สถานที่ -:- เมืองน่าน -:-
พาหนะ -:- รถไฟ -:-
วันที่เดินทาง -:- ศุกร์ 25 - อาทิตย์ 27 -:-
จุดหมาย -:- ?---? -:-
สำหรับกระทู้รีวิวที่ผมเขียนนี้นะครับ เป็นการมาบอกเล่าว่าผมไปเที่ยวน่านแล้วไปเจออะไรมาบ้าง
ตามชื้อกระทู้เลยครับ ว่าใครๆก็เคยพูดคำว่า"น่านไง" เคยอยากรู้ไหมครับว่าที่น่านมีอะไร ว่าแล้วไปดูรูปเลยดีกว่าครับ
-:- การเดินทางครั้งนี้แทบจะไม่มีการเตรียมตัวใดๆเลยนะครับ รูปภาพบางสถานที่ทุกคนอาจจะเคยเห็นมาแล้ว -:-
-:- เนื่องจากไม่มีการเตรียมตัวมากนัก ก็เลยจะขอเล่าตั้งแต่วิธีเดินทางไป จนกระทั่งเดินทางกลับ นะครับ ^^ -:-
เริ่มต้นที่สถานีรถไฟหัวลำโพงเลยครับ กว่าจะมาถึงหัวลำโพงก็เกือบจะไม่ทันรถไฟแล้วครับ
รถไฟขบวนที่ 13 ประเภทนั่งและนอนปรับอากาศชั้น2 เตียงบนราคา 697 บาท
-:- ต้นทางสถานีหัวลำโพง ปลายทางสถานีเด่นชัย -:-
ทีแรกคิดว่าจะนั่งรถไฟชั้นสามนะครับ ซึ่งราคาประหยัดกว่า แต่ว่าคิดๆดูไปถึงเด่นชัยแล้วยังต้องเดินทางอีกหนึ่งต่อ และวันนั้นก็จะเที่ยวทั้งวัน เลยขอนอนหลับพักผ่อนละกัน ซึ่งมันสบายมากครับ แอร์เย็น ที่นอนนุ่ม ผ้าห่มอุ่น หลับสนิทได้ถ้าแรงสั่นของรถไฟทำอะไรเราไม่ได้ ฮ่าๆๆ
และนี่ก็คืออาหารมื้อค่ำบนรถไฟครับ มาเป็นชุดๆละ 100 บาท
มี กะเพราหมู ต้มจืด น้ำส้ม
รถไฟออกเราก็นอนยาวๆเลยครับ ตามเวลาในตั๋วจะถึงเด่นชัยเวลา 04.16 แต่ว่าถึงจริงเวลาประมาณ 05.30 ถึงเด่นชับพอดีพระอาทิตย์กำลังขึ้นเลยครับ
เมื่อถึงเด่นชัยแล้วเราจะต้องนั่งรถไปจังหวัดน่านอีกหนึ่งต่อครับ ซึ่งไปได้สองวิธีคือ
1.มีรถตู้ เด่นชัย - น่าน - อ.เฉลิมพระเกียรติ ขึ้นรถได้ที่หน้าสถานีรถไฟเลยครับ แต่ว่ารถตู้สายนี้จะเข้ามารับที่เด่นชัยแค่ช่วงเช้าๆเท่านั้น
2.นั่งรถสองแถว เด่นชัย - แพร่ ไปลงที่สถานีขนส่งแพร่แล้วนั่งรถตู้ สายเด่นชัย - น่าน - อ.เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งจริงๆท่ารถสายนี้เขาอยู่ที่ขนส่งแพร่ครับ
