[เรื่องที่ 104] Pawn Sacrifice/เดิมพันชาติ รุกฆาตโลก ; (Edward Zwick, 2014)
คะแนน : 8/10
ยอมรับว่าแปลกใจนิดหน่อยที่ตัวหนังมันออกมาเป็นลักษณะของ 'อัตชีวประวัติ'ของอดีตสุดยอดแชมป์หมากรุกโลกที่อายุน้อยที่สุดอย่าง Bobby Fischer(Tobey Maguire)มากกว่าที่จะเป็น chess-geek movie หน่อยๆที่ลงลึกกับเนื้อหาหมากรุกแบบสุดโต่งไปเลย แต่ก็ถือว่าในโจทย์ตรงนี้หนังก็ยังทำได้ดีอยู่ และค่อนข้างจะมีเนื้อหาที่friendlyกับคนดูมากขึ้นด้วย
โดยเวลาส่วนใหญ่ของหนังนั้นจะโคจรอยู่รอบตัวพระเอกอย่าง 'บ้อบบี้', ซึ่งพ่ออดีตสไปเดอร์แมนของเราก็ทำหน้าที่สื่อสารตัวละครได้แบบพอกล้อมแกล้มไปได้ แต่น่าเสียดายที่ไม่ค่อยมีอะไรให้จดจำเสียเท่าไหร่ ในทางกลับกันตัวคู่แข่งชิงแชมป์โลกอย่าง 'ซาปาสสกี้' (Liev Schreiber)กลับแย่งซีนพระเอกไปซะมิดเลยในช่วงตอนกลางถึงท้ายเรื้อง ซึ่งโดยส่วนตัวยังคิดว่าตัวโทบี้เองยังไม่สามารถประคองตัวหนังไว้ได้อย่างหนักแน่นเท่าที่ควร
หากอ้างอิงจากเทรลเลอร์เราก็จะเห็นว่าตัวหนังนั้นมีแกนเรื่องอยู่ที่การแข่งขันชิงไหวชิงพริบในกีฬาหมากรุก ที่มีพื้นหลังอยู่กับความเกี่ยวพันระหว่างศักดิ์ศรีและความภาคภูมิใจระหว่างสหภาพโซเวียต-สหรัฐอเมริกาในยุคสงครามเย็น แต่พอเอาเข้าจริงกลับโฟกัสอยู่ที่ชีวิตส่วนตัวของ 'บ้อบบี้' ที่ถึงแม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นอัจฉริยะแห่งวงการหมากรุก แต่ตัวเขาเองก็มีอาการหวาดระแวงในการใช้ชีวิตเข้าขั้นรุนแรงอีกทั้งนิสัยเอาแต่ใจแบบสุดโต่งและปมเรื่องครอบครัวของตัวเองที่เกี่ยวกับลัทธิคอมมิวนิสต์อีก
ซึ่งด้วยความที่หนังมันสโคปกว้างมากและพยายามจะดึงเอาประเด็นทั้งหมดมาเล่าให้หมดในเวลาเกือบสองชั่วโมงอย่างละนิดอย่างละหน่อย ส่งผลให้ตัวหนังเองไม่สามารถรักษาพล็อตให้แข็งแรงและดึงคนดูให้อยู่กับหนังได้ดีเท่าที่ควร อีกทั้งยังไม่ได้ลงลึกรายละเอียดของเกมหมากรุกให้เหล่าคนดูทั่วๆไปอย่างเราได้เข้าใจความพิเศษของตาเดินแต่ละตาเท่าไรนัก และในบางส่วนของหนังเองก็ค่อนข้างเอื่อยเฉื่อยกับดราม่าบ็อบบี้ที่ไม่จำเป็นจะต้องใส่เข้ามาเยอะขนาดนั้น
สิ่งนึงที่น่าสนใจคือการที่หนังดำเนินเรื่องตามประวัติชีวิตของ 'บ็อบบี้ ฟิชเชอร์' อย่างค่อนข้างแม่นยำ (ผู้เขีนแอบไปอ่านประวัติชีวิตในวิกิพิเดียมา)ทำให้ตัวพื้นเพของหนังเองค่อนข้างน่าเชื่อถือ และค่อนข้าง inspiring ในแง่ของการเล่นหมากรุกชนิดที่ว่าอาจจะคันไม้คันมืออยากกลับไปเล่นหมากรุกที่บ้านได้ แต่ก็อย่างที่กล่าวไว้ว่าน่าเสียดายที่หนังไม่ได้เน้นตรงนั้น ไม่งั้นอาจจะมีอะไรที่โดดเด่นกว่านี้ก็ได้
ขอเชิญติดตามรีวิว/ข่าวสารและร่วมกันพูดคุยเรื่องหนังได้ที่เพจครับ :
https://www.facebook.com/expensivemovie
