เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาได้มีโอกาสตรวจเลือดก่อนแต่งงานให้กับคู่รักที่กำลังจะแต่งงานคู่หนึ่ง
ทั้งสองคนเป็นคู่รักที่น่ารักมาก ใส่ใจถามคำถามเกี่ยวกับการวางแผนครอบครัวและการเตรียมตัวก่อนแต่งงาน
ดูแล้วเหมือนมีการเตรียมตัวมาอย่างดี
เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าการจองห้องโรงแรมหรือถ่ายพรีเวดดิ้งเลยนะคะ
มาดูกันว่าโดยทั่วๆไปควรจะเตรียมตัวอย่างไรบ้างก่อนแต่งงานนะคะ
1. ตรวจสุขภาพทั่วๆไปเหมือนที่หลายๆ คนตรวจสุขภาพประจำปี ก็จะมีการตรวจร่างกายทั่วๆไป ตรวจวัดความดันโลหิต
เจาะเลือดนับเม็ดเลือด (complete blood count) ตรวจเบาหวาน ตรวจการทำงานของตับและไต รวมทั้งตรวจเอ็กซเรย์ปอด
2. ตรวจเกี่ยวกับการติดเชื้อ โดยทั่วไปก็จะเป็นการตรวจเหมือนกับที่ตรวจเลือดตอนตั้งครรภ์ คือ
ตรวจการติดเชื้อเอดส์ (AntiHIV), ไวรัสตับอักเสบ (HBsAg) และโรคซิฟิลิส (ขึ้นกับโรงพยาบาล ถ้าโรงพยาบาลทั่วๆไปอาจจะตรวจด้วย VDRL)
ถ้าตรวจพบว่ามีการติดเชื้อก็จะได้เริ่มให้การดูแลรักษา
(อ่านเรื่องการตรวจเลือดตอนตั้งครรภ์ จากบทความนี้คะ
http://www.facebook.com/photo.php?fbid=153705634808229&set=a.153759201469539.1073741882.138161163029343&type=3&theater)
3. ตรวจคัดกรองพาหะธาลัสซีเมีย เพื่อดูว่าคุณทั้งคู่เป็นพาหะธาลัสซีเมียชนิดเดียวกันหรือไม่
เพื่อจะประเมินโอกาสที่จะต้องตรวจทารกในครรภ์เพิ่มเติมว่าทารกเป็นโรคหรือไม่ (บทความชุดใหญ่เรื่อง ธาลัสซีเมีย อ่านได้ตามนี้คะ
http://www.facebook.com/media/set/?set=a.153071111538348.1073741869.138161163029343&type=3)
4. ตรวจเกี่ยวกับกรุ๊ปเลือดทั้ง ABO และ Rh blood group
(ทำไมต้องตรวจอ่านในบทความเรื่อง Rh ของหมอบาสนะคะ
http://www.facebook.com/photo.php?fbid=157501584428634&set=pb.138161163029343.-2207520000.1368452039.&type=3&theater)
5. ตรวจเลือดเพื่อดูภูมิคุ้มกัน ว่ามีภูมิต่อโรคสำคัญๆ ซึ่งหากเป็นตอนท้องแล้วจะเกิดอันตรายต่อทารกในครรภ์
ได้แก่ ภูมิคุ้มกันต่อโรคหัดเยอรมัน และโรคสุกใส เป็นต้น ซึ่งถ้ายังไม่มีภูมิคุ้มกัน ก็จะแนะนำให้ฉีดวัคซีนก่อน
ซึ่งวัคซีนเหล่านี้ห้ามฉีดในระหว่างตั้งครรภ์ ถ้าทราบก่อนว่ายังไม่มีภูมิก็จะสามารถฉีดวัคซีนได้ก่อนที่จะตั้งครรภ์นะคะ
.... การเตรียมพร้อมไว้ก่อนย่อมได้เปรียบนะคะ ผลการตรวจที่ผิดปกติไม่ได้เป็นตัวแปรที่จะบอกว่าจะแต่งงานกันไม่ได้หรือคุณทั้งสองคนจะรักกันไม่ได้
แต่จะทำให้คุณสองคนสามารถที่จะดูแลกันและกัน พร้อมกันนั้นก็ยังมีโอกาสได้วางแผนและเตรียมความพร้อมสำหรับชีวิตน้อยๆ
ที่กำลังจะเกิดมาจากความรักของคนทั้งสองคน ดีกว่าที่จะรอให้ตั้งครรภ์แล้วค่อยมาแก้ปัญหานะคะ เพราะบางทีถึงตอนนั้นก็แก้ไขอะไรไม่ได้แล้วเหมือนกัน
หมอเมษ์ @ใกล้มิตรชิดหมอ
Credit pict : love.giggog.com