ค่ารถสองแถว 20บาท ค่าตู้รถ 83 บาทครับ
ผมเลือกวิธีที่สองครับ เพราะว่าหิวข้าวก็เลยกินข้าวก่อนที่ตลาดสดเด่นชัย
เหมือนเดิมครับ ขึ้นรถตู้แล้วก็หลับยาวๆเลย รถตู้นั่งทั้งหมด 15 คน ใช้เวลาเดินทางจากแพร่ถึงน่าน ประมาณ2ชั่วโมงครับ จุดจอดก็คือ ขนส่งน่าน จากนั้นก็นั่งรถสองแถว"สีแดง"เข้าไปในตัวเมืองครับ ราคา20บาท
ผมมาถึงในตัวเมืองครับซึ่งถึงตรงนี้แล้วผมก็ยังไม่รู้ว่าต้องไปไหนดี ลุงคนขับรถสองแถวบอกว่าวันนี้มีเทศกาลแข่งเรือพอดี! ผมก็ได้จุดหมายแรกเลยครับ เทศกาลแข่งเรือจังหวัดน่าน
จัดขึ้นที่แม่น้ำน่าน ใกล้ๆกับสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ60พรรษามหาราชินี บริเวณรอบๆงานก็จะมีตลาดนัดให้ได้เดินครับ มีทั้งของกิน ของใช้ ฯ
ดูแข่งเรือจนร้อนทนไม่ไหวผมก็หาที่พักครับ
ทีแรกผมคิดไว้ว่าอยากจะเที่ยวอุทธยาน ไปนอนที่พักอุทธยานอะไรประมาณนั้นครับ แต่ว่าการเตรียมตัวมาน่านครั้งนี้ของผมแทบไม่มีการเตรียมตัวเลย คิดแล้วคิดอีกเวลาก็น้อย การเดินทางก็ยังไม่รู้จะไปยังไง สุดท้ายเลยเที่ยวในตัวเมืองละกัน
ดังนั้นสิ่งแรกก็เลยหาที่พักครับ ผมไปนั่งกินข้าวมันไก่ซักร้านแล้วเปิดโทรศัพท์ค้นหาที่พักใกล้ๆ มีโรงแรมบ้านน่านกับโรงแรมพูคาน่านฟ้าที่ใกล้ๆ แต่คือ เต็ม!!
มึนเลยครับ สับสนและกระวนกระวาย เปิดโทรศัพท์หาแทบไม่ทัน เลยเดินไปเรื่อยๆแถวๆนั้นเพื่อหาที่พักให้ได้ จนได้ที่นี่ครับ
ศรีนวลลอดจ์ ราคา 560 บาทต่อคืน
หาที่พักได้แล้วก็ อาบน้ำอาบท่าครับ ร้อนมากๆ เดินมาค่อนวัน เหงื่อนี่เปียกจนแห้งแล้วเปียกอีกจนแห้งอีกรอบ
ก่อนขึ้นไปพักผมก็ติดต่อโรงแรมเพื่อเช่ามอเตอร์ไซค์ครับ เพราะผมคิดว่าการเที่ยวในเมืองให้ได้หลายๆที่และสะดวกที่สุด มอเตอร์ไซค์คือคำตอบครับ อีกอย่างนึง สถานที่แต่ละที่อยู่ห่างกันมาก เดินหรือจักรยานคงไม่ใช่คำตอบ
ทางโรงแรมก็จัดหารถมอเตอร์ไซค์มาให้ได้1คัน ในราคา 300บาท/วัน มัดจำ 2000 บาท!
