สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
คุณมาถูกทางแล้วค่ะ ที่รู้จุดอ่อนของตัวเองและกำลังพยายามแก้ไข แถมได้ผลเป็นที่น่าพอใจ นับถือเลยค่ะ
แต่อีกจุดนึงที่คุณจะต้องผ่านไปได้ คือ เซ้นซิทีฟให้น้อยลงค่ะ
คำพูดพี่คนนั้น เค้าไม่ได้ดูถูกค่ะ เค้าตำหนิเลยแหละ คนละอย่างนะคะ และมันเรื่องจริง เราต้องรับมันให้ได้
ต่อให้ไม่เกี่ยวกับเรื่องของภาษา เช่นเรื่องอื่น ๆ เกี่ยวกับงาน เราต้องแยกออกระหว่างแสดงความเห็น
วิจารณ์ และดูถูกนะคะ ไม่งั้นเราจะกลายเป็นคนแตะนิดแตะหน่อยไม่ได้ เพื่อนร่วมงานลำบากใจค่ะ
ว่าตักเตือนอะไรก็กลัวเพื่อนกลัวลูกน้องจะงอน ต้องมานั่งวางแผนว่าจะพูดอ้อมค้อมยังไงดี งานก็เครียด เหนื่อยค่ะ 55555
แต่อีกจุดนึงที่คุณจะต้องผ่านไปได้ คือ เซ้นซิทีฟให้น้อยลงค่ะ
คำพูดพี่คนนั้น เค้าไม่ได้ดูถูกค่ะ เค้าตำหนิเลยแหละ คนละอย่างนะคะ และมันเรื่องจริง เราต้องรับมันให้ได้
ต่อให้ไม่เกี่ยวกับเรื่องของภาษา เช่นเรื่องอื่น ๆ เกี่ยวกับงาน เราต้องแยกออกระหว่างแสดงความเห็น
วิจารณ์ และดูถูกนะคะ ไม่งั้นเราจะกลายเป็นคนแตะนิดแตะหน่อยไม่ได้ เพื่อนร่วมงานลำบากใจค่ะ
ว่าตักเตือนอะไรก็กลัวเพื่อนกลัวลูกน้องจะงอน ต้องมานั่งวางแผนว่าจะพูดอ้อมค้อมยังไงดี งานก็เครียด เหนื่อยค่ะ 55555
แสดงความคิดเห็น
คิดยังไงกับคนไทยด้วยกันดูถูกเรื่อง"ภาษาอังกฤษ"
คือเราเป็นนักศึกษาพึ่งจบใหม่คะเรื่องภาษาค่อยอ่อนแอมากๆ
ถึงขั้นสะกดคำไม่ได้อ่านไม่ออกเลยนะคะ
เชื่อว่ามีวันรุ่นไทย(บางคนอาจ)จะพบปัญหาเดียวกันอยู่คะ
แต่ตอนนี้ได้พัฒนาตัวอยู่ พยายามอ่านพยายามแปลและพยายามสะกดมากขึ้นคะ
เข้าเรื่องเลยนะคะ คือเริ่มจากการไปสัมภาษณ์งานที่บริษัทแห่งหนึ่งคะ
การสัมภาษณ์งานรอบแรกผ่านเรียบร้อยคะทุกอย่างเป็นไปด้วยดีคะ
ตำแหน่งที่สมัครงานไว้คือ เกี่ยวกับคอมคะ
หลังจากนั้นผ่านไป2วันก็มีการนัดสัมภาษณ์งานรอบ2
ทีนี้สัมภาษณ์กับหัวหน้าฝ่ายบุคคลค่ะ
สัมภาษณ์ทุกเรื่องได้หมดคะ เริ่มเข้าเรื่องภาษาอังกฤษคะ
คำถามเกี่ยวกับภาษา ก่อนอื่นเราได้บอกพี่เค้าไว้ว่าภาษาอ่อนแอมากๆคะแต่กำลังพัฒนาอยู่นะ คะ
