ระบบชำระเงินของ Lazada แบ่งออกเป็น 7 แบบ ได้แก่
1. บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต
2. เก็บเงินปลายทางทั่วประเทศ
3. ชำระเงินผ่านเคาน์เตอร์ (เคาน์เตอร์บริการรับชำระต่างๆ เช่น บิ๊กซี เทสโก้)
4. Paypal/Amex
5. ผ่อนชำระ
6. Line Pay
7. หักบัญชีธนาคาร / ATM

ช่องทางที่อาจจะทำให้คนซื้อมีปัญหาทีหลัง และมีปัญหาที่สุดคือช่องทาง "1. บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต" เพราะเป็นช่องทางเดียว
ที่ Lazada ทำระบบด้วยตัวเองทั้งหมด ส่วนช่องทางอื่นค่อนข้างมีปัญหาน้อย เพราะต้องผ่านตัวกลางอื่นๆที่ไม่ใช่ Lazada
ทำให้เวลามีปัญหาอย่างน้อยๆก็มีตัวช่วย

เรามาดูกันว่าหน้าตาการชำระเงินด้วย บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต เป็นอย่างไร

จากรูปจะเห็นได้ว่าระบบของ Lazada ใช้วิธีการตรวจสอบแบบง่ายๆ โง่ๆที่สุด คือแค่เช็คว่าใส่ตัวเลข ตัวหนังสือให้ครบก็พอ
ซึ่งถ้าเป็นคนที่เคยชำระเงินผ่านเว็บอื่นๆที่ได้มาตรฐาน จะพบการตรวจสอบที่มากกว่านี้เช่น
- เลขหน้าบัตร : ตัวเลขหน้าบัตรสามารถใส่ระบบตรวจสอบตัวเลขได้ ซึ่งถ้ามีระบบตรวจสอบตัวเลขจะป้องกันปัญหาได้ถึง 2 อย่าง
คือ 1 ป้องกันลูกค้ากรอกเลขผิด เพราะเลขบัตรเครติดนั้นมีระบบเช็คตัวเลขในตัว หากเรากรอกผิดเลขตัวใดตัวหนึ่งการตรวจสอบตัวเลขก็จะไม่ผ่าน
2 ป้องกันการกรอกข้อมูลมั่ว อันนี้เป็นประโยชน์ต่อทาง Server ของร้านค้าเอง เพราะจะลดขยะที่ต้องจัดเก็บไว้ใน log ต่างๆ
แต่ Lazada ไม่มีระบบเช็คเลขหน้าบัตรนะครับ (ไม่รู้ขี้เกียจ หรือทำไม่เป็น)
- ชื่อบนบัตร : default ข้อมูลที่จะปรากฏในช่องนี้ Lazada เลือกเอาชื่อของลูกค้า(ซึ่งมักเป็นภาษาไทย)มาใส่ให้ในครั้งแรก ซึ่งเป็นความคิดที่แย่มากในการออกแบบระบบ เพราะในระบบการตัดบัตรเครดิตสากล จะต้องใช้ชื่อหน้าบัตรที่สะกดด้วยตัวอักษรภาษาอังกฤษเท่านั้น
แต่ไม่ต้องห่วงครับ จากการที่เคยซื้อของ Lazada มาแล้วหลายสิบครั้งด้วยบัตรเครดิต พบว่าช่อง "ชื่อบนบัตร" แทบไม่มีความหมายอะไรเลย เพราะบางครั้งใส่เป็นชื่อไทยก็ผ่าน(ทั้งๆที่ไม่ควรจะผ่าน) บางครั้งพิมพ์ชื่อผิดก็ผ่าน
ดังนั้น ผมจึงสรุปเอาเองว่าช่องชื่อบนบัตรเนี่ย เอาไปงั้นๆ (น่าจะเอาเก็บไว้ให้คนเข้ามาตรวจสอบ แต่ไม่เกี่ยวข้องกับการตัดเงินด้วยระบบอัตโนมัติ)