อาบน้ำสบายตัวแล้ว มอเตอร์ไซค์มาส่งแล้ว ออกแว้นเลยครับ
สถานที่แรกที่ไป อยู่ไกลสุด ที่นี่เลยครับ
วัดพระธาตุแช่แห้ง
สถานที่ที่สอง วัดภูมินทร์-ข่วงเมืองน่าน
เป็นวัดที่มีภาพวาดผนังที่สวยงามครับ มีภาพวาดกระซิบรักที่วัดนี้ด้วย แต่ผมหาไม่เจอ ^^
สถานที่ที่สาม ศาลพระหลักเมืองน่าน-วัดมิ่งเมือง
เป็นวัดที่มีพระอุโบสถเป็นปูนปั้นสีขาว สวยงามครับ
และสถานที่สุดท้ายของวันแรก วัดพระธาตุเขาน้อย
สถานที่ที่ต้องมาตอนเย็นๆครับ ช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ใกล้จะตกดิน แสงและบรรยากาศสวยงามประทับใจมากๆครับ
ผมใช้เวลาอยู่ที่นี่นานที่สุด เพื่อดูเมืองน่านกำลังจะมืดมิดลง และท้องฟ้าที่มีเมฆเปลี่ยนสีจากขาวไปแดง บรรยายยากจริงๆครับ ต้องเห็นกับตา
จากวัดพระธาตุเขาน้อย ผมก็แว้นรถมอเตอร์ไซค์เข้ามาที่ข่วงเมืองน่าน วันนี้มีงานจัดขึ้นที่นี่พอดีครับ งานกระซิบรัก@น่าน เป็นเหมือนถนนคนเดินที่มีขันโตกจัดวางไว้ตรงกลาง ให้ผู้คนได้ซื้อของกินที่ขายรอบๆเข้าไปนั่งกิน
แล้วดูการแสดง รำ,ดนตรีพื้นเมือง,เล่นเกมชิงของที่ระลึก ประมาณนี้ครับ ซึ่งข้าวเย็นก็ที่นี่เลย มีอาหารพื้นเมืองขายเยอะมากๆ
-:- ภาพในสถานที่นี้ผมไม่ได้ถ่ายไว้ เพราะว่ากล้องผมถ่ายในที่มืดออกมาได้ไม่ดีนัก -:-
อิ่มแล้วก็กลับที่พักสิครับ กลับไปทัน "ไก่จิกเรือจมน้ำพอดีครับ" แต่จะให้นอนดูบอลที่ห้องอย่างนี้ผมรู้สึกไม่คุ้มครับ เลยออกแว้นไปท่องราตรีในเมืองน่าน
ออกไปกินเตี๋ยวไร้เทียมทานสาขาใกล้วัดหัวข่วง ไปถึงร้านก็จะปิดพอดี ผมเลยเป็นลูกค้าคนสุดท้าย
มาม่าหมูเด้งกระดูกหมูต้มยำ ไม่น่ากินเท่าไหร่หรอกครับ จริงๆ ^^
จากนั้นผมก็จะออกไปตามหาของหวานกินต่อ แต่! เวลานั้นประมาณ 20.45 แว้นรถออกจากเตี๋ยวไร้เทียมทาน สองข้างทางร้านค้า บ้านช่อง อาคาร สถานที่ต่างๆ ทยอยปิดลง เหลือเพียงที่เดียวครับ กาดน่าน เป็นที่ๆรวมร้านนั่งดื่มไว้ที่นี่ ประมาณ7-8ร้านเห็นจะได้ครับ
ผมไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เลยไม่มีทางเลือกครับ กลับที่พัก!!
ถ้าไม่พูดถึงก็ไม่มีใครว่าอะไรหรอกครับ แต่ขอพูดนะ กลับมานั่งดูหงส์แดงเปิดบ้านรับแอสตันฯ โหววว ทั้งวันที่ผ่านมาในเมืองน่านมันสโลว์ไลฟ์ สบายๆ พอดูเกมนี้แหละครับ ผมอ่ะหยุดความสโลว์ไว้ตรงนี้เลย ฮ่าาาๆ
เข้าเรื่องต่อดีกว่าเน้อะ เมื่อคืนผมได้แชทไปถามเพื่อนที่เขาเกิดที่จังหวัดน่านว่ามีที่ไหนน่านไปบ้าง เขาก็แนะนำมาหลายที่เลยครับ และบอกด้วยนะว่าให้ตื่นมาเช้าๆ มาดูวิถีชิวิตตอนเช้า ผมก็ตั้งนาฬิกาปลุกเลยครับ ตี5 ตื่นมาเท่านั้นแหละครับ ^^ ฝนตก!!
