หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] 1 วัน ชิลๆ ที่ “อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว และ ชุมชนริมน้ำจันทบูร จ.จันทบุรี” ด้วยงบ 700 บาท
กระทู้รีวิว
เที่ยวน้ำตก
เที่ยวภูเขา
เที่ยวไทย
เที่ยวเชิงอนุรักษ์
เที่ยวตลาดน้ำ
ห่างหายไปนานเลยค่ะ สำหรับรีวิวการเดินทางท่องเที่ยว จากเพจ Bliss Out There
กลับมาคราวนี้เราเลยขอพาพวกนายไปเที่ยวแบบชิลๆซอฟท์ๆกันก่อน
เอาพอหอมปากคอพอเนอะ ไม่ไกลมาก ไม่บู๊มาก และใช้เงินไม่มาก
ให้ทายว่าที่ไหน?...จันทบุรี…อ้าวเห้ย รู้ได้ไงอ่ะ…ชื่อกระทู้ไงเมิง…จอบอ
ทริปนี้เริ่มจากการเสิจกูเกิ้ลค่ะว่า หน้าฝนเที่ยวไหนได้บ้าง
ผลก็คือ รายชื่อน้ำตกนี่ยาวววววววววววววว เป็นหางว่าว
ดูไปดูมาอันที่เข้าตาเราที่สุดก็เห็นจะเป็น “อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว จังหวัดจันทบุรี” นี่แหละ
แต่การหาเพื่อนร่วมทางในช่วงนี้ไม่ง่ายเลย จะสิ้นเดือนแล้วเงินเพื่อนก็ร่อยหรอ
บางคนก็อ่านหนังสือเตรียมสอบมิดเทอม ไม่ก็วันหยุดอยากอยู่กับครอบครัว…
ทำไงได้ก็คนมันอยากไป คนเดียวก็คนเดียวค่ะจุดนี้
เช้าวันอาทิตย์ที่ 20 กันยา 58 สาวน้อยหัวใจโต๊โต (นั่นมันนี่โม่มั้ยล่ะ) ตื่นตีห้ามาอาบน้ำแต่งหน้า จัดกระเป๋า ด้วยตาที่ลืมแค่ครึ่งเดียว เรียกแท็กซี่จากคอนโดไปคิวรถตู้ด้วยตาที่ลืมแค่ครึ่งเดียว และจ่ายเงินซื้อตั๋วรถด้วยตาที่ลืมแค่ครึ่งเดียว ก็รถจากกรุงเทพฯไปจันฯมันตั้ง 3-4ชั่วโมง เราขอออกจากนี่ 6โมงและกันจะได้เที่ยวคุ้มๆ แต่ถึงเราจะลืมตาครึ่งเดียวเราก็จำได้ค่ะว่า ตั๋วราคา 200บาท และคิวรถตู้อยู่ข้างห้างเซนจูรี่ พูดให้ถูกคืออยู่ติดกับผนังห้างเลยอ่ะ55555 ทันทีที่รถออก เราก็ไม่รีรอที่จะ...หลับ
ผ่านไปชั่วโมงครึ่ง เราและผู้โดยสารอีก 4 คน ลืมตาตื่น เนื่องจากพี่คนขับเขาแวะเติมแก๊สค่ะ สิ่งที่อยู่ในหัวเราตอนนี้คือ “ง่วงว้อยยยยยยยยยยยยยยยย ง่วง ง่วง ง่วง ง่วงว้อยยยยยยยยยยยยย” พอได้ขึ้นรถนอนต่อ ตื่นอีกทีก็อยู่ในจันทบุรีแล้วค่ะ เราบอกให้พี่คนขับรถตู้ไปdropเราที่ “ตลาดน้ำพุ” ตลาดประจำจังหวัดอ่ะว่าง่ายๆ จากที่นี่เราต้องต่อรถสองแถวไปอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว ซึ่งจากที่หาข้อมูลมา ค่าสองแถวประมาณ 20 บาทเท่านั้นค่ะ
ลงจากรถตู้ปุ๊ป เห็นสองแถวปั๊ป กดชัตเตอร์ปุ๊ป กระโดดขึ้นรถปั๊ป…ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากจริงๆค่ะ555555555 นั่งสองแถวคนเดียวนี่มันก็เพลินดีเหมือนกัน เหยียดกายได้สบายๆ แถมจะถ่ายรูปข้างทางก็ไม่มีใครมาบัง นั่งไม่นานค่ะ ประมาณ 15 นาทีถึงที่หมาย… รถจอด เราก็ลงมาจ่ายเงินค่ะ พี่เขาก็ถาม “อ้าวแล้วตอนกลับ กลับไงอ่ะน้อง ให้พี่มารับมั้ย เอาเบอร์พี่ไว้มั้ย?” ระหว่างที่เราเมมเบอร์พี่แก โทรศัพท์พี่แกก็เข้าค่ะ เราก็ถามเท่าไหร่อ่ะพี่ พี่เขาชู 2นิ้ว นี่ก็หยิบแบงค์ยี่สิบยื่นให้แก แล้วประโยคหายนะก็ตามมา… “น้อง! สองร้อย”
