gateway และ single gateway
single gateway คืออะไร ?
และ gateway คืออะไร ?
single gateway ก็คือ gateway เพียง gateway เดียว
ส่วน gateway ก็คือทางผ่านของข้อมูล หรือจุดที่เป็นสะพานข้อมูลที่จะเชื่อมไปสู่เครือข่ายอื่น
ในปัจจุบันมี gateway หลักและ gateway ย่อยนับจำนวนไม่ถ้วน
ยกตัวอย่างง่ายๆ หากเราเล่นอินเตอร์เน็ตในร้านอินเตอร์เน็ต
ภายในร้านอินเตอร์เน็ตจะมี gateway อยู่ 1 เครื่องที่เชื่อมไปหา ISP หรือผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต โดย gateway ทุกๆ gateway (ในปัจจุบันก็มีกฎหมายกำหนดอยู่แล้วว่าให้ติดตั้ง software เพื่อติดตามเส้นทางข้อมูลหรือเครื่องเก็บ log นั่นเอง ซึ่งทางภาครัฐสามารถประสานขอความร่วมมือเพื่อเปิดดูเครื่องเก็บ log ได้อยู่แล้วในปัจจุบัน)
ข้อมูลทุกๆ เครื่องจะผ่าน gateway ตัวนี้ และผ่าน gateway ของ ISP อีกทีนึงเพื่อเชื่อมสู่เครือข่ายอื่นๆ ทั้งในและต่างประเทศ
หากเล่นอินเตอร์เน็ตที่บ้านข้อมูลของเราจะต้องผ่าน gateway ของ ISP ได้แก่ 3BB CAT TOT AIS TRUE DTAC ฯลฯ
ซึ่งผู้ให้บริการแต่ละรายล้วนแข่งกันในเรื่องประสิทธิภาพการเชื่อมต่อกับเครือข่ายต่างประเทศ
ISP บางค่ายมี gateway จำนวนมาก และ gateway ต่างๆ มีเทคโนยีปัจจุบันที่สามารถกระจายหรือทำบาลานซ์ข้อมูล
ซึ่งทำให้ข้อมูลมีสภาพคล่องตัวตลอดเวลา ไม่มีอาหารหน่วง
ในจุดที่เป็น gateway สามารถติดตั้ง software ที่ใช้ในการ บล็อค ตรวจหา หรือดักข้อมูลต่างๆ ได้
สำหรับทุกๆ ข้อมูลที่ผ่านจุดที่เป็น gateway นั้น
เพราะจำนวน gateway ในประเทศมีจำนวนมาก
รัฐบาลจึงคิดไอเดียรวม gateway ทั้งหมดให้เป็น gateway เดียว
หรือที่เรียกกันว่า single gateway
โดยให้ทุกๆ ISP เชื่อมต่อผ่าน gateway ของรัฐบาลเท่านั้น
ห้ามทุกๆ ISP เชื่อมต่อกับเครือข่ายต่างประเทศเอง
ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการ ดัก ล้วง บล็อค ข้อมูลทุกชนิด ทุกๆ คน ภายในประเทศนี้
ไม่ว่าจะเป็นธุรกรรมที่ต้องการความปลอดภัยอย่างธุรกรรมทางการเงิน การลงทุน การเทรดหุ้น ก็จะถูกดักข้อมูลไว้ทั้งหมด
และทุกๆ ISP ไม่จำเป็นต้องแข่งขันในเรื่องความเร็วการเชื่อมต่อระหว่างเครือข่ายกันอีกต่อไป
ซึ่งนั่นอาจทำให้สูญเสียความเชื่อมั่นในการลงทุนภายในประเทศ
ซึ่งไม่นานก็จะเปิด AEC โดยการรวมตลาดทุนอาเซียนที่เรียกว่า ASEAN LINKAGE
โดยมูลค่าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นอันดับที่ 27 ของโลก
เมื่อรวมเป็น ASEAN LINKAGE แล้ว จะเป็นตลาดอาเซียนซึ่งจะขยับขึ้นเป็นอันดับ 8 ของโลก
จะมีจำนวนหุ้นรวมกันประมาณ 3,778 บริษัท โดยมีหุ้นของประเทศไทย 545 บริษัท
ซึ่งโบรคเกอร์ของประเทศไทยต้องปรับตัวเพื่อแข่งขันและรองรับนักลงทุนต่างประเทศ
การใช้ single gateway จะทำให้ความน่าเชื่อถือของโบรคเกอร์ในประเทศไทยลดลง
