[Spoil] Sidonia no Kishi #78 (ตอนอวสาน) - อัศวินแห่งซิโดเนีย

มา Spoil เนื้อเรื่องช้าไปพอสมควรเพราะติดงาน Tokyo Ghoul กับ Kekkai Sensen ตลอดเสาร์อาทิตย์เลยแฮะ

คิดว่าไหนๆ ก็ทำกระทู้ภาคอนิเมมาแล้ว ก็ขอทำกระทู้ภาคมังงะตอนอวสานเป็นการทิ้งทวนซะเลย

หลายคนคงได้ยินข่าวกับได้เห็นภาพกันไปแล้ว (ทั้งจากที่หลุดมาก่อนเป็นอาทิตย์กับตัวเต็มที่หลุดมาราวๆ วันสองวันนี้) ส่วนเนื้อเรื่องเต็มเป็นยังไงนั้นมาลองดูด้วยกันในนี้ได้เลยครับ (ถึงเอาจริงจะไม่ได้แปลหมดก็เถอะ)







ภาพเปิดตอนนี้

หมายเหตุ - จริงๆ ชื่อตอนสุดท้ายคือ "สงครามครั้งสุดท้ายกับกาวน่า" แต่ผมชอบชื่ออัศวินแห่งซิโดเนียที่เป็นชื่อตอนก่อนมากกว่า เลยเอามาใส่ไว้เท่ๆ ข้างบนนี้แทนครับ







- เปิดตอนมาต่อจากตอนที่แล้วที่นางาเทะปราบโอจิไอในร่างคานาตะและรอดกลับมาจากแกนกลางดาวฤกษ์เลมได้สำเร็จ ด้วยการเสียสละของสึมุงิ

- หลังสงครามจบ พวกนักบินกับลูกเรือที่ออกไปรบก็นั่งยานรบกลับเข้าซิโดเนียเหมือนเดิม

- หลังจากนั้น กัปตันก็มาประกาศต่อหน้าลูกเรือทุกคนว่าบัดนี้สงครามระหว่างมนุษย์กับกาวน่าได้จบลงแล้วด้วยชัยชนะของฝ่ายมนุษย์

- หลังกัปตันประกาศจบ โนริโอะก็เข้ามาคุยกับนางาเทะ โนริโอะออกปากชมว่านางาเทะทำได้ดีมาก นางาเทะก็ยิ้มแล้วบอกว่าโนริโอะก็เหมือนกัน

- ฉากตัดไปที่สะพานเดินเรือของยานที่กำลังตรวจสอบเอน่าของยานรวมร่างใหญ่ที่ปกคลุมชั้นบรรยากาศของดาวเคราะห์เซเว่นอยู่ โดยหลังจากยานรวมร่างใหญ่ถูกทำลาย เอน่าเหล่านั้นก็แตกตัวกลายเป็นละอองเล็กๆ ตกลงสู่พื้นผิวดาว ยูฮาตะเห็นเข้าก็แสดงความกังวลใจว่าพื้นผิวปนเปื้อนเอน่าแบบนี้จะส่งคนลงไปตั้งถิ่นฐานได้ยังไง

- ตัดมาทางนางาเทะกับอิซานะที่ต้องมานอนห้องพักชั่วคราวแทน (เพราะบ้านตรงกำแพงรอบนอกพังไปแล้ว) ระหว่างเข้าพัก ก็มีลูกเรือสองคนแวะมาหา บอกว่าเจอของสิ่งหนึ่งระหว่างทำหน้าที่เก็บกวาดซากหักพังจากการรบครั้งสุดท้าย

- และของชิ้นนั้นก็คือ...เศษผ้าม่านของสึมุงินั่นเอง




- ลูกเรือที่เอามาให้เห็นสีหน้านางาเทะตอนรับเศษผ้าม่านไปก็ขอโทษบอกว่าตัวเองควรรอเวลาผ่านไปสักพักค่อยเอามาให้ดีกว่า ไม่ควรเอามาให้ตอนที่นางาเทะยังเศร้าอยู่แบบนี้ (ลูกเรือทุกคนบนซิโดเนียเห็นเหตุการณ์ตอนที่สึมุงิละลายหายไปคามือหุ่นนางาเทะกันหมด) นางาเทะก็บอกว่าไม่เป็นไร และขอบใจลูกเรือที่เอาเศษผ้าม่านมาให้