“เห้ย สองร้อยได้ไงอ่ะพี่”
“เอ้า! ก็น้องเหมามาอ่ะ”
“อ้าวพี่ ก็พี่เรียกหนูขึ้น บอกจะออกๆ หนูก็นึกว่าพี่วิ่งเรื่อยๆ”
“โห่น้อง อะไรเนี่ย”
“พี่ลดหน่อยได้ป่าววววว เนี่ย หนูมาคนเดียว ลดหน่อยๆ”
“อ่ะๆๆๆๆ เอามา 150 แล้วตอนจะกลับไม่ต้องโทรมานะ ราคานี้พี่ไม่มา”…
เจ๊งกะบ๊งจอบอ เสียเงิน 125บาท โดยใช่เหตุ(ความจริงนั่งสองแถวประจำทาง 25บาท) แต่เอาวะ มาถึงแล้ว นอยด์ไปก็เท่านั้น จะงอแงกะใครอ่ะ มาก็มาคนเดียว เอนจอยดีกว่า ไปๆๆๆ ลุยๆๆๆๆ
“ถั่วฝักยาวมั้ยจ๊ะ ถั่วฝักยาวมั้ยหนู เอาไว้ให้ปลาข้างใน กำละ 10บาทจ้า” เสียงคุณน้าหน้าอุทยานดังต่อเนื่องราวกับเปิดเทปปปปป ไม่ซื้อก็ยังไงอยู่ค่ะ เราซื้อถั่วฝักยาว 2กำ แล้วเดินตรงไปยังที่ซื้อตั๋วเข้าอุทยาน ที่นี่ค่าเข้า 40 บาท สำหรับผู้ใหญ่ 20บาท สำหรับเด็ก (อายุ 4-14ปี) ส่วนคนอายุ 60ปีขึ้นไป เข้าฟรีค่ะ (ราคาชาวต่างชาติ เด็ก 100บาท ผู้ใหญ่ 200บาท) ในอุทยานมีร้านข้าว ร้านกาแฟ ร้านขนมค่ะ หรือใครจะเตรียมข้าวไปเองก็ได้ไม่ว่ากัน ลืมบอกไปค่ะว่า ตรงทางเข้าอุทยานจะมีคนดักถ่ายรูปนักท่องเที่ยวอยู่ แล้วตอนเราจะออกเขาก็จะเอารูปเรามาขาย ใครใคร่ซื้อ…ซื้อ ใครใคร่ไม่ซื้อ…ไม่ซื้อ (มันก็ต้องอย่างงั้นป้ะวะ?55555)
ขอให้ข้อมูลนิดนึงค่ะ มีสาระนิดนึง ไม่โกรธกันๆ… อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 11 ของประเทศไทยค่ะ มีเนื้อที่ประมาณ 84,062.50 ไร่ ประกอบด้วยป่าที่สมบูรณ์และเทือกเขาสูงสลับซับซ้อน ทำให้อากาศเย็นสบายและมีน้ำตกตลอดทั้งปี น้ำที่นี่ใสมากกกกกกกกกกกกค่ะ ใสจนมองเห็นพื้นหินและทรายข้างล่างเลยยย ใสแบบ ถ้าใสกว่านี้ปลาก็ลอยอยู่ในอากาศแล้ว ปลาที่เป็นพระเอกของที่นี่เลยก็คือ “ปลาพวงหิน” ค่ะ เยอะมากๆ มาเป็นกองทัพ ใครใจถึงก็ลงไปให้ปลาตอดกันได้ค่ะ ไม่ต้องกลัว เพราะทุกจุดเล่นน้ำมีเจ้าหน้าที่อุทยานคอยดูแลความปลอดภัยให้ ส่วนเราขอยืนดู ยืนให้อาหารมันก็พอค่ะ : )
มีทางให้ลงตรงไหน เราลงหมดค่ะ
อันนี้เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ตู้หูวววววววววววววววววววววววววววว
และแล้วเราก็มาถึงจุดพีคของที่นี่
โซนนี้ร่มรื่นมากมากเลย
อ้ะ ก่อนจะไปดูน้ำตก ขอแวะดูนู่นดูนี่กันก่อน อย่างแรกเลยคือ “สถูปนางเรือล่ม” ที่สร้างแก่สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวีอัครมเหสี รัชกาลที่ 5 ค่ะ ภายในบรรจุพระอังคารของพระนางเจ้าฯ เนื่องจากพระองค์ท่านเคยเสด็จประพาส น้ำตกพลิ้ว และทรงชื่นชมความงามของน้ำตกพลิ้วอย่างมาก
