สวัสดีค่ะ ขออนุญาตเล่าประสบการณ์สดๆ ร้อนๆ เกี่ยวกับการให้เช่าคอนโดนะคะ
เจ้าของกระทู้เคยมีคอนโดให้เช่ามาแล้ว แต่เพิ่งเจอเรื่องนี้เป็นครั้งแรกค่ะ
คอนโดที่ว่านี้เป็นคอนโดใหม่ อยู่ติดถนนรัชดา เป็นห้องแบบ one bedroom ชั้นสูง ตกแต่งพร้อมอยู่ แต่ไม่มีใครเข้าอยู่ค่ะ เราเก็บไว้ระยะหนึ่งแล้วค่อยเอามาประกาศให้เช่า หลังจากที่โพสต์ให้เช่าไปหลายเดือน อาทิตย์ที่ผ่านมา ก็มีเอเจนต์โทรมาติดต่อ บอกว่ามีลูกค้าสนใจมากกกก เป็นคนไทย จะขอเช่า เหตุการณ์ต่อมาเป็นดังนี้ค่ะ
1. วันอาทิตย์ เราต้องซื้อโคมไฟข้างเตียงเพิ่มให้ 1 คู่ เนื่องจากลูกค้าขอมา
2. วันจันทร์ สามีต้องรีบวิ่งไปชำระค่าไฟที่ กฟน. เนื่องจากปล่อยปละละเลยมานานจนโดนตัดไฟ แหะๆ
3. วันอังคารบ่ายสอง ไปตกลงจะเซ็นสัญญาเช่าที่คอนโด พอเจอหน้ากัน คุยกันหลายเรื่อง สิ่งหนึ่งที่ว่าที่ลูกค้าชายเฝ้าถามคือ โคมไฟหน้าตาเป็นยังไง อยากเห็นมาก มีรูปไหม ใช่แบบที่ส่งไลน์ไปให้เอเจนต์มั้ย (คือเราไม่ได้ดูรูปก่อน เพราะสามีไม่ได้ให้ดู) จนงงว่า จะอะไรกะโคมไฟเรานัก (คือเราสั่งและจ่ายเงินไปแล้วที่ index สาขา ctw แต่ต้องไปรับของที่สาขาเอกมัย และเรายังไม่ได้ไปรับ)
4. ว่าที่ลูกค้าทั้งสองดังกล่าวเป็นคู่ชายหญิง อยากให้เราซื้อทีวีเพิ่มให้เครื่องนึง เป็นจอประมาณ 50 นิ้ว จะวางในห้องนั่งเล่น ซึ่งเค้าบอกล่วงหน้ามาก่อนแล้ว แต่เรายังไม่ได้ซื้อ (แต่ในคอนโดเดิมมีอยู่แล้วเครื่องนึงเป็น จอ 40 นิ้ว เค้าขอให้ยกเครื่องนี้ไปติดผนังในห้องนอนแทน)
5. เราเรียกแม่บ้าน เตรียมให้ทำความสะอาดให้ก่อนเข้าอยู่ จ่ายค่าทำล่วงหน้าไป 500 บาท
6. คุยกันไปมา ว่าที่ฝ่ายหญิงเปิดเผยเจตนารมณ์ว่า ชอบห้องนี้มาก อยากซื้อ ที่มาขอเช่านี่ เพื่อสุดท้ายจะขอซื้อ โดยตื้อไม่หยุด บอกว่าให้เราขายเถอะ ยังไงเราก็ได้กำไร แล้วเราค่อยไปลงทุนใหม่ที่อื่นนะ ที่สำคัญ เค้าจะซื้อ "เงินสด" แต่เรากะสามียังไม่ได้คิดจะขายค่ะ
7. ขณะคุยกันเรื่องเช่า (ฝ่ายหญิงก็ยังคงตื้อขอซื้อไปเรื่อยๆ ไม่หยุด) เธอบอกว่า เดี๋ยวขอให้เรายกโซฟาตัวที่อยู่ในห้องนั่งเล่นออกไป เพราะไม่อยากได้แบบนี้ เธออยากได้แบบที่มีที่ยืดขาออกไปยาวๆ จะได้นอนดูทีวี (เครื่องที่เราจะต้องซื้อให้ใหม่) ได้สบายๆ แต่เธอจะไปซื้อเองค่ะ ขอแค่เราหาคนมาขนตัวเดิมนี่ออกไปก็พอ