- ฉากตัดไปทางซามาริ ซามาริได้ข่าวเรื่องไอ้จมูกโตที่บาดเจ็บสาหัสจากการรบยังไม่ฟื้นทั้งที่แผลหายหมดแล้วก็รีบแวะไปเยี่ยม เห็นไอ้จมูกโตนอนเป็นผักอยู่บนเตียงคนป่วยเข้าก็ทนไม่ไหว ตรงเข้าไปคว้าคออีกฝ่ายเขย่าแรงๆ ร้องตะโกนใส่ว่าตื่นสิ อยากสังเคราะห์แสงกับชั้นไม่ใช่รึไง เพื่อนที่มาด้วยต้องห้ามอุตลุด

- ปรากฏระหว่างที่เขย่านั้นหัวไอ้จมูกโตดันไปฟาดขอบเตียงเข้า เลยตื่นขึ้นมาแบบงงๆ ซามาริเห็นไอ้จมูกโตฟื้นแล้วก็ร้องไห้โผเข้ากอดไอ้จมูกโตแน่นจนไอ้จมูกโตงงไปเลย


- หนึ่งเดือนผ่านไปหลังการรบ หุ่นของนางาเทะซ่อมเสร็จแล้ว นางาเทะเลยขับออกไปช่วยทำงานบูรณะซิโดเนียกับอิซานะกับอีกคน (คิดว่าน่าจะเป็นโคลนซีรี่ส์คนใดคนหนึ่ง) โดยระหว่างนั้นจะเห็นได้ว่ากำแพงชั้นนอกซ่อมเสร็จแล้ว เห็นว่าจะลองเดินเครื่องสร้างแรงดึงดูดเทียมพร้อมอุปกรณ์สร้างบรรยากาศเทียมพรุ่งนี้

- วันรุ่งขึ้น หลังเริ่มมีการทดลองใช้แรงดึงดูดเทียมกับเครื่องสร้างบรรยากาศเทียม ก็มีลูกเรือไปเดินเล่นที่บริเวณกำแพงชั้นนอกกันหลายคน รวมถึงนางาเทะด้วย

- นางาเทะไปนั่งตรงม้านั่งตัวเดิมที่เคยมานั่งบ่อยๆ ตรงทางเดินใกล้กำแพงชั้นนอก ดวงตาไร้แววเหมือนปลาตาย ก่อนจะหยิบเอาเศษผ้าม่านของสึมุงิมาดู

- จ้องอยู่สักพัก นางาเทะก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ทำท่าจะร้องไห้ออกมา ตอนนั้นเองก็มีเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักคนหนึ่งเดินเข้ามาทักว่าเป็นอะไรหรือเปล่า นางาเทะเลยรีบเช็ดน้ำตาบอกเด็กว่าไม่เป็นไร ขอโทษที่ให้เห็นอะไรไม่น่าดู เด็กก็ส่ายหัวบอกว่าไม่เป็นไรเหมือนกัน แล้วเดินกลับไปหาแม่แล้วเดินจากไป


น้องที่มาปลอบนางาเทะตอนกำลังเล่นมิวสิควิดีโอถึงสึมุงิ (เห็นน้องเค้าน่ารักดีเลยเอามาลงเฉยๆ)




- หลังเด็กกับแม่ไป นางาเทะก็ลุกขึ้นไปยืนมองกำแพงคนเดียวด้วยสายตาเจ็บปวด

- ตอนนั้นเองก็มีเสียงคุ้นเคยเสียงหนึ่งเรียกจากด้านหลัง นางาเทะสะดุ้งเฮือกหันกลับไปดู และสิ่งที่ได้พบก็คือ...ร่างของเด็กสาวคนหนึ่งที่มีใบหน้าและน้ำเสียงเหมือนกับชิซึกะแฟนเก่าไม่ผิดเพี้ยนกำลังเดินเตาะแตะเข้ามาหา




- นางาเทะถึงกับตะลึง พูดด้วยน้ำเสียงเหมือนไม่อยากจะเชื่อว่า "สึมุงิ...เหรอ?"

