จากมีกระแสข่าวว่า กระทรวง ITC จะแก้ปัญหาเรื่องการกรองข้องมูลที่ไม่เหมาะสม โดยการให้ประเทศไทย ส่งข้อมูลผ่านต่างประเทศ ในทางเดียว หรือ Single Gateway  ผมแปลกใจมากที่คนไทยไม่ออกมาต่อต้าน การมีระบบ Single Gateway จะเกิดผลเสียกับคุณผู้ใช้ internet และธุรกิจทุกชนิดโดยตรง ประหลักๆที่ผมไม่สบายใจเลยเช่น
1.    ข้อมูลของคุณจะถูกกรองว่าคุณจะอ่านอะไรดูอะไร เช่นเมืองจีนและลาวที่ควบคุมไม่ให้ประชาชนหาความรู้สองด้านได้อย่างเสรี ให้สิทธิ์เจ้าหน้าที่รัฐดักฟังได้ทุกอย่างแม้กระทั่งเรื่องการเงินของคุณ กรณีที่รัฐบาลไทยมือสอาดจริงๆก็แล้วไป แต่ถามว่าที่ผ่านมา เราจะเชื่อถือวางการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐได้แค่ไหนจะจะทำงานกรองข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีกลั่นแกล้งศัตรูทางธุรกิจใช้อำนาจรัฐการบิดเบือนข้อมูลตามนายทุนที่จ้างมา มีอะไรมารับรอง ประเทศไทยเคยมีไหมที่มีเจ้าหน้าที่รัฐที่ไม่เคยทุจริตหรือทุจริตน้อย เมืองจีนเขาทำได้เพราะใครต่อต้านเขายิงทิ้งได้ทันที ลาวก็ทำได้เพราะเขาจับขังได้โดยไม่มีความผิด เกาหลีเนือทำได้เพราะยิงทิ้งเหมือนกัน ไม่มีใครกล้าตรวจสอบ ตอนนี้เมืองไทยกำลังทำ Fire wall ให้เหมือนเมืองจีน
จุดประสงค์ที่แจ้งไว้ตาม “เอกสารข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ระบุเหตุผลของการสร้างทางออกอินเทอร์เน็ตทางเดียวทั้งประเทศนี้ว่า "เพื่อใช้เป็นเครื่องมือควบคุมเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมและการไหลเข้าของข้อมูลข่าวสารจากต่างประเทศผ่านทางอินเตอร์เน็ต" โดยหากติดข้อกฎหมายใดก็ให้เร่งดำเนินการออกกฎหมายต่อไป” ถามว่าที่ว่าควบคุมนั้น หากเจ้าหน้าที่ทุจริตจะทำให้เป็นดาบสองคมได้ เช่นจะเกิดการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐได้ง่ายขึ้น ในการ scan การรบกวน การ jam ข้อมูล ของคู่ธุรกิจที่ไม่สนับสนุนพรรคพวกตน  รัฐบาลนี้อาจจะดี แล้วรัฐบาลต่อไปล่ะเป็นใคร น่าไว้ใจแค่ไหน คุณจะรู้ได้อย่างไรว่า รัฐมนตรีที่มาดูแล ITC คนต่อไปจะไม่ได้มาจากพรรคการเมืองที่ได้รับทุนอุดหนุนจากบริษัทคู่แข่งของคุณ การใช้ Single Gateway จึงมีเฉพาะประเทศที่รัฐบาลเช่น จีน ลาว เกาหลีเหนือ ตะวันออกกลางที่ไม่ต้องการให้ประชาชนดูข้อมูลที่ตนเองไม่อยากให้ดูและตรวจสอบไม่ได้
2.    ประชาชนคนไทย น่าจะมีสิทธ์ที่จะใช้ internet ได้อย่างเสรี เท่ากับโลกตะวันตก เพราะประชาชนเป็นเจ้าของประเทศ คนที่คิดว่าจะมาคัดกรอง แสดงว่าไม่มีความคิดว่าประชาชนร่วมกันเป็นเจ้าของประเทศ จะสั่งให้ประชาชนคิดว่าแบบนี้ดีแบบนี้ไม่ดี จะเป็นผู้เลือกให้ ทั้งๆที่ประชาชนต้องมีสิทธิที่จะเป็นผู้เลือกเองว่าอย่างเสพข้อมูลอะไรที่ไหนก็ได้ ไม่ใช่ว่าต้องอ่านเฉพาะรัฐบาลเลือกให้เท่านั้น
