เรื่องเกิดมาได้ 2-3 สัปดาห์ ชั่งใจอยู่ว่าจะเอามาลงในนี้ดีมั้ย
เล่าให้น้องชายฟัง น้องบอก ควรเอาลงอย่างแรง!! จะได้เป็นการเตือนคนอื่นด้วย
จขกท.เองก็ไม่อยากให้ใครเสียรู้อีกก็เลย อะ ลงก็ลง
เกริ่นก่อนว่า
จขกท. ถือประกันชีวิตแบบออมทรัพย์ของ G. อยู่ค่ะ
เป็นแผนคุ้มครอง 10 ปี จ่ายเบี้ย 5 ปี ตอนนี้ก็จ่ายมา 3 ปีกว่าแล้ว (รวมที่จ่ายไปประมาณ 7 หมื่นได้) อีก 2 ปีก็ครบแล้ว
และก่อนหน้านี้ไม่นานได้รับจดหมายจากบริษัท G.ว่าตัวแทนที่ดูแลอยู่ ได้ยกเลิกการเป็นตัวแทนแล้ว
---- วันศุกร์ เวลาประมาณ 5 โมงนิดๆ ----
มีตัวแทนประกันโทรเข้ามา ขอสาย จขกท. แล้วก็บอกชื่อตัวเอง (ไม่ได้แจ้งเลขตัวแทน และเป็นตัวแทนของบริษัทอะไร)
จากนั้นก็ถามว่า จขกท.ถือประกันชีวิตแบบออมทรัพย์ แผนนี้ใช่มั้ย ที่ต้องจ่ายเบี้ย 5 ปี คุ้มครอง 10 ปี ?
จขกท.ก็บอกว่าใช่ แล้วคุณตัวแทนก็บอกว่าโทรมาเพื่อแจ้ง "การปรับปรุง" ผลประโยชน์ประกันให้ลูกค้า
....โดยจะปรับเป็นแบบคุ้มครอง 14 ปี จ่ายเบี้ย 7 ปี ได้เงินคืน 10% ของเบี้ยรายปีตั้งแต่ปีแรก
แล้วคุณตัวแทนก็ถามว่า ของเดิมได้เบี้ยคืนตั้งแต่ปีที่ 6 ใช่มั้ย
ของใหม่นี่จ่ายค่าเบี้ย 2,010 บาท ของเดิม 2,083 บาท ใช่มั้ย
จขกท. เข้าใจว่าคงเป็นตัวแทนบริษัท G.ที่มาดูแลแทนคนเดิม เพราะเอ่ยแผนประกันมาตรงหมดเลย
ก็ตอบว่า "ใช่ค่ะๆ" ไป
คุณตัวแทนก็บอกว่า >> ค่ะ อันนี้ค่าเบี้ยถูกลงด้วยนะคะ แล้วก็จะได้เงินคืนตั้งแต่ปีแรกเลย
พอมาถึงตรงนี้ จขกท.ก็พูดว่า..
แบบเดิมถือมา 3 ปีแล้ว ถ้าเปลี่ยนแล้วเริ่มปีที่ 4 อย่างนี้เท่ากับเบี้ยที่ควรจะได้คืนปีที่ 1-3 ก็เท่ากับสูญไปน่ะสิ ?
คุณตัวแทนบอกว่า >> ก็..ถ้าเทียบผลประโยชน์โดยรวมแล้วคุ้มกว่ามากเลยนะคะ "คนที่ถือมา 5 ปีแล้วยังยอมเปลี่ยนเลยค่ะ"
จขกท.ก็ เออ ออ โอเคไป
คุณตัวแทนก็บอกว่า >> ทีนี้ การตอบรับการปรับเปลี่ยนแผน จะต้องมีการบันทึกเสียงสนทนาในลักษณะเหมือนการเอาประกันใหม่ ก็เลยจะขอวางสายแล้วโทรเข้ามาอีกที โดยที่คราวนี้จะมีการบันทึกเสียงสนทนา ถือเป็นการตอบรับการเปลี่ยนแผนประกันใหม่นี้อย่างเป็นทางการ
ก็โอเค วางสายไป ไม่ถึง 1 นาทีก็โทรเข้ามาใหม่
ตัวแทน : สวัสดีค่ะ ขอเรียนสาย จขกท. ค่ะ
จขกท. : สวัสดีค่ะ พูดอยู่ค่ะ
ตัวแทน : ค่ะ ดิชั้นพรีซโหดกระโดดฮีล เลขที่ตัวแทน 12 123 12 12 1 ค่ะ (ขานเลขตัวแทนเร็วๆ รัวๆ)
จขกท. : เอ่อ ขอโทษนะคะ ขอชื่อนามสกุลและเลขที่ตัวแทนอีกครั้งนะคะ
ตัวแทน : อ่อ ได้ค่ะ ดิชั้น พรีซโหดกระโดดฮีล เลขที่ตัวแทน 12 123 12 12 1 ค่ะ เป็นตัวแทนบริษัท To... มานำเสนอแผนประกันชีวิตแบบอมทรัพย์
จขกท. : ดะ..เดี๋ยวนะคะ มาจากบริษัทอะไรนะคะ!!??
