[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้** เสียงวรรณยุกต์ท้ายวรรคของกลอนสุภาพ...
วรรคที่ ๑ หรือวรรคสดับ สามารถใช้ได้ทุกเสียงวรรณยุกต์ แต่ที่ถือว่าไม่ไพเราะคือ เสียงสามัญ
วรรคที่ ๒ หรือวรรครับ ใช้เสียงวรรณยุกต์ จัตวา โท เอก (เรียงลำดับความไพเราะจากมากไปหาน้อย ) ห้ามเสียงสามัญ และตรี
วรรคที่ ๓ หรือวรรครอง ให้ใช้แค่เสียงสามัญ และอนุโลมตรีได้ จึงนิยมใช้กันทั้งสองเสียง
วรรคที่ ๔ หรือวรรคส่ง ให้ใช้เสียงสามัญ และอนุโลมให้ใช้เสียงตรีได้ เช่นเดียวกับวรรครอง
** ตัวอย่างบทประพันธ์ กลอนแปดสุภาพ
๏ กลอนสุภาพพึงจำมีกำหนด
กลอนหนึ่งบทสี่วรรคกรองอักษร
วรรคละแปดพยางค์นับศัพท์สุนทร
อาจยิ่งหย่อนเจ็ดหรือเก้าเข้าหลักการ ๚
๏ ห้าแห่งคำคล้องจองต้องสัมผัส
สลับจัดรับรองส่งประสงค์สมาน
เสียงสูงต่ำต้องเรียงเยี่ยงโบราณ
เป็นกลอนกานท์ครบครันฉันท์นี้เอย ๚
ฐะปะนีย์ นาครทรรพ
(ม.ล.บุญเหลือ เทพยสุวรรณ) ประพันธ์
๏ ภูมิปัญญาโบราณแต่กาลเก่า
ท่านบอกเล่าวิชา,อุทาหรณ์
ผูกแต่งเรื่องจารจดเป็นบทกลอน
ไว้สั่งสอนเหล่าศิษย์เพื่อวิทยา ๚
๏ เป็นร้อยกรองห้าอย่างสร้างหลักคิด
เพียรประดิษฐ์กำหนดกฎภาษา
ไว้เป็นหลักสุนทรแต่ก่อนมา
คือคุณค่าเอกลักษณ์ควรรักษ์ไว้ ๚
๏ ร่าย,กาพย์,กลอน,โคลง,ฉันท,์บรรโลมโลก
เซาทุกข์โศกเห่กล่อมสุขล้อมสมัย
พึงรักษาสืบสาน,ลูกหลานไทย
หากเลือนไร้ร้างค่า..น่าเสียดาย ๚ะ๛
หากเลือนไร้ร้างค่า..น่าเสียดาย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
๏ ภูมิปัญญาโบราณแต่กาลเก่า
ท่านบอกเล่าวิชา,อุทาหรณ์
ผูกแต่งเรื่องจารจดเป็นบทกลอน
ไว้สั่งสอนเหล่าศิษย์เพื่อวิทยา ๚
๏ เป็นร้อยกรองห้าอย่างสร้างหลักคิด
เพียรประดิษฐ์กำหนดกฎภาษา
ไว้เป็นหลักสุนทรแต่ก่อนมา
คือคุณค่าเอกลักษณ์ควรรักษ์ไว้ ๚
๏ ร่าย,กาพย์,กลอน,โคลง,ฉันท,์บรรโลมโลก
เซาทุกข์โศกเห่กล่อมสุขล้อมสมัย
พึงรักษาสืบสาน,ลูกหลานไทย
หากเลือนไร้ร้างค่า..น่าเสียดาย ๚ะ๛