มาต่อกันที่ “อลงกรณ์เจดีย์” คือเจดีย์ทำด้วยศิลาแลง บริเวณหน้าผาด้านหน้าน้ำตกพลิ้ว ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว(ร.5) พร้อมด้วยพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวีอัครมเหสี ทรงโปรดให้สร้างขึ้น ในปี 2419 เพื่อเป็นที่ระลึกในการเสด็จประพาสน้ำตกพลิ้วด้วยกัน ซึ่งจากหลังเจดีย์จะมองไปเห็นน้ำตกพลิ้วที่ทิ้งตัวลงมาจากผาสูง 20 เมตร ได้อย่างชัดเจนเลยค่ะ
มาๆๆๆๆ เดินลงบันได ไปให้อาหารปลากันต่อที่ “อ่างบันได” และขยับไปเห็นน้ำตกพลิ้วแบบใกล้ๆกันดีกว่า พอลงมาข้างล่างแล้วบอกเลยค่ะว่าอากาศเย็นขึ้นสามระดับ คือมันชุ่มชื้นอ่ะ เย็นสบายบอกไม่ถูก เดินเล่นสักนิด นั่งให้อาหารปลาสักหน่อย ก็เริ่มหิวค่ะ ไปหาอาหารให้ตัวเองมั่งดีกว่า…
กินข้าวเสร็จเราขอขึ้นไปจุดชมวิวเพื่อเป็นการปิดโปรเจคน้ำตกพลิ้วค่ะ
แต่เอาจริงขึ้นไปแล้วก็ไม่มีไรมาก เป็นบ้านพัก กับจุดกางเต็นท์ สำหรับเราวิวข้างล่างสวยกว่านะ
12.00 น. เรายืนอยู่หน้าอุทยาน พร้อมเป้าหมายต่อไปในใจ นั่นก็คืออออออออออออออ!!!... “ชุมชนริมน้ำจันทบูร” นั่นเองงงงงงงงงง จากการสอบถามลูกเจ้าของร้านข้าวในอุทยาน พบว่า(ทำเสียงเหมือนอ่านข่าว) การเดินทางจากอุทยานไปชุมชนริมน้ำนั้น ต้องขึ้นรถสองแถวประจำทาง ซึ่งต้องออกไปถนนใหญ่ แล้วข้ามไปรอรถอีกฝั่ง ฟังแล้วเหมือนจะง่าย แต่ปัญหามันอยู่ที่จากอุทยานออกไปถนนใหญ่เนี่ย เกือบ 3 ก.ม. แล้วรถจากอุทยานออกไปเนี่ยนานน๊านนนนนนนนนจะมาที โชคดีค่ะที่แม่ค้าขายถั่วฝักยาวจำเราได้ แล้วมีคนรู้จักแกกำลังจะออกไปข้างนอกพอดี งานนี้เลยได้ซ้อนมอไซด์พี่เขาไปด้วย เขาส่งเราถึงที่รอรถค่ะ บอก “รอตรงนี้นะน้อง มันจะมีสองแถวเข้าเมือง สีอะไรก็ขึ้นได้หมดแหละ บอกเค้าลงตลาดน้ำพุ น่าจะ 20-30บาท”… เป็นความรู้สึกดีๆค่ะที่ไม่ว่าเราจะไปไหน ก็เจอคนไทยใจดีตลอดเลย
อันนี้วิวจากจุดที่รอรถสองแถวค่ะ
รอไม่ถึง 10 นาที สองแถวใจดีก็มาจอดตรงหน้าค่ะ ส่งเราถึงตลาดน้ำพุ ด้วยค่าโดยสารเพียง 25บาท ถึงตลาดแล้วอย่าล่อกแล่ก ตรงเข้าไปหาพี่วินให้ไวนะให้ไว บอกไปชุมชนริมน้ำค่ะพี่ พี่วิน(ความจริงน่าจะลุงวิน)ไม่ลังเลบอกขึ้นมาเลยน้องเอ้ย พอเรานั่งเข้าที่เข้าทางพี่วินก็พุ่งตัวด้วยความเร็วระดับ Fast 8 ประมาณ 5 นาทีถึง คือนี่คิดในใจแบบ เห้ย ลุง ลุงรีบหรอ หนูไม่รีบๆๆๆ เย็นไว้ลุงเย็นไว้… ลุงเก็บเงินเรา 20 บาท พร้อมให้คำแนะนำ “ไอหนู ลุงส่งซ้ายสุดของชุมชนนะ หนูจะได้เดินทั่วๆ หนูก็เดินขึ้นไปจนสุดเนี่ย พอเจอซอยกระจ่างก็จะมีรถให้เรียก”
