เมื่อฉันไม่อยากแต่งงาน(งานแต่งงานๆเราหรืองานใคร)โลกสวยข้ามไปนะค่ะ

ไม่ทราบว่าแท็กถูกที่ถูกทางมั้ยถ้าไม่ถูกก็ขออภัยนะคะ ก็ไม่มีอะไรมากแค่อยากมาแชร์อีกมุมนึงของผญ.คนนึงว่าด้วยเรื่องของการจัดงานแต่งงานก็เท่านั้น ที่เขียนกระทู้นี้ไม่ได้มีเหตุผลอะไรพิเศษ แค่เห็นคนจัดงานแต่งงานมากมาย+ตัวเองถูกใครต่อใครถามเรื่องงานแต่งงานมามากเลยอยากมาระบายอะไรนิดๆหน่อย ในอีกมุมนึงของความคิดก็เท่านั้น เพราะถ้าถามถึงงานแต่ง ผญ.ทุกคนก็อยากจัดงานแต่งอย่างที่ตัวเองฝันไว้ทั้งนั้นละ ฝันที่ตัวเองเป็นเหมือนเจ้าหญิงผู้เลอโฉม งดงาม กับเจ้าชายที่พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อเธอ ความรักที่สวยงามเหมือนในนิทานที่เคยดูตอนเด็กๆ ความหอมหวานของบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความรักของคน 2 คนที่มีให้กัน ความยินดีจากคนรอบข้าง
แต่ในความจริงสิ่งที่วาดฝันไว้เหล่านั้นมันแลกมาด้วยตัวเงินที่มากมาย บางคนคงไม่แคร์อะไรเพราะมันคือครั้งเดียวในชีวิต แต่สำหรับญ.เอง ญ.บอกตรงๆนะว่าญ.ก็คิดเหมือนทุกคนนั้นแหละอยากเหมือนเจ้าหญิงในนิทานสักครั้งในชีวิต แต่ถ้าต้องเอาเงินที่ได้จากความเหน็ดเหนื่อยจากการงานของตัวเองและผช.ที่เรารักแล้วละก็ ขอไม่จัดดีกว่าไม่ใช่จะนางเอกอะไรหรอก ญ.แค่อยากบอกว่าญ.งกมากๆเกินกว่าจะเอาเงินมาจัดงานสนองความต้องการในแบบของตัวเอง มันก็แค่ฝันชั่วข้ามคืนที่เดี๋ยวก็หมดไป วานใหญ่ขนาดไหนก็ต้องมีเวลาสิ้นสุด เลยไม่รู้ว่าเราจะใช้เงินซื้อความสุขช่วงสั้นๆนั้นทำไม จัดให้ผู้ใหญ่สบายใจก็เข้าใจนะแต่คนเราจะรักกันอะมันมีแค่คน 2 คนไม่ใช่เหรอ เวลารักเวลามีปัญหาทุกคนมักบอกว่า"อย่าไปยุ่งเรื่องของเค้าให้เค้าเคลียกันเอง"แต่น่าแปลกพอถึงงานแต่งกลับไม่ใช่เรื่องของคน 2 คนมันกลายเป็นเรื่องของคนหลายๆคน
-ต้องเชิญญาติโกโหติกาบรรดาครที่เคยพูดจาดูถูกแต่ไม่เคยแม้แต่จะยื่นมือมาช่วยเวลาที่เราลำบากมางานแต่งของเราเพียงเพื่อให้พวกเค้ารู้ว่าเค้าคิดผิด เอางานแต่งงานมาเป็นสิ่งแสดงออกซึ่งการเอาคืนสิ่งที่พวกเค้าเคยดูถูก
-ต้องเชิญคนบางคนที่เราเองไม่เคยคิดว่าเค้าสำคัญแต่เค้าคิดว่าเค้าสำคัญในชีวิตเรามางานเพียงเพราะไม่อยากให้เค้ามาว่าเรามีหลังว่าทำไมไม่เชิญ
-ต้องเชิญใครไม่รู้มาเป็นประธานกล่าวเปิดงาน อวยพรบ่าว-สาว เค้าจะอวยพรอะไรได้มากไปกว่าอวยตามมารยาทก็เค้าไม่รู้จักเราแต่แค่เค้าเป็นส.ส,ส.จ,อ.บ.ต,อ.บ.จ,ฯลฯ
-ต้องเชิญแขกที่มากกว่า 50%ไม่เคยรับรู้เรื่องราวของบ่าวสาวเลยมาแสดงความยินดีถามว่าเค้าจะยินดีจากใจมั้ย จะซึ้งกับความรักของคนทั้งคู่มั้ย ก็ไม่เชิญมาทำไม?เข้าแค่เป็นแขกของพ่อกับแม่ที่เราไม่รู้จัก ไม่เข้าใจจริงๆ
ในความคิด ญ. นะงานแบบนี้อย่ามีเลยดีกว่า
เพราะส่วนนึงของคนเราที่เรียกตัวเองว่า"มนุษย์"มันมีแน่นอนคนที่มางานเพราะอยากจะดูซิว่าเราจัดงานเป็นยังไง ยิ่งใหญ่แค่ไหน บางคนก็มายินดีด้วยใจ บางคนก็ยินดีไปเป็นพิธี แต่ในใจก็จะคิดว่า
-โถ.....กว่าจะได้แต่งมีผัวมากี่คนแล้วละหล่อนอย่าคิดว่าฉันไม่รู้
-แต่งเพราะเค้ารวยละซิ