ตัวแทน : บริษัท To.... ค่ะ
จขกท. : เอ๊ะ! พอดีว่าไม่เคยทำประกันกับที่นี่นะคะ มีแต่ที่ G น่ะค่ะ
**ตัวแทน : อ่อ พอดีว่าดิชั้นจะเป็นตัวแทนที่สามารถดูแลลูกค้าได้น่ะค่ะ คือถึงแม้จะไม่ใช่คนที่มาเสนอขายให้ในตอนแรกแต่ก็ดูแลด้วยกันได้ค่ะ
(สตั๊นท์เบาๆ งง 2 บริษัทนี้เค้าอาจจะมีการจับมือกันทำโครงการหรอ?
หรือว่าเดี๋ยวนี้ตัวแทนมีแบบตัวแทนอิสระ ขายประกันกี่บริษัทก็ได้งี้หรอแบบนักแสดงอิสระอะหรอ?)
จขกท. : อ่อๆ ค่ะ
ตัวแทน : โอเคนะคะ มีอะไรจะถามอีกมั้ยคะ จะได้อธิบายทีเดียว
จขกท. : อะ..อ่อ มะ..ไม่มีค่ะ
ตัวแทน : โอเค ถ้างั้นเดี๋ยวขอนุญาตโทรใหม่อีกครั้งนะคะ
จขกท. : ค...ค่ะ ได้ค่ะ แหะๆ (รู้สึกผิดเลยตรู ไปทำเค้าเสียเวลา ต้องย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้น)
วางสาย....ไม่ถึง 1 นาทีโทรมาใหม่
ก็แนะนำตัว อธิบายแผน เบี้ยประกัน ผลประโยชน์ ความคุ้มครอง บลา บลา
แล้ว จขกท. ก็ตอบตกลงไป คุณตัวแทนก็ถามทวนว่าใช้บัตรเครดิตเดิมตัดค่าเบี้ยใช่หรือเปล่า
พอดี จขกท.กำลังจะเปลี่ยนก็เลยแจ้งบัตรเครดิตใบใหม่ตัดค่าเบี้ยไป
จากนั้น คุณตัวแทนก็บอกว่าให้ fax สำเนาเอกสารบัตรประชาชน หน้ากรมธรรม์เล่มเดิมที่ถืออยู่ แล้วก็ book bank
(ณ จุดนี้เข้าใจว่า เพราะมีการเปลี่ยนข้อมูลการจ่ายเบี้ยและผลประโยชน์ ก็เลยต้องมีการเปลี่ยนเล่มกรมธรรม์ ส่วน book bank ก็คงเอาไว้รับเงินค่าเบี้ยคืนทุกปี)
คุณตัวแทนบอกว่า ที่สำเนาเอกสารต่างๆ ให้เขียนรับรองตามนี้
- สำเนาหน้ากรมธรรม์ เขียนว่า..
>>>> รับรองสำเนาถูกต้อง
>>>> (เซ็นชื่อ)
>>>> ขอระงับการตัดค่าเบี้ยและเวนคืนกรมธรรม์
>>>> วันที่กรมธรรม์และเลขที่กรมธรรม์
>>>> (เพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย)
- หน้าบุ๊คแบงค์ เขียนว่า..
>>>> มีความประสงค์ขอรับเงินคืนในบัญชีนี้
คุณตัวแทนกำชับว่าให้รีบส่ง จะได้เร่งดำเนินการให้
แต่.. กรมธรรม์เดิมของ จขกท. อยู่คนละบ้าน แล้วสุดสัปดาห์นี้ก็ไปต่างจังหวัด จะส่งได้อีกทีก็คงเป็นสัปดาห์หน้า
ทีนี้ จุดพีค อยู่ตรงที่ จขกท.รู้สึกติดใจตรง "เวนคืนกรมธรรม์" ก็เลยยิงคำถามไปว่า....
สรุปแล้ว กรมธรรม์ใหม่นี้คือนับต่อจากของเดิม (ที่จ่ายมาแล้ว 3 ปี) หรือเริ่มนับปีที่ 1 ใหม่เลย?
คุณตัวแทนบอกว่า >> อ่อ เริ่มนับปีที่ 1 ใหม่น่ะค่ะ!!!!
อ่าววววววววววววววววววว
ก็เลยบอกว่า งั้นไม่เอาดีกว่า ขอยกเลิก คุณตัวแทนก็พยายามเกลี้ยกล่อมบอกว่าผลประโยชน์ดีมากเลย
จขกท. : ถ้าต้องเวนคืนกรมธรรม์อย่างนี้ ก็ไม่ได้เบี้ยคืนครบเต็มจำนวนน่ะสิคะ
ตัวแทน : อ่อ ของคุณ จขกท.จะได้คืนทั้งหมด.... 5 หมื่นค่ะ ก็จะขาดไปนิดหน่อยเองงงงงงง
จขกท. : โห!! ไม่หน่อยนะคะ เป็นหมื่นนะคะ!!
