....ถ้ามีเวลาสั้นๆแต่อยากออกไปเที่ยวนอกกรุงเทพฯ ลองนั่งรถไฟไปกาญจนบุรีก็ดีนะคะ
สวัสดีค่ะ เป็นกระทู้ที่สองแล้วสำหรับการท่องเที่ยวของเรา
กระทู้ที่แล้วเป็น คิวชูของพี่ ว้าปค่ะ >>
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://ppantip.com/topic/33723495
สำหรับรีวิวนี้อาจจะเป็นที่ท่องเที่ยวที่หลายๆคนมารีวิวเยอะแล้ว แต่เราก็อยากจะเขียนเป็นบันทึกของตัวเองไว้
และยังคงสไตล์ความตั้งใจเดิมคือ อ่านแล้วไปเองได้
สำหรับการเดินทางด้วยรถไฟไปกาญจนบุรีครั้งนี้ เป็นเส้นทางที่จัดโดยการรถไฟแห่งประเทศไทย
เส้นทาง กรุงเทพฯ-น้ำตกไทรโยคน้อย มีเฉพาะวันเสาร์อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์
ขึ้นได้ตั้งแต่ หัวลำโพง สามเสน บางซื่อ บางซ่อน ตามแต่จะใกล้บ้านตรงไหนเลยค่ะ
ตั๋วรถไฟเป็นชั้นสาม ตาก ลม ราคาไปกลับ 120 บาทถ้วน
เราขึ้นที่สถานีบางซื่อ อยู่ติดกับMRT ขึ้นมาจากใต้ดินก็เจอเลยค่ะ
ขึ้นรถที่สถานีรถไฟบางซื่อ 2 (ขวามือเป็นบางซื่อ1ห่างกัน 200เมตร ก็สถานีติดกันเลยค่ะ =,.=) ชานชาลา 2
รถไฟออกเวลา 6.50 เราออกบ้านเช้ากว่าไปทำงานอีก
เพิ่มพลังยามเช้า
คนเยอะแยะเลย
ทำบุญใส่บาตรในสถานี
ประมาณชั่วโมงกว่า ก็มาถึงสถานีนครปฐม สถานีนี้รถไฟจะจอดให้เวลาเราลงไปเที่ยวประมาณ 40 นาที
ก็ยังไม่ทันได้ไปถึงองค์พระก็หมดเวลาแล้ว ลงไปหาเสบียงมาตุนไว้ก็ดี
จากนั้นก็นั่งรถไฟกันต่อ ก็จะมีเจ้าหน้าที่มาบรรยายความรู้เล็กๆน้อยๆก่อนจะถึงสะพานข้ามแม่น้ำแคว จริงๆก็เอนเตอร์เทนมาตั้งแต่ขึ้นรถแล้ว
พอไปถึงก็จะได้ลงไปถ่ายรูปประมาณ 25 นาทีแล้วก็กลับไปนั่งรถไฟข้ามสะพานกันต่อไป คือวันที่ไปคนเยอะมาก
ตอนลงมาจากรถไฟเห็นคนก็ถอนหายใจแล้ว คนเยอะมากๆจริงๆ
ชิคๆกันหน่อย
เราไปถ่ายรูปท้ายขบวน คนก็มารอถ่ายรูปรถไฟเต็มไปหมด
เรามั่นใจว่าทุกคนต้องมีรูปเรา ฮา =.,=
หลังจากที่ผ่านสะพานมาแล้วจะเป็นช่วงสถานีถ้ำกระแซ ระหว่างทางด้านขวามือของตัวรถก็จะมีหน้าผา
เจ้าหน้าที่บอกว่าให้ลูบผาขอพร ก็เป็นอะไรที่แปลกใหม่ดี
จากนั้นก็ยิงยาวไปจนถึงปลายทางที่สถานีไทรโยคน้อย ประมาณบ่ายโมง รถไฟจะออกอีกทีประมาณ 14.35
ไปหาข้าวกลางวันทาน แล้วจะเลือกลงไปน้ำตกหรือจะขึ้นไปต้นน้ำก็ได้ เราเลือกที่จะเดินไปต้นน้ำค่ะ