นอนต่อครับ 8 โมงตื่นมาอีกทีก็ไม่กินอาหารเช้าที่ร้านนี้เลยครับ
อาหารอร่อยครับ Breakfast NAN Style ร้านเปิด7โมง ผมมา9โมง ลูกค้าเลยเยอะครับ ที่ร้านมีแม่ครัว2คน คนเสิร์ฟ1คน ฮ่าาๆๆ รอครับจะทำอะไรได้
กินข้าวอิ่มก็แว้นเที่ยวต่อครับ มีเวลาครึ่งวันเช้าก่อนจะเดินทางกลับ ไล่ไปตามนี้เลย
กำแพงเมือง
และ
สถานที่ ที่ชอบที่สุดในการเดินทางมาน่าน "ห้องสมุด บ้านๆน่านๆ"
ห้องสมุดที่สามารถกินขนมและกาแฟในนั้นได้อ่ะครับ ฮ่าๆ
บ้านไม้สองชั้นดัดแปลงเป็นห้องสมุด ที่มีหนังสือหลายหมวดหลายอย่างไว้ให้ยืมได้! และยังเป็น gallery แสดงภาพการ์ตูน ที่ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้สีเขียวๆรอบบ้าน ผมนี่เหมือนกับมีแรงดึงดูดให้อยู่ที่นี่นานๆ ชอบมากๆครับ ประทับใจเจ้าของสถานที่ด้วย เพื่อนผมบอกว่าท่านเป็นคุณครูที่เคยสอนเพื่อนผม ท่านเป็นผู้หญิงที่สวยมากๆ ถ้าตอนท่านอายุซักยี่สิบนะ หืมมมมม ท่านน่ารักครับ ตอนรับดี ใจดีมากๆ ผมก็เลยนำคำพูดในหนังสือเล่มนึงในร้านมาให้ดูครับ
พอครับจำใจต้องออกจากห้องสมุดบ้านๆน่านๆ เพื่อจะเดินทางกลับ
แต่ว่าระหว่างทางจะกลับที่พัก ผมเจองานบุญขึ้นกลางทางพอดี
ผมเลยสอบถามหลวงพี่รูปหนึ่งครับว่างานนี้คืออะไร ท่านบอกว่าเป็น"งานประเพณีทำบุญสลากภัต" รายละเอียดตามลิ้งไปนะครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://region3.prd.go.th/ct/news/viewnews.php?ID=150916152205
ถึงเวลาที่ต้องเดินทางกลับแล้วจริงๆครับ ก่อนกลับผมก็ไม่ลืมเงิน 2000 บาทของผมครับ คืนรถและรับเงินมัดจำคืน.
[CR] ที่นั่นมีอะไร? ทำไมใครๆถึงชอบพูดว่า..."น่านไง"
สำหรับกระทู้รีวิวที่ผมเขียนนี้นะครับ เป็นการมาบอกเล่าว่าผมไปเที่ยวน่านแล้วไปเจออะไรมาบ้าง
ตามชื้อกระทู้เลยครับ ว่าใครๆก็เคยพูดคำว่า"น่านไง" เคยอยากรู้ไหมครับว่าที่น่านมีอะไร ว่าแล้วไปดูรูปเลยดีกว่าครับ
-:- การเดินทางครั้งนี้แทบจะไม่มีการเตรียมตัวใดๆเลยนะครับ รูปภาพบางสถานที่ทุกคนอาจจะเคยเห็นมาแล้ว -:-
-:- เนื่องจากไม่มีการเตรียมตัวมากนัก ก็เลยจะขอเล่าตั้งแต่วิธีเดินทางไป จนกระทั่งเดินทางกลับ นะครับ ^^ -:-
เริ่มต้นที่สถานีรถไฟหัวลำโพงเลยครับ กว่าจะมาถึงหัวลำโพงก็เกือบจะไม่ทันรถไฟแล้วครับ
รถไฟขบวนที่ 13 ประเภทนั่งและนอนปรับอากาศชั้น2 เตียงบนราคา 697 บาท
-:- ต้นทางสถานีหัวลำโพง ปลายทางสถานีเด่นชัย -:-
