ไปต่อ หรือ ล้มเลิก เอาไงดี? ตอบแค่ 3 คำถามนี้ก็จะรู้



เคยเห็นรูปนี้ไหมครับ พอดูแล้วทุกคนต่างก็น่าจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “นายคนนี้ไม่น่ายอมแพ้เลย อีกนิดเดียวเท่านั้น!

แต่เดี๋ยวก่อน! ถ้าให้เรามองในมุมมองของชายด้านล่างในการ์ตูน (ขอตั้งชื่อให้ว่านาย “ไมค์” เพราะหน้าเขาค่อนข้างฝรั่ง) บางทีเขาก็อาจจะคิดถูกที่ยอมแพ้ก็ได้  เพราะในหัวของนายไมค์ตอนที่เขาเลิกล้ม เขาคงได้แต่คิดว่า “นี่เราขุดมาถูกทางรึเปล่า? เมื่อไหร่จะถึง?" หรือ "อาชีพนี้ไม่น่าจะ”ใช่”สำหรับเรานะเนี่ย

คุณล่ะ เคยลังเลหรือไหมว่าควรไปต่อ กับสิ่งที่กำลังทำอยู่ หรือเปลี่ยนไปทำอย่างอื่นแทนรึเปล่า?

วันนี้ผมมีคำถาม 3 ข้อให้คุณลองมาตอบครับ ถ้าคุณตอบว่า ใช่ ใช่ และ ใช่ ล่ะก็ นั่นแปลว่าคุณยังเดินทางต่อไปได้ แต่ถ้าหากตอบว่า ไม่ ไม่ ไม่ แล้วล่ะก็ คุณต้องปรับเปลี่ยนสิ่งที่คุณทำอยู่ ไม่มากก็น้อยครับ

คำถามที่ 1: คุณรักในสิ่งที่คุณทำรึเปล่า?

คุณมี Passion รึเปล่า? เป็นคำถามที่สำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้  บางคนอาจจะตอบว่า “ใช่” ได้ในทันที  แต่สำหรับอีกหลายๆ คน  คำตอบมันไม่ง่ายเหมือนแยกแยะตัวดีกับตัวร้ายในละครสมัยก่อน  บ่อยครั้งเราก็ทั้งรักและทั้งหน่ายกับงานของเราในเวลาเดียวกัน  ยิ่งในเวลาที่เราเจออุปสรรค์ใหญ่ๆ ยิ่งทำให้เราลังเลว่า “เอ๊ะ! งานนี้นี่มันใช่รึเปล่า (วะ) ?”

แล้วเราจะรู้ได้ไงว่าสิ่งที่เราทำอยู่มันเป็น Passion จริงๆ ?

- Steve Jobs นั้นให้ความสำคัญกับ Passion มากๆ เขาบอกว่า ทุกเช้าเขาจะถามตัวเองเว่า “ถ้าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของชีวิตเขา เขายังอยากทำสิ่งที่เขาจะทำวันนี้รึเปล่า?”  และเขาบอกว่า ถ้าคำตอบคือ “ไม่” ติดต่อกันหลายๆ วันเนี่ย เขาต้องเปลี่ยนอะไรซักอย่างแล้ว


“If today were the last day of my life,
would I want to do what I am about to do today?” – Steve Jobs


- Brain Chesky ซีอีโอของบริษัท Airbnb ก็ถามคำถามคล้ายๆ กัน  เวลาเขาสัมภาษณ์พนักงาน Airbnb รุ่นแรกๆ  เขาจะถามเสมอว่า “ถ้าคุณยังมีชีวิตเหลือเวลาทำงานอีกแค่ 1 ปี คุณจะยังทำอาชีพนี้รึเปล่า?” แน่นอนคนที่ตอบว่า “โน้วว” ก็จะหมดสิทธิ์ที่จะทำงานแม้เขาจะเก่งแค่ไหน  คุณ Brian ไม่ต้องการคนที่มาทำเพราะว่าบริษัทนั้นกำลังฮ็อท แต่เขาต้องการคนที่หลงใหลในภารกิจของ Airbnb จริงๆ นั่นเอง (ตอนหลัง Brian บอกว่ากฎนี้มันแข็งเกิน เลยเลื่อนระยะเวลาไปเป็น 10 ปีแทนครับ)

- คุณกำลังสนุกไปกับการเดินทางของคุณ หรือคุณแค่กำลังทนทุกข์ทรมานรอให้ถึงขุมเพชรที่คาดไว้?  ถ้านายไมค์นักขุดเพชรแค่อยากจะได้เพชรกองโต เพื่อที่จะได้สบายไปทั้งชีวิต ทั้งๆ ที่การขุดเพชร การลับจอบ และการเจอเพชรเล็กๆ น้อยๆ มีแต่จะทำให้คุณเป็นทุกข์  การขุดเพชรก็ไม่น่าจะเป็นงานที่เหมาะสำหรับเขาแต่เป็นกับดักซะมากกว่า  เป้าหมายนั้นสำคัญ แต่ความสุขระหว่างการเดินทางก็สำคัญไม่แพ้กันครับ