พึ่งลงเรียนคอร์สภาษาอังกฤษใหม่ตั้งแต่เรียนเลยคะ ยอมเสียเวลาเพื่อปรับพื้นฐานใหม่ตั้งแต่เริ่ม
แต่....พี่เค้าก็ลองเชิงเราโดยการถามเป็นภาษาอังฤกษกับเราคะ
ได้ความว่า..."มีอะไรจะถามเพิ่มเติมไหม"? (เป็นภาษาอังกฤษ)
(คือตอนนั้นเราไม่รู้เรื่องและไม่เข้าใจภาษาอังกฤษเลยคะเพราะหนีเรื่องเรียนภาษาอังกฤษมาตั้งแต่ตอนเรียน
ด้วยเหตุผลที่เราไม่เข้าใจด้วยคะเลยทำให้ไม่สนุกกับภาษาอังกฤษแต่ตอนนี้รู้แล้วคะว่าสำคัญมากๆ)
แต่...ประโยคที่พี่เค้าพูดมาคำนึ่งจะปากเค้าว่า "นี่ศัพท์ง่ายๆนะน้อง...!!! ทำไมตอบไม่ได้อ่ะคะ?นี่น้องไม่ได้เลยนะแล้วเขียนมาว่าพอใช้แต่น้องไม่ได้เลยนิคะ "
(คือหนูบอกเลยค่ะว่าโง่มากๆคะพึ่งเริ่มเรียนได้2วันแต่เจ็บปวดคือคนไทยด้วยกันไม่น่าพูดแบบนี้ และคิดในใจว่าตอนให้เขียนไม่มีช่องแย่ที่สุดให้กรอกนี่หว่า)
หลังจากนั้นเราก็เงียบเลยคะ!! และก็จบการสัมภาษณ์งานไปได้ด้วยเกือบดี
มันเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตเราและเป็นบทเรียนทำให้เราคิดกับตัวเองว่าฉันจะต้องทำให้ได้ !ถ้าไม่อยากให้ใครมาดูถูกอีก
เริ่มต้นอ่านคำศัพท์ของเด็กประถม(ของหลาน555) และหาวิธีการสะกดคำ เริ่มลงเรียนคอร์สภาษาอังกฤษแบบจริงจัง หาหนังสือนิยายภาษาอังกฤษอ่าน
พยายามฟังเพลงสากล หาคำศัพท์ทั่วไป ดูหนังซาวแทร็ก อ่านป้ายโฆษณาข้างทางไปเรื่อยๆคะผิดถูกบ้างก็งูๆปลาๆไป อย่างน้อยก็ได้พยายาม
ต้องขอบคุณพี่เค้าที่ดูถูกเราในวันนั้น....ผ่านไป 1 เดือนคะ
ตอนนี้เราพัฒนาขึ้นเยอะคะแต่อาจจะไม่เก่งเหมือนหลายๆคนนะคะ
แต่เทียบกับความรู้ที่เราเคยมีมันพัฒนาขึ้นเยอะคะและจะไม่จบแค่นี้เราจะพัฒนาไปเรื่อยๆคะ
(ขอบอกก่อนนะคะว่าเราไม่ได้ร่วมงานกับที่นั้นเพราะว่าตอบแทนน้อยและด้วยคำพูดเค้าด้วย)
ขอบคุณทุกๆท่านที่อ่านนะคะ อยากให้หลายๆคนที่เจอปัญหาเดียวกันอยู่ ขอให้ผ่านไปให้ได้เอาชนะใจตนเอง
และฝึกฝนบ่อยๆมันน่าจะดีขึ้นคะ การเรียนไม่มีคำว่าสายจริงๆคะ ขอเป็นกำลังใจให้กับคนที่กำลังเริ่มต้นเรียนรู้เหมือนเรานะคะ