ทีแรกคิดว่าจะนั่งรถไฟชั้นสามนะครับ ซึ่งราคาประหยัดกว่า แต่ว่าคิดๆดูไปถึงเด่นชัยแล้วยังต้องเดินทางอีกหนึ่งต่อ และวันนั้นก็จะเที่ยวทั้งวัน เลยขอนอนหลับพักผ่อนละกัน ซึ่งมันสบายมากครับ แอร์เย็น ที่นอนนุ่ม ผ้าห่มอุ่น หลับสนิทได้ถ้าแรงสั่นของรถไฟทำอะไรเราไม่ได้ ฮ่าๆๆ
และนี่ก็คืออาหารมื้อค่ำบนรถไฟครับ มาเป็นชุดๆละ 100 บาท
มี กะเพราหมู ต้มจืด น้ำส้ม
รถไฟออกเราก็นอนยาวๆเลยครับ ตามเวลาในตั๋วจะถึงเด่นชัยเวลา 04.16 แต่ว่าถึงจริงเวลาประมาณ 05.30 ถึงเด่นชับพอดีพระอาทิตย์กำลังขึ้นเลยครับ
เมื่อถึงเด่นชัยแล้วเราจะต้องนั่งรถไปจังหวัดน่านอีกหนึ่งต่อครับ ซึ่งไปได้สองวิธีคือ
1.มีรถตู้ เด่นชัย - น่าน - อ.เฉลิมพระเกียรติ ขึ้นรถได้ที่หน้าสถานีรถไฟเลยครับ แต่ว่ารถตู้สายนี้จะเข้ามารับที่เด่นชัยแค่ช่วงเช้าๆเท่านั้น
2.นั่งรถสองแถว เด่นชัย - แพร่ ไปลงที่สถานีขนส่งแพร่แล้วนั่งรถตู้ สายเด่นชัย - น่าน - อ.เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งจริงๆท่ารถสายนี้เขาอยู่ที่ขนส่งแพร่ครับ
ค่ารถสองแถว 20บาท ค่าตู้รถ 83 บาทครับ
ผมเลือกวิธีที่สองครับ เพราะว่าหิวข้าวก็เลยกินข้าวก่อนที่ตลาดสดเด่นชัย
เหมือนเดิมครับ ขึ้นรถตู้แล้วก็หลับยาวๆเลย รถตู้นั่งทั้งหมด 15 คน ใช้เวลาเดินทางจากแพร่ถึงน่าน ประมาณ2ชั่วโมงครับ จุดจอดก็คือ ขนส่งน่าน จากนั้นก็นั่งรถสองแถว"สีแดง"เข้าไปในตัวเมืองครับ ราคา20บาท
ผมมาถึงในตัวเมืองครับซึ่งถึงตรงนี้แล้วผมก็ยังไม่รู้ว่าต้องไปไหนดี ลุงคนขับรถสองแถวบอกว่าวันนี้มีเทศกาลแข่งเรือพอดี! ผมก็ได้จุดหมายแรกเลยครับ เทศกาลแข่งเรือจังหวัดน่าน
จัดขึ้นที่แม่น้ำน่าน ใกล้ๆกับสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ60พรรษามหาราชินี บริเวณรอบๆงานก็จะมีตลาดนัดให้ได้เดินครับ มีทั้งของกิน ของใช้ ฯ
ดูแข่งเรือจนร้อนทนไม่ไหวผมก็หาที่พักครับ
ทีแรกผมคิดไว้ว่าอยากจะเที่ยวอุทธยาน ไปนอนที่พักอุทธยานอะไรประมาณนั้นครับ แต่ว่าการเตรียมตัวมาน่านครั้งนี้ของผมแทบไม่มีการเตรียมตัวเลย คิดแล้วคิดอีกเวลาก็น้อย การเดินทางก็ยังไม่รู้จะไปยังไง สุดท้ายเลยเที่ยวในตัวเมืองละกัน
ดังนั้นสิ่งแรกก็เลยหาที่พักครับ ผมไปนั่งกินข้าวมันไก่ซักร้านแล้วเปิดโทรศัพท์ค้นหาที่พักใกล้ๆ มีโรงแรมบ้านน่านกับโรงแรมพูคาน่านฟ้าที่ใกล้ๆ แต่คือ เต็ม!!
