เราเยอะไปหรอ ช่วยตอบเราทีค่ะ

เรานี่แต่งมา 1 ปี มีลูก  1 คน ตอนที่ไม่มีลูกก็เข้ากับทางบ้านสามีได้ดีนะคะ แต่พอมีลูก ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปค่ะ แม่สามีจุ้นจ้านค่าคลอด ค่าฝากครรภ์ ค่าตรวจหลังคลอดทุกอย่าง เพราะสมีเราเป็นคนออกตัง เราเองไม่มีงานทำ พอคลอดได้ 3 เดือนจะไล่ให้เราไปหางานทำ จะเอาลูกเราไปเลี้ยงเองที่ ตจว. ช่วงนั้นเราร้องไห้หนักมาก เพราะเราตั้งใจจะให้ลูกกินนมแม่ค่ะ

1.ตั้งแต่คลอดมาเดือนแรกแม่สามีก็จะให้เราประคบร้อนที่หน้าท้องเพราะด้วยความหวังดี เราก็เข้าใจ แต่เราผ่าคลอดเย็บด้วยกาว เกรงว่าจะไม่ดี เลยไม่ทำตามค่ะ
2.ลูกเราตัวเหลืองเพราะอาจกินนมไม่พอคลอดแรก พยาบาลให้ลูกเราทานนมขวด เหมือนเค้าติด เลยดูดนมแม่ไม่เก่งน้ำนมเลยมาไม่เต็มที่ แม่สามีเราก็บอกว่าให้กินนมผงดีกว่า นมแม่ไม่มีหรอก ขนาดนมนิดเดียวจะมีน้ำนมได้ยังไง เรานี่อารามณ์แบบกำลังเจ็บหัวนมแตก อากาศก็ร้อน ลูกก็ร้อง เราเลยพูดไปว่า ต้องพยายามค่ะ ลองดูก่อน เพราะกำลังจะหักดิบการติดขวดของลูกด้วยค่ะ แม่สามีเลยไม่พอใจ เราเลยพาไปคลินิกนมแม่ ให้พยาบาลคอนเฟิม ปรากฏว่าน้ำนมเรามีเยอะค่ะ แต่ลูกดูดไม่เก่ง แม่สามีก็จะให้เราพาลูกที่คลอดไม่ถึงเดือน ออกไปตากแดดตอน 10 โมง ซึ่งแน่นอนเราไม่ทำตาม เพราะเราว่าไม่ใช่หนทางที่ทำให้ลูกหาย
3.แม่สามีทำกับข้าวเผ็ด เพราะสามีเรากินเผ็ดค่ะ เราเลยบอกว่า แม่มันเผ็ดไปนะคะ เพราะหลานกินนมอยู่ด้วย แม่สามีเราตอบว่าก็ทำให้ลูกเค้ากินด้วย หลังจากนั้นเราเลยไม่กินค่ะ แม่สามีก็ว่าเราทำไมไม่กินของที่เค้าทำ ก็มันเผ็ดนี่นา
4.เอาผงซักฟอกผู้ใหญ่ซักผ้าให้ลูกเราที่คลอดไม่ถึงเดือน เราก็บอกว่าไม่ได้นะคะแม่ให้ใช้แบบของเด็กทีวางไว้ใกล้กัน แม่สามีก็ว่าเราอีกว่าเรื่องเยอะ
5.เอากล้วยป้อนลูกเราตอน 2 เดือนกว่า ป้อนไป 5 ช้อนไม่บดด้วย กลับบ้านมา 4 ทุ่มลูกเราร้องไห้ 2 ชม. กว่าจะหยุดน่าสงสารมากค่ะ แม่สามีเราบอกว่า อีกหน่อยก็ชินตอนนี้พึ่งเริ่ม ไม่ได้เป็นไรหรอกแค่ยังไม่ชินท้อง เรานี่เงิบเลยค่ะ
6.น้ำชงนม อันนี้เข้าเดือนที่ 6 นะคะ ลูกเราเริ่มกินนมผสม แม่สามีบอกน้ำไม่ต้องต้มก็ได้จะได้ไม่ลำบาก อันนี้เราคัดค้านสุดตัวเลยค่ะ แม่สามีเค้าก็ว่าเราอีกว่าเราเยอะ
7.พอเข้าเดือนที่ 7 แม่สามีก็เอาลูกเราไปเลี้ยง ตจว สำเร็จค่ะ ทีนี้เรายอมเพราะไม่อยากทะเลาะกับสามี คือสามีต้องตามใจแม่เพราะแม่น้อยใจค่ะที่ไม่ได้เอาหลานไปเลี้ยงเอง เราก็เริ่มหางาน แล้วได้งานทำภายใน 1 สัปดาห์ ตกลงกันว่าให้เก็บเงินเราทั้งหมด ให้ใช้เงินกับสามีอย่างเดียว ซื่งให้เราวันละ 100 บาทเป็นค่าใช้จ่ายใน 1 วัน แล้วแม่สามีเราก็บอกกับสามรเราว่ามันเยอะไป เรานี่ถึงกับเห้ออออ ค่าใช้จ่ายที่เป็นของส่วนตัวเราก็ต้องซื้อในส่วนของเงิน 100 บาทนะคะ ขอเพิ่ม ก็บ่น เพราะเค้าเชื่อที่แม่เค้าบอกค่ะ
8.หลังจากที่แม่สามีเราเอาหลานไปเลี้ยง เราต้องซื้อนมให้ แพมเพิส อันนี้เป็นปกติอยู่แล้วค่ะ แต่เราไม่เข้าใจว่าทำไม ต้องให้เงินพี่สะใภ้อีก วันละ 300 เป็นค่าจ้างช่วยย่าเลี้ยงหลาน ค่าข้าวลูกเราอีกเดือนละ 1500 ค่าขนมลูกเราอีก เดือนละ 1000 เราถึงกับ งง ลูกเรากินขนมได้แล้วหรอเนี่ย