[Review-เรื่องที่ 104] Pawn Sacrifice/เดิมพันชาติ รุกฆาตโลก
[เรื่องที่ 104] Pawn Sacrifice/เดิมพันชาติ รุกฆาตโลก ; (Edward Zwick, 2014)
คะแนน : 8/10
ยอมรับว่าแปลกใจนิดหน่อยที่ตัวหนังมันออกมาเป็นลักษณะของ 'อัตชีวประวัติ'ของอดีตสุดยอดแชมป์หมากรุกโลกที่อายุน้อยที่สุดอย่าง Bobby Fischer(Tobey Maguire)มากกว่าที่จะเป็น chess-geek movie หน่อยๆที่ลงลึกกับเนื้อหาหมากรุกแบบสุดโต่งไปเลย แต่ก็ถือว่าในโจทย์ตรงนี้หนังก็ยังทำได้ดีอยู่ และค่อนข้างจะมีเนื้อหาที่friendlyกับคนดูมากขึ้นด้วย
โดยเวลาส่วนใหญ่ของหนังนั้นจะโคจรอยู่รอบตัวพระเอกอย่าง 'บ้อบบี้', ซึ่งพ่ออดีตสไปเดอร์แมนของเราก็ทำหน้าที่สื่อสารตัวละครได้แบบพอกล้อมแกล้มไปได้ แต่น่าเสียดายที่ไม่ค่อยมีอะไรให้จดจำเสียเท่าไหร่ ในทางกลับกันตัวคู่แข่งชิงแชมป์โลกอย่าง 'ซาปาสสกี้' (Liev Schreiber)กลับแย่งซีนพระเอกไปซะมิดเลยในช่วงตอนกลางถึงท้ายเรื้อง ซึ่งโดยส่วนตัวยังคิดว่าตัวโทบี้เองยังไม่สามารถประคองตัวหนังไว้ได้อย่างหนักแน่นเท่าที่ควร
หากอ้างอิงจากเทรลเลอร์เราก็จะเห็นว่าตัวหนังนั้นมีแกนเรื่องอยู่ที่การแข่งขันชิงไหวชิงพริบในกีฬาหมากรุก ที่มีพื้นหลังอยู่กับความเกี่ยวพันระหว่างศักดิ์ศรีและความภาคภูมิใจระหว่างสหภาพโซเวียต-สหรัฐอเมริกาในยุคสงครามเย็น แต่พอเอาเข้าจริงกลับโฟกัสอยู่ที่ชีวิตส่วนตัวของ 'บ้อบบี้' ที่ถึงแม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นอัจฉริยะแห่งวงการหมากรุก แต่ตัวเขาเองก็มีอาการหวาดระแวงในการใช้ชีวิตเข้าขั้นรุนแรงอีกทั้งนิสัยเอาแต่ใจแบบสุดโต่งและปมเรื่องครอบครัวของตัวเองที่เกี่ยวกับลัทธิคอมมิวนิสต์อีก
ซึ่งด้วยความที่หนังมันสโคปกว้างมากและพยายามจะดึงเอาประเด็นทั้งหมดมาเล่าให้หมดในเวลาเกือบสองชั่วโมงอย่างละนิดอย่างละหน่อย ส่งผลให้ตัวหนังเองไม่สามารถรักษาพล็อตให้แข็งแรงและดึงคนดูให้อยู่กับหนังได้ดีเท่าที่ควร อีกทั้งยังไม่ได้ลงลึกรายละเอียดของเกมหมากรุกให้เหล่าคนดูทั่วๆไปอย่างเราได้เข้าใจความพิเศษของตาเดินแต่ละตาเท่าไรนัก และในบางส่วนของหนังเองก็ค่อนข้างเอื่อยเฉื่อยกับดราม่าบ็อบบี้ที่ไม่จำเป็นจะต้องใส่เข้ามาเยอะขนาดนั้น
สิ่งนึงที่น่าสนใจคือการที่หนังดำเนินเรื่องตามประวัติชีวิตของ 'บ็อบบี้ ฟิชเชอร์' อย่างค่อนข้างแม่นยำ (ผู้เขีนแอบไปอ่านประวัติชีวิตในวิกิพิเดียมา)ทำให้ตัวพื้นเพของหนังเองค่อนข้างน่าเชื่อถือ และค่อนข้าง inspiring ในแง่ของการเล่นหมากรุกชนิดที่ว่าอาจจะคันไม้คันมืออยากกลับไปเล่นหมากรุกที่บ้านได้ แต่ก็อย่างที่กล่าวไว้ว่าน่าเสียดายที่หนังไม่ได้เน้นตรงนั้น ไม่งั้นอาจจะมีอะไรที่โดดเด่นกว่านี้ก็ได้
ขอเชิญติดตามรีวิว/ข่าวสารและร่วมกันพูดคุยเรื่องหนังได้ที่เพจครับ : https://www.facebook.com/expensivemovie