สวัสดีครับเพื่อนๆชาวพันทิพย์ทุกคน
วันนี้ผมจะมาพูดถึงตัวละครของเกม Final Fantasy IX หรือ ไฟน่อล 9 นั่นเอง เกมภาคนี้เป็นภาคที่ผมชอบที่สุดครับ
เพราะมีกลิ่นอายของไฟน่อลแฟนตาซียุคแรกๆที่มีทั้ง เจ้าหญิง อัศวิน และการเดินทางที่คลาสสิคครับ
รวมถึงเนื้อเรื่องที่ลึกซึ้งที่ซ่อนอะไรหลายๆอย่างไว้ในคำพูดหรือการกระทำของแต่ตัวละครครับ
ก่อนอื่นผมต้องบอกก่อนว่าผมจะพูดกึงการพัฒนาตัวละครแต่ละตัวที่เกิดขึ้นในเนื้อเรื่องการเข้าช่วงสงคราม(ตั้งแต่ต้นจนจบแผ่น1)
ใครที่เพิ่งรู้จักเกมภาคนี้ก็ระวังสปอยที่สมาชิกท่านอื่นอาจจะพูดถึงในคอมเม้นด้วยนะคร้าบ
ก่อนจะไปพูดถึงตัวละครเรามาทำความเข้าใจเก็บกับเนื้อเรื่องที่พูดถึงในช่วงก่อนสงครามสักนิดนะครับ
ในช่วงเริ่มต้นของเนื้อเรื่องนั้น ได้มีเรือบินโรงละครของกลุ่มโจรทันทาลัสบินมาที่อาณาจักรอเล็กซานเดรีย
เพื่อทำการแสดงให้ราชินีบราเน่ห์และชนชั้นสูงแห่งอเล็กซานเดรียรับชม แต่จริงๆแล้วกลุ่มโจรทันทาลัสนี้มีภารกิจลับ
ในการชิงตัว องค์หญิงกาเน็ต โดยพวกเขาได้รับคำสั่งจากผู้ปกครองจากอีกอาณาจักร
และแล้วเรื่องราวการเดินทางของตัวละครหลักทั้งหมดของเราก็เริ่มขึ้นที่ตรงนี้
ในช่วงก่อนสงครามจะเป็นการเดินทางของการ์เน็ต ซีดาน วีวี่ สไตรเนอร์และเฟรย่านั่นเอง
ตัวละครที่ผมจะพูดถึงตัวแรกคือ การ์เน็ตครับ
ในช่วงต้นของเนื้อเรื่องเราจะพบว่าองค์หญิงการ์เน็ตนั้นเป็นคนที่มีความเด็ดเดี่ยว และกล้าหาญขนาดวางแผนหนีออกจากปราสาทอเล็กซานเดรียที่เธอเกิดและเติบโตมาในนั้นตั้งแต่เด็ก แต่ทั้งนี้การ์เน็ตเองก็ยังมีความเป็น "เจ้าหญิงที่ไร้เดียงสา" อยู่ในตัวไม่น้อย เนื่องด้วยเธอไม่เคยพบเจอโลกจริงๆนอกจากในหนังสือ หลายๆครั้งเราจะเห็นว่าการ์เน็ตตื่นเต้นกับเรื่องเล็กๆรอบตัวเช่น ดอกไม้ หรือชีวิตประจำวันของคนทั่วไป
ซึ่งสิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับการ์เน็ตที่แทบไม่เคยออกจากปราสาทเลยตั้งแต่เด็ก แต่ยังไงก็ตามด้วยภารกิจและเป้าหมายที่มีทำให้เธอค่อยๆเติบโตขึ้นซึ่งเราจะเห็นได้จากเนื้อเรื่องตั้งแต่เช่นตอนที่การ์เน็ตเริ่มฝึกพูดสำเนียงแบบสามัญชน
ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นว่าตอนที่เธอขับเรือเหาะครั้งแรก การ์เน็ตมีสายตาที่เด็ดเดี่ยวมาก ในตอนนั้นซีดานได้ให้การ์เน็ตเลือกเองว่าจะขับเรือไปทางไหนระหว่างกลับไปที่ปราสาทอเล็กซานเดรียหรือจะหนีไปที่นครลินบลัม ในตอนนี้ทำให้ผมรู้สึกว่าการ์เน็ตได้เปลี่ยนแปลงไปบ้างแล้วจากตอนแรกที่เธอยังเป็นเจ้าหญิงที่ยังตื่นเต้นกับดอกไม้ริมทางเพราะตอนนี้เธอได้ตัดสินใจครั้งใหญ่ที่อาจเปลี่ยนแปลงชีวิตเธอไปตลอดก็ได้