3.    ในแง่ของความปลอดภัย กรณีที่มีการส่งข้อมูลมามากๆจากต่างประเทศที่ไม่หวังดี อาจทำให้เกิดปรากฏการ bottle neck เช่นส่งข้อมูลขยะมามากๆ ให้ traffic สูงๆ คนไทยทั้งประเทศจะใช้ internet ช้าลง ธุรกรรมต่างประเทศของคุณอาจช้าหรือหยุดไปเลย และคุณไม่มีทางเลือก ถามว่าคนของเจ้าหน้าที่รัฐเก่งพอที่จะรับมือจาก attack จากต่างประเทศไหม ทั้งรัสเซีย อินเดีย อเมริกา ยุโรป ทุกอย่างเราต้องไปเรียนจากเขาทั้งนั้นครับ Firewall ที่ใช้นั่นก็คิดโดยต่างชาติทั้งหมด แม้แต่ประเทศเล็กๆ มาก เขายังมีหลาย gateway เพื่อสร้าง redundancy เผื่อกรณี network ล่ม จะได้ไม่เป็นไร มีแต่ประเทศที่เป็นระบอบ เช่น จีน ลาว และพวกบ้าคลั่งศาสนาทั้งหลาย ถึงทำ single gateway
4.    เมืองจีน นอกจากจะ มี The great firewall แล้ว ยังเกลียดอเมริกามาก ขนาดพยายามสร้าง OS ของตัวเอง ชื่อ Red Flag Linux ก็ของฝรั่งนั่นแหละ เอามาดัดแปลง ที่ท้ายสุดก็ไปไม่รอด ไม่ได้รับความนิยมประชาชนรับไม่ได้กับความห่วยจนทนไม่ไหว ส่วนมากก็ยังมาใช้ Windows ของอเมริกันเหมือนเดิม ทุกวันนี้ ต่อให้มี firewall ก็ไม่ได้แก้ปัญหาอะไรของประเทศได้มากมาย เนี่ยเหรอครับ แบบอย่างของประเทศไทย
5.    ออกข่าวบอกประชาชนว่าเป็นแค่แนวคิด ที่จะช่วยให้เอกชน (internet provider รายใหญ่ๆ) ลดต้นทุนในการสร้าง gate wayเอง แต่แท้จริงเป็นเรื่องที่ ไม่ใช่แค่ข้อเสนอ แต่เป็นเอกสารข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ทำไมต้องหลอก
ผมชอบการทำงานของรัฐบาลนี้ทุกอย่าง และผมชอบคุณประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่อย่าทำแบบนี้เลยครับ ไม่ชอบมากๆ ทำไมไม่มีการถามประชาชน ให้ประชาชนเลือก คุณไม่สามารถบังคับแบบนี้ได้ตลอดไป เพราะประเทศไทยเราไม่ได้เป็นใหญ่มีความหมายอะไรเลยในโลก  ประเทศอื่นอาจมีความคิดเห็นที่แตกต่างจากเรา เราก็ต้องรับให้ได้ คนที่ไม่ได้รักประเทศเรามีเยอะมาก เราก็ต้องรับให้ได้  คนไทยที่ไม่ได้หวังดีกับประเทศไทยก็มีเยอะมาก เราก็ต้องยอมรับว่ามีคนไม่ชอบ เขาจะพูดอะไรก็ได้ ยิ่งไปบิดเบือนปิดบังยิ่งไม่ใช่ทางออกที่ยั่งยืน เราต้องยอมรับเสียทีว่า เราต้องแก้ปัญหาเรื่องระบบความคิดความเชื่อในประเทศ เราห้ามคนไม่ให้อยากรู้อยากเห็นไม่ได้นานหรอกครับ การปิดบังข้อมูลเลือกเฉพาะที่ตนเองอนุญาติให้ประชาชนอ่าน เป็นความคิดที่หาทางออกได้ลวกๆ และในที่สุดก็ห้ามความอยากของคนไม่ได้จริง และตามความเห็นของผมประชาชนมีสิธ์ 100 % ในฐานะมนุษย์ที่จะอ่านอะไรก็ได้ที่อยากอ่านผิดถูกอะไร ขอคิดเอง ขอตัดสินเอง ไม่ต้องมาบังคับ ไม่ต้องสั่ง ไม่ชอบถูกบิดเบือนปิดบัง ไม่อย่างนั้นแล้ว อย่าเรียกว่าชื่อว่าประเทศไทยเลย