บ้านหนองหนามแท่ง ตำบลหนองเขียด อำเภอชุมแพ จังหวัดขอนแก่น เป็นชุมชนเล็ก 140 ครัวเรือน ประชากร 560 คน
รัฐบาลมีนโยบายปล่อยกู้เงินให้ชุมชน1ล้านบาทเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชน ปลอดดอกเบี้ย2ปี
คณะกรรมการหมู่บ้านได้ประกาศให้คนในชุมชนเขียนโครงการเข้ามาว่าต้องการกู้เงินไปทำอะไร. ทั้งหมู่บ้านมีคนยื่นกู้ไปประมาณ 80 คน
18กย58 ยื่นโครงการให้แล้วเสร็จก่อน20.00น.ล่าช้ากว่าเวลานี้ไม่รับพิจารณา
22กย58 แจ้งยอดอนุมัติเงินกู้และทำสัญญา(ใครไม่มาทำสัญญาในวันนี้ถือว่าสละสิทธิ์)
ผลปรากฏว่า
ญาติพี่น้องและคนในครอบครัวกรรมการไม่ได้ยื่นโครงการในเวลาที่กำหนดและไม่ได้มาในวันทำสัญญาแต่กลับได้อนุมัติให้กู้(คนละมากกว่า 10000-20000บาท)
และ1บ้านเลขที่ยื่นกู้4คนได้รับอนุมัติครบทุกคนวงเงิน10000บาทขึ้นไป(เพราะสนิทกับกรรมการเป็นการส่วนตัว) ส่วนชาวบ้านทั่วไปที่ไม่ได้มีความสนิทสนมกับกรรมการได้รับอนุมัติวงเงิน 7000. 6000. 5000. บาทลดหลั่นกันไป
การแจ้งให้คนในชุมชนเขียนโครงการเข้าไป บอกแค่ว่า ปล่อยกู้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเท่านั้น ประเด็นหลักของกระทู้คือ การเขียนโครงการค้าขาย
การซื้อเสื้อกันหนาวมือสองมาขาย(อีกไม่กี่เดือนจะเข้าสู่หน้าหนาวแล้ว) เขียนโครงการขอกู้ไป 30000บาท อนุมัติ 6000บาท พอเข้าไปสอบถาม
กรรมการถามกลับมาว่าจะขายที่ไหน เราตอบตามตลาดนัดต่างๆระแวกในเขตตำบลและข้างเคียง กรรมการบอกไม่มีที่จำหน่ายที่แน่นอน(ชุมชนเราเล็กๆจะให้แขวนขายหน้าบ้านแล้วจะได้ขายไหมคะ)เราบอกว่า 6000 บาทเราไม่พอขอเพิ่มเป็น10000 ได้ไหม กรรมการบอกไม่ได้เพราะคนในบ้านเราไม่มีจิตสาธารณะ ขาดความร่วมมือชุมชน เราเลยถามกลับไปว่าคนในบ้านเราไม่มีจิตสาธารณะตรงไหน แม่เราเป็น อสม เวลาที่มีการพัฒนาหมู่บ้านพ่อเราก็ไปช่วยตลอด มีงานบุญบ้านเราก็บริจาคตลอด มีการจัดทำสอยดาวการกุศลบ้านเราก็เอาผ้าเช็ดเท้า10ผืนไปร่วมทำรางวัล โครงการทูบีนัมเบอวัน1หมู่บ้าน1คนเราก็เป็นตัวแทนของหมู่บ้านแล้วบ้านเราไม่จิตสาธารณะได้อย่างไร
การปล่อยกู้ก้อนนี้ให้เปิดบัญชีธนาคารออมสิน ซึ่งต่อมาให้ไปเปิดบัญชี ธกส เท่ากับสมาชิกต้องเสียเวลาเสียเงินเปิดบัญชีธนาคารถึง2ที่
การปล่อยกู้นี้ประกาศว่า ปลอดดอกเบี้ย2ปี แต่กรรมการเรียกเก็บเงินค่าดำเนินการจากสมาชิกจากเงินที่อนุมัติร้อยละ1บาทเป็นค่าดำเนินการและขอเพิ่มอีกคนละ30บาทเป็นค่าเบิกเงินมาจ่ายสมาชิก(ไม่มีความจำเป็นเลยเพราะสมาชิกมีบัญชีเงินฝากทุกคน)และบังคับให้สมาชิกซื้อประกันกลุ่มคนละ200บาท
สรุป คนที่ได้รับอนุมัติเงิน 5000 บาทต้องจ่ายค่าดำเนินการ 50บาท ค่าเบิกเงิน30บาท ค่าประกัน200 รวมจ่าย280 จะได้รับเงินเพียง4720บาท
ปล. เราไม่ได้กู้เงินก้อนนี้หรอกนะ ขอกู้30000ได้6000จะลงทุนอะไรได้
เราได้ยื่นเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบความโปร่งใสของกรรมการชุดนี้ต่อศูนย์ดำรงธรรมอำเภอชุมแพแล้วเมื่อ 22กย58 แต่เรื่องยังเงียบอยู่เลย
กองทุนเงินล้านกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน หรือ กระตุ้นเศรษฐกิจของกรรมการกองทุน?