ตัวแทน : เอางี้มั้ยคะ.. ไม่ต้องเวนคืนก็ได้ค่ะ เพียงแต่ทำเป็นลักษณะงดส่งเบี้ยเล่มเดิมไป แล้วรับเงินคืนส่วนนึงก่อน
พอถือครบปีที่ 10 ก็จะได้รับเงินคืนอีกส่วนนึงเท่ากับว่าถือควบคู่ไป 2 เล่ม ได้รับความคุ้มครองทั้ง 2 เล่มเลยนะคะ
แต่จ่ายเบี้ยแค่เล่มใหม่เล่มเดียว คุ้มมากกกก อะค่ะ!!
จขกท. : ได้เงินคืนเท่าไหร่คะ
ตัวแทน : ก็... ได้คืนส่วนแรกไป.. 25,000 ค่ะ พอถือครบก็รับอีก 25,000
(เอ๊ะ!! นี่มันคือการโน้มน้าวให้เรายกเลิกประกันของเราที่ทำไว้กับบริษัทนึง เพื่อซื้อประกันใหม่กับนางเลยนี่หว่า..
แต่ทำไมนางบอกว่าเป็นการปรับปรุงผลประโยชน์!!??)
จขกท. : ไม่เอาดีกว่าค่ะ มันไม่คุ้มเลย เงินหายไปเป็นหมื่นอยู่ดี
ตัวแทน : ยังไงรอรับตัวกรมธรรม์แล้ว เอาไปอ่านผลประโยชน์เปรียบเทียบกับของเดิมดูก่อนก็ได้ค่ะ มันดีกว่ามากจริงๆ
แล้วถ้าไม่พอใจยังไงก็ค่อยแจ้งยกเลิกเข้ามา พร้อมกับส่งรูปเล่มคืนก็ได้ค่ะ
นะคะ ลองเอาไปพิจารณาดูก่อนนะคะ
จขกท. : (มึนๆ) ....ค.....ค่ะ ก็ได้ค่ะ
ตัวแทน : งั้นเปลี่ยนแปลงข้อความที่จะเซ็นลงไปในเอกสารนะคะ เป็นตามนี้
- สำเนาหน้ากรมธรรม์ เขียนว่า..
>>>> รับรองสำเนาถูกต้อง
>>>> (เซ็นชื่อ)
>>>> ขอระงับการตัดค่าเบี้ยและเพื่อขยายระยะเวลาความคุ้มครอง
>>>> วันที่กรมธรรม์และเลขที่กรมธรรม์
ส่วนบุ๊คแบงค์ ก็เหมือนเดิมค่ะ อย่าลืมเขียนวงเล็บว่า "เพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย" นะคะ เค้าจะได้รีบเดินเรื่องให้
แล้วก็ร่ำลา วางสายกันไป เบ็ดเสร็จคุยกันเกือบครึ่งชั่วโมง
รีบปรึกษาแฟน แฟนบอกทันทีเลยว่าไม่คุ้ม ยังไงก็ไม่คุ้ม (ตอกย้ำความมั่นใจ)
ให้โทรไปขอยกเลิกเลย เค้าจะได้ไม่ต้องส่งกรมธรรม์มาให้ เดี๋ยวต้องส่งคืนอีกยุ่งยาก
จขกท.มาคิดๆ ดู มันก็จริงนะ ดูนางจะพยายามโน้มน้าวให้ซื้อมาก แล้วก็ยื้อขนาดนี้
ถ้าถึงเวลาได้กรมธรรม์มาคงคืนยากแน่ๆ
ว่าแล้วก็โทรกลับไปเพื่อขอยกเลิก (ขณะนั้นเป็นเวลาประมาณ 6 โมงเย็น)
คุณตัวแทนบอกว่าส่งเรื่องเข้าสำนักงานใหญ่ไปแล้ว แล้วตอนนี้ก็เป็นเวลาเลิกงาน ยกเลิกให้ไม่ทัน!!??
ค่ำวันนั้นตีดอทอย่างไม่เป็นสุขนะพูดเลย
..เพิ่งส่งเรื่องไป ทำไมยกเลิกไม่ได้ !?
..แถมออฟฟิศเลิกงานแล้วด้วย ถ้ารีบทำเรื่องยกเลิกก็น่าจะทันปะ !?
นั่งคิด นอนคิด เสาร์อาทิตย์หงุดหงิดงุ่นง่านจนต้องหาอะไรกินให้ลืมอีก (อันนี้ไม่เกี่ยว)
ไม่ได้การล่ะ คุณตัวแทนนี่ท่าทางเชื่อไม่ได้ละ
---- เช้าวันจันทร์ ----
จขกท.ก็รีบโทรเข้าสำนักงานใหญ่บริษัท To...
