เดิมรักษาแผลคีลอยด์ที่คลีนิกนี้อยู่แล้ว แต่มีวันนึงมารักษาคีลอยด์ปรกติก็ขอให้หมอจี้ไฝทิ้งด้วย

เท่าที่รู้สึกตอนทำคือหมอใช้เลเซอร์จี้รอบไฝ แล้วบีบและเขี่ยจนไฝหลุด หลังจากนั้นหมอให้ยา Dermatix Gel มาทา ก็ไม่รู้ว่าทาที่แผลคีลอยด์หรือแผลที่จี้ไฝ  จะถามหมอ แต่หมอกลับบ้านแล้ว ที่เคาต์เตอร์บอกให้ทาได้ทั้ง 2 ที่ นัดเจออีก 2 อาทิตย์

ผ่านไปอาทิตย์กว่า แผลไฝตกสะเก็ด และหลุดออกแต่ยังไม่ได้ทา Dermatix Gel มาพบหมอทันทีก่อนวันนัด หมอถามว่าครั้งก่อนหมอไม่ได้ให้ขี้ผึ้งไปเหรอ ผมตอบว่าไม่ได้ให้ ให้แต่ Dermatix Gel หมอบอกว่าโอเคไม่เป็นไร เพราะแผลตกสะเก็ดไปแล้ว ให้ทา Dermatix Gel ที่ไฝได้ แล้วนัดเจออีก 1 เดือน

ผ่านไป 1 เดือน หลุมไฝยังไม่ค่อยตื้นขึ้นเลย หมอบอกว่าหลุมไฝยังแดงๆอยู่เลย ให้เลิกทา Dermatix Gel ได้แล้ว เพราะกลัวว่ายาจะไปขัดขวางการทำให้หลุมมันตื้นขึ้น(ผมเข้าใจอย่างนั้น) ผมก็ถามหมอนะว่าเห็นมียาอีกหลายตัวที่เห็นทางเน็ตที่ช่วยทำกระตุ้นเนื้อให้หลุมมันตื้นขึ้นเต็มขึ้นได้ หมอบอกให้เชื่อหมออย่าไปใช้ยาอีก แล้วนัดเจออีก 1 เดือน

และแล้วก็ผ่านไปอีกครึ่งเดือนแล้ว(รวมประมาณ 2 เดือนนับจากวันที่จี้ไฝ) หลุมไม่ได้ตื้นขึ้นแบบเห็นได้ชัดนะจนแทบไม่รู้สึก ประมาณว่าตื้นขึ้น 0-3% ละกัน ผมควรทำยังไงดีครับ เชื่อหมอต่อไป หรือหาวิธีอื่นเพิ่มเติม

รูปหลังจากการจี้ไฝแล้ว 2 เดือน