รัฐบาลมีนโยบายปล่อยกู้เงินให้ชุมชน1ล้านบาทเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชน ปลอดดอกเบี้ย2ปี
คณะกรรมการหมู่บ้านได้ประกาศให้คนในชุมชนเขียนโครงการเข้ามาว่าต้องการกู้เงินไปทำอะไร. ทั้งหมู่บ้านมีคนยื่นกู้ไปประมาณ 80 คน
18กย58 ยื่นโครงการให้แล้วเสร็จก่อน20.00น.ล่าช้ากว่าเวลานี้ไม่รับพิจารณา
22กย58 แจ้งยอดอนุมัติเงินกู้และทำสัญญา(ใครไม่มาทำสัญญาในวันนี้ถือว่าสละสิทธิ์)
ผลปรากฏว่า
ญาติพี่น้องและคนในครอบครัวกรรมการไม่ได้ยื่นโครงการในเวลาที่กำหนดและไม่ได้มาในวันทำสัญญาแต่กลับได้อนุมัติให้กู้(คนละมากกว่า 10000-20000บาท)
และ1บ้านเลขที่ยื่นกู้4คนได้รับอนุมัติครบทุกคนวงเงิน10000บาทขึ้นไป(เพราะสนิทกับกรรมการเป็นการส่วนตัว) ส่วนชาวบ้านทั่วไปที่ไม่ได้มีความสนิทสนมกับกรรมการได้รับอนุมัติวงเงิน 7000. 6000. 5000. บาทลดหลั่นกันไป
การแจ้งให้คนในชุมชนเขียนโครงการเข้าไป บอกแค่ว่า ปล่อยกู้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเท่านั้น ประเด็นหลักของกระทู้คือ การเขียนโครงการค้าขาย
การซื้อเสื้อกันหนาวมือสองมาขาย(อีกไม่กี่เดือนจะเข้าสู่หน้าหนาวแล้ว) เขียนโครงการขอกู้ไป 30000บาท อนุมัติ 6000บาท พอเข้าไปสอบถาม
กรรมการถามกลับมาว่าจะขายที่ไหน เราตอบตามตลาดนัดต่างๆระแวกในเขตตำบลและข้างเคียง กรรมการบอกไม่มีที่จำหน่ายที่แน่นอน(ชุมชนเราเล็กๆจะให้แขวนขายหน้าบ้านแล้วจะได้ขายไหมคะ)เราบอกว่า 6000 บาทเราไม่พอขอเพิ่มเป็น10000 ได้ไหม กรรมการบอกไม่ได้เพราะคนในบ้านเราไม่มีจิตสาธารณะ ขาดความร่วมมือชุมชน เราเลยถามกลับไปว่าคนในบ้านเราไม่มีจิตสาธารณะตรงไหน แม่เราเป็น อสม เวลาที่มีการพัฒนาหมู่บ้านพ่อเราก็ไปช่วยตลอด มีงานบุญบ้านเราก็บริจาคตลอด มีการจัดทำสอยดาวการกุศลบ้านเราก็เอาผ้าเช็ดเท้า10ผืนไปร่วมทำรางวัล โครงการทูบีนัมเบอวัน1หมู่บ้าน1คนเราก็เป็นตัวแทนของหมู่บ้านแล้วบ้านเราไม่จิตสาธารณะได้อย่างไร
การปล่อยกู้ก้อนนี้ให้เปิดบัญชีธนาคารออมสิน ซึ่งต่อมาให้ไปเปิดบัญชี ธกส เท่ากับสมาชิกต้องเสียเวลาเสียเงินเปิดบัญชีธนาคารถึง2ที่
การปล่อยกู้นี้ประกาศว่า ปลอดดอกเบี้ย2ปี แต่กรรมการเรียกเก็บเงินค่าดำเนินการจากสมาชิกจากเงินที่อนุมัติร้อยละ1บาทเป็นค่าดำเนินการและขอเพิ่มอีกคนละ30บาทเป็นค่าเบิกเงินมาจ่ายสมาชิก(ไม่มีความจำเป็นเลยเพราะสมาชิกมีบัญชีเงินฝากทุกคน)และบังคับให้สมาชิกซื้อประกันกลุ่มคนละ200บาท
สรุป คนที่ได้รับอนุมัติเงิน 5000 บาทต้องจ่ายค่าดำเนินการ 50บาท ค่าเบิกเงิน30บาท ค่าประกัน200 รวมจ่าย280 จะได้รับเงินเพียง4720บาท
ปล. เราไม่ได้กู้เงินก้อนนี้หรอกนะ ขอกู้30000ได้6000จะลงทุนอะไรได้
เราได้ยื่นเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบความโปร่งใสของกรรมการชุดนี้ต่อศูนย์ดำรงธรรมอำเภอชุมแพแล้วเมื่อ 22กย58 แต่เรื่องยังเงียบอยู่เลย