- และร่างนั้นก็ตอบรับด้วยน้ำเสียงร่าเริงไม่ต่างกัน ก่อนจะโดดดึ๋งๆ ต่อหน้านางาเทะ ท่ามกลางสายตายินดีของอิซานะกับยูเรย์




- โดยสาเหตุที่สึมุงิรอดกลับมาได้ แถมยังได้ร่างมนุษย์กลับมานั้น เป็นเพราะยูเรย์เอาร่างของโมสึคุไปตรวจสอบจนรู้ว่าโอจิไอย้ายร่างไปใส่ชาวบ้านได้ยังไง ก็เลยนำเศษเอน่าของสึมุงิที่ติดอยู่ตามร่องตามซอกหุ่นของนางาเทะไปหาจนเจอร่างจริงของสึมุงิที่เป็นเหมือนตัวหนอนเล็กๆ อยู่ในสภาพร่อแร่ใกล้ตาย จากนั้นนำไปปลูกถ่ายให้กับเอน่าร่างมนุษย์ของชิซึกะที่เหลืออยู่ สึมุงิจึงคืนชีพมาเป็นร่างมนุษย์อีกครั้งในลักษณะนี้เอง (วิธีเดียวกับที่โอจิไอใช้ปลูกถ่ายบุคลิกเทียมใส่ชาวบ้าน ด้วยการเอาหนอนกาวน่าที่บันทึกบุคลิกตัวเองเจาะสมองชาวบ้านนั่นแล)

*หมายเหตุ - จากที่สึมุงิบอก ดูเหมือนในเอน่าร่างมนุษย์นี้ยังมีความทรงจำของชิซึกะหลงเหลืออยู่ แต่นั่นยังบอกไม่ได้ชัดเจนนัก



- จากนั้นเรื่องก็ไทม์สคิปไป 10 ปีหลังสงครามครั้งสุดท้ายระหว่างซิโดเนียกับกาวน่า มีการค้นพบว่าเอน่าของยานรวมร่างใหญ่ที่ตกลงไปยังดาวเคราะห์เซเว่นนั้นไม่ได้ทำให้ผิวดาวปนเปื้อนจนอาศัยอยู่ไม่ได้ ตรงกันข้ามกลับช่วยเปลี่ยนระบบนิเวศของดาวให้ใกล้เคียงกับระบบนิเวศของโลกแทน แม้จะมีลูกเรือจำนวนมากรู้สึกแหยงๆ กับการต้องอาศัยในดาวที่มีแต่เอน่าของกาวน่า แต่เมื่อได้คำรับรองจากสึมุงิว่า "ไม่เป็นไรหรอก" ก็วางใจและเริ่มทยอยกันลงไปอาศัยอยู่บนดาวกว่าครึ่ง

- ซึ่งนางาเทะกับสึมุงิก็เป็นหนึ่งในกลุ่มที่เลือกลงหลักปักฐานบนดาวเช่นกัน โดยต่างอยู่ร่วมบ้านเดียวกันฉันสามีภรรยาอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อย


บ้านของนางาเทะกับสึมุงิบนดาวเคราะห์เซเว่น




- นอกจากนี้ทั้งคู่ยังมีพยานรักด้วนกันหนึ่งคนเป็นลูกสาวชื่อ "โนโดกะ" เป็นเด็กหญิงนิสัยห่ามไม่กลัวอะไร แถมยังมีสกิลเทพนักบินติดตัวมาแต่เกิดเหมือนนางาเทะอีกต่างหาก (กล้าขับยานออกนอกชั้นบรรยากาศตัวคนเดียวเลย ทั้งที่อายุไม่น่าเต็มสิบขวบเลยมั้ง)




- โดยหลังจากอพยพลงไปอยู่บนดาวเคราะห์เซเว่นกันได้ 10 ปี บรรดาลูกเรือที่ยังอยู่บนซิโดเนียทุกคนก็เตรียมพร้อมออกเดินทางครั้งใหม่เป็นที่เรียบร้อย


ยานซิโดเนียจอดเทียบสถานีอวกาศบนชั้นบรรยากาศดาวเคราะห์เซเว่น




- โดยในวันออกเดินทางนั้นมีเรื่องขลุกขลักเล็กน้อย เมื่อยัยหนูโนโดกะร้อนใจอยากจะไปส่งเพื่อนๆ เดินทางเร็วๆ เลยแอบเอายานของที่บ้านบึ่งไปยังสถานีอวกาศคนเดียวโดยไม่ฟังคำเตือนของสึมุงิเลย นางาเทะกับสึมุงิเลยต้องขับหุ่นตามไปแทน (นางาเทะเอาหุ่นสึกิโมริที่เป็นหุ่นประจำตัวลงมาใช้บนดาวเคราะห์เซเว่นด้วย)