จ่ายเงินลุงเสร็จ หันหน้ามาเห็น ถึงกับต้องร้อง “ว้าววววววววววววววววววว” บรรยากาศใช้ได้เลยค่ะทุกคนนนนนน เหมือนหลุดไปอยู่อีกยุคนึงของประเทศ เราเดินดูบ้านเรือนริมน้ำ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ พร้อมกับเสพงานอาร์ตข้างทางไปเรื่อยๆ ถือเป็นบ่ายที่สโลบ่ายนึงของเราเลยยยยย (ใครอยากหาข้อมูลเพิ่มเติมของชุมชนนี้ก็ลิ้งค์นี้เลยค่ะ
http://www.paiduaykan.com/76_province/east/chanthaburi/taluang.html
)
คาดว่าเพราะเป็นวันอาทิตย์ ร้านค้าเลยเปิดกันไม่ครบค่ะ แต่ไม่เป็นไรแค่นี้ก็ดูจนเพลินแล้ว ร้านที่สะดุดตาเราร้านแรกเลยคือ “ท่ามาจัน” ความจริงที่นี่เป็นโฮมสเตย์ แต่ข้างล่างก็เปิดเป็นร้านอาหารด้วย ตกแต่งในสไตล์ไทยฟิวชั่น วันหยุดใครว่างๆไม่รู้จะไปพักผ่อนที่ไหน เราแนะนำค่ะ
ชื่อสินค้า:
อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว และ ชุมชนริมน้ำจันทบูร จ.จันทบุรี
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
เที่ยวน้ำตกพลิ้ว ไปเที่ยวเพื่อความสนุกแต่ต้องเจอเรื่องแย่ๆ
ใครที่จะไปเที่ยวน้ำตกพลิ้วนะคะ วันนี้ จขกท.มีเรื่องราวที่ไปเจอมา ซึ่งมันทำให้เสียความรู้สึกและแย่มากๆ สำหรับการไปเที่ยวที่น้ำตกที่ขับรถจากกรุงเทพ ไปถึงจันทบุรี นานถึง 4 ชม.แต่ต้องมาเจอเรื่องที่ไม่น่าป
ลูกสาวแม่ค้าส้มตำ
" น้ำตกพลิ้ว " ชิลล์หนักมาก
อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว (Namtok Phlio National Park) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกที่หนึ่ง เมื่อมาเที่ยวจังหวัดจันทบุรีต้องห้ามพลาด อยู่ห่างจากตัวเมืองจันทบุรี 17 กิโลเมตร สามารถขี่รถมอเตอร์ไซค์ไป
สมาชิกหมายเลข 4515951
เที่ยวเมืองจันทร์ เล่นน้ำตกพลิ้ว ชมเหยี่ยวที่บ้านริมอ่าว
สวัสดีครับมาทริปนี้ผมจะพาไปเที่ยวที่จันทบุรีกันครับ ทริปคราวๆเราจะเริ่มจาก กทม. ไปน้ำตกพริ้ว แล้วก็เข้าพักที่บ้านริมอ่าว เริ่มจากน้ำตกพลิ้วกันก่อนนะครับ https://www.google.com
preuk13
รวบรวม โลเคชัน น่าไป One Pic Big Dream ซีซัน 6 ตอนที่ 6 จังหวัดจันทบุรี
จันทบุรี น่าไป ทุกโลเคชันป้อมไพรีพินาศ เจดีย์อิสรภาพ อ.แหลมสิงห์ ชุมชนขนมแปลก ริมคลองหนองบัว อ.เมืองอ่าวกระทิง วนอุทยานเขาแหลมสิงห์ อ.แหลมสิงห์นั่งเรือเที่ยวชุมชนริม
tumhip23
วัดเขาบรรจบ
"วัดเขาบรรจบ" วัดสวยกลางป่า ทุ่งเพล จันทบุรี ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาสอยดาวที่บรรจบกับเทือกเขาคิชฌกูฏ บรรยากาศเง
สมาชิกหมายเลข 6872732
จะพาไป 40 สถานที่ท่องเที่ยวในจันทบุรี ตามมาชมกันเลยว่าใครไปที่ไหนกันมาบ้างแล้วค่ะ
จันทบุรี เมืองต้องห้ามพลาด มาเที่ยวจังหวัดเดียวครบทุกอย่าง จะพาไป 40 สถานที่ท่องเที่ยวในจันทบุรี ตามมาชมกันเลยว่าใครไปที่ไหนกันมาบ้างแล้วค่ะ ++++++++++++++++++++++++++++++++++++ https://www.youtube.