ถามว่ามีข้อมูล จขกท.เข้าไปในระบบหรือยัง ถ้ายังขอระงับไว้เลย ไม่ต้องออกรูปเล่มให้
น้องพนักงานที่รับเรื่องก็น่ารักนะ บอกว่าสามารถยกเลิกได้ เดี๋ยวส่งเรื่องให้ แล้วจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับมา
สายๆ ก็มีโทรศัพท์เข้ามา ฟังเสียงพยางค์แรกก็จำได้ทันทีว่าเป็นนาง!! คุณพรีซโหดกระโดดฮีล!!
ตัวแทน : สวัสดีค่ะ คุณ จขกท.ใช่มั้ยคะ
จขกท. : ใช่ค่ะ โทรไปแจ้งยกเลิกกับทางสำนักงานใหญ่แล้วนะคะ เค้าบอกว่าข้อมูลยังส่งไปไม่ถึง
ตัวแทน : อ่ออออ แล้วเค้าให้ยกเลิกใช่มั้ยคะ ? (<< คุณควรจะรู้ดีกว่าลูกค้าไม่ใช่หรอ !?)
จขกท. : ค่ะ สามารถยกเลิกได้เลยค่ะ
ตัวแทน : โอเคค่ะ
จขกท. : โอเคนะคะ สรุปว่ายกเลิกนะคะ
ตัวแทน : ค่ะๆ
(ควรจะจบได้แล้วนะ แต่!!)
---- เช้าวันอังคาร ----
มี SMS ส่งมาว่า..
"เรียนผู้ขอเอาประกัน บริษัทได้อนุมัติใบคำขอของท่านแล้ว และจะส่งกรมธรรม์ให้ท่านต่อไป สอบถามโทร.026501400*ขอบคุณ*-To...ประกันชีวิต"
ปรี๊ดดดด สิคะ!! ต่อสายไปสำนักงานใหญ่ To... ทันที
โวยว้งเว้งเลยว่าแจ้งยกเลิกไปแล้ว เจ้าหน้าที่ก็รับเรื่องเรียบร้อยบอกว่ายกเลิกได้เลย ทำไมยังมี sms ส่งมาว่าตอบรับเอาประกัน?
แล้วคนรับสาย..คนละคนกับเมื่อวาน ก็บอกว่าจะส่งเรื่องให้ จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อเข้าไป.. (อีกละ!!!!)
จขกท.รีบบอกเลยว่าไม่เอาคุณพรีซโหดกระโดดฮีลนะ เพราะไม่โปร่งใสตั้งแต่แรกแล้ว
ช่วงสายก็มีเจ้าหน้าที่โทรเข้ามาบอกว่ายกเลิกให้เรียบร้อย
แต่ในรายการบัตรเครดิตจะเห็นว่ามีการตัดเงิน แล้วก็จะมีรายการเครดิตเงินคืนให้
----------------------
พอวางสายจากบริษัท To... ก็รีบโทรไปบริษัท G. ถามว่าตอนนี้ใครเป็นตัวแทนดูแลกรมธรรม์ จขกท.
เจ้าหน้าที่บอกว่า >> กรมธรรม์ จขกท. ขึ้นตรงกับบริษัท
จขกท.ก็เลยเล่าให้ฟังว่ามีตัวแทนทำแบบนี้ มันทำได้ด้วยหรอ?
เจ้าหน้าที่บอกว่า >> ไม่มีนะคะ ถ้าเป็นตัวแทนของเราก็จะขายเฉพาะของเรา จะไม่มีการบอกให้ลูกค้ายกเลิกประกันของเราแล้วไปซื้อของที่อื่นค่ะ..
คำถามคือ....
....คุณตัวแทนรู้ข้อมูลแผนประกันของ จขกท.ได้ยังไง?
....ถ้าไม่เอะใจ ไม่ถามซ้ำจะเป็นยังไง?
....โดนไปกี่คนแล้วก็ไม่รู้!?
คุยกับเพื่อนที่เป็นตัวแทนขายประกัน เพื่อนบอกว่า
อย่างนี้แจ้ง คปภ.ได้เลย มันคือการหลอกให้ซื้อประกัน ไม่มีหรอกที่ประกันจะมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลกรมธรรม์ได้อะ
แล้วคนแบบนี้อะที่จะทำให้ตัวแทนคนอื่นๆ ที่ตั้งใจทำอาชีพนี้ต้องลำบากไปด้วย เพราะความน่าเชื่อถือมันลดลง
จขกท.ก็อยากร้องเรียน แต่ไม่มีหลักฐานอะไร นอกจากภาพในมือถือว่ามีการโทรติดต่อเข้ามาหลายรอบ
ก็เลยเอามาลงในนี้เพื่อเตือนๆ กันไปแทนค่ะ
ล่าสุดรายการบัตรเครดิตมีการหักเงินไปแล้ว 2,010 บาท
นี่ก็รออยู่ว่าเมื่อไหร่จะมีเครดิตเงินคืนมา....