Passion จะเป็นสิ่งที่คอยผลักดันคุณให้ผ่านอุปสรรค์ต่างๆ  นอกจากนี้มันยังจะพาคุณไปไกลกว่าขุมเพชรที่คุณได้ตั้งเป้าไว้ได้อีกด้วย  ถ้าคุณผ่านการทบสอบของ Steve Jobs หรือ Brian Chesky และไม่ได้ทนทุกข์ทรมานเพื่อรางวัลชิ้นโตแล้วล่ะก็ นั่นแปลว่าคุณต้องมี Passion อยู่พอสมควรเลยล่ะ! ข้ามไปถามคำถามข้อต่อไปได้เลย

ในกรณีที่งานที่ทำอยู่ไม่ใช่ PASSION

แล้วถ้างานที่ทำอยู่ ห่างไกลจากคำว่าการเป็น Passion ของเราล่ะ?  ผมว่าเราไม่มีทางเลือกครับ เราต้องหา Passion ให้เจอน่ะสิ  แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องทิ้งทุกอย่างที่เคยทำ และเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด  ผมขอเสนอให้ลองเริ่มจากมองหาจุดที่คุณ “ชอบ” ในงานที่คุณทำอยู่ และดูว่าเราจะหาสิ่งที่พัฒนาไปจากตรงนั้นได้อย่างไรบ้าง

ที่สำคัญที่สุดคือ อย่านั่งดูโลกหมุนไปวันๆ และบ่นว่า “ชีวิตเรานี่มันมันแย่จริงๆ”  ลองยอมเหนื่อยเพิ่มขึ้นสักนิด และลงทุนกับตัวเองโดยการแบ่งรายได้ส่วนหนึ่งจากงานมาลองทำสิ่งใหม่ๆ ดูครับ

“If you haven’t found it (Passion) yet, keep looking. Don’t settle.” – Steve Jobs


ผู้ที่ประสบความสำเร็จแทบทุกคน ต่างก็เคยเปลี่ยนทิศกันหมด เมื่อรู้ว่ามันไม่ใช่ (แต่ไม่ใช่เพราะมันยาก) เราต้องกล้าที่จะเปลี่ยนครับ

แล้วเราจะรู้ได้ไงว่าเรารักงานใหม่ หรือแค่ตื่นเต้น กับการเริ่มใหม่แค่นั้น?  คุณ Josh Kaufman บอกใน TEDtalk ว่า ถ้าคุณลองตั้งใจทำอะไรบางอย่างเป็นเวลา 20 ชั่วโมง คุณก็จะทำสิ่งนั้น “พอเป็น” และที่สำคัญคุณก็จะรู้ว่าสิ่งนั้นใช่หรือไม่ใช่



2. คุณกำลังเรียนรู้อยู่รึเปล่า?

มีแค่ Passion นั้นพอไหม? จริงอยู่ที่ Passion จะผลักดันคุณมีแรงไปต่อ  แต่คุณต้องไปต่อในแบบที่คุณพัฒนาตัวเองด้วย



พี่ปิ๊ปโป้ผู้เขียนบทความ “ใจสู้ กับ ดื้อด้าน …มันต่างกันยังไง?“ ได้ให้แง่คิดที่ดีมากๆ เกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างความใจสู้ กับความดื้อด้าน  เขาบอกว่า ความใจสู้กับความดื้นด้าน ถึงแม้มองเผินๆ แล้วมันจะคล้ายกัน แต่มันต่างกันตรงที่ การเรียนรู้  คนที่ใจสู้ คือ คนที่เรียนรู้ระหว่างทางและพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ ในขณะที่คนที่ดื้อด้านนั้นทำสิ่งที่ทำอยู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งๆ ที่รู้ว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้นไม่นำไปสู่ความสำเร็จ

เพราะฉะนั้น ถ้าคุณกำลังเรียนรู้ และกำลังนำสิ่งที่เรียนรู้มาพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้น ผมต้องขอเป็นกำลังใจให้กับความใจสู้ของคุณครับ (อย่าลืมว่าเรียนรู้แล้วต้องเอามาใช้ อย่าเก็บไว้ไม่งั้นจะไม่มีประโยชน์)

แต่ถ้าคุณกำลังรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้พัฒนาอะไรเลยมาซักพักแล้ว  อย่าเพิ่งถอดใจและยอมให้ตัวเองเป็นคนดื้อด้านตลอดไป  ลองมานั่งคิดดูซักพักว่า เราสามารถพัฒนาฝีมือตัวเองได้อย่างไรบ้าง?  ถ้าเป็นเคสของนายไมค์ เขาอาจจะถามตัวเองว่า “จะทำยังไงให้ขุดได้เร็วขึ้นบ้าง? ควรจะลับจอบเมื่อไหร่? ขุดทะลุดินแบบไหนถึงเร็วสุด?”  ผมว่าไม่มีอะไรที่มนุษย์อย่างเราไม่สามารถพัฒนาได้

การที่เราพัฒนาตัวเองไปด้วย จะทำให้เรามั่นใจที่จะทำงานนี้ต่อไป  ถึงแม้ในท้ายที่สุดแล้วเราอาจไม่ใช่รางวัลที่เราหวังไว้  แต่การทำสิ่งนี้ก็ไม่สูญเปล่า เพราะเราก็ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างระหว่างทางครับ



3. สิ่งที่คุณทำอยู่มันมีประโยชน์ต่อคนอื่นๆ หรือเปล่า?