"ดร.กฤษฎา ยังอธิบายเพิ่มเติมว่า หากพิจารณาในด้านมูลค่าตลาดโดยรวมของตลาดหลักทรัพย์ไทยจัดอยู่ในอันดับที่ 4 ในภูมิภาค โดยอันดับ 1) ได้แก่ สิงคโปร์มีสัดส่วนประมาณ 31% ของมูลค่าหลักทรัพย์ในอาเซียน 2) มาเลเซีย 23% 3) อินโดนีเซีย 22% 4) ไทย 15% และ 5) ฟิลิปปินส์ 9% อย่างไรก็ตามตลาดหลักทรัพย์ไทยกลับมีหลักทรัพย์ที่มีขนาดใหญ่และสภาพคล่องสูงมากเป็นอันดับ 2 รองจากสิงคโปร์ ในขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ฟิลิปปินส์ไม่มีหลักทรัพย์ในกลุ่มดังกล่าวเลย ไม่เพียงเท่านี้ตลาดหลักทรัพย์ไทยยังมีสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์ต่อมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Share turnover velocity) สูงที่สุดในภูมิภาคอาเซียนและมีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยรายวันสูงสุดในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ของภูมิภาคอาเซียนอีกด้วย นั่นอาจจะเป็นเพราะโครงสร้างนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ไทยที่แตกต่างจากตลาดหลักทรัพย์อื่นในภูมิภาค โดยตลาดหลักทรัพย์ไทยมีสัดส่วนของนักลงทุนรายย่อยประมาณ 50% ในขณะที่มาเลเซียมีประมาณ 25% เท่านั้น ส่วนข้อมูลของตลาดสิงคโปร์ไม่มีการเปิดเผย" <-- อ้างอิง (ดร.กฤษฎา เสกตระกูล)
แน่นอนว่าประเทศไทยที่มีจุดแข็งด้านตลาดทุน ประเทศไทยมีความพร้อมที่จะแข่งขันและรองรับนักลงทุนต่างประเทศ
แต่ single gateway จะเป็นจุดเปลี่ยนขาลงของตลาดทุนไปโดยปริยาย
จำนวนข้อมูลที่คับคั่งภายในประเทศจะเกิดผลกระทบ
ทั้งในเรื่องการ delay ของข้อมูลและความปลอดภัยในธุรกรรมต่างๆ
ในด้านการท่องเที่ยวประเทศไทยจะมีระบบสื่อสารข้อมูลที่ไม่มีประสิทธิภาพ
เราจะได้เห็นอินเตอร์เน็ตไฟเบอร์ออบติกที่ความเร็วในประเทศระดับ Gbps แต่โหลดข้อมูลต่างประเทศในความเร็วระดับ Kbps
แม้แต่คุยกันแบบเห็นหน้าทางอินเตอร์เน็ต หรือโทรไลน์ฟรีระหว่างเครือข่าย จะเกิดปัญหาและไม่สามารถทำได้อย่างปกติ
gateway และ single gateway
single gateway คืออะไร ?
และ gateway คืออะไร ?
single gateway ก็คือ gateway เพียง gateway เดียว
ส่วน gateway ก็คือทางผ่านของข้อมูล หรือจุดที่เป็นสะพานข้อมูลที่จะเชื่อมไปสู่เครือข่ายอื่น
ในปัจจุบันมี gateway หลักและ gateway ย่อยนับจำนวนไม่ถ้วน
ยกตัวอย่างง่ายๆ หากเราเล่นอินเตอร์เน็ตในร้านอินเตอร์เน็ต
ภายในร้านอินเตอร์เน็ตจะมี gateway อยู่ 1 เครื่องที่เชื่อมไปหา ISP หรือผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต โดย gateway ทุกๆ gateway (ในปัจจุบันก็มีกฎหมายกำหนดอยู่แล้วว่าให้ติดตั้ง software เพื่อติดตามเส้นทางข้อมูลหรือเครื่องเก็บ log นั่นเอง ซึ่งทางภาครัฐสามารถประสานขอความร่วมมือเพื่อเปิดดูเครื่องเก็บ log ได้อยู่แล้วในปัจจุบัน)
ข้อมูลทุกๆ เครื่องจะผ่าน gateway ตัวนี้ และผ่าน gateway ของ ISP อีกทีนึงเพื่อเชื่อมสู่เครือข่ายอื่นๆ ทั้งในและต่างประเทศ
หากเล่นอินเตอร์เน็ตที่บ้านข้อมูลของเราจะต้องผ่าน gateway ของ ISP ได้แก่ 3BB CAT TOT AIS TRUE DTAC ฯลฯ
ซึ่งผู้ให้บริการแต่ละรายล้วนแข่งกันในเรื่องประสิทธิภาพการเชื่อมต่อกับเครือข่ายต่างประเทศ
ISP บางค่ายมี gateway จำนวนมาก และ gateway ต่างๆ มีเทคโนยีปัจจุบันที่สามารถกระจายหรือทำบาลานซ์ข้อมูล
ซึ่งทำให้ข้อมูลมีสภาพคล่องตัวตลอดเวลา ไม่มีอาหารหน่วง
ในจุดที่เป็น gateway สามารถติดตั้ง software ที่ใช้ในการ บล็อค ตรวจหา หรือดักข้อมูลต่างๆ ได้
สำหรับทุกๆ ข้อมูลที่ผ่านจุดที่เป็น gateway นั้น
เพราะจำนวน gateway ในประเทศมีจำนวนมาก