สมาชิกหมายเลข 2957383
ถ้าพูดถึงจังหวัดจันทบุรี ห้ามพลาดอะไรบ้างคะ
กำลังจะจัดทริปไปเที่ยวกันทั้งรุ่นเลยค่ะ 3 วัน 2 คืน ที่คิดไว้คร่าวๆว่าจะไป อ่าวคุ้งวิมาน ชุมชนริมน้ำจันทบูร น้ำตกพลิ้ว (กลางๆธันวายังมีน้ำมั้ยคะ) ; ___ ; มีสถานที่ไหนที่แบบว่า ไปจันทบุรีแล้วจะต้องไป
GigglEAuN
ขอคำแนะนำเรื่องที่พักบริเวณชุมชนริมแม่น้ำจันทบูร
คือผมจะไปเที่ยวจังหวัดจันทบุรีประมาณต้นเดือนกันยา ไปคนเดียวครับ ประมาณ 2 วัน 1 คืน อยากได้ที่พักแถวบริเวณชุมชนริมแม่น้ำจันทบูร ที่ราคาไม่แพงมาก ขอคำแนะนำด้วยครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ
สมาชิกหมายเลข 749014
แชร์ประการณ์เที่ยวจันทบุรี 3วัน 2คืน
สวัสดีครับเพื่อนๆชาวพันทิปทุกท่าน (╹ڡ╹ ) ผมมาแชร์ประสบการณ์เที่ยวจันทบุรี 3วัน 2คืน ทริปนี้ผมได้รับมอบหมายให้ทำทริปเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมหรือเชิงธรรมชาติ พร้อมทั้งทำวีดิทัศน์
สมาชิกหมายเลข 7854290
เที่ยวจันทบุรี แวะระยอง พักผ่อนชิว ๆ 2 วัน 1 คืน
เที่ยวจันทบุรี แวะระยอง พักผ่อนชิว ๆ 2 วัน 1 คืนทริปนี้เริ่มต้นแต่เช้าตรู่ ออกเดินทางจากกรุงเทพ .. โดยที่แรกเราวางแผนว่า จะแวะกินข้าวที่ระยองก่อน
PUIFAIKAMON
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
เที่ยวน้ำตก
เที่ยวภูเขา
เที่ยวไทย
เที่ยวเชิงอนุรักษ์
เที่ยวตลาดน้ำ
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 592
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] 1 วัน ชิลๆ ที่ “อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว และ ชุมชนริมน้ำจันทบูร จ.จันทบุรี” ด้วยงบ 700 บาท
กลับมาคราวนี้เราเลยขอพาพวกนายไปเที่ยวแบบชิลๆซอฟท์ๆกันก่อน
เอาพอหอมปากคอพอเนอะ ไม่ไกลมาก ไม่บู๊มาก และใช้เงินไม่มาก
ให้ทายว่าที่ไหน?...จันทบุรี…อ้าวเห้ย รู้ได้ไงอ่ะ…ชื่อกระทู้ไงเมิง…จอบอ
ทริปนี้เริ่มจากการเสิจกูเกิ้ลค่ะว่า หน้าฝนเที่ยวไหนได้บ้าง
ผลก็คือ รายชื่อน้ำตกนี่ยาวววววววววววววว เป็นหางว่าว
ดูไปดูมาอันที่เข้าตาเราที่สุดก็เห็นจะเป็น “อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว จังหวัดจันทบุรี” นี่แหละ
แต่การหาเพื่อนร่วมทางในช่วงนี้ไม่ง่ายเลย จะสิ้นเดือนแล้วเงินเพื่อนก็ร่อยหรอ