มึนเลยครับ สับสนและกระวนกระวาย เปิดโทรศัพท์หาแทบไม่ทัน เลยเดินไปเรื่อยๆแถวๆนั้นเพื่อหาที่พักให้ได้ จนได้ที่นี่ครับ
ศรีนวลลอดจ์ ราคา 560 บาทต่อคืน
หาที่พักได้แล้วก็ อาบน้ำอาบท่าครับ ร้อนมากๆ เดินมาค่อนวัน เหงื่อนี่เปียกจนแห้งแล้วเปียกอีกจนแห้งอีกรอบ
ก่อนขึ้นไปพักผมก็ติดต่อโรงแรมเพื่อเช่ามอเตอร์ไซค์ครับ เพราะผมคิดว่าการเที่ยวในเมืองให้ได้หลายๆที่และสะดวกที่สุด มอเตอร์ไซค์คือคำตอบครับ อีกอย่างนึง สถานที่แต่ละที่อยู่ห่างกันมาก เดินหรือจักรยานคงไม่ใช่คำตอบ
ทางโรงแรมก็จัดหารถมอเตอร์ไซค์มาให้ได้1คัน ในราคา 300บาท/วัน มัดจำ 2000 บาท!
อาบน้ำสบายตัวแล้ว มอเตอร์ไซค์มาส่งแล้ว ออกแว้นเลยครับ
สถานที่แรกที่ไป อยู่ไกลสุด ที่นี่เลยครับ
วัดพระธาตุแช่แห้ง
สถานที่ที่สอง วัดภูมินทร์-ข่วงเมืองน่าน
เป็นวัดที่มีภาพวาดผนังที่สวยงามครับ มีภาพวาดกระซิบรักที่วัดนี้ด้วย แต่ผมหาไม่เจอ ^^
สถานที่ที่สาม ศาลพระหลักเมืองน่าน-วัดมิ่งเมือง
เป็นวัดที่มีพระอุโบสถเป็นปูนปั้นสีขาว สวยงามครับ
และสถานที่สุดท้ายของวันแรก วัดพระธาตุเขาน้อย
สถานที่ที่ต้องมาตอนเย็นๆครับ ช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ใกล้จะตกดิน แสงและบรรยากาศสวยงามประทับใจมากๆครับ
ผมใช้เวลาอยู่ที่นี่นานที่สุด เพื่อดูเมืองน่านกำลังจะมืดมิดลง และท้องฟ้าที่มีเมฆเปลี่ยนสีจากขาวไปแดง บรรยายยากจริงๆครับ ต้องเห็นกับตา
จากวัดพระธาตุเขาน้อย ผมก็แว้นรถมอเตอร์ไซค์เข้ามาที่ข่วงเมืองน่าน วันนี้มีงานจัดขึ้นที่นี่พอดีครับ งานกระซิบรัก@น่าน เป็นเหมือนถนนคนเดินที่มีขันโตกจัดวางไว้ตรงกลาง ให้ผู้คนได้ซื้อของกินที่ขายรอบๆเข้าไปนั่งกิน
แล้วดูการแสดง รำ,ดนตรีพื้นเมือง,เล่นเกมชิงของที่ระลึก ประมาณนี้ครับ ซึ่งข้าวเย็นก็ที่นี่เลย มีอาหารพื้นเมืองขายเยอะมากๆ
-:- ภาพในสถานที่นี้ผมไม่ได้ถ่ายไว้ เพราะว่ากล้องผมถ่ายในที่มืดออกมาได้ไม่ดีนัก -:-
อิ่มแล้วก็กลับที่พักสิครับ กลับไปทัน "ไก่จิกเรือจมน้ำพอดีครับ" แต่จะให้นอนดูบอลที่ห้องอย่างนี้ผมรู้สึกไม่คุ้มครับ เลยออกแว้นไปท่องราตรีในเมืองน่าน
ออกไปกินเตี๋ยวไร้เทียมทานสาขาใกล้วัดหัวข่วง ไปถึงร้านก็จะปิดพอดี ผมเลยเป็นลูกค้าคนสุดท้าย
มาม่าหมูเด้งกระดูกหมูต้มยำ ไม่น่ากินเท่าไหร่หรอกครับ จริงๆ ^^
จากนั้นผมก็จะออกไปตามหาของหวานกินต่อ แต่! เวลานั้นประมาณ 20.45 แว้นรถออกจากเตี๋ยวไร้เทียมทาน สองข้างทางร้านค้า บ้านช่อง อาคาร สถานที่ต่างๆ ทยอยปิดลง เหลือเพียงที่เดียวครับ กาดน่าน เป็นที่ๆรวมร้านนั่งดื่มไว้ที่นี่ ประมาณ7-8ร้านเห็นจะได้ครับ
ผมไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เลยไม่มีทางเลือกครับ กลับที่พัก!!