(อยากจะ tag ประกันชีวิต แต่ไม่มี = =")
ตัวแทนประกัน ทำแบบนี้ได้ด้วยหรอ!?
เล่าให้น้องชายฟัง น้องบอก ควรเอาลงอย่างแรง!! จะได้เป็นการเตือนคนอื่นด้วย
จขกท.เองก็ไม่อยากให้ใครเสียรู้อีกก็เลย อะ ลงก็ลง
เกริ่นก่อนว่า
จขกท. ถือประกันชีวิตแบบออมทรัพย์ของ G. อยู่ค่ะ
เป็นแผนคุ้มครอง 10 ปี จ่ายเบี้ย 5 ปี ตอนนี้ก็จ่ายมา 3 ปีกว่าแล้ว (รวมที่จ่ายไปประมาณ 7 หมื่นได้) อีก 2 ปีก็ครบแล้ว
และก่อนหน้านี้ไม่นานได้รับจดหมายจากบริษัท G.ว่าตัวแทนที่ดูแลอยู่ ได้ยกเลิกการเป็นตัวแทนแล้ว
---- วันศุกร์ เวลาประมาณ 5 โมงนิดๆ ----
มีตัวแทนประกันโทรเข้ามา ขอสาย จขกท. แล้วก็บอกชื่อตัวเอง (ไม่ได้แจ้งเลขตัวแทน และเป็นตัวแทนของบริษัทอะไร)
จากนั้นก็ถามว่า จขกท.ถือประกันชีวิตแบบออมทรัพย์ แผนนี้ใช่มั้ย ที่ต้องจ่ายเบี้ย 5 ปี คุ้มครอง 10 ปี ?
จขกท.ก็บอกว่าใช่ แล้วคุณตัวแทนก็บอกว่าโทรมาเพื่อแจ้ง "การปรับปรุง" ผลประโยชน์ประกันให้ลูกค้า
....โดยจะปรับเป็นแบบคุ้มครอง 14 ปี จ่ายเบี้ย 7 ปี ได้เงินคืน 10% ของเบี้ยรายปีตั้งแต่ปีแรก
แล้วคุณตัวแทนก็ถามว่า ของเดิมได้เบี้ยคืนตั้งแต่ปีที่ 6 ใช่มั้ย
ของใหม่นี่จ่ายค่าเบี้ย 2,010 บาท ของเดิม 2,083 บาท ใช่มั้ย
จขกท. เข้าใจว่าคงเป็นตัวแทนบริษัท G.ที่มาดูแลแทนคนเดิม เพราะเอ่ยแผนประกันมาตรงหมดเลย
ก็ตอบว่า "ใช่ค่ะๆ" ไป
คุณตัวแทนก็บอกว่า >> ค่ะ อันนี้ค่าเบี้ยถูกลงด้วยนะคะ แล้วก็จะได้เงินคืนตั้งแต่ปีแรกเลย
พอมาถึงตรงนี้ จขกท.ก็พูดว่า..
แบบเดิมถือมา 3 ปีแล้ว ถ้าเปลี่ยนแล้วเริ่มปีที่ 4 อย่างนี้เท่ากับเบี้ยที่ควรจะได้คืนปีที่ 1-3 ก็เท่ากับสูญไปน่ะสิ ?
คุณตัวแทนบอกว่า >> ก็..ถ้าเทียบผลประโยชน์โดยรวมแล้วคุ้มกว่ามากเลยนะคะ "คนที่ถือมา 5 ปีแล้วยังยอมเปลี่ยนเลยค่ะ"
จขกท.ก็ เออ ออ โอเคไป
คุณตัวแทนก็บอกว่า >> ทีนี้ การตอบรับการปรับเปลี่ยนแผน จะต้องมีการบันทึกเสียงสนทนาในลักษณะเหมือนการเอาประกันใหม่ ก็เลยจะขอวางสายแล้วโทรเข้ามาอีกที โดยที่คราวนี้จะมีการบันทึกเสียงสนทนา ถือเป็นการตอบรับการเปลี่ยนแผนประกันใหม่นี้อย่างเป็นทางการ
ก็โอเค วางสายไป ไม่ถึง 1 นาทีก็โทรเข้ามาใหม่
ตัวแทน : สวัสดีค่ะ ขอเรียนสาย จขกท. ค่ะ
จขกท. : สวัสดีค่ะ พูดอยู่ค่ะ
ตัวแทน : ค่ะ ดิชั้นพรีซโหดกระโดดฮีล เลขที่ตัวแทน 12 123 12 12 1 ค่ะ (ขานเลขตัวแทนเร็วๆ รัวๆ)
จขกท. : เอ่อ ขอโทษนะคะ ขอชื่อนามสกุลและเลขที่ตัวแทนอีกครั้งนะคะ
ตัวแทน : อ่อ ได้ค่ะ ดิชั้น พรีซโหดกระโดดฮีล เลขที่ตัวแทน 12 123 12 12 1 ค่ะ เป็นตัวแทนบริษัท To... มานำเสนอแผนประกันชีวิตแบบอมทรัพย์
จขกท. : ดะ..เดี๋ยวนะคะ มาจากบริษัทอะไรนะคะ!!??