9.เวลาเราไปเยี่ยมลูก ซื้อมันฝรั่ง อโวคะโด ปวยเล้ง ไม่ให้ แต่แม่สามีบอกว่า ไม่มีประโยชน์หรอก และก็ไม่ทำให้กินด้วยนะคะ ให้กินตำลึง แล้วก็ตำลึง ผักบุ้งค่ะ เค้าบอกว่าสมัยก่อน ปล.40 ปี ที่แล้ว ก็เลี้ยงแบบนี้
10. เดือนที่ 8 ลูกเราป่วย แม่สามีโทรมาบอกว่า  หลานป่วย แต่ไม่บอกเรานะคะ บอกสามีเราค่ะ บอกว่าป่วยมา 4 วันแล้ว แต่ไม่ได้พาไปหาหมอ เพราะว่าเดี๋ยวก็หาย ถ้าไม่หายจะพาไปอนามัย เราเลยว่าสามีว่าโทรไปบอกแม่เทอเดี๋ยวนี้ให้พาลูกไปคลินิก บ้านแม่สามีเราอยู่ สมุทรปราการติดลาดกระบังค่ะ แม่สามีจึงยอมพาไป หมอบอกว่าเป็นหวัดธรรมดา  พอตกกลางคืนไข้ขึ้นสูงตัวร้อน แต่กลางวันเค้าก็เล่นนะคะ เช้ามาโทรมาบอกเราว่าลูกตัวร้อน เราเลยบอกให้เช็ดตัวแรกๆ ย้อนขนขึ้น ผ้าเปียกๆ เค้าบอกว่าทำไม่เป็น เราเลยบอกว่า จะไปรับลูกกลับมาหาหมอที่พญาไทศรีราชาค่ะ จึงบอกสามี สามีเราบอกว่าโทรหาพี่ชายเค้าแล้วที่อยู่บ้านเดียวกัน พี่ชายเค้าบอกว่าไม่ต้องมาไม่ได้เป็นไรมาก แต่เราดื้อ ก้วยความห่วงลูก เราจึงให้แม่เราไปรับหลานมาให้ได้ค่ะ สรุปว่า แม่เราบอกว่าเกือบพามาไม่ถึง รพ.เพราะเหมือนเค้าหมดแรง ไข้ขึ้น 39 องศา หมอรีบเช็ดตัว ตรวจเลือด ตรวจน้ำมูก สรุปลูกเราเป็นไข้หวัดใหญ่ค่ะ สาเหตุ ติดจากเด็กข้างบ้านคุณย่าที่มาเล่นด้วยกันค่ะ เราจึงบอกว่าถ้าไม่หายไม่ให้กลับ เพราะต้องแอดมิดที่ รพ น้องท้องเสียด้วย
11.พอครบ 2 สัปดาห์ แม่สามีโทรมาบอกสามีเราว่า เด็กที่นั่นหายแล้ว กลับมาได้ สามีเราก็มาบังคับเราบอกว่าเอาลูกไปส่งได้แล้ว ถ้าเราไม่ไปเค้าจะไปเอง  สรุปต้องไป พอไปส่งเด็กคนนั้นยังไม่หายเลยค่ะ คำถามเด้งมาเลยค่ะ ทำไมต้องโกหก ?? แต่ก็ต้องเอาลูกไว้โดยสามีเราบอกกับแม่เค้าว่าห้ามเด็กคนนี้มาเล่นกับลูกเราจนกว่าจะหายดี แม่เค้าบอกว่าจะห้ามยังไง เกรยงใจ ห้ามได้ด้วยหรอ สามีเราก็บอกว่าแม่จะเกรงใจอะไรนักหนา แม่สามีพูดขึ้นมาว่า เออแม่ก็เป็นคนแบบนี้แหละ เท่านั้นแหละ สามีเราบอกว่าอืมก็ตามใจแม่แล้วกัน เราคิดในใจ เห้ยแล้วลูกชั้นล่ะ
12.กลับบ้านมาทะเลาะกันเราบอกว่าทำไมไม่ป้องกันก่อนแล้วจะมาตามแก้ทีหลังหรอ รอบก่อนถ้าเราไม่ดื้อไปรับลูกมาถ้าเค้าชักแล้วเป็นอะไรขึ้นมาล่ะ เราเอาลูกกลับมาได้หรอ สามีเราบอกว่า แล้วมีใครตายมั้ย เรานี่ช็อคเลยค่ะ
13.สัปดาห์นี้เราไปรับลูกมาฉีดวัคซีน ปรากฏว่า หัวแตก ตุ่มใส ตุ่มยุงเต็มตัวเพราะแม่สามีติดคลอง และมีบ่อปลา ยุงเยอะมากกกกกกก เราเลยบอกจะพาลูกไปหาหมอกลัว มือ เท้า ปาก เค้าโทรไปถามแม่ แม่เค้าบอกว่าจะเยอะไปไหน ..เราสงสัย ว่าเราเยอะไปหรอ เราทำไม่ถูกหรอ หรือเราควรทำยังไงดี เราคุยกับสามีเราไม่เกิดประโยชน์เพราะทุกอย่างเค้าเชื่อในแม่เของเค้า เค้าเชื่อว่าเมื่อก่อนเลี้ยงมาแบบนี้ไม่มีใครตาย เห้อ ช่วยตอบเราที เราเคลียดดดดเม่าเหม่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
คุณไม่เยอะค่ะ ยืนยัน แต่คุณยืนด้วยขาตัวเองไม่ได้ไงคะ