ถ้าไม่พูดถึงก็ไม่มีใครว่าอะไรหรอกครับ แต่ขอพูดนะ กลับมานั่งดูหงส์แดงเปิดบ้านรับแอสตันฯ โหววว ทั้งวันที่ผ่านมาในเมืองน่านมันสโลว์ไลฟ์ สบายๆ พอดูเกมนี้แหละครับ ผมอ่ะหยุดความสโลว์ไว้ตรงนี้เลย ฮ่าาาๆ
เข้าเรื่องต่อดีกว่าเน้อะ เมื่อคืนผมได้แชทไปถามเพื่อนที่เขาเกิดที่จังหวัดน่านว่ามีที่ไหนน่านไปบ้าง เขาก็แนะนำมาหลายที่เลยครับ และบอกด้วยนะว่าให้ตื่นมาเช้าๆ มาดูวิถีชิวิตตอนเช้า ผมก็ตั้งนาฬิกาปลุกเลยครับ ตี5 ตื่นมาเท่านั้นแหละครับ ^^ ฝนตก!!
นอนต่อครับ 8 โมงตื่นมาอีกทีก็ไม่กินอาหารเช้าที่ร้านนี้เลยครับ
อาหารอร่อยครับ Breakfast NAN Style ร้านเปิด7โมง ผมมา9โมง ลูกค้าเลยเยอะครับ ที่ร้านมีแม่ครัว2คน คนเสิร์ฟ1คน ฮ่าาๆๆ รอครับจะทำอะไรได้
กินข้าวอิ่มก็แว้นเที่ยวต่อครับ มีเวลาครึ่งวันเช้าก่อนจะเดินทางกลับ ไล่ไปตามนี้เลย
กำแพงเมือง
และ
สถานที่ ที่ชอบที่สุดในการเดินทางมาน่าน "ห้องสมุด บ้านๆน่านๆ"
ห้องสมุดที่สามารถกินขนมและกาแฟในนั้นได้อ่ะครับ ฮ่าๆ
บ้านไม้สองชั้นดัดแปลงเป็นห้องสมุด ที่มีหนังสือหลายหมวดหลายอย่างไว้ให้ยืมได้! และยังเป็น gallery แสดงภาพการ์ตูน ที่ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้สีเขียวๆรอบบ้าน ผมนี่เหมือนกับมีแรงดึงดูดให้อยู่ที่นี่นานๆ ชอบมากๆครับ ประทับใจเจ้าของสถานที่ด้วย เพื่อนผมบอกว่าท่านเป็นคุณครูที่เคยสอนเพื่อนผม ท่านเป็นผู้หญิงที่สวยมากๆ ถ้าตอนท่านอายุซักยี่สิบนะ หืมมมมม ท่านน่ารักครับ ตอนรับดี ใจดีมากๆ ผมก็เลยนำคำพูดในหนังสือเล่มนึงในร้านมาให้ดูครับ
พอครับจำใจต้องออกจากห้องสมุดบ้านๆน่านๆ เพื่อจะเดินทางกลับ
แต่ว่าระหว่างทางจะกลับที่พัก ผมเจองานบุญขึ้นกลางทางพอดี
ผมเลยสอบถามหลวงพี่รูปหนึ่งครับว่างานนี้คืออะไร ท่านบอกว่าเป็น"งานประเพณีทำบุญสลากภัต" รายละเอียดตามลิ้งไปนะครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ถึงเวลาที่ต้องเดินทางกลับแล้วจริงๆครับ ก่อนกลับผมก็ไม่ลืมเงิน 2000 บาทของผมครับ คืนรถและรับเงินมัดจำคืน.
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น