บางคนก็อ่านหนังสือเตรียมสอบมิดเทอม ไม่ก็วันหยุดอยากอยู่กับครอบครัว…
ทำไงได้ก็คนมันอยากไป คนเดียวก็คนเดียวค่ะจุดนี้
เช้าวันอาทิตย์ที่ 20 กันยา 58 สาวน้อยหัวใจโต๊โต (นั่นมันนี่โม่มั้ยล่ะ) ตื่นตีห้ามาอาบน้ำแต่งหน้า จัดกระเป๋า ด้วยตาที่ลืมแค่ครึ่งเดียว เรียกแท็กซี่จากคอนโดไปคิวรถตู้ด้วยตาที่ลืมแค่ครึ่งเดียว และจ่ายเงินซื้อตั๋วรถด้วยตาที่ลืมแค่ครึ่งเดียว ก็รถจากกรุงเทพฯไปจันฯมันตั้ง 3-4ชั่วโมง เราขอออกจากนี่ 6โมงและกันจะได้เที่ยวคุ้มๆ แต่ถึงเราจะลืมตาครึ่งเดียวเราก็จำได้ค่ะว่า ตั๋วราคา 200บาท และคิวรถตู้อยู่ข้างห้างเซนจูรี่ พูดให้ถูกคืออยู่ติดกับผนังห้างเลยอ่ะ55555 ทันทีที่รถออก เราก็ไม่รีรอที่จะ...หลับ
ผ่านไปชั่วโมงครึ่ง เราและผู้โดยสารอีก 4 คน ลืมตาตื่น เนื่องจากพี่คนขับเขาแวะเติมแก๊สค่ะ สิ่งที่อยู่ในหัวเราตอนนี้คือ “ง่วงว้อยยยยยยยยยยยยยยยย ง่วง ง่วง ง่วง ง่วงว้อยยยยยยยยยยยยย” พอได้ขึ้นรถนอนต่อ ตื่นอีกทีก็อยู่ในจันทบุรีแล้วค่ะ เราบอกให้พี่คนขับรถตู้ไปdropเราที่ “ตลาดน้ำพุ” ตลาดประจำจังหวัดอ่ะว่าง่ายๆ จากที่นี่เราต้องต่อรถสองแถวไปอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว ซึ่งจากที่หาข้อมูลมา ค่าสองแถวประมาณ 20 บาทเท่านั้นค่ะ
ลงจากรถตู้ปุ๊ป เห็นสองแถวปั๊ป กดชัตเตอร์ปุ๊ป กระโดดขึ้นรถปั๊ป…ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากจริงๆค่ะ555555555 นั่งสองแถวคนเดียวนี่มันก็เพลินดีเหมือนกัน เหยียดกายได้สบายๆ แถมจะถ่ายรูปข้างทางก็ไม่มีใครมาบัง นั่งไม่นานค่ะ ประมาณ 15 นาทีถึงที่หมาย… รถจอด เราก็ลงมาจ่ายเงินค่ะ พี่เขาก็ถาม “อ้าวแล้วตอนกลับ กลับไงอ่ะน้อง ให้พี่มารับมั้ย เอาเบอร์พี่ไว้มั้ย?” ระหว่างที่เราเมมเบอร์พี่แก โทรศัพท์พี่แกก็เข้าค่ะ เราก็ถามเท่าไหร่อ่ะพี่ พี่เขาชู 2นิ้ว นี่ก็หยิบแบงค์ยี่สิบยื่นให้แก แล้วประโยคหายนะก็ตามมา… “น้อง! สองร้อย”
“เห้ย สองร้อยได้ไงอ่ะพี่”
“เอ้า! ก็น้องเหมามาอ่ะ”
“อ้าวพี่ ก็พี่เรียกหนูขึ้น บอกจะออกๆ หนูก็นึกว่าพี่วิ่งเรื่อยๆ”
“โห่น้อง อะไรเนี่ย”
“พี่ลดหน่อยได้ป่าววววว เนี่ย หนูมาคนเดียว ลดหน่อยๆ”
“อ่ะๆๆๆๆ เอามา 150 แล้วตอนจะกลับไม่ต้องโทรมานะ ราคานี้พี่ไม่มา”…
เจ๊งกะบ๊งจอบอ เสียเงิน 125บาท โดยใช่เหตุ(ความจริงนั่งสองแถวประจำทาง 25บาท) แต่เอาวะ มาถึงแล้ว นอยด์ไปก็เท่านั้น จะงอแงกะใครอ่ะ มาก็มาคนเดียว เอนจอยดีกว่า ไปๆๆๆ ลุยๆๆๆๆ