ถ้าคุณตอบว่าไม่  อย่าเพิ่งรู้สึกไม่ดีไป  มีหลายๆ อาชีพที่เรามักจะมองไม่เห็นประโยชน์โดยตรงต่อคนอื่น (เช่น นักกีฬา นักเทรดหุ้นรายวัน นักเล่นโป๊กเกอร์มืออาชีพ) แต่แทนที่จะรู้สึกแย่ กับงานของเรา ลองนั่งคิดดูดีกว่า ว่าเรามีประโยชน์อย่างไร และเราจะเพิ่มประโยชน์ให้กับคนอื่นได้อย่างไรบ้าง? ผมเชื่อว่างานสุจริตทุกงานล้วนแต่มีประโยชน์ครับ

สำหรับนายไมค์แล้ว  เขาสามารถถ่ายทอดวิชาการขุดเพชรของเขา และโพสต์วิดีโอสอนการขุดเพชรที่ถูกต้องให้กับคนรุ่นใหม่ที่สนใจการขุดเพชรได้  นอกจากนี้เขาอาจจะบริจาค 2% ของรายได้จากการขายเพชร ถ้าเขาเจอแหล่งพชรใหญ่ ก็เป็นได้เช่นกัน

ในกรณีสุดโต่ง ถ้าสิ่งที่คุณทำอยู่ เป็นอะไรที่ไม่มีทางดีต่อคนอื่น เช่นการเป็นโจร  ถึงคุณจะเป็นโจรที่รักการขโมยของ ใช้อำนาจขู่เข็ญ และถึงคุณจะทำมันเก่งขึ้นทุกวัน แต่ถ้าคุณสร้างประโยชน์บนความทุกข์ของผู้อื่น ยังไงก็ควรเลิกทำครับ



แต่ถ้าคำตอบของคุณคือใช่แล้วล่ะก็ ยินดีด้วยครับ! สิ่งที่คุณทำอยู่ไม่ได้ทำให้คุณมีความสุขอย่างเดียว แต่คุณทำให้คนอื่นมีชีวิตที่ดีขึ้นด้วย

การที่รู้ว่าสิ่งที่เราทำนั้น ไม่ได้มีผลกระทบที่ดีต่อเราแค่คนเดียว แต่กับคนอื่นด้วย จะทำให้เรารู้สึกว่าเราทำสิ่งที่เหนือกว่าตัวเอง และความรู้สึกนี้จะเป็นเครื่องเตือนใจว่าเรากำลังทำประโยชน์อยู่นะ และจะเป็นแรงผลักดันให้เราก้าวต่อไปครับ



เมื่อ “ใช่” ทั้ง 3 มาบรรจบกัน



ถ้าคำตอบของคุณคือ ใช่! ทั้งสามข้อ ทุกอย่างก็จะเรียงกันโดยสมบูรณ์  สิ่งที่คุณทำ คุณทำด้วยใจรัก  และระหว่างที่คุณกำลังทำสิ่งนั้น คุณกำลังพัฒนาตัวเองไปอย่างไม่หยุดยั้ง (คุณไม่ใช่แค่คนที่ดื้อด้าน) และสุดท้าย สิ่งที่คุณกำลังทำอยู่นั้นเป็นประโยชน์ไม่ใช่แค่กับคุณ แต่กับโลกของเรา  ถ้าเป็นเช่นนี้ขอให้ภูมิใจกับสิ่งที่คุณทำ

อย่างไรก็ตาม ต่อให้คุณตอบว่า ใช่ ใช่ ใช่ มันก็ไม่ได้หมายความว่าหนทางของคุณจะราบรื่นและมีความสุขตลอด (ใครบอกการทำสิ่งที่เรารัก แล้วจะไม่มีความลำบาก ไม่จริ๊ง) แต่อย่างไรก็ตามอย่าหยุด อย่าเลิก เพียงเพราะว่ามันยากครับ  จงขุดต่อไป! ผมขอเป็นกำลังใจให้อีกคนครับ!


ขอบคุณที่อ่านจนจบนะครับ ถ้าเพื่อนๆ ได้ความรู้ แง่คิดไม่มากก็น้อย อย่าลืมช่วยกันกดไลค์หรือแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคร้าบ ^^
ติดตามเพจเฟส "รวบรวมแนวคิด ธุรกิจและการใช้ชีวิต" ได้ที่ http://www.facebook.com/metaponBlog โพสต์สิ่งดีๆทุกๆสัปดาห์ครับ
หรืออ่านบทความอื่นได้ที่ http://www.metapon.wordpress.com ครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่