(สไตรเนอร์ยังอึ้งเลยนี่เหรอองค์หญิงที่ตูรู้จัก55+)
หลังจากที่ไปถึงนครลินบลัมและเกิดเหตุการณ์การบุกโจมตีที่นครเบอร์มีเซีย เราจะเห็นได้ว่า การ์เน็ตนั้นไม่ยอมให้คนอื่นมองว่าตัวเองเป็นเด็กไร้เดียงสาอีกต่อไปแล้วและสิ่งที่เธอทำให้เป็นเครื่องพิสูจน์อย่างชัดเจนว่า องค์หญิงการ์เน็ตคือ และในเหตุการณ์ครั้งนี้แม้แต่จอมโจรอย่างซีดาน อัศวินมังกรอย่างเฟรย่าหรือแม้แต่ผู้ปกครองนครลินบลิมอย่างอุปราชซิดก็ต้องหลงกลเธอเข้าเต็มๆ
(สลบเหมือดกันหมดเลยนะเจ้าพวกกร้านโลก เจอองค์หญิงการ์เน็ตหน่อยเป็นไงฮี่ๆๆ)
ในตอนนี้คือเหตุการณ์ที่ การ์เน็ต แอบใส่สมุนไพรนอนหลับที่ซีดานให้ลงในอาหารของทุกคน(ยกเว้นสไตรเนอร์) ทำให้ทุกคนหลับเธอจะได้หนีจากนครลินบลัมได้เนื่องจากคนอื่นๆตัดสินใจจะให้การ์เน็ตอยู่ที่ลินบลัมเพื่อความปลอดภัย
ซึ่งการ์เน็ตไม่ยอมเพราะเธอรู้สึกว่าเธอก็ผ่านเหตุการณ์ต่างๆมาพร้อมกับทุกคนทำไมถึงต้องคอยปกป้องเหมือนเธอเป็นเด็กๆด้วย
เมื่อวางยาทุกคนสำเร็จการ์เน็ตก็หนีไปพร้อมกับสไตรเนอร์ เพื่อไปคุยและเกลี้ยกล่อมแม่ของเธอให้ล้มเลิกการโจมตีเบอร์มีเซีย
(แม้แต่สไตรเนอร์ที่จริงๆแล้วคอยจู้จี้เรื่องความปลอดภัยขององค์หญิงตลอดเวลายังเอ่ยปากชมตอนที่ทั้งสองหนีออกจากลินบลัมมาได้)
และนี่คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงก่อนสงครามในส่วนของการ์เน็ตครับ จะเห็นได้ว่าองค์หญิงของเราเปลี่ยนแปลงไปไม่น้อยทีเดียว
เธอไม่อยากเป็นเจ้าหญิงที่ต้องให้ใครคอยดูแลและทนรับไม่ได้หากจะต้องอยู่เฉยๆในเวลาที่เพื่อนๆคอยแก้ปัญหาที่เกิดจากครอบครัวของเธอ
แต่ทั้งนี้ผมมองว่าการ์เน็ตเองยังพยายามมองทุกอย่างในแง่ดีซึ่งหาเทียบกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้นแล้ว ผมว่าถึงแม้การ์เน็ตจะเติบโตขึ้นแต่เธอก็ยังมีความคิดและความรู้สึกแบบที่เธอเป็นในช่วงแรกๆหลงเหลืออยู่
(ประมาณว่าโลกสวยนั่นแหละ แม่จะก่อสงครามอยู่แล้วแถมตอนหนีมาแม่ก็ยิงปืนใหญ่ใส่ยังคิดจะกลับไปกล่อมแม่อีก)
ตอนนี้ขอตัวไปทำธุกรก่อนนะครับเดี๋ยวจะกลับมาต่อในส่วนของ วีวี่ สไตรเนอร์ เฟรย่า ซีดานครับ (ควีน่านี่ยังไม่เห็นอะไรเท่าไหร่ครับออกมาแป๊ปเดียวเอง)
ก่อนจะกลับมาผมขอฝากซีรี่ส์ Final Fantasy IX ที่ผมทำไว้ด้วยครับ
จริงๆผมวิเคราะห์จากเนื้อเรื่องที่ผมทำไว้นี่แหละครับหากสนใจก็ดูได้เลยครับตอนนี้ทำมา 4 ตอนแล้ว(เนื้อหาที่วิเคราะห์มาจาก 4 ตอนนี้)