“ถั่วฝักยาวมั้ยจ๊ะ ถั่วฝักยาวมั้ยหนู เอาไว้ให้ปลาข้างใน กำละ 10บาทจ้า” เสียงคุณน้าหน้าอุทยานดังต่อเนื่องราวกับเปิดเทปปปปป ไม่ซื้อก็ยังไงอยู่ค่ะ เราซื้อถั่วฝักยาว 2กำ แล้วเดินตรงไปยังที่ซื้อตั๋วเข้าอุทยาน ที่นี่ค่าเข้า 40 บาท สำหรับผู้ใหญ่ 20บาท สำหรับเด็ก (อายุ 4-14ปี) ส่วนคนอายุ 60ปีขึ้นไป เข้าฟรีค่ะ (ราคาชาวต่างชาติ เด็ก 100บาท ผู้ใหญ่ 200บาท) ในอุทยานมีร้านข้าว ร้านกาแฟ ร้านขนมค่ะ หรือใครจะเตรียมข้าวไปเองก็ได้ไม่ว่ากัน ลืมบอกไปค่ะว่า ตรงทางเข้าอุทยานจะมีคนดักถ่ายรูปนักท่องเที่ยวอยู่ แล้วตอนเราจะออกเขาก็จะเอารูปเรามาขาย ใครใคร่ซื้อ…ซื้อ ใครใคร่ไม่ซื้อ…ไม่ซื้อ (มันก็ต้องอย่างงั้นป้ะวะ?55555)
ขอให้ข้อมูลนิดนึงค่ะ มีสาระนิดนึง ไม่โกรธกันๆ… อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 11 ของประเทศไทยค่ะ มีเนื้อที่ประมาณ 84,062.50 ไร่ ประกอบด้วยป่าที่สมบูรณ์และเทือกเขาสูงสลับซับซ้อน ทำให้อากาศเย็นสบายและมีน้ำตกตลอดทั้งปี น้ำที่นี่ใสมากกกกกกกกกกกกค่ะ ใสจนมองเห็นพื้นหินและทรายข้างล่างเลยยย ใสแบบ ถ้าใสกว่านี้ปลาก็ลอยอยู่ในอากาศแล้ว ปลาที่เป็นพระเอกของที่นี่เลยก็คือ “ปลาพวงหิน” ค่ะ เยอะมากๆ มาเป็นกองทัพ ใครใจถึงก็ลงไปให้ปลาตอดกันได้ค่ะ ไม่ต้องกลัว เพราะทุกจุดเล่นน้ำมีเจ้าหน้าที่อุทยานคอยดูแลความปลอดภัยให้ ส่วนเราขอยืนดู ยืนให้อาหารมันก็พอค่ะ : )
มีทางให้ลงตรงไหน เราลงหมดค่ะ
อันนี้เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ตู้หูวววววววววววววววววววววววววววว
และแล้วเราก็มาถึงจุดพีคของที่นี่
โซนนี้ร่มรื่นมากมากเลย
อ้ะ ก่อนจะไปดูน้ำตก ขอแวะดูนู่นดูนี่กันก่อน อย่างแรกเลยคือ “สถูปนางเรือล่ม” ที่สร้างแก่สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวีอัครมเหสี รัชกาลที่ 5 ค่ะ ภายในบรรจุพระอังคารของพระนางเจ้าฯ เนื่องจากพระองค์ท่านเคยเสด็จประพาส น้ำตกพลิ้ว และทรงชื่นชมความงามของน้ำตกพลิ้วอย่างมาก
มาต่อกันที่ “อลงกรณ์เจดีย์” คือเจดีย์ทำด้วยศิลาแลง บริเวณหน้าผาด้านหน้าน้ำตกพลิ้ว ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว(ร.5) พร้อมด้วยพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวีอัครมเหสี ทรงโปรดให้สร้างขึ้น ในปี 2419 เพื่อเป็นที่ระลึกในการเสด็จประพาสน้ำตกพลิ้วด้วยกัน ซึ่งจากหลังเจดีย์จะมองไปเห็นน้ำตกพลิ้วที่ทิ้งตัวลงมาจากผาสูง 20 เมตร ได้อย่างชัดเจนเลยค่ะ