8. ว่าที่ทั้งสองตกลงเซ็นสัญญาเช่า 6 เดือน (ทั้งๆ ที่เราอยากได้อย่างน้อยหนึ่งปี แต่ก็ยอมให้) แต่ผู้เช่ายังไม่ยอมวางเงิน โดยบอกว่า อยากให้ทุกอย่างเรียบร้อยก่อน ภายในพรุ่งนี้บ่าย โดยเฉพาะทีวีสองเครื่องที่ต้องติดผนังเครื่องนึง สามีเราก็โอเค และให้กุญแจห้องครบเซตไปหนึ่งชุด เพราะเห็นว่าเดี๋ยวรุ่งขึ้นก็จะมาเจอกันและวางเงินมัดจำ
8. หลังคุยกันจบ คุณสามีรีบวิ่งไป power buy ซื้อทีวี 48 นิ้ว นัดช่างเข้ามาติดเช้าพรุ่งนี้
9. แปดโมงเช้าวันพุธ ลูกค้าโทรมา ฝ่ายหญิงเป็นคนคุย บอกว่าขอไม่เช่าแล้ว เหตุผลคือ กลับมาเมื่อคืน ขึ้นลิฟต์แล้ว "กลัวผี" !!!!!!!?????? โดยเธอว่าจะเอากุญแจมาคืนให้ตอนเย็น เพราะเช้านี้ต้องไปต่างจังหวัด
สรุปว่า เช้าวันนี้ช่าง power buy เข้ามาติดทีวีให้เรียบร้อยแล้ว และแม่บ้านเข้าทำความสะอาดแล้วตอนบ่าย แต่เราก็ได้แต่ถอนหายใจเฮือก งานนี้คงต้องเปลี่ยนกุญแจด้วยสินะ แต่ที่นี่มีทั้ง key card และกุญแจดอก งานเข้ายาวเลยค่ะ
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง เอากระดูกแขวนคอ จริงๆ ค่ะ
ว่าที่ลูกค้าเช่าคอนโด ทำกันได้ลงคอ
เจ้าของกระทู้เคยมีคอนโดให้เช่ามาแล้ว แต่เพิ่งเจอเรื่องนี้เป็นครั้งแรกค่ะ
คอนโดที่ว่านี้เป็นคอนโดใหม่ อยู่ติดถนนรัชดา เป็นห้องแบบ one bedroom ชั้นสูง ตกแต่งพร้อมอยู่ แต่ไม่มีใครเข้าอยู่ค่ะ เราเก็บไว้ระยะหนึ่งแล้วค่อยเอามาประกาศให้เช่า หลังจากที่โพสต์ให้เช่าไปหลายเดือน อาทิตย์ที่ผ่านมา ก็มีเอเจนต์โทรมาติดต่อ บอกว่ามีลูกค้าสนใจมากกกก เป็นคนไทย จะขอเช่า เหตุการณ์ต่อมาเป็นดังนี้ค่ะ
1. วันอาทิตย์ เราต้องซื้อโคมไฟข้างเตียงเพิ่มให้ 1 คู่ เนื่องจากลูกค้าขอมา
2. วันจันทร์ สามีต้องรีบวิ่งไปชำระค่าไฟที่ กฟน. เนื่องจากปล่อยปละละเลยมานานจนโดนตัดไฟ แหะๆ
3. วันอังคารบ่ายสอง ไปตกลงจะเซ็นสัญญาเช่าที่คอนโด พอเจอหน้ากัน คุยกันหลายเรื่อง สิ่งหนึ่งที่ว่าที่ลูกค้าชายเฝ้าถามคือ โคมไฟหน้าตาเป็นยังไง อยากเห็นมาก มีรูปไหม ใช่แบบที่ส่งไลน์ไปให้เอเจนต์มั้ย (คือเราไม่ได้ดูรูปก่อน เพราะสามีไม่ได้ให้ดู) จนงงว่า จะอะไรกะโคมไฟเรานัก (คือเราสั่งและจ่ายเงินไปแล้วที่ index สาขา ctw แต่ต้องไปรับของที่สาขาเอกมัย และเรายังไม่ได้ไปรับ)