ชวนคุยและวิเคราะห์การพัฒนาของตัวละครของ Final Fantasy IX ช่วงก่อนเข้าสงคราม(จบแผ่น1)
วันนี้ผมจะมาพูดถึงตัวละครของเกม Final Fantasy IX หรือ ไฟน่อล 9 นั่นเอง เกมภาคนี้เป็นภาคที่ผมชอบที่สุดครับ
เพราะมีกลิ่นอายของไฟน่อลแฟนตาซียุคแรกๆที่มีทั้ง เจ้าหญิง อัศวิน และการเดินทางที่คลาสสิคครับ
รวมถึงเนื้อเรื่องที่ลึกซึ้งที่ซ่อนอะไรหลายๆอย่างไว้ในคำพูดหรือการกระทำของแต่ตัวละครครับ
ก่อนอื่นผมต้องบอกก่อนว่าผมจะพูดกึงการพัฒนาตัวละครแต่ละตัวที่เกิดขึ้นในเนื้อเรื่องการเข้าช่วงสงคราม(ตั้งแต่ต้นจนจบแผ่น1)
ใครที่เพิ่งรู้จักเกมภาคนี้ก็ระวังสปอยที่สมาชิกท่านอื่นอาจจะพูดถึงในคอมเม้นด้วยนะคร้าบ
ก่อนจะไปพูดถึงตัวละครเรามาทำความเข้าใจเก็บกับเนื้อเรื่องที่พูดถึงในช่วงก่อนสงครามสักนิดนะครับ
ในช่วงเริ่มต้นของเนื้อเรื่องนั้น ได้มีเรือบินโรงละครของกลุ่มโจรทันทาลัสบินมาที่อาณาจักรอเล็กซานเดรีย
เพื่อทำการแสดงให้ราชินีบราเน่ห์และชนชั้นสูงแห่งอเล็กซานเดรียรับชม แต่จริงๆแล้วกลุ่มโจรทันทาลัสนี้มีภารกิจลับ
ในการชิงตัว องค์หญิงกาเน็ต โดยพวกเขาได้รับคำสั่งจากผู้ปกครองจากอีกอาณาจักร
และแล้วเรื่องราวการเดินทางของตัวละครหลักทั้งหมดของเราก็เริ่มขึ้นที่ตรงนี้
ในช่วงก่อนสงครามจะเป็นการเดินทางของการ์เน็ต ซีดาน วีวี่ สไตรเนอร์และเฟรย่านั่นเอง
ตัวละครที่ผมจะพูดถึงตัวแรกคือ การ์เน็ตครับ
ในช่วงต้นของเนื้อเรื่องเราจะพบว่าองค์หญิงการ์เน็ตนั้นเป็นคนที่มีความเด็ดเดี่ยว และกล้าหาญขนาดวางแผนหนีออกจากปราสาทอเล็กซานเดรียที่เธอเกิดและเติบโตมาในนั้นตั้งแต่เด็ก แต่ทั้งนี้การ์เน็ตเองก็ยังมีความเป็น "เจ้าหญิงที่ไร้เดียงสา" อยู่ในตัวไม่น้อย เนื่องด้วยเธอไม่เคยพบเจอโลกจริงๆนอกจากในหนังสือ หลายๆครั้งเราจะเห็นว่าการ์เน็ตตื่นเต้นกับเรื่องเล็กๆรอบตัวเช่น ดอกไม้ หรือชีวิตประจำวันของคนทั่วไป
ซึ่งสิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับการ์เน็ตที่แทบไม่เคยออกจากปราสาทเลยตั้งแต่เด็ก แต่ยังไงก็ตามด้วยภารกิจและเป้าหมายที่มีทำให้เธอค่อยๆเติบโตขึ้นซึ่งเราจะเห็นได้จากเนื้อเรื่องตั้งแต่เช่นตอนที่การ์เน็ตเริ่มฝึกพูดสำเนียงแบบสามัญชน
ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นว่าตอนที่เธอขับเรือเหาะครั้งแรก การ์เน็ตมีสายตาที่เด็ดเดี่ยวมาก ในตอนนั้นซีดานได้ให้การ์เน็ตเลือกเองว่าจะขับเรือไปทางไหนระหว่างกลับไปที่ปราสาทอเล็กซานเดรียหรือจะหนีไปที่นครลินบลัม ในตอนนี้ทำให้ผมรู้สึกว่าการ์เน็ตได้เปลี่ยนแปลงไปบ้างแล้วจากตอนแรกที่เธอยังเป็นเจ้าหญิงที่ยังตื่นเต้นกับดอกไม้ริมทางเพราะตอนนี้เธอได้ตัดสินใจครั้งใหญ่ที่อาจเปลี่ยนแปลงชีวิตเธอไปตลอดก็ได้