ถ้าต้องการ take control คืนมา... ต้องเลิกยืมจมูกคนอื่นหายใจ
ตอนนี้ไหน ๆ ก็ให้ลูกเค้าไปเลี้ยงแล้ว
หางานทำค่ะ ค่อย ๆ ยืนด้วยขาของตัวเอง แล้วเสียงคุณจะดังขึ้นเอง

ที่คุณเสียงค่อย (สามีก็งี่เง่า) เพราะคุณหาเงินเองไม่ได้ทั้งก่อนท้อง หลังคลอดไงคะ
ขอโทษนะ ต้องพูดถึงสามีคุณแบบนี้
เพราะคนไม่รู้จักหาความรู้เรื่องการเลี้ยงลูกใส่ตัว ในขณะที่ตอนนี้ความรู้เรื่องการเลี้ยงลูกหาได้ง่ายมาก -- เราไม่ได้อยู่ในยุคโทรเลขแล้วนี่
ไม่รู้จะพูดว่ายังไงได้อีก
ความคิดเห็นที่ 12
คุณเอ๋ย เราก็ไม่รู้ว่าคุณมีลูกกับคนแบบนี้ลงไปได้อย่างไร ?
เราขอตำหนิคุณตรงๆ คุณไม่รักลูกคุณเท่าที่เรารักลูกเราเลย

ย่าของลูกเรา ก็คนโบราณเหมือนแม่สามีคุณ เขามีลูกแปดคน จึงคิดว่าชำนาญการเลี้ยงลูกมาก
เราเลี้ยงลูกด้วยวิธีของเรา แทบไม่ทำอะไรที่เขาพยายามสอน ถ้าเห็นว่า ไม่ดีกับลูกแน่ๆ
พอลูกเราครบเดือน เดินทางได้ เราอุ้มลูกขึ้นรถบัส(ร้อน) กลับบ้านเราเลย แม่สามีมาส่งด้วย
เราลำบากกว่าคุณเยอะ แต่เรายอมไปตายดาบหน้า ดีกว่าให้ลูกมาชักต่อหน้าเรา

บ้านสามีคุณ ใช้ลูกคุณเป็นตัวประกัน สูบเงินจากลูกชายลูกสะใภ้
เรื่องเงินไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่สุขภาพลูกเอาไปเสี่ยงแบบนั้นไม่ได้
เอาลูกมาให้แม่คุณเลี้ยงเสีย
สามีเฮงซวยนั่น ตัวเองก็คงไม่ได้แตะลูก ถือแต่ว่ามีเงินจ่าย

เราตำหนิคุณจริงๆ สงสารเด็กน้อยตัวนิดเดียว โดนยุงกัด หัวแตก
ลูกเราโดนแบบนี้ ระเบิดลงบ้านแตกแน่ ทั้งหัวหงอกหัวดำ สติปัญญาไม่โตตามอายุสักคน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่