สวัสดีคะ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับหนูนะคะ คนในบ้านก็เห็นกันหมดเลย
หนูเป็นคนกลัวผีมาก แต่ก็ไม่เคยเจอคะ... เรื่องมีอยู่ว่า..
เมื่ออาทิตย์ที่แล้วปู่เพิ่งออกจากโรงบาลเนื่องจากอุบัตติเหตุทางงาน และปู่ท่านก็ออกมจากรพ.แล้ว วันนั้นเป็นวันรวมญาติมั้งคะ มากันครบทุกคนเลย หนูก็ไป ปู่ก็เลยจัดงานฉลองวันครบญาติ โดยที่ตักอาหารจะอยู่ตรงร้านขายอาหารตามสั่ง(อาขาย) ที่นั่งจะอยู่ข้างต้นมะกรูด แต่ใต้ต้นมะกรูดนั้นมีศาลพระภูมิอยู่ ฉลองกันตอนค่ำคะ หนูก็ทำปังเย็นไว้กินตอนทานข้าวเสร็จ พอทุกคนมาถึงโต๊ะนั่งกันแล้ว หนูนั่งฝั่งซ้ายข้างแม่และน้องและนั่งคนท้ายสุด(โต๊ะมันจะเป็นแบบที่นั่งสองฝั่ง) พอสวดมนต์ทานข้าวกันเสร็จแล้วก็กินของว่าง ระหว่างกินอาที่นั่งฝั่งตรงข้ามหนูก็ทำหน้าแปลกๆ เหมือนเขาเห็นอะไร หนูก็เลยถามว่าไม่อร่อยหรอ เขาก็บอกอร่อยแต่ขอยกไปกินในบ้านนะอยากดูหนัง หนูก็ไม่คิดอะไร ที่นี้ย่าก็ทำหน้าตาแบบแปลกๆอีกเหมือนอาเปรี๊ยบย่าเลยบอกอิ่มแล้วนะง่วงนอนขอไปอาบน้ำก่อน หนูเริ่มสงสัยละ ที่นี้ไปกันทั้งโต๊ะเลยทิ้งหนูกับน้องให้นั่งกันสองคนแม่ก็ไป หนูก็เลยถามน้องว่าอิ่มยังน้องบอกว่ายังก็เลยนั่งกินต่อ แต่เราสองคนก็ไม่ได้รู้สึกอะไรนะหนูก็เลยหันไปข้างหลังก็ไม่เห็นมีใคร ที่นี้แม่ก็ตะโกนมาบอกว่า อิ่มแล้วไม่ต้องเก็บนะ เดี๋ยวไปเก็บให้ หนูก็บอกจ้า พอหนูกินอิ่มเสร็จก็เข้าบ้านกะน้องไปอาบน้ำเตรียมนอนกัน แม่กับย่าและก็อาก็เดินออกไปพร้อมธูปและเขาก็นั่งสวดอะไรก็ไม่รู้และก็ปักไว้บนจานข้าวทุกอัน แม่ก็เข้าบ้านมา หนูก็เลยถามแม่ว่า จุดธูปทำไมแม่ไหนบอกจะเก็บ แม่ก็บอก เออน่าตอนเช้าค่อยเก็บ หนูเริ่มคิดในใจด้วยความหงุดหงิดละว่าจุดให้ผีตัวไหนมัน-วะเหลือตั้งเยอะทำไมไม่เก็บไว้มากินตอนเช้า พอเช้าหนูก็เดินไปถามย่าว่า ทำไมต้องลุกหนีพวกหนูไปกันด้วยและก็เอาธูปไปจุดไว้ ย่าก็บอก ไม่เห็นรึ หนูก็บอกเห็นอะไร ย่าก็บอก ก็เขาเล่นยืนข้างหลังกันเป็นฝูงขนาดนั้นยังไม่รู้สึกอีกรึ หนูก็บอก ใครยืนไม่เห็นมีเลยมองไปก็ไม่เห็น ย่าเลยบอก แต่พวกกูเห็น มีผีเจ้าที่เจ้าทางเต็มเลยยืนข้างหลังกัน ที่กูเอาธูปไปจุดก็เพราะขอขมาและอันเชิญให้พวกเขากินอาหารกัน หนูเลยบอก อาหารเหลือเนี่ยนะ ย่าเลยบอก เอออาหารเหลือนี่แหละ ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ละกันเรื่องแบบนี้มันมีจริงนะกูอยู่มาร้อยวันพันปีไม่เคยเจอมาเจอก็วันนี้แหละ แต่หนูก็ไม่เชื่ออยู่ดีว่าเรื่องพวกนี้มีจริง ตกเย็นหนูก็ไปกินข้าวอาบน้ำเหมือนเดิมและขึ้นไปนอนเร็วมากเพราะรู้สึกว่าปวดคอและหลังมากแต่หนูคิดว่าคงจะเป็นตอนที่เล่นกับน้องตอนบ่ายพอประมาณดึกๆหนูก็สดุ้งตื่นมาและก็หายใจไม่ออกแม่ก็เลยบอกเป็นอะไรๆหนูก็เลยบอกหายใจไม่ออกแม่ก็บอกหายใจทางปากสิเร็ว!!