ปู่เราเป็นอัมพฤกษ์ครึ่งซีกข้างขวามา 2 ปรแล้ว เข้าออกโรงบาลทุกปีเรื่องปอด จนมาปีนี้เป็นเยอะอาจเพราะเราดูแลไม่ดีพอ สังเกตุเห็นว่ากินข้าวไม่ได้มาช่วงนึงแต่ไม่มีรถพาไปหาหมอ (อยู่กัน 3 คน เรา ย่า ปู่) จนปู่เริ่มหายใจไม่ออกเลยรีบพาไปโรงยาล หมอบอกปวดติดเชื้อ เลยส่งตัวไปโรงบาลจังหวัด รักษาอยู่ได้ 7 วัน อาการแย่ลงทุกวัน โรคเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็นไตวายฉับพลัน ปอดติดเชื้อ น้ำท่วมปอด ติดเชื้อในกระแสเลือด เราถามหมอว่าปู่จะหายมั้ย หมอบอกว่าบอกไม่ได้ ถ้าอยู่ต่อก็วันต่อวัน เราเลยตัดสินใจพาปู่กลับบ้านพร้อมพ่อแม่และลูกของปู่ทุกคน เพราะปู่เคยบอกเราไว้ว่าจะขอตายที่บ้าน กลับมาได้ 2 ชม. ปู่ก็ค่อยๆหายใจแผ่วๆจนเสียไป
ปล.บ้านอาเราอยู่ข้างๆกันอาช่วยดูแลตลอด พ่อแม่เรามากาทุก 2 อาทิตย์ เรากับย่าดูแลปู่ทุกอย่าง แต่ไม่ได้รีบพาไปหาหมอในช่วงที่เขากินข้าวไม่ค่อยได้
ปล.2 อยากรู้ว่าเราตัดสินใจผิดหรือเปล่า ทุกวันนี้ยังคิดอยู่ว่าถ้ารักษาต่อจะหายมั้ย
ปล.3 ยอมรับว่าเสียใจที่ไม่พาปู่ไปหาหมอให้เร็วกว่านี้
ปล.4 พยาบาลแย่มากๆ ทำคนไข้แรง พูดจากระโชกโหกหาก พูดจาไม่ดี ละเลยคนไข้ เรียกแล้วก็ไม่มา ทำเข็มหักในแขนคนไข้ 2 วัน
พาปู่มากลับจากโรงบาลมาเสียชีวิตที่บ้าน บาปไหม?
ปล.บ้านอาเราอยู่ข้างๆกันอาช่วยดูแลตลอด พ่อแม่เรามากาทุก 2 อาทิตย์ เรากับย่าดูแลปู่ทุกอย่าง แต่ไม่ได้รีบพาไปหาหมอในช่วงที่เขากินข้าวไม่ค่อยได้
ปล.2 อยากรู้ว่าเราตัดสินใจผิดหรือเปล่า ทุกวันนี้ยังคิดอยู่ว่าถ้ารักษาต่อจะหายมั้ย
ปล.3 ยอมรับว่าเสียใจที่ไม่พาปู่ไปหาหมอให้เร็วกว่านี้
ปล.4 พยาบาลแย่มากๆ ทำคนไข้แรง พูดจากระโชกโหกหาก พูดจาไม่ดี ละเลยคนไข้ เรียกแล้วก็ไม่มา ทำเข็มหักในแขนคนไข้ 2 วัน