ตัวแทน : บริษัท To.... ค่ะ
จขกท. : เอ๊ะ! พอดีว่าไม่เคยทำประกันกับที่นี่นะคะ มีแต่ที่ G น่ะค่ะ
**ตัวแทน : อ่อ พอดีว่าดิชั้นจะเป็นตัวแทนที่สามารถดูแลลูกค้าได้น่ะค่ะ คือถึงแม้จะไม่ใช่คนที่มาเสนอขายให้ในตอนแรกแต่ก็ดูแลด้วยกันได้ค่ะ
(สตั๊นท์เบาๆ งง 2 บริษัทนี้เค้าอาจจะมีการจับมือกันทำโครงการหรอ?
หรือว่าเดี๋ยวนี้ตัวแทนมีแบบตัวแทนอิสระ ขายประกันกี่บริษัทก็ได้งี้หรอแบบนักแสดงอิสระอะหรอ?)
จขกท. : อ่อๆ ค่ะ
ตัวแทน : โอเคนะคะ มีอะไรจะถามอีกมั้ยคะ จะได้อธิบายทีเดียว
จขกท. : อะ..อ่อ มะ..ไม่มีค่ะ
ตัวแทน : โอเค ถ้างั้นเดี๋ยวขอนุญาตโทรใหม่อีกครั้งนะคะ
จขกท. : ค...ค่ะ ได้ค่ะ แหะๆ (รู้สึกผิดเลยตรู ไปทำเค้าเสียเวลา ต้องย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้น)
วางสาย....ไม่ถึง 1 นาทีโทรมาใหม่
ก็แนะนำตัว อธิบายแผน เบี้ยประกัน ผลประโยชน์ ความคุ้มครอง บลา บลา
แล้ว จขกท. ก็ตอบตกลงไป คุณตัวแทนก็ถามทวนว่าใช้บัตรเครดิตเดิมตัดค่าเบี้ยใช่หรือเปล่า
พอดี จขกท.กำลังจะเปลี่ยนก็เลยแจ้งบัตรเครดิตใบใหม่ตัดค่าเบี้ยไป
จากนั้น คุณตัวแทนก็บอกว่าให้ fax สำเนาเอกสารบัตรประชาชน หน้ากรมธรรม์เล่มเดิมที่ถืออยู่ แล้วก็ book bank
(ณ จุดนี้เข้าใจว่า เพราะมีการเปลี่ยนข้อมูลการจ่ายเบี้ยและผลประโยชน์ ก็เลยต้องมีการเปลี่ยนเล่มกรมธรรม์ ส่วน book bank ก็คงเอาไว้รับเงินค่าเบี้ยคืนทุกปี)
คุณตัวแทนบอกว่า ที่สำเนาเอกสารต่างๆ ให้เขียนรับรองตามนี้
- สำเนาหน้ากรมธรรม์ เขียนว่า..
>>>> รับรองสำเนาถูกต้อง
>>>> (เซ็นชื่อ)
>>>> ขอระงับการตัดค่าเบี้ยและเวนคืนกรมธรรม์
>>>> วันที่กรมธรรม์และเลขที่กรมธรรม์
>>>> (เพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย)
- หน้าบุ๊คแบงค์ เขียนว่า..
>>>> มีความประสงค์ขอรับเงินคืนในบัญชีนี้
คุณตัวแทนกำชับว่าให้รีบส่ง จะได้เร่งดำเนินการให้
แต่.. กรมธรรม์เดิมของ จขกท. อยู่คนละบ้าน แล้วสุดสัปดาห์นี้ก็ไปต่างจังหวัด จะส่งได้อีกทีก็คงเป็นสัปดาห์หน้า
ทีนี้ จุดพีค อยู่ตรงที่ จขกท.รู้สึกติดใจตรง "เวนคืนกรมธรรม์" ก็เลยยิงคำถามไปว่า....
สรุปแล้ว กรมธรรม์ใหม่นี้คือนับต่อจากของเดิม (ที่จ่ายมาแล้ว 3 ปี) หรือเริ่มนับปีที่ 1 ใหม่เลย?
คุณตัวแทนบอกว่า >> อ่อ เริ่มนับปีที่ 1 ใหม่น่ะค่ะ!!!!
อ่าววววววววววววววววววว
ก็เลยบอกว่า งั้นไม่เอาดีกว่า ขอยกเลิก คุณตัวแทนก็พยายามเกลี้ยกล่อมบอกว่าผลประโยชน์ดีมากเลย
จขกท. : ถ้าต้องเวนคืนกรมธรรม์อย่างนี้ ก็ไม่ได้เบี้ยคืนครบเต็มจำนวนน่ะสิคะ
ตัวแทน : อ่อ ของคุณ จขกท.จะได้คืนทั้งหมด.... 5 หมื่นค่ะ ก็จะขาดไปนิดหน่อยเองงงงงงง
จขกท. : โห!! ไม่หน่อยนะคะ เป็นหมื่นนะคะ!!
