ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
ตามกฎหมายให้เก็บ
อัตราร้อยละ 10.0
(ป.รัษฎากร มาตรา 80)
แต่ได้มี
พระราชกฤษฎีกา
ออกมาลดภาษีมูลค่าเพิ่ม
ให้เก็บแค่ร้อยละ 7.0
มาหลายปีและหลายครั้งแล้ว
(จำแนกเป็นภาษีสำหรับ
การขายสินค้า การให้บริการ
หรือการนำเข้าฯ
ร้อยละ 6.3
และภาษีที่จัดเก็บแทน
องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น
อีก
ร้อยละ 0.7 รวมเป็น 7.0)
เพื่อสนับสนุนการอุปโภค
บริโภคของประชาชน
ครั้งล่าสุดจะครบกำหนด
ลดภาษีในวันที่ 30 ก.ย.2558
จึงต้องประกาศการลดภาษีใหม่
ให้มีผลไปจนถึง
30 ก.ย.2559
และเริ่มตั้งแต่
1 ต.ค. 2559
เป็นต้นไป จะเก็บ
ร้อยละ 10
(จำแนกเป็นภาษีสำหรับ
การขายสินค้า การให้บริการ
หรือการนำเข้า
ร้อยละ 9.0
และภาษีที่จัดเก็บแทน
องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น
อีก
ร้อยละ 1.0 รวมเป็น 10.0)
แต่เชื่อได้เลยว่า เดือนนี้
ของปีหน้า ก็จะมีกฎหมาย
(พระราชกฤษฎีกา) ออกมา
ลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มอีกครั้ง
เหลือ
ร้อยละ 7.0 เหมือนเดิม
และปีต่อ ๆ ไปอีกหลายครั้ง
เนื่องจากคนไทยยังไม่พร้อม ที่จะเข้าสู่
"ยุคภาษีอาน"
รัฐบาลลดภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จาก 7.0% เหลือ 6.30% ตั้งแต่ 1 ตค. 58 หลังจากนั้นจะถูกเก็บเพิ่มเป็น 9.0% จริงหรือ
ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
ตามกฎหมายให้เก็บ
อัตราร้อยละ 10.0
(ป.รัษฎากร มาตรา 80)
แต่ได้มีพระราชกฤษฎีกา
ออกมาลดภาษีมูลค่าเพิ่ม
ให้เก็บแค่ร้อยละ 7.0
มาหลายปีและหลายครั้งแล้ว
(จำแนกเป็นภาษีสำหรับ
การขายสินค้า การให้บริการ
หรือการนำเข้าฯร้อยละ 6.3
และภาษีที่จัดเก็บแทน
องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น
อีกร้อยละ 0.7 รวมเป็น 7.0)
เพื่อสนับสนุนการอุปโภค
บริโภคของประชาชน
ครั้งล่าสุดจะครบกำหนด
ลดภาษีในวันที่ 30 ก.ย.2558
จึงต้องประกาศการลดภาษีใหม่
ให้มีผลไปจนถึง 30 ก.ย.2559
และเริ่มตั้งแต่ 1 ต.ค. 2559
เป็นต้นไป จะเก็บร้อยละ 10
(จำแนกเป็นภาษีสำหรับ
การขายสินค้า การให้บริการ
หรือการนำเข้าร้อยละ 9.0
และภาษีที่จัดเก็บแทน
องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น
อีกร้อยละ 1.0 รวมเป็น 10.0)
แต่เชื่อได้เลยว่า เดือนนี้
ของปีหน้า ก็จะมีกฎหมาย
(พระราชกฤษฎีกา) ออกมา
ลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มอีกครั้ง
เหลือร้อยละ 7.0 เหมือนเดิม
และปีต่อ ๆ ไปอีกหลายครั้ง
เนื่องจากคนไทยยังไม่พร้อม ที่จะเข้าสู่
"ยุคภาษีอาน"