ถ้าผมไม่ต้องการให้ลูกมีศาสนาในบัตรประชาชนทำได้หรือเปล่า แล้วจะมีปัญหาอะไรในอนาคตครับ

คือตอนนี้ลูกยังเล็กอยู่ แต่พอพูดเรื่องศาสนาเลยคิดขึ้นมาได้
ว่าถ้าเกิดตอนไปทำบัตรประชาชนเห็นต้องใส่ ศาสนา คือเราไม่ใส่ได้ไหมครับ
แต่จะรอจนลูกสามารถโต บรรลุนิติภาวะ ค่อยให้เขาไปเปลี่ยนเอง เอาตามที่ชอบใจเลย
หรือไม่ชอบก็ไม่ต้องใส่ต่อไป

บ้านผม ศาสนาพุทธ พ่อบวชเณรแต่เล็กจนโต แม่ก็ธรรมะธรรมโม
พ่อจะดีหน่อยตรงที่ชอบมองทุกอย่างแบบเรียบง่าย เกิดอะไรขึ้นก็ สัตร์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
คือมันก็ดีนะ แต่บางอย่างมันก็เกินไป เช่น หมาขาเจ็บ พอบอกเดี๋ยวมันก็หาย ถ้าไม่หายมันก็ตายตามธรรมชาติ
เราแบบ พาไปหาหมอดีกว่าไหม ถึงที่สุดค่อยตามกรรม

ส่วนแม่ นี่นอนวัดทุกวันพระ ข้อห้ามเยอะ แล้วก็บ่นเจ็บนูนนั้นนี่ แล้วก็มาคิดเหมือนบุญยังไม่พอ มันเลยเจ็บ
เช่นช่วงหลังมาแม่เจ็บก้น ปวดขา แต่เราบอกแม่ว่ามันไม่ใช่บุญไม่พอหรอกแม่ เพราะแม่ไม่ค่อยออกกำลังกาย
น้ำหนักเยอะขึ้น ขามันก็เลยปวด ส่วนที่เจ็บก้น เพราะแม่ นั่งพื้นแข็งๆ มากเกินไป แต่แกไม่เชื่อเรา 555

ส่วนตัวเราเองก็ไม่ค่อยถืออะไรมาก แรกๆ ทะเลาะกับภรรยาบ้าง
แต่เดี๋ยวนี้ภรรยาเริ่มเชื่อเรามากขึ้น เหมือนโดนกล่อมประสาทเลย

แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่มีกฏ
กฏขงผมจะมีอะไรที่ง่ายๆ คือไม่ต้องยึดถือมาก เพราะมันหนัก เอาที่เราสบายใจแล้วคนอื่นไม่เดือนร้อนเป็นพอ
สิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจที่ดีที่สุดคือตัวเราเอง ส่วนศาสนาคือที่สิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจแบบหลอกตัวเองไปวันๆ

อีกประเด็นคือเรื่องนรกสวรรค์ ตายแล้วไปไหน ชาติที่แล้วเป็นอะไร
ผมถามกลับทุกคนว่า ขนาดตอน 1 ขวบยังจำอะไรไม่ได้ เรื่องอื่นไม่ต้องไปคิดให้มันรกสมอง
ทำปัจจุบันให้ได้ดีก่อนจะดีกว่าไหม ความสุขทำตอนนี้ได้ตอนนี้ ส่วนทำบุญนี่ไม่รู้ว่าจะได้ใช้ตอนไหน

ส่วนศาสนาอื่น ก็ตามประสงค์ของพระเจ้า ผมว่าคำตอบที่ได้มันจะหลอกตัวเองเป็น ตามประสงค์ของข้าเองนี่แหละ
ไม่ก็ของผู้นำทางศาสนาแต่อ้างพระเจ้าไปแบบนั้นแหละ ถ้าผู้นำดีก็สงบสุข ถ้าผู้นำไม่ดีก็หายนะ

