากจะบอกว่า ก่อนจะทำอะไรให้คิดหน้าคิดหลังค่ะ เพราะยิ่งถ้าเปนคนผิวบางแล้วด้วย ก็ยิ่งไม่ควรเสี่ยงค่ะ ไปหารพดีดี คลีนิกดีๆ ชัวๆดีกว่านะค่ะ แล้วสุดท้ายนี้อยากจะให้ทุกคนช่วยแชร์บทความนี้ออกไปให้เยอะที่สุดค่ะ หรือไม่ก็บอกต่อเกี่ยวกับเรื่องราวของฉันให้ได้เคือนสติทุกคนค่ะ
ปล:รักเพื่อนๆทุกคนค่ะ ไม่อยากให้ใครต้องมาเปนแบบฉันอีก ^_^
เตือนค่ะ คนที่ทำอะไรไม่หาข้อมูล
คือว่าเมื่อสองปีก่อน ฉันอยากจะจี้ไฝที่ขาออกแต่ไม่อยากไปหาหมอ เลยใช้สบู่ผสมปูนแดงและก้วางไว้ค่ะ คือมันจะเหมือนกัดๆผิว แล้วก้แสบนิดๆ ปรากดว่าแผลของฉันกลายเป็นแผลแปลกๆ เหมือนมีเลือดไปคลั่งตรงแผลนะค่ะ แล้วมันก้ไม่หาย เลยตัดสินใจไปหาหมอ อ้อ ลืมบอกไปค่ะว่า ตอนนั้นมีแตกลายที่ต้นขาด้วย แต่แค่นิดเดียวค่ะ เป็นเส้นเลกๆบางๆไม่ใหย่มาก พอไปถึงที่คลีนิกหมอที่เซนทรัลพระราม3 (เปนคลีนิกที่ถูกๆนะค่ะ) เค้าก้ใช้เลเซอจี้ตรงแผลที่ฉันจี้ไฝ แล้วก้ให้ยาสำหรับทาแตกลายค่ะ หมอยังบอกอีกว่ายาตัวนร้ช่วยให้ขาว ฉันก้ละเลงเลยค่ะปรากดว่าแผลไฝดีขึ้น แต่แตกลายนั้นมันแตกมากขึ้นค่ะ แต่ตอนนั้นไม่เอะใจมาก ฉันเลยไปซื้อretin-A มาทา เพาะเหนในเนตเค้าเชียร์ให้ใช้ อาทิดนึงหลังใช้ กล่ยเปนแผลค่ะ แต่ก้ม่เอะใจอะรัย ปรากดว่าเปนแผลที่เจบมากค่ะ สุกท้ายตกสะเกด พอหายจากสะเกด ก้แตกเยอะมากถึงขั้นสุดท้ายค่ะ แล้วก้ดำเปนปืดวงกว้างที่ข้อพับด้วย ฉันจึงปรึกษาแม่ แม่ให้ไปหาหมอวิชัยรพเซนหลุยค่ะ เพาะเค้าเปนอันดับหนึ่งทางด้านนี้ พอไปถึงวันแรกหมอเค้าตกใจมากค่ะ ที่ขาฉันเปนแบบนี้ จนถึงวันนี้ก้เกือบ1ปีแล้วค่ะที่รักษา แต่มันก้ยังม่ค่อยหายดี
สรุปเลยนะค่ะ ถ้าเพื่อนๆทุกคนอยากจะใช้ผลิตภันใด หรือส่วนผสมไหนก็อยากจะให้คิดให้ดีก่อนค่ะว่าผิวเรามันบอบบางมั้ย และมันสมควรที่เราจะใช้รึปล่าว และสุดท้ายนี่สิ่งที่อยากเตือนมากที่สุดคือ เรื่องหมอค่ะ คือฉันไม่ได้หมายความว่าไปคลีนิกถูกๆแล้วมันจะไม่ดีนะค่ะ แต่ฉันอยากจะบอกว่า ก่อนจะทำอะไรให้คิดหน้าคิดหลังค่ะ เพราะยิ่งถ้าเปนคนผิวบางแล้วด้วย ก็ยิ่งไม่ควรเสี่ยงค่ะ ไปหารพดีดี คลีนิกดีๆ ชัวๆดีกว่านะค่ะ แล้วสุดท้ายนี้อยากจะให้ทุกคนช่วยแชร์บทความนี้ออกไปให้เยอะที่สุดค่ะ หรือไม่ก็บอกต่อเกี่ยวกับเรื่องราวของฉันให้ได้เคือนสติทุกคนค่ะ
ปล:รักเพื่อนๆทุกคนค่ะ ไม่อยากให้ใครต้องมาเปนแบบฉันอีก ^_^