แล้วระบบของ Lazada อัจริยะมากครับ เพราะไม่ว่าคุณจะกรอกข้อมูลผิด, เลขบัตรผิด, วงเงินเต็ม, บัตรโดนอายัด หรือแม้แต่ระบบของ Lazada เสียเอง
มันก็จะขึ้นข้อความ Error แบบเดียวกันหมดคือ



ทำให้คุณมั่นใจได้เลยครับว่า ไม่ว่าใครจะทำอะไรผิดพลาด ไม่ว่าคุณ(เจ้าของบัตร), ธนาคาร(ที่ออกบัตรให้คุณ) หรือแม้แต่ระบบของ Lazada เอง
จะไม่มีใครในโลกนี้ทราบได้ว่าใครผิด เพราะไม่ว่าใครทำผิดมันก็ขึ้น error เหมือนๆกันหมด


เท่านั้นยังไม่พอครับ หากวันใดคุณดวงดีขึ้นมา ทำรายการแล้วเกิดปัญหากับบัตรของคุณ เช่น ตัดเงินเกิน, ตัดวงเงินแต่สั่งซื้อไม่ได้, ตัดเงินซ้ำ, ตัดยอดเงินไม่ตรง
คุณจะได้รับการบริการสุดประทับจาก Lazada ในแบบ "Let It GO" (ถ้าเปิดเพลง let it go ของ frozen ภาคภาษาไทยประกอบ จะเข้าใจอากมณ์มาก ประมาณว่า ปล่อยมันไป อย่างที่เป็น) คือ Lazada จะปล่อยมันไปหมดทุกอย่างครับ ไม่ว่าคุณจะพยายามแค่ไหนเค้าก็จะไม่ทำอะไรให้คุณเลยครับนอกจากปล่อยมันไป อะไรผิดขึ้นมา ลูกค้าก็หาทางไปโวยเอาเองแต่อย่ามาบอกว่า Lazada ผิด เพราะระบบ Lazada ไม่เคยผิดครับ



ถ้าคุณดวงดีจะต้องแก้ปัญหาทางการเงินกับบัตรเครดิต/เดบิต ของคุณแล้วล่ะก็ คำแนะนำที่ดีที่สุดคือ

"ให้ไปขอร้องให้ธนาคารเจ้าของบัตรของคุณช่วยเหลือ เท่านั้น" เพราะคุณจะไม่มีทางได้รับความช่วยเหลือใดๆจาก Lazada ครับ เพราะระบบเค้าเทพมาก ไม่มีความผิดพลาดแม้แต่น้อย ถ้าอะไรมันผิดขึ้นมาจำไว้ครับเป็นที่ ลูกค้าผิด หรือไม่ก็ ธนาคารเจ้าของบัตรผิด เท่านั้น




สุดท้าย แนะนำว่าถ้าจะต้องซื้อของกับ Lazada ถ้าไม่จำเป็นต้องตัดบัตรเครดิต/เดบิตโดยตรง แนะนำว่าให้ชำระด้วยช่องทางอื่นครับ
แต่ถ้ามีความจำเป็นต้องชำระโดยตัดบัตรเครดิต/เดบิตโดยตรงกับ Lazada (เช่น คุณจะเอาโปรโมชันร่วมกับบัตรเครดิต)
แนะนำว่าให้คุณทำบุญให้พร้อม, สวดมนต์ภาวนาขอให้คุณโชคดี

เพราะหากวันใดคุณโชคร้ายขึ้นมา คุณจะได้รับการบริการหลังการจ่ายที่สุดประทับใจที่สุดใน 3 โลก จาก Lazada ครับ (ไม่เชื่อ Search ใน pantip ได้เลยครับว่าสุดประทับใจขนาดไหน หรือจะแวะไปดูหน้า FB ของ Lazada ก็ได้ครับว่าสรรเสริญกันขนาดไหน ถึงขนาดปิดไม่ให้ User Post ในเพจ เลยทำให้ User ที่ได้รับบริการสุดประทับใจ ต้องมาสรรเสริญกันผ่านช่องทาง Comment อยู่เนืองๆ)