-ผู้ชายเจ้าชู้จะตายเดี๋ยวก็ได้ร้องไห้แน่ๆ
-จัดงานซะใหญ่เว่ออยากอวดรวยซิท่า
-จัดทั้งทีจัดงานเล็กๆแบบนี้ อาหารก็เบสิคสิ้นดีอย่าจัดเลย
-ใส่ซองไปตั้งเยอะต้องกินให้คุ้มว่าแต่อาหารมันดูมีมูลค่าน้อยกว่าค่าซองฉันมั้ย
-และคำพูดอื่นๆอีกมากมายแล้วแต่ใจขอบมนุษย์ ปถุชนแต่ละคนจะคิดได้
*อ่านถึงตรงนี้อาจมีคนที่มองว่าญ.มองโลกในแง่ร้าย อาจจะคิดอย่างนั้นก็ได้แต่นี่คือโลกแห่งความจริง ถ้าถามว่าจะแคร์ทำไมว่าใครจะคิดยังไงอยากจัดอะไรก็จัดเลย มันก็ใช่แต่ลองถามตัวเองมั้ยว่าตั้งแต่เกิดมาเราก็ทำอะไรๆในสิ่งที่สังคมยอมรับรึเปล่า เราจัดงานนี้ก็เพราะเราแคร์คำพูดคนอื่นกลัวเค้าจะว่า จะติฉินนินทารึเปล่าถึงได้จัด คนเรามีชีวิตที่ผูกกับความรู้สึกของคนมากมายมาตั้งแต่เกิดแล้วอย่าบอกว่าจัดไปอย่าได้แคร์สุดท้ายมันไม่แคร์ไม่ได้หรอก แล้วถ้าความรักหรือชีวิตของญ.จะต้องแคร์หรือใส่ใจความรู้สึกของใครต่อใครมากมายแล้วเราจะมีความสุขได้ยังไง งานแต่งงานไหนๆก็ไม่ได้เห็นเจ้าบ่าวเจ้าสาวมีความสุขจริงๆซะที มีแต่ความเหน็ดเหนื่อยทั้งนั้น ชีวิตของฉันมันเหนื่อยพอแล้ว ความรักของคน 2 คนมีแค่คน 2 คนที่รับรู้และซาบซึ้งกับมัน โดยมีแค่พ่อแม่ ญาติสนิท เพื่อนสนิทของทั้งคู่ที่รับรู้บางช่วงบางตอนเป็นสักขีพยานในความรักนั้น คนเหล่านี้ต่างหากที่เค้าจะยินดีกับเราจากใจ เราควรจะแคร์แค่นี้มั้ย ควรใส่ใจแค่ความรู้สึกของคนที่จะใช้ชีวิตร่วมกันกับเรารึเปล่า? หรือถ้าให้จัดเพื่อให้พ่อกับแม่สบายใจแล้วเราละสบายใจรึเปล่า? ถ้าไม่จัดพ่อแม่จะไม่สบายใจจริงๆเหรอ? บางคนยังไม่พร้อมก็ต้องแต่งเพราะผู้ใหญ่เห็นว่าสมควรแล้ว เงินไม่มีก็กู้หนี้ยิมสินมาแต่ง หลายคู่ผช.ไม่ขอสักทีเพราะบอกยังไม่มีเงินขอแต่ผญ.อยากแต่งก็เอาเงินตัวเองให้ผช.เพือมาขอตัวเองแต่งอันนี้นี่ไม่เข้าใจอย่างมากการแต่งงานมันแสดงถึงความรักที่นิรันดร์หรืออย่างไร ผู้ใหญ่บางบ้านถึงขั้นออกเงินให้ลูกตัวเองแต่งก่อนแล้วมาผ่อนทีหลังเพียงเพราะอยากอวดว่าลูกตนก็ได้แต่ง(-_-") ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ญ.คิดและก็คิดมาตลอดมันอาจต่างกับความคิดของใครหลายๆคนแต่มันไม่สำคัญหรอกว่าคนอื่นคิดยังไงเพราะไม่ได้ต้องการความเห็นที่จะช่วยตัดสินใจอะไรอยู่แล้ว สำหรับญ. แค่อยากเอาเงินที่จะจัดงานแต่งไปสร้างอนาคตของตัวเองให้มั่นคงดีกว่า
อาจจะฟังดูแง่ลบไปสักนิดแต่ก็ความคิดส่วนตัวอะเนอะ
แค่สงสัยว่างานแต่งของเราหรือของใครงงจริงๆ
จอบอ.
ปล.ทั้งนี้ใครใคร่แต่งๆค่ะ ใครจะคิดต่างก็เอาที่สบายใจเลย อยากจัดก็ไม่ผิด แต่เราไม่อยากจัดเราก็ว่าไม่ผิด นาๆจิตตัง ใครจะแต่งด้วยเหตุผลอะไรก็ขอให้มีความสุข เราแค่แชร์ความคิดของเรา ใครไม่เห็นด้วยก็ไม่แปลก แต่ถามหน่อยว่าจะว่าเราทำไมเราก็บอกอยู่ใช่มั้ยว่าเราแคร์แชร์ไม่ได้หาคนเห็นด้วย แค่เสนออีกแง่นึงที่เราคิด สุขที่จะทำอะไรทำไปเถอะคะ ชีวิตคุณ พูดขนาดนี้แล้วอยากด่าต่อไปเชิญคะ ยินดีรับฟัง เราบังคับให้ใครคิดแบบเราไม่ได้ ขอบคุณทุกความเห็น ทุกคำวิจารณ์ กราบบบบบบบบบบบ🙏🏻🙏🏻🙏🏻🙏🏻
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่