การตรวจเลือดก่อนแต่งงาน เรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาได้มีโอกาสตรวจเลือดก่อนแต่งงานให้กับคู่รักที่กำลังจะแต่งงานคู่หนึ่ง
ทั้งสองคนเป็นคู่รักที่น่ารักมาก ใส่ใจถามคำถามเกี่ยวกับการวางแผนครอบครัวและการเตรียมตัวก่อนแต่งงาน
ดูแล้วเหมือนมีการเตรียมตัวมาอย่างดี
เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าการจองห้องโรงแรมหรือถ่ายพรีเวดดิ้งเลยนะคะ
มาดูกันว่าโดยทั่วๆไปควรจะเตรียมตัวอย่างไรบ้างก่อนแต่งงานนะคะ
1. ตรวจสุขภาพทั่วๆไปเหมือนที่หลายๆ คนตรวจสุขภาพประจำปี ก็จะมีการตรวจร่างกายทั่วๆไป ตรวจวัดความดันโลหิต
เจาะเลือดนับเม็ดเลือด (complete blood count) ตรวจเบาหวาน ตรวจการทำงานของตับและไต รวมทั้งตรวจเอ็กซเรย์ปอด
2. ตรวจเกี่ยวกับการติดเชื้อ โดยทั่วไปก็จะเป็นการตรวจเหมือนกับที่ตรวจเลือดตอนตั้งครรภ์ คือ
ตรวจการติดเชื้อเอดส์ (AntiHIV), ไวรัสตับอักเสบ (HBsAg) และโรคซิฟิลิส (ขึ้นกับโรงพยาบาล ถ้าโรงพยาบาลทั่วๆไปอาจจะตรวจด้วย VDRL)
ถ้าตรวจพบว่ามีการติดเชื้อก็จะได้เริ่มให้การดูแลรักษา
(อ่านเรื่องการตรวจเลือดตอนตั้งครรภ์ จากบทความนี้คะ http://www.facebook.com/photo.php?fbid=153705634808229&set=a.153759201469539.1073741882.138161163029343&type=3&theater)
3. ตรวจคัดกรองพาหะธาลัสซีเมีย เพื่อดูว่าคุณทั้งคู่เป็นพาหะธาลัสซีเมียชนิดเดียวกันหรือไม่
เพื่อจะประเมินโอกาสที่จะต้องตรวจทารกในครรภ์เพิ่มเติมว่าทารกเป็นโรคหรือไม่ (บทความชุดใหญ่เรื่อง ธาลัสซีเมีย อ่านได้ตามนี้คะ http://www.facebook.com/media/set/?set=a.153071111538348.1073741869.138161163029343&type=3)
4. ตรวจเกี่ยวกับกรุ๊ปเลือดทั้ง ABO และ Rh blood group
(ทำไมต้องตรวจอ่านในบทความเรื่อง Rh ของหมอบาสนะคะ http://www.facebook.com/photo.php?fbid=157501584428634&set=pb.138161163029343.-2207520000.1368452039.&type=3&theater)
5. ตรวจเลือดเพื่อดูภูมิคุ้มกัน ว่ามีภูมิต่อโรคสำคัญๆ ซึ่งหากเป็นตอนท้องแล้วจะเกิดอันตรายต่อทารกในครรภ์
ได้แก่ ภูมิคุ้มกันต่อโรคหัดเยอรมัน และโรคสุกใส เป็นต้น ซึ่งถ้ายังไม่มีภูมิคุ้มกัน ก็จะแนะนำให้ฉีดวัคซีนก่อน
ซึ่งวัคซีนเหล่านี้ห้ามฉีดในระหว่างตั้งครรภ์ ถ้าทราบก่อนว่ายังไม่มีภูมิก็จะสามารถฉีดวัคซีนได้ก่อนที่จะตั้งครรภ์นะคะ
.... การเตรียมพร้อมไว้ก่อนย่อมได้เปรียบนะคะ ผลการตรวจที่ผิดปกติไม่ได้เป็นตัวแปรที่จะบอกว่าจะแต่งงานกันไม่ได้หรือคุณทั้งสองคนจะรักกันไม่ได้
แต่จะทำให้คุณสองคนสามารถที่จะดูแลกันและกัน พร้อมกันนั้นก็ยังมีโอกาสได้วางแผนและเตรียมความพร้อมสำหรับชีวิตน้อยๆ
ที่กำลังจะเกิดมาจากความรักของคนทั้งสองคน ดีกว่าที่จะรอให้ตั้งครรภ์แล้วค่อยมาแก้ปัญหานะคะ เพราะบางทีถึงตอนนั้นก็แก้ไขอะไรไม่ได้แล้วเหมือนกัน
หมอเมษ์ @ใกล้มิตรชิดหมอ
Credit pict : love.giggog.com