สรุป นอกเรื่องไปไกลเลย  

Tag#ครอบครัว เพราะคิดว่าอาจจะมีปัญหากับพ่อแม่ ถ้ารู้คงไม่พอใจแน่ แต่ผมก็ทะเลาะกับท่านบางเรื่องวัดวา
แบบว่าวัดรวยแล้วแม่จะทำไรนักหนา ถ้าจะเอาเงินไปทำบุญ แม่เอาเงินไปเลี้ยงหลานจะดีกว่าไหม
อันนี้ไม่ใช่ลูกผมนะ ลูกผม ผมมีปัญหาหาเลี้ยงเองได้

Tag#กฎหมายชาวบ้าน  เพราะไม่รู้ว่ามีข้อห้ามทางกฎหมายหรือไม่ถ้าไม่มีศาสนา

Tag#ศาสนา เพราะมันตรงตัวอยู่แล้ว เพื่อใครมีความเห็นทางด้านนี้ก็ช่วยชี้แนะด้วย

Tag#ทรัพยากรบุคคล เพราะถ้าเกิดโตขึ้นจะไปหางานทำได้ไหมถ้าในใบสมัครมันต้องให้กรอกศาสนา
แต่ลูกเราไม่มี เขาจะเอามาเป็นกฏเกณฑ์ ในการสมัครงานไหมครับ

Tag#วิทยาศาสตร์  เพราะจะถามว่าชาววิทยาศาสตร์ เป็นคนมีศาสนา มีความเชื่อไหม อยากได้ความคิดเห็นทางนี้ด้วย
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
ง่วงนอนมาก  แต่อ่านทู้นี้เลยต้องเข้ามา


จขกท.คิดแทนลูกไปแล้ว   ในอนาคตจะเป็นปัญหากับตัวเขา

เวลากรอกข้อมูลพื้นฐาน เจอตั้งแต่ตอนเด็กๆละ  ศาสนา......

ตอบไม่ได้เพราะ  ไม่รู้จักศาสนาอะไร   จะยุ่งยากต่อไปอีก ถ้าเพื่อนๆหรือคนอื่นๆถามว่า  "ทำไมเป็นคนไม่มีศาสนาเหรอ"

ส่วนมากตอนนี้ ก็เป็นพุทธแต่ในนามกันเป็นส่วนมากอยู่แล้ว


ศาสนาพุทธ  จริงๆแล้วสอนอะไร  ใครตอบได้บ้าง  ไม่มี๊...  ไม่รู้กันหรอก  น้อยจริงๆที่จะตอบได้ตรงประเด็น

นอกนั้นรู้แค่ผิวเผิน


อย่างกรณีของคนในครอบครัวที่เล่ามา   ก็มองได้ว่า ไม่เข้าใจเรื่องกรรมจริงๆ  มองว่าทุกอย่างเป็น"อุเบกขา"  ให้ปล่อยวาง และวางไว้เฉยๆ

อย่างเรื่องสุนัขที่ป่วย  ก็ขาดความเข้าใจ  ว่าศาสนาพุทธให้ทำอย่างไร  ไม่ใช่ปล่อยให้มันตายไปเฉยๆเพราะเป็นกรรมของมันเอง

หรือการเจ็บตามตัวของแม่  คุณเข้าใจถูกต้องว่าต้องแก้ที่สาเหตุ  ไม่ใช่ไปโทษบุญกรรมโน่น

แปลว่าไปนอนวัด  แล้วไม่ได้อะไร  นอกจากความสงบชั่วคราว  ไม่อยู่ในสังคมที่วุ่นวาย

ซึ่งศาสนาพุทธไม่ได้สอนให้ทำอย่างนั้น



จขกท.ตัดสินใจแล้ว่าจะใช้ชีวิตที่เหลืออย่างไร  ศาสนาจำเป็นหรือไม่  ก็ไม่สามารถยุ่งเกี่ยวได้

เพียงแต่  ขอแสดงความเสียดายที่ชาตินี้เกิดมาแล้ว  พบศาสนาพุทธ  แล้วไม่รู้จักศาสนาพุทธที่แท้จริง