มีรถมอร์ไซต์พ่วงราคา 20 บาทต่อคนเข้าไปด้านใน หรือจะเดินเข้าไปก็ได้ประมาณเกือบๆกิโล
น่าเสียดายที่ต้นน้ำ น้ำแห้งมากๆเจ้าหน้าที่อุทยานบอกว่าปีนี้แล้งที่สุดเท่าที่เคยมีมา แต่น้ำก็ยังเย็นและใส
พอถึงเวลาก็เดินทางกลับ ช่วงเช้าที่เราเดินทางก็จะมีเจ้าหน้าที่มาขายของค่ะ สามารถสั่งของฝากกับเจ้าหน้าที่ได้
มีพวกน้ำตาลสด หม้อแกง ก๋วยเตี๋ยว ฯ ซึ่งจะได้ตอนขากลับช่วงค่ำๆที่ชุมทางหนองปลาดุก เจ้าหน้าที่ก็จะเอามาแจกจ่ายให้ค่ะ
เจ้าหน้าที่ทุกคนน่ารักมาก มีเล่นมุกขำบ้างไม่ขำบ้าง สร้างสีสันให้กับการเดินทาง ตามกำหนดการในตั๋วจะถึงกรุงเทพฯประมาณทุ่มครึ่ง
แต่เจ้าหน้าที่บอกแถมเวลาให้ทุกเที่ยวเลยค่ะ สรุปถึงบางซื่อสามทุ่มเป๊ะๆ
สำหรับทริปนี้ ถ้าไม่เร่งรีบ เที่ยวเรื่อยๆ ชิลล์ๆไม่ซีเรียสเรื่องเวลา และใช้เวลาสั้นๆในการเดินทางท่องเที่ยวก็ขอแนะนำค่ะ
เผื่อว่าอยู่กรุงเทพฯเบื่อเดินห้าง ลองไปบุกป่าฝ่าดงกับเพื่อนๆหรือครอบครัวก็สนุกดี
ข้อดี ราคาถูก เหมาะกับคนอยากเที่ยวแต่มีเวลาน้อย
ข้อเสีย ใช้เวลาเดินทางนาน อากาศร้อนมากถึงมากที่สุด
ผิดพลาดตรงไหนขออภัยค่ะ และขอบคุณที่ติดตามนะคะ
[CR] ชวนเที่ยวชิคๆทริปหนึ่งวัน นั่งรถไฟไปกาญจนบุรี
สวัสดีค่ะ เป็นกระทู้ที่สองแล้วสำหรับการท่องเที่ยวของเรา
กระทู้ที่แล้วเป็น คิวชูของพี่ ว้าปค่ะ >> [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สำหรับรีวิวนี้อาจจะเป็นที่ท่องเที่ยวที่หลายๆคนมารีวิวเยอะแล้ว แต่เราก็อยากจะเขียนเป็นบันทึกของตัวเองไว้
และยังคงสไตล์ความตั้งใจเดิมคือ อ่านแล้วไปเองได้
สำหรับการเดินทางด้วยรถไฟไปกาญจนบุรีครั้งนี้ เป็นเส้นทางที่จัดโดยการรถไฟแห่งประเทศไทย
เส้นทาง กรุงเทพฯ-น้ำตกไทรโยคน้อย มีเฉพาะวันเสาร์อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์
ขึ้นได้ตั้งแต่ หัวลำโพง สามเสน บางซื่อ บางซ่อน ตามแต่จะใกล้บ้านตรงไหนเลยค่ะ
ตั๋วรถไฟเป็นชั้นสาม ตาก ลม ราคาไปกลับ 120 บาทถ้วน
เราขึ้นที่สถานีบางซื่อ อยู่ติดกับMRT ขึ้นมาจากใต้ดินก็เจอเลยค่ะ
ขึ้นรถที่สถานีรถไฟบางซื่อ 2 (ขวามือเป็นบางซื่อ1ห่างกัน 200เมตร ก็สถานีติดกันเลยค่ะ =,.=) ชานชาลา 2
รถไฟออกเวลา 6.50 เราออกบ้านเช้ากว่าไปทำงานอีก
เพิ่มพลังยามเช้า
คนเยอะแยะเลย
ทำบุญใส่บาตรในสถานี