รัฐบาลจึงคิดไอเดียรวม gateway ทั้งหมดให้เป็น gateway เดียว
หรือที่เรียกกันว่า single gateway
โดยให้ทุกๆ ISP เชื่อมต่อผ่าน gateway ของรัฐบาลเท่านั้น
ห้ามทุกๆ ISP เชื่อมต่อกับเครือข่ายต่างประเทศเอง
ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการ ดัก ล้วง บล็อค ข้อมูลทุกชนิด ทุกๆ คน ภายในประเทศนี้
ไม่ว่าจะเป็นธุรกรรมที่ต้องการความปลอดภัยอย่างธุรกรรมทางการเงิน การลงทุน การเทรดหุ้น ก็จะถูกดักข้อมูลไว้ทั้งหมด
และทุกๆ ISP ไม่จำเป็นต้องแข่งขันในเรื่องความเร็วการเชื่อมต่อระหว่างเครือข่ายกันอีกต่อไป
ซึ่งนั่นอาจทำให้สูญเสียความเชื่อมั่นในการลงทุนภายในประเทศ
ซึ่งไม่นานก็จะเปิด AEC โดยการรวมตลาดทุนอาเซียนที่เรียกว่า ASEAN LINKAGE
โดยมูลค่าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นอันดับที่ 27 ของโลก
เมื่อรวมเป็น ASEAN LINKAGE แล้ว จะเป็นตลาดอาเซียนซึ่งจะขยับขึ้นเป็นอันดับ 8 ของโลก
จะมีจำนวนหุ้นรวมกันประมาณ 3,778 บริษัท โดยมีหุ้นของประเทศไทย 545 บริษัท
ซึ่งโบรคเกอร์ของประเทศไทยต้องปรับตัวเพื่อแข่งขันและรองรับนักลงทุนต่างประเทศ
การใช้ single gateway จะทำให้ความน่าเชื่อถือของโบรคเกอร์ในประเทศไทยลดลง
"ดร.กฤษฎา ยังอธิบายเพิ่มเติมว่า หากพิจารณาในด้านมูลค่าตลาดโดยรวมของตลาดหลักทรัพย์ไทยจัดอยู่ในอันดับที่ 4 ในภูมิภาค โดยอันดับ 1) ได้แก่ สิงคโปร์มีสัดส่วนประมาณ 31% ของมูลค่าหลักทรัพย์ในอาเซียน 2) มาเลเซีย 23% 3) อินโดนีเซีย 22% 4) ไทย 15% และ 5) ฟิลิปปินส์ 9% อย่างไรก็ตามตลาดหลักทรัพย์ไทยกลับมีหลักทรัพย์ที่มีขนาดใหญ่และสภาพคล่องสูงมากเป็นอันดับ 2 รองจากสิงคโปร์ ในขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ฟิลิปปินส์ไม่มีหลักทรัพย์ในกลุ่มดังกล่าวเลย ไม่เพียงเท่านี้ตลาดหลักทรัพย์ไทยยังมีสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์ต่อมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Share turnover velocity) สูงที่สุดในภูมิภาคอาเซียนและมีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยรายวันสูงสุดในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ของภูมิภาคอาเซียนอีกด้วย นั่นอาจจะเป็นเพราะโครงสร้างนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ไทยที่แตกต่างจากตลาดหลักทรัพย์อื่นในภูมิภาค โดยตลาดหลักทรัพย์ไทยมีสัดส่วนของนักลงทุนรายย่อยประมาณ 50% ในขณะที่มาเลเซียมีประมาณ 25% เท่านั้น ส่วนข้อมูลของตลาดสิงคโปร์ไม่มีการเปิดเผย" <-- อ้างอิง (ดร.กฤษฎา เสกตระกูล)
แน่นอนว่าประเทศไทยที่มีจุดแข็งด้านตลาดทุน ประเทศไทยมีความพร้อมที่จะแข่งขันและรองรับนักลงทุนต่างประเทศ
แต่ single gateway จะเป็นจุดเปลี่ยนขาลงของตลาดทุนไปโดยปริยาย
จำนวนข้อมูลที่คับคั่งภายในประเทศจะเกิดผลกระทบ
ทั้งในเรื่องการ delay ของข้อมูลและความปลอดภัยในธุรกรรมต่างๆ
ในด้านการท่องเที่ยวประเทศไทยจะมีระบบสื่อสารข้อมูลที่ไม่มีประสิทธิภาพ
เราจะได้เห็นอินเตอร์เน็ตไฟเบอร์ออบติกที่ความเร็วในประเทศระดับ Gbps แต่โหลดข้อมูลต่างประเทศในความเร็วระดับ Kbps
แม้แต่คุยกันแบบเห็นหน้าทางอินเตอร์เน็ต หรือโทรไลน์ฟรีระหว่างเครือข่าย จะเกิดปัญหาและไม่สามารถทำได้อย่างปกติ