ตอนนั้นแม่พูดตะคอกจนคนทั้งบ้านตื่นเลย และตอนนั้นก็ปวดหลังมาก อาก็เดินมาทำหน้าเหวอเลย อาก็บอกแม่ว่าให้ลากหนูไปห้องพระแม่ก็ลากหนูไป อาเอาสายสิญจน์มาพันรอบตัวห้องและก็ท่องคาถาและอยู่ดีหนูก็หายใจแบบแรงมากออกมาเป็นเลือด ตอนนั้นทุกคนตกใจมากคะ พ่อจะโทรเรียกรถพยาบาลอย่างเดียวเลย สักพักนึงหนูก็หายใจได้แต่ยังปวดคอกับหลังอยู่ อาก็เอาไม้คล้ายที่เคาะทุเรียนมาตีหลังหนูและก็พูดอะไรก็ไม่รู้ แต่อยู่ดีๆหนูก็ร้องกรี๊ดออกมารู้สึกว่าตอนมันโคตรปวดเหมือนหลังกำลังจะหักและคอจะขาดออกเป็นท่อนๆแล้ว แล้วจู่ๆมันก็หายไป อาเลยบอก เป็นไงลบหลู่ท่านมากเจอดีเลย ตอนเช้าไปขอโทษเขาเลยนะ และอาก็เดินออกไปจากห้อง ตอนเช้าหนูก็เลยสำนึกได้เลยไปขอโทษเขาที่คิดไม่ดีกับพวกเขา และย่าก็บอก บอกแล้วอย่าลบหลู่เจอดีกับตัวเองหนาวไหมละ
..........................................
ถึงหนูจะไม่เห็นพวกเขาแต่เขาหนะเห็นพวกหนู ใครจะทำอะไรหัดคิดดีนะคะคนดีผีคุ้มนะ ใครลบหลู่เดี๋ยวเป็นแบบหนูนะเจอมาแล้ว
ผีเจ้าบ้านเจ้าเรือนใต้ต้นมะกรูดบ้านย่า
หนูเป็นคนกลัวผีมาก แต่ก็ไม่เคยเจอคะ... เรื่องมีอยู่ว่า..
เมื่ออาทิตย์ที่แล้วปู่เพิ่งออกจากโรงบาลเนื่องจากอุบัตติเหตุทางงาน และปู่ท่านก็ออกมจากรพ.แล้ว วันนั้นเป็นวันรวมญาติมั้งคะ มากันครบทุกคนเลย หนูก็ไป ปู่ก็เลยจัดงานฉลองวันครบญาติ โดยที่ตักอาหารจะอยู่ตรงร้านขายอาหารตามสั่ง(อาขาย) ที่นั่งจะอยู่ข้างต้นมะกรูด แต่ใต้ต้นมะกรูดนั้นมีศาลพระภูมิอยู่ ฉลองกันตอนค่ำคะ หนูก็ทำปังเย็นไว้กินตอนทานข้าวเสร็จ พอทุกคนมาถึงโต๊ะนั่งกันแล้ว หนูนั่งฝั่งซ้ายข้างแม่และน้องและนั่งคนท้ายสุด(โต๊ะมันจะเป็นแบบที่นั่งสองฝั่ง) พอสวดมนต์ทานข้าวกันเสร็จแล้วก็กินของว่าง ระหว่างกินอาที่นั่งฝั่งตรงข้ามหนูก็ทำหน้าแปลกๆ เหมือนเขาเห็นอะไร หนูก็เลยถามว่าไม่อร่อยหรอ เขาก็บอกอร่อยแต่ขอยกไปกินในบ้านนะอยากดูหนัง หนูก็ไม่คิดอะไร ที่นี้ย่าก็ทำหน้าตาแบบแปลกๆอีกเหมือนอาเปรี๊ยบย่าเลยบอกอิ่มแล้วนะง่วงนอนขอไปอาบน้ำก่อน หนูเริ่มสงสัยละ ที่นี้ไปกันทั้งโต๊ะเลยทิ้งหนูกับน้องให้นั่งกันสองคนแม่ก็ไป หนูก็เลยถามน้องว่าอิ่มยังน้องบอกว่ายังก็เลยนั่งกินต่อ แต่เราสองคนก็ไม่ได้รู้สึกอะไรนะหนูก็เลยหันไปข้างหลังก็ไม่เห็นมีใคร