ตัวแทน : เอางี้มั้ยคะ.. ไม่ต้องเวนคืนก็ได้ค่ะ เพียงแต่ทำเป็นลักษณะงดส่งเบี้ยเล่มเดิมไป แล้วรับเงินคืนส่วนนึงก่อน
พอถือครบปีที่ 10 ก็จะได้รับเงินคืนอีกส่วนนึงเท่ากับว่าถือควบคู่ไป 2 เล่ม ได้รับความคุ้มครองทั้ง 2 เล่มเลยนะคะ
แต่จ่ายเบี้ยแค่เล่มใหม่เล่มเดียว คุ้มมากกกก อะค่ะ!!
จขกท. : ได้เงินคืนเท่าไหร่คะ
ตัวแทน : ก็... ได้คืนส่วนแรกไป.. 25,000 ค่ะ พอถือครบก็รับอีก 25,000
(เอ๊ะ!! นี่มันคือการโน้มน้าวให้เรายกเลิกประกันของเราที่ทำไว้กับบริษัทนึง เพื่อซื้อประกันใหม่กับนางเลยนี่หว่า..
แต่ทำไมนางบอกว่าเป็นการปรับปรุงผลประโยชน์!!??)
จขกท. : ไม่เอาดีกว่าค่ะ มันไม่คุ้มเลย เงินหายไปเป็นหมื่นอยู่ดี
ตัวแทน : ยังไงรอรับตัวกรมธรรม์แล้ว เอาไปอ่านผลประโยชน์เปรียบเทียบกับของเดิมดูก่อนก็ได้ค่ะ มันดีกว่ามากจริงๆ
แล้วถ้าไม่พอใจยังไงก็ค่อยแจ้งยกเลิกเข้ามา พร้อมกับส่งรูปเล่มคืนก็ได้ค่ะ
นะคะ ลองเอาไปพิจารณาดูก่อนนะคะ
จขกท. : (มึนๆ) ....ค.....ค่ะ ก็ได้ค่ะ
ตัวแทน : งั้นเปลี่ยนแปลงข้อความที่จะเซ็นลงไปในเอกสารนะคะ เป็นตามนี้
- สำเนาหน้ากรมธรรม์ เขียนว่า..
>>>> รับรองสำเนาถูกต้อง
>>>> (เซ็นชื่อ)
>>>> ขอระงับการตัดค่าเบี้ยและเพื่อขยายระยะเวลาความคุ้มครอง
>>>> วันที่กรมธรรม์และเลขที่กรมธรรม์
ส่วนบุ๊คแบงค์ ก็เหมือนเดิมค่ะ อย่าลืมเขียนวงเล็บว่า "เพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย" นะคะ เค้าจะได้รีบเดินเรื่องให้
แล้วก็ร่ำลา วางสายกันไป เบ็ดเสร็จคุยกันเกือบครึ่งชั่วโมง
รีบปรึกษาแฟน แฟนบอกทันทีเลยว่าไม่คุ้ม ยังไงก็ไม่คุ้ม (ตอกย้ำความมั่นใจ)
ให้โทรไปขอยกเลิกเลย เค้าจะได้ไม่ต้องส่งกรมธรรม์มาให้ เดี๋ยวต้องส่งคืนอีกยุ่งยาก
จขกท.มาคิดๆ ดู มันก็จริงนะ ดูนางจะพยายามโน้มน้าวให้ซื้อมาก แล้วก็ยื้อขนาดนี้
ถ้าถึงเวลาได้กรมธรรม์มาคงคืนยากแน่ๆ
ว่าแล้วก็โทรกลับไปเพื่อขอยกเลิก (ขณะนั้นเป็นเวลาประมาณ 6 โมงเย็น)
คุณตัวแทนบอกว่าส่งเรื่องเข้าสำนักงานใหญ่ไปแล้ว แล้วตอนนี้ก็เป็นเวลาเลิกงาน ยกเลิกให้ไม่ทัน!!??
ค่ำวันนั้นตีดอทอย่างไม่เป็นสุขนะพูดเลย
..เพิ่งส่งเรื่องไป ทำไมยกเลิกไม่ได้ !?
..แถมออฟฟิศเลิกงานแล้วด้วย ถ้ารีบทำเรื่องยกเลิกก็น่าจะทันปะ !?
นั่งคิด นอนคิด เสาร์อาทิตย์หงุดหงิดงุ่นง่านจนต้องหาอะไรกินให้ลืมอีก (อันนี้ไม่เกี่ยว)
ไม่ได้การล่ะ คุณตัวแทนนี่ท่าทางเชื่อไม่ได้ละ
---- เช้าวันจันทร์ ----
จขกท.ก็รีบโทรเข้าสำนักงานใหญ่บริษัท To...
