ครูที่กู้ยืมเงินจาก ธ.ออมสินในโครงการเงินกู้ ช.พ.ค. หลังจาก สกสค. มีหนังสือถึง ธ.ไม่อนุญาติให้หักเงินจากกองทุน เพื่อชำระหนี้แทนครูตั้งแต่วันที่ ๓๑ ส.ค. ๒๕๕๘ ที่ผ่านมา ซึ่งจะส่งผลให้ครูที่ค้างชำระหนี้โครงการเงินกู้ ช.พ.ค. กว่า ๖ หมื่นรายจะกลายเป็นหนี้ที่ไม่ก่อรายได้หรือเอ็นพีแอลทันที
นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาหนี้สินครูว่า รัฐบาลและรมว.ศึกษาธิการให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างมาก ซึ่งในส่วนของ สกสค. ที่หลายฝ่ายมองว่ามีส่วนทำให้ครูเป็นหนี้มากขึ้นโดยเฉพาะโครงการเงินกู้ต่างๆ นั้น ยอมรับว่า สกสค. มีโครงการเงินกู้หลายโครงการจริง แต่ก็ได้พยายามแก้ไขปัญหาอยู่ รวมแล้วมีครูร่วมโครงการถึงกว่า ๔.๖ แสนราย รวมเป็นวงเงินกูกว่า ๔ แสนล้านบาท
"ที่ผ่านมาครูที่เข้าร่วมโครงการจะมีทั้งที่มีวินัยการชำระหนี้ตามปกติ ขณะเดียวกันก็มีจำนวนหนึ่งที่ไม่ชำระหนี้ เพราะมีหนี้หลายทาง อีกสาเหตุสำคัญเพราะเห็นว่ามีกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคงตามโครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค. ชำระแทนให้" นายพินิจศักดิ์กล่าว
กองทุนนี้เกิดจากข้อตกลงระหว่าง สนง. สกสค. และธ.ออมสิน ในการจัดสวัสดิการโครงการเงินกู้ ช.พ.ค. โดยมีเงื่อนไขว่า สนง. สกสค. จะได้รับเงินสนับสนุนการดำเนินโครงการตั้งแต่โครงการที่ ๒-๗ ร้อยละ ๐.๐๕ ซึ่ง สนง.สกสค. จะนำเงินส่วนนี้มาใช้ในการบริหารโครงการและกันส่วนหนึ่งเพื่อใช้สำรองจ่ายหนี้ชำระแทนครู ซึงพบว่าบางรายเจตนาไม่ชำระตั้งแต่งวดแรกๆ
สกสค. ได้มีหนังสือไปถึงธนาคารไม่อนุญาตให้หักเงินจากกองทุนแล้วตั้งแต่วันที่ ๓๑ ก.ค. ๕๘ ที่ผ่านมา ทำให้ครูมีหนี้ค้างชำระสะสมอยู่ที่ ๖๒,๔๖๖ ราย เป็นเงิน ๕,๑๙๖ ล้านบาท
ที่มา เดลินิวส์
นร.ก็เบี้ยวหนี้ กยศ. ครูก็เบี้ยวหนี้ ช.พ.ค. เช่นกัน (อย่างไหนเกิดก่อนกัน)
เรื่องหนี้ครูนึกว่าแก้จบไปแล้ว สุดท้ายก็ไม่ได้ผล ครูรุ่นเก่าหนี้เก่าต้องพยายามหาทางแก้กันไป ส่วนครูรุ่นใหม่ทางกระทรวงควรรีบหาทางป้องกันสกัดไม่ให้มีหนี้สินจากแบบอย่างครูรุ่นเก่าที่ผ่านมา ไม่งั้นระบบการศึกษาไทยจะล้มเหลวทั้งตัวบุคลากรและหลักสูตรการศึกษา
หนี้ครู ธ.ออมสิน ส่อเอ็นพีแอล ๖ หมื่นกว่าราย หลัง สกสค. ไม่ช่วย
นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาหนี้สินครูว่า รัฐบาลและรมว.ศึกษาธิการให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างมาก ซึ่งในส่วนของ สกสค. ที่หลายฝ่ายมองว่ามีส่วนทำให้ครูเป็นหนี้มากขึ้นโดยเฉพาะโครงการเงินกู้ต่างๆ นั้น ยอมรับว่า สกสค. มีโครงการเงินกู้หลายโครงการจริง แต่ก็ได้พยายามแก้ไขปัญหาอยู่ รวมแล้วมีครูร่วมโครงการถึงกว่า ๔.๖ แสนราย รวมเป็นวงเงินกูกว่า ๔ แสนล้านบาท
"ที่ผ่านมาครูที่เข้าร่วมโครงการจะมีทั้งที่มีวินัยการชำระหนี้ตามปกติ ขณะเดียวกันก็มีจำนวนหนึ่งที่ไม่ชำระหนี้ เพราะมีหนี้หลายทาง อีกสาเหตุสำคัญเพราะเห็นว่ามีกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคงตามโครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค. ชำระแทนให้" นายพินิจศักดิ์กล่าว
กองทุนนี้เกิดจากข้อตกลงระหว่าง สนง. สกสค. และธ.ออมสิน ในการจัดสวัสดิการโครงการเงินกู้ ช.พ.ค. โดยมีเงื่อนไขว่า สนง. สกสค. จะได้รับเงินสนับสนุนการดำเนินโครงการตั้งแต่โครงการที่ ๒-๗ ร้อยละ ๐.๐๕ ซึ่ง สนง.สกสค. จะนำเงินส่วนนี้มาใช้ในการบริหารโครงการและกันส่วนหนึ่งเพื่อใช้สำรองจ่ายหนี้ชำระแทนครู ซึงพบว่าบางรายเจตนาไม่ชำระตั้งแต่งวดแรกๆ
สกสค. ได้มีหนังสือไปถึงธนาคารไม่อนุญาตให้หักเงินจากกองทุนแล้วตั้งแต่วันที่ ๓๑ ก.ค. ๕๘ ที่ผ่านมา ทำให้ครูมีหนี้ค้างชำระสะสมอยู่ที่ ๖๒,๔๖๖ ราย เป็นเงิน ๕,๑๙๖ ล้านบาท
ที่มา เดลินิวส์
นร.ก็เบี้ยวหนี้ กยศ. ครูก็เบี้ยวหนี้ ช.พ.ค. เช่นกัน (อย่างไหนเกิดก่อนกัน)
เรื่องหนี้ครูนึกว่าแก้จบไปแล้ว สุดท้ายก็ไม่ได้ผล ครูรุ่นเก่าหนี้เก่าต้องพยายามหาทางแก้กันไป ส่วนครูรุ่นใหม่ทางกระทรวงควรรีบหาทางป้องกันสกัดไม่ให้มีหนี้สินจากแบบอย่างครูรุ่นเก่าที่ผ่านมา ไม่งั้นระบบการศึกษาไทยจะล้มเหลวทั้งตัวบุคลากรและหลักสูตรการศึกษา