(สไตรเนอร์ยังอึ้งเลยนี่เหรอองค์หญิงที่ตูรู้จัก55+)
หลังจากที่ไปถึงนครลินบลัมและเกิดเหตุการณ์การบุกโจมตีที่นครเบอร์มีเซีย เราจะเห็นได้ว่า การ์เน็ตนั้นไม่ยอมให้คนอื่นมองว่าตัวเองเป็นเด็กไร้เดียงสาอีกต่อไปแล้วและสิ่งที่เธอทำให้เป็นเครื่องพิสูจน์อย่างชัดเจนว่า องค์หญิงการ์เน็ตคือ และในเหตุการณ์ครั้งนี้แม้แต่จอมโจรอย่างซีดาน อัศวินมังกรอย่างเฟรย่าหรือแม้แต่ผู้ปกครองนครลินบลิมอย่างอุปราชซิดก็ต้องหลงกลเธอเข้าเต็มๆ
(สลบเหมือดกันหมดเลยนะเจ้าพวกกร้านโลก เจอองค์หญิงการ์เน็ตหน่อยเป็นไงฮี่ๆๆ)
ในตอนนี้คือเหตุการณ์ที่ การ์เน็ต แอบใส่สมุนไพรนอนหลับที่ซีดานให้ลงในอาหารของทุกคน(ยกเว้นสไตรเนอร์) ทำให้ทุกคนหลับเธอจะได้หนีจากนครลินบลัมได้เนื่องจากคนอื่นๆตัดสินใจจะให้การ์เน็ตอยู่ที่ลินบลัมเพื่อความปลอดภัย
ซึ่งการ์เน็ตไม่ยอมเพราะเธอรู้สึกว่าเธอก็ผ่านเหตุการณ์ต่างๆมาพร้อมกับทุกคนทำไมถึงต้องคอยปกป้องเหมือนเธอเป็นเด็กๆด้วย
เมื่อวางยาทุกคนสำเร็จการ์เน็ตก็หนีไปพร้อมกับสไตรเนอร์ เพื่อไปคุยและเกลี้ยกล่อมแม่ของเธอให้ล้มเลิกการโจมตีเบอร์มีเซีย
(แม้แต่สไตรเนอร์ที่จริงๆแล้วคอยจู้จี้เรื่องความปลอดภัยขององค์หญิงตลอดเวลายังเอ่ยปากชมตอนที่ทั้งสองหนีออกจากลินบลัมมาได้)
และนี่คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงก่อนสงครามในส่วนของการ์เน็ตครับ จะเห็นได้ว่าองค์หญิงของเราเปลี่ยนแปลงไปไม่น้อยทีเดียว
เธอไม่อยากเป็นเจ้าหญิงที่ต้องให้ใครคอยดูแลและทนรับไม่ได้หากจะต้องอยู่เฉยๆในเวลาที่เพื่อนๆคอยแก้ปัญหาที่เกิดจากครอบครัวของเธอ
แต่ทั้งนี้ผมมองว่าการ์เน็ตเองยังพยายามมองทุกอย่างในแง่ดีซึ่งหาเทียบกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้นแล้ว ผมว่าถึงแม้การ์เน็ตจะเติบโตขึ้นแต่เธอก็ยังมีความคิดและความรู้สึกแบบที่เธอเป็นในช่วงแรกๆหลงเหลืออยู่
(ประมาณว่าโลกสวยนั่นแหละ แม่จะก่อสงครามอยู่แล้วแถมตอนหนีมาแม่ก็ยิงปืนใหญ่ใส่ยังคิดจะกลับไปกล่อมแม่อีก)
ตอนนี้ขอตัวไปทำธุกรก่อนนะครับเดี๋ยวจะกลับมาต่อในส่วนของ วีวี่ สไตรเนอร์ เฟรย่า ซีดานครับ (ควีน่านี่ยังไม่เห็นอะไรเท่าไหร่ครับออกมาแป๊ปเดียวเอง)
ก่อนจะกลับมาผมขอฝากซีรี่ส์ Final Fantasy IX ที่ผมทำไว้ด้วยครับ
จริงๆผมวิเคราะห์จากเนื้อเรื่องที่ผมทำไว้นี่แหละครับหากสนใจก็ดูได้เลยครับตอนนี้ทำมา 4 ตอนแล้ว(เนื้อหาที่วิเคราะห์มาจาก 4 ตอนนี้)