"ตกลงเป็นแฟนกัน" ... คุยกันเรื่องพวกนี้ก่อนบ้างไหม?

1) เชื้อแฝงที่ไม่พึ่งประสงค์ เช่น HIV ซิฟิลิส เบาหวาน ความดันโลหิต พาหนะธาลัสซีเมีย/ธาลัสซีเมีย ไวรัสตับอักเสบ บี บ้างไหม?
2) สินสอด? จะแต่งงานตอนอายุกี่ปี? จัดงานแต่งหรือไม่? ที่ไหน? แต่งแล้วจะอยู่ไหน? จดทะเบียนสมรสกันไหม?
3) จะมีทายาทสิบสกุลกันหรือไม่? ชาย หรือ หญิง? กี่คน? จะมีเมื่ออายุเท่าไร?

4) รายได้/คชจ. ที่เกิดขึ้นภายในบ้าน จัดการอย่างไร?
5) แบ่งหน้าที่ ดูแลลูก บิดามารดา แต่ละฝ่าย อย่างไร?
6) ถ้าเกิดข้อบกพร่องในการทำหน้าที่ของแต่ละฝ่ายขึ้น จะจัดการอย่างไร?
ฯลฯ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 7
คุยทุกอย่าง แบบลงรายละเอียด ก่อนขยับสถานะค่ะ
ขาดก็แต่ให้ทนายทำเป็นเอกสาร เพี้ยนเพลีย

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

เรื่องพวกนี้ พอเจอคนที่ ใช่ ... คุยง่ายและมาจากน้ำใสใจจริงค่ะ โกหกกันยาก
เราคิดว่า ถ้าไปคุยหลังจากรัก+หวังเต็มที่แล้ว มันจะผิดหวังทั้งต่ออีกฝ่ายและต่อตัวเองด้วย จะเหมือนน้ำท่วมปากด้วย
ผู้ชายที่เค้าคิดจะมีเราอยู่ด้วย น่าจะมีคิดๆฝันๆเรื่องนี้ในใจอยู่แล้วล่ะค่ะ ความคิดเค้าจะบวกมากและพาเรานึกสนุก...อยากอยู่ด้วยคน

ตอนนี้แต่งงานเกิน 10 ปีแล้ว เราดีใจที่ได้คุยกันแต่แรก
จริงแล้ว เราแค่ไม่อยากทำงานบ้านคนเดียว แต่พอเริ่มคุย เค้าก็คุยทุกเรื่องเลยค่ะ คุยจริงจังเลย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่