ประมาณชั่วโมงกว่า ก็มาถึงสถานีนครปฐม สถานีนี้รถไฟจะจอดให้เวลาเราลงไปเที่ยวประมาณ 40 นาที
ก็ยังไม่ทันได้ไปถึงองค์พระก็หมดเวลาแล้ว ลงไปหาเสบียงมาตุนไว้ก็ดี
จากนั้นก็นั่งรถไฟกันต่อ ก็จะมีเจ้าหน้าที่มาบรรยายความรู้เล็กๆน้อยๆก่อนจะถึงสะพานข้ามแม่น้ำแคว จริงๆก็เอนเตอร์เทนมาตั้งแต่ขึ้นรถแล้ว
พอไปถึงก็จะได้ลงไปถ่ายรูปประมาณ 25 นาทีแล้วก็กลับไปนั่งรถไฟข้ามสะพานกันต่อไป คือวันที่ไปคนเยอะมาก
ตอนลงมาจากรถไฟเห็นคนก็ถอนหายใจแล้ว คนเยอะมากๆจริงๆ
ชิคๆกันหน่อย
เราไปถ่ายรูปท้ายขบวน คนก็มารอถ่ายรูปรถไฟเต็มไปหมด
เรามั่นใจว่าทุกคนต้องมีรูปเรา ฮา =.,=
หลังจากที่ผ่านสะพานมาแล้วจะเป็นช่วงสถานีถ้ำกระแซ ระหว่างทางด้านขวามือของตัวรถก็จะมีหน้าผา
เจ้าหน้าที่บอกว่าให้ลูบผาขอพร ก็เป็นอะไรที่แปลกใหม่ดี
จากนั้นก็ยิงยาวไปจนถึงปลายทางที่สถานีไทรโยคน้อย ประมาณบ่ายโมง รถไฟจะออกอีกทีประมาณ 14.35
ไปหาข้าวกลางวันทาน แล้วจะเลือกลงไปน้ำตกหรือจะขึ้นไปต้นน้ำก็ได้ เราเลือกที่จะเดินไปต้นน้ำค่ะ
มีรถมอร์ไซต์พ่วงราคา 20 บาทต่อคนเข้าไปด้านใน หรือจะเดินเข้าไปก็ได้ประมาณเกือบๆกิโล
น่าเสียดายที่ต้นน้ำ น้ำแห้งมากๆเจ้าหน้าที่อุทยานบอกว่าปีนี้แล้งที่สุดเท่าที่เคยมีมา แต่น้ำก็ยังเย็นและใส
พอถึงเวลาก็เดินทางกลับ ช่วงเช้าที่เราเดินทางก็จะมีเจ้าหน้าที่มาขายของค่ะ สามารถสั่งของฝากกับเจ้าหน้าที่ได้
มีพวกน้ำตาลสด หม้อแกง ก๋วยเตี๋ยว ฯ ซึ่งจะได้ตอนขากลับช่วงค่ำๆที่ชุมทางหนองปลาดุก เจ้าหน้าที่ก็จะเอามาแจกจ่ายให้ค่ะ
เจ้าหน้าที่ทุกคนน่ารักมาก มีเล่นมุกขำบ้างไม่ขำบ้าง สร้างสีสันให้กับการเดินทาง ตามกำหนดการในตั๋วจะถึงกรุงเทพฯประมาณทุ่มครึ่ง
แต่เจ้าหน้าที่บอกแถมเวลาให้ทุกเที่ยวเลยค่ะ สรุปถึงบางซื่อสามทุ่มเป๊ะๆ
สำหรับทริปนี้ ถ้าไม่เร่งรีบ เที่ยวเรื่อยๆ ชิลล์ๆไม่ซีเรียสเรื่องเวลา และใช้เวลาสั้นๆในการเดินทางท่องเที่ยวก็ขอแนะนำค่ะ
เผื่อว่าอยู่กรุงเทพฯเบื่อเดินห้าง ลองไปบุกป่าฝ่าดงกับเพื่อนๆหรือครอบครัวก็สนุกดี
ข้อดี ราคาถูก เหมาะกับคนอยากเที่ยวแต่มีเวลาน้อย
ข้อเสีย ใช้เวลาเดินทางนาน อากาศร้อนมากถึงมากที่สุด
ผิดพลาดตรงไหนขออภัยค่ะ และขอบคุณที่ติดตามนะคะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น