ที่นี้แม่ก็ตะโกนมาบอกว่า อิ่มแล้วไม่ต้องเก็บนะ เดี๋ยวไปเก็บให้ หนูก็บอกจ้า พอหนูกินอิ่มเสร็จก็เข้าบ้านกะน้องไปอาบน้ำเตรียมนอนกัน แม่กับย่าและก็อาก็เดินออกไปพร้อมธูปและเขาก็นั่งสวดอะไรก็ไม่รู้และก็ปักไว้บนจานข้าวทุกอัน แม่ก็เข้าบ้านมา หนูก็เลยถามแม่ว่า จุดธูปทำไมแม่ไหนบอกจะเก็บ แม่ก็บอก เออน่าตอนเช้าค่อยเก็บ หนูเริ่มคิดในใจด้วยความหงุดหงิดละว่าจุดให้ผีตัวไหนมัน-วะเหลือตั้งเยอะทำไมไม่เก็บไว้มากินตอนเช้า พอเช้าหนูก็เดินไปถามย่าว่า ทำไมต้องลุกหนีพวกหนูไปกันด้วยและก็เอาธูปไปจุดไว้ ย่าก็บอก ไม่เห็นรึ หนูก็บอกเห็นอะไร ย่าก็บอก ก็เขาเล่นยืนข้างหลังกันเป็นฝูงขนาดนั้นยังไม่รู้สึกอีกรึ หนูก็บอก ใครยืนไม่เห็นมีเลยมองไปก็ไม่เห็น ย่าเลยบอก แต่พวกกูเห็น มีผีเจ้าที่เจ้าทางเต็มเลยยืนข้างหลังกัน ที่กูเอาธูปไปจุดก็เพราะขอขมาและอันเชิญให้พวกเขากินอาหารกัน หนูเลยบอก อาหารเหลือเนี่ยนะ ย่าเลยบอก เอออาหารเหลือนี่แหละ ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ละกันเรื่องแบบนี้มันมีจริงนะกูอยู่มาร้อยวันพันปีไม่เคยเจอมาเจอก็วันนี้แหละ แต่หนูก็ไม่เชื่ออยู่ดีว่าเรื่องพวกนี้มีจริง ตกเย็นหนูก็ไปกินข้าวอาบน้ำเหมือนเดิมและขึ้นไปนอนเร็วมากเพราะรู้สึกว่าปวดคอและหลังมากแต่หนูคิดว่าคงจะเป็นตอนที่เล่นกับน้องตอนบ่ายพอประมาณดึกๆหนูก็สดุ้งตื่นมาและก็หายใจไม่ออกแม่ก็เลยบอกเป็นอะไรๆหนูก็เลยบอกหายใจไม่ออกแม่ก็บอกหายใจทางปากสิเร็ว!!ตอนนั้นแม่พูดตะคอกจนคนทั้งบ้านตื่นเลย และตอนนั้นก็ปวดหลังมาก อาก็เดินมาทำหน้าเหวอเลย อาก็บอกแม่ว่าให้ลากหนูไปห้องพระแม่ก็ลากหนูไป อาเอาสายสิญจน์มาพันรอบตัวห้องและก็ท่องคาถาและอยู่ดีหนูก็หายใจแบบแรงมากออกมาเป็นเลือด ตอนนั้นทุกคนตกใจมากคะ พ่อจะโทรเรียกรถพยาบาลอย่างเดียวเลย สักพักนึงหนูก็หายใจได้แต่ยังปวดคอกับหลังอยู่ อาก็เอาไม้คล้ายที่เคาะทุเรียนมาตีหลังหนูและก็พูดอะไรก็ไม่รู้ แต่อยู่ดีๆหนูก็ร้องกรี๊ดออกมารู้สึกว่าตอนมันโคตรปวดเหมือนหลังกำลังจะหักและคอจะขาดออกเป็นท่อนๆแล้ว แล้วจู่ๆมันก็หายไป อาเลยบอก เป็นไงลบหลู่ท่านมากเจอดีเลย ตอนเช้าไปขอโทษเขาเลยนะ และอาก็เดินออกไปจากห้อง ตอนเช้าหนูก็เลยสำนึกได้เลยไปขอโทษเขาที่คิดไม่ดีกับพวกเขา และย่าก็บอก บอกแล้วอย่าลบหลู่เจอดีกับตัวเองหนาวไหมละ
..........................................
ถึงหนูจะไม่เห็นพวกเขาแต่เขาหนะเห็นพวกหนู ใครจะทำอะไรหัดคิดดีนะคะคนดีผีคุ้มนะ ใครลบหลู่เดี๋ยวเป็นแบบหนูนะเจอมาแล้ว