ขอให้โชคดีในชาติต่อๆไป

ดอกไม้ดอกไม้ดอกไม้
ความคิดเห็นที่ 17
จขกท คิดถูกต้อง แต่ผิดเวลา ครับ
คือ ณ ตอนนี้ ประเทศไทย คนไทย(กลุ่มคนสูงอายุ) จะยังคงยึดติดกับธุรการ ชื่อ นามสกุล ศาสนาครับ
เช่น ตอนเด็กเข้าโรงเรียน โรงเรียนก็เอาพุทธศาสนาเป็นวิชาสามัญ ทันที, ถ้าเด็กไม่มีศาสนา ครูอาจจะถามว่า "ทำไมไม่มี"
พอโตมาเข้ามหาลัย เข้าทำงาน ใบสมัครก็ให้กรอกว่า ศาสนาอะไร?
คือ จขกท คิดถูกที่ว่า มนุษย์ คนหนึ่งควรมีสิทธิที่จะเลือก "ความเชื่อ, ความศรัทธา" เป็นของตัวเอง หรือจะเลือกไม่เชื่อก็ได้

ส่วนผม ผมเชื่อว่ามนุษย์สามารถเป็นมนุษย์ที่ "ดี" ได้ โดยไม่ต้องมีศาสนาครับ
ความคิดเห็นที่ 3
ทําได้ครับ ก็แจ้งความประสงค์กับเจ้าหน้าที่ไปว่า ไม่มีความประสงค์จะให้ลงในบัตรประชาชน
หากเจ้าหน้าที่ถามว่าทําไม่ ก็ตอบเขาไปว่า รอให้ลูกโตจนบรรลุนิติภาวะแล้ว หลังจากนั้นให้เขาตัดสินใจด้วยตนเอง

ถามว่ามีปัญหาอะไรในอนาคตไหม
-คงมีบ้าง แต่ไม่น่าร้ายแรง
ที่แน่ ๆ โดนถามแน่ครับ ว่าทําไม  ก็เตรียมคําถามให้ดี/ทนายอภิสิทธิ์

ag#ทรัพยากรบุคคล เพราะถ้าเกิดโตขึ้นจะไปหางานทำได้ไหมถ้าในใบสมัครมันต้องให้กรอกศาสนา
แต่ลูกเราไม่มี เขาจะเอามาเป็นกฏเกณฑ์ ในการสมัครงานไหมครับ
-การนับถือศานาหรือไม่นับถือศาสนา ไม่ใช้กฎเกณฑ์ในการคัดเลือกบุคคลเข้าทํางานครับ
เว้นแต่ ไปเจอผู้บริหารหรือฝ่ายบุคคลที่ไม่เคยคิดอะไรนอกกรอบ เขาอาจมองแปลก ๆ ครับ

และเวลาไปสมัครเรียน ครูที่โรงเรียน อาจจัดไม่ถูกครับ ว่าลูกคุณนับถืออะไรและควรปฎิบัติอย่างไร

ผมเคยมีลูกความบางท่าน ที่ไม่นับถือศาสนา ไปให้การในศาล
พอศาล ลูกความก็แจ้งศาลไปว่า ไม่นับถือศาสนาใด ๆ ทั้งสิ้น
ศาลท่านก็ให้ปฎิญาณตนครับ  

ในเอเซีย เท่าที่ทราบคนญึ่ปุ่น จะไม่นับถือศาสนาใด ๆ มากที่สุด
ความคิดเห็นที่ 70
คือตกลงคุณต้องการที่จะประกาศความไม่มีศาสนาให้ลูกหรือต้องการให้เค้าเลือกเองกันแน่ครับ ถ้าแค่ต้องการให้เค้าเลือกเองคุณใส่อะไรไปก็ได้มั้ยครับ เดี๋ยวโตขึ้นเค้าอยากเปลี่ยนไปศาสนาไหนเค้าก็ไปเปลี่ยนเองหละครับ หรือถ้าไม่อยากนับถือศาสนาไหนเลย ในยุคของเค้าอาจจะมีช่องให้ใส่เพิ่มแล้วก็ได้ ง่ายที่สุด ก็แค่ไม่ต้องสนใจมันก็แค่คำคำนึงในบัตรประชาชนรึเปล่าครับ สาระสำคัญในบัตรมันก็มีแค่ชื่อที่อยู่กับเลขที่บัตรไม่ใช่เหรอ บัตรนับถือพุธก็ไปโบสได้ครับ หรืออยู่ๆอยากจะไปละหมาด หรือ ไม่ทำอะไรเลยใครเขาจะไปว่าอะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่