4. ว่าที่ลูกค้าทั้งสองดังกล่าวเป็นคู่ชายหญิง อยากให้เราซื้อทีวีเพิ่มให้เครื่องนึง เป็นจอประมาณ 50 นิ้ว จะวางในห้องนั่งเล่น ซึ่งเค้าบอกล่วงหน้ามาก่อนแล้ว แต่เรายังไม่ได้ซื้อ (แต่ในคอนโดเดิมมีอยู่แล้วเครื่องนึงเป็น จอ 40 นิ้ว เค้าขอให้ยกเครื่องนี้ไปติดผนังในห้องนอนแทน)
5. เราเรียกแม่บ้าน เตรียมให้ทำความสะอาดให้ก่อนเข้าอยู่ จ่ายค่าทำล่วงหน้าไป 500 บาท
6. คุยกันไปมา ว่าที่ฝ่ายหญิงเปิดเผยเจตนารมณ์ว่า ชอบห้องนี้มาก อยากซื้อ ที่มาขอเช่านี่ เพื่อสุดท้ายจะขอซื้อ โดยตื้อไม่หยุด บอกว่าให้เราขายเถอะ ยังไงเราก็ได้กำไร แล้วเราค่อยไปลงทุนใหม่ที่อื่นนะ ที่สำคัญ เค้าจะซื้อ "เงินสด" แต่เรากะสามียังไม่ได้คิดจะขายค่ะ
7. ขณะคุยกันเรื่องเช่า (ฝ่ายหญิงก็ยังคงตื้อขอซื้อไปเรื่อยๆ ไม่หยุด) เธอบอกว่า เดี๋ยวขอให้เรายกโซฟาตัวที่อยู่ในห้องนั่งเล่นออกไป เพราะไม่อยากได้แบบนี้ เธออยากได้แบบที่มีที่ยืดขาออกไปยาวๆ จะได้นอนดูทีวี (เครื่องที่เราจะต้องซื้อให้ใหม่) ได้สบายๆ แต่เธอจะไปซื้อเองค่ะ ขอแค่เราหาคนมาขนตัวเดิมนี่ออกไปก็พอ
8. ว่าที่ทั้งสองตกลงเซ็นสัญญาเช่า 6 เดือน (ทั้งๆ ที่เราอยากได้อย่างน้อยหนึ่งปี แต่ก็ยอมให้) แต่ผู้เช่ายังไม่ยอมวางเงิน โดยบอกว่า อยากให้ทุกอย่างเรียบร้อยก่อน ภายในพรุ่งนี้บ่าย โดยเฉพาะทีวีสองเครื่องที่ต้องติดผนังเครื่องนึง สามีเราก็โอเค และให้กุญแจห้องครบเซตไปหนึ่งชุด เพราะเห็นว่าเดี๋ยวรุ่งขึ้นก็จะมาเจอกันและวางเงินมัดจำ
8. หลังคุยกันจบ คุณสามีรีบวิ่งไป power buy ซื้อทีวี 48 นิ้ว นัดช่างเข้ามาติดเช้าพรุ่งนี้
9. แปดโมงเช้าวันพุธ ลูกค้าโทรมา ฝ่ายหญิงเป็นคนคุย บอกว่าขอไม่เช่าแล้ว เหตุผลคือ กลับมาเมื่อคืน ขึ้นลิฟต์แล้ว "กลัวผี" !!!!!!!?????? โดยเธอว่าจะเอากุญแจมาคืนให้ตอนเย็น เพราะเช้านี้ต้องไปต่างจังหวัด
สรุปว่า เช้าวันนี้ช่าง power buy เข้ามาติดทีวีให้เรียบร้อยแล้ว และแม่บ้านเข้าทำความสะอาดแล้วตอนบ่าย แต่เราก็ได้แต่ถอนหายใจเฮือก งานนี้คงต้องเปลี่ยนกุญแจด้วยสินะ แต่ที่นี่มีทั้ง key card และกุญแจดอก งานเข้ายาวเลยค่ะ
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง เอากระดูกแขวนคอ จริงๆ ค่ะ