- ตามไปถึงก็ไปเจอลูกสาวตัวดีหลบอยู่หลังป้าหมีฮิยามะอยู่ เลยมีรายการอบรมกันเล็กๆ น้อยๆ พอเป็นพิธี โนโดกะก็ยอมขอโทษแต่โดยดี

- ตอนนั้นเองอิซานะก็แวะมาทักทายนางาเทะกับครอบครัว...พร้อมกับยูฮาตะที่แปลงเพศเป็นผู้ชายเรียบร้อยไปแล้ว




- โดยบรรดาลูกเรือที่เลือกจะไปกับยานซิโดเนียประกอบด้วยป้าหมี อิซานะ ยูฮาตะ (ได้เลื่อนขั้นเป็นกัปตันยานแล้ว) เทรุรุ บรรดาโคลนซีรี่ส์โฮโนกะจำนวนหนึ่ง รวมทั้งโนริโอะกับโมสึคุก็ไปด้วยเช่นกัน


โนริโอะตัดผมสั้นแล้วดูเท่ไปอีกแบบแฮะ




ภาพชุดปูชณียบุคคลประจำยาน (กัปตัน, ป้าซาซากิ, ยายยูเรย์, แล้วก็โอจิไอตัวโคลน) นอนอาบแดดกันสบายใจเฉิบไม่ขึ้นไปส่งถึงสถานีอวกาศแฮะ




- แล้วก็ถึงเวลาบอกลากันระหว่างเพื่อนสนิทคนคุ้นเคย โนโดกะน้ำตาซึมถามอิซานะว่าเมื่อไหร่จะได้เจอกันอีก อิซานะก็ตอบว่าไม่รู้เหมือนกัน แต่ถ้าวันไหนโนโดกะมีเรื่องเดือดร้อนอะไร อิซานะจะกลับมาหาทันที ดังนั้นถ้าอิซานะมีเรื่องเดือดร้อนอะไร โนโดกะก็ต้องมาหาทันทีเหมือนกันนะ

- และนั่นคือคำสัญญาครั้งสุดท้ายระหว่างครอบครัวนางาเทะกับผองเพื่อน ก่อนที่ยานซิโดเนียจะออกเดินทางไปสู่ขอบฟ้าแห่งใหม่อีกครั้ง




- จบบริบูรณ์ -









แล้วก็มาถึงบทสุดท้ายจนได้แฮะ สำหรับการ์ตูนที่เป็นทุกอย่างเท่าที่การ์ตูนเรื่องหนึ่งจะเป็นได้ (ไซไฟ, หุ่นยนต์, ดราม่าเลือดสาด, ตลก, ฮาเร็ม, Slice of Life ฯลฯ)

ถึงโดยส่วนตัวจะไม่ได้เขียน Spoil เนื้อเรื่องการ์ตูนเรื่องนี้เท่าไหร่เพราะติดงานกับการ์ตูนเรื่องอื่นมากกว่าก็เถอะ แต่อย่างน้อยได้ทำสองตอนสุดท้ายที่เป็นช่วงปิดเรื่องแบบนี้ก็ถือว่าสนุกทีเดียวครับ

ว่าไปได้ข่าวมาพอสมควรเหมือนกันแฮะว่าตอนมีภาพหลุดมา มีคนไม่พอใจกับตอนจบพอสมควร ซึ่งพอได้อ่านตัวเต็มแล้วก็ไม่ได้แย่อะไรขนาดที่คนบ่นเละเทะกันแฮะ (ถึงจะอึ้งๆ บ้างกับเรื่องยูฮาตะแปลงเพศเป็นผู้ชายก็เถอะ =A=)

งานนี้แทบอดทนรออนิเมซีซั่น 3 ต่อไม่ไหวเลยแฮะ อยากเห็นบรรดาฮาเร็มของนางาเทะคนอื่นๆ อย่างเทรุรุมีบทบ้าง

คงต้องรอดูข่าวกันต่อไปละครับ


และสุดท้ายนี้ขอลากันเท่านี้ละนะครับ พบกันใหม่ในกระทู้เรื่องอื่นหรือกระทู้เรื่องนี้ภาคอนิเมซีซั่น 3 (ถ้ามี) นะครับ ยิ้ม

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่