ถามว่ามีข้อมูล จขกท.เข้าไปในระบบหรือยัง ถ้ายังขอระงับไว้เลย ไม่ต้องออกรูปเล่มให้
น้องพนักงานที่รับเรื่องก็น่ารักนะ บอกว่าสามารถยกเลิกได้ เดี๋ยวส่งเรื่องให้ แล้วจะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับมา
สายๆ ก็มีโทรศัพท์เข้ามา ฟังเสียงพยางค์แรกก็จำได้ทันทีว่าเป็นนาง!! คุณพรีซโหดกระโดดฮีล!!
ตัวแทน : สวัสดีค่ะ คุณ จขกท.ใช่มั้ยคะ
จขกท. : ใช่ค่ะ โทรไปแจ้งยกเลิกกับทางสำนักงานใหญ่แล้วนะคะ เค้าบอกว่าข้อมูลยังส่งไปไม่ถึง
ตัวแทน : อ่ออออ แล้วเค้าให้ยกเลิกใช่มั้ยคะ ? (<< คุณควรจะรู้ดีกว่าลูกค้าไม่ใช่หรอ !?)
จขกท. : ค่ะ สามารถยกเลิกได้เลยค่ะ
ตัวแทน : โอเคค่ะ
จขกท. : โอเคนะคะ สรุปว่ายกเลิกนะคะ
ตัวแทน : ค่ะๆ
(ควรจะจบได้แล้วนะ แต่!!)
---- เช้าวันอังคาร ----
มี SMS ส่งมาว่า..
"เรียนผู้ขอเอาประกัน บริษัทได้อนุมัติใบคำขอของท่านแล้ว และจะส่งกรมธรรม์ให้ท่านต่อไป สอบถามโทร.026501400*ขอบคุณ*-To...ประกันชีวิต"
ปรี๊ดดดด สิคะ!! ต่อสายไปสำนักงานใหญ่ To... ทันที
โวยว้งเว้งเลยว่าแจ้งยกเลิกไปแล้ว เจ้าหน้าที่ก็รับเรื่องเรียบร้อยบอกว่ายกเลิกได้เลย ทำไมยังมี sms ส่งมาว่าตอบรับเอาประกัน?
แล้วคนรับสาย..คนละคนกับเมื่อวาน ก็บอกว่าจะส่งเรื่องให้ จะมีเจ้าหน้าที่ติดต่อเข้าไป.. (อีกละ!!!!)
จขกท.รีบบอกเลยว่าไม่เอาคุณพรีซโหดกระโดดฮีลนะ เพราะไม่โปร่งใสตั้งแต่แรกแล้ว
ช่วงสายก็มีเจ้าหน้าที่โทรเข้ามาบอกว่ายกเลิกให้เรียบร้อย
แต่ในรายการบัตรเครดิตจะเห็นว่ามีการตัดเงิน แล้วก็จะมีรายการเครดิตเงินคืนให้
----------------------
พอวางสายจากบริษัท To... ก็รีบโทรไปบริษัท G. ถามว่าตอนนี้ใครเป็นตัวแทนดูแลกรมธรรม์ จขกท.
เจ้าหน้าที่บอกว่า >> กรมธรรม์ จขกท. ขึ้นตรงกับบริษัท
จขกท.ก็เลยเล่าให้ฟังว่ามีตัวแทนทำแบบนี้ มันทำได้ด้วยหรอ?
เจ้าหน้าที่บอกว่า >> ไม่มีนะคะ ถ้าเป็นตัวแทนของเราก็จะขายเฉพาะของเรา จะไม่มีการบอกให้ลูกค้ายกเลิกประกันของเราแล้วไปซื้อของที่อื่นค่ะ..
คำถามคือ....
....คุณตัวแทนรู้ข้อมูลแผนประกันของ จขกท.ได้ยังไง?
....ถ้าไม่เอะใจ ไม่ถามซ้ำจะเป็นยังไง?
....โดนไปกี่คนแล้วก็ไม่รู้!?
คุยกับเพื่อนที่เป็นตัวแทนขายประกัน เพื่อนบอกว่า
อย่างนี้แจ้ง คปภ.ได้เลย มันคือการหลอกให้ซื้อประกัน ไม่มีหรอกที่ประกันจะมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลกรมธรรม์ได้อะ
แล้วคนแบบนี้อะที่จะทำให้ตัวแทนคนอื่นๆ ที่ตั้งใจทำอาชีพนี้ต้องลำบากไปด้วย เพราะความน่าเชื่อถือมันลดลง
จขกท.ก็อยากร้องเรียน แต่ไม่มีหลักฐานอะไร นอกจากภาพในมือถือว่ามีการโทรติดต่อเข้ามาหลายรอบ
ก็เลยเอามาลงในนี้เพื่อเตือนๆ กันไปแทนค่ะ
ล่าสุดรายการบัตรเครดิตมีการหักเงินไปแล้ว 2,010 บาท
นี่ก็รออยู่ว่าเมื่อไหร่จะมีเครดิตเงินคืนมา....
(อยากจะ tag ประกันชีวิต แต่ไม่มี = =")