มาๆๆๆๆ เดินลงบันได ไปให้อาหารปลากันต่อที่ “อ่างบันได” และขยับไปเห็นน้ำตกพลิ้วแบบใกล้ๆกันดีกว่า พอลงมาข้างล่างแล้วบอกเลยค่ะว่าอากาศเย็นขึ้นสามระดับ คือมันชุ่มชื้นอ่ะ เย็นสบายบอกไม่ถูก เดินเล่นสักนิด นั่งให้อาหารปลาสักหน่อย ก็เริ่มหิวค่ะ ไปหาอาหารให้ตัวเองมั่งดีกว่า…
กินข้าวเสร็จเราขอขึ้นไปจุดชมวิวเพื่อเป็นการปิดโปรเจคน้ำตกพลิ้วค่ะ
แต่เอาจริงขึ้นไปแล้วก็ไม่มีไรมาก เป็นบ้านพัก กับจุดกางเต็นท์ สำหรับเราวิวข้างล่างสวยกว่านะ
12.00 น. เรายืนอยู่หน้าอุทยาน พร้อมเป้าหมายต่อไปในใจ นั่นก็คืออออออออออออออ!!!... “ชุมชนริมน้ำจันทบูร” นั่นเองงงงงงงงงง จากการสอบถามลูกเจ้าของร้านข้าวในอุทยาน พบว่า(ทำเสียงเหมือนอ่านข่าว) การเดินทางจากอุทยานไปชุมชนริมน้ำนั้น ต้องขึ้นรถสองแถวประจำทาง ซึ่งต้องออกไปถนนใหญ่ แล้วข้ามไปรอรถอีกฝั่ง ฟังแล้วเหมือนจะง่าย แต่ปัญหามันอยู่ที่จากอุทยานออกไปถนนใหญ่เนี่ย เกือบ 3 ก.ม. แล้วรถจากอุทยานออกไปเนี่ยนานน๊านนนนนนนนนจะมาที โชคดีค่ะที่แม่ค้าขายถั่วฝักยาวจำเราได้ แล้วมีคนรู้จักแกกำลังจะออกไปข้างนอกพอดี งานนี้เลยได้ซ้อนมอไซด์พี่เขาไปด้วย เขาส่งเราถึงที่รอรถค่ะ บอก “รอตรงนี้นะน้อง มันจะมีสองแถวเข้าเมือง สีอะไรก็ขึ้นได้หมดแหละ บอกเค้าลงตลาดน้ำพุ น่าจะ 20-30บาท”… เป็นความรู้สึกดีๆค่ะที่ไม่ว่าเราจะไปไหน ก็เจอคนไทยใจดีตลอดเลย
อันนี้วิวจากจุดที่รอรถสองแถวค่ะ
รอไม่ถึง 10 นาที สองแถวใจดีก็มาจอดตรงหน้าค่ะ ส่งเราถึงตลาดน้ำพุ ด้วยค่าโดยสารเพียง 25บาท ถึงตลาดแล้วอย่าล่อกแล่ก ตรงเข้าไปหาพี่วินให้ไวนะให้ไว บอกไปชุมชนริมน้ำค่ะพี่ พี่วิน(ความจริงน่าจะลุงวิน)ไม่ลังเลบอกขึ้นมาเลยน้องเอ้ย พอเรานั่งเข้าที่เข้าทางพี่วินก็พุ่งตัวด้วยความเร็วระดับ Fast 8 ประมาณ 5 นาทีถึง คือนี่คิดในใจแบบ เห้ย ลุง ลุงรีบหรอ หนูไม่รีบๆๆๆ เย็นไว้ลุงเย็นไว้… ลุงเก็บเงินเรา 20 บาท พร้อมให้คำแนะนำ “ไอหนู ลุงส่งซ้ายสุดของชุมชนนะ หนูจะได้เดินทั่วๆ หนูก็เดินขึ้นไปจนสุดเนี่ย พอเจอซอยกระจ่างก็จะมีรถให้เรียก”
จ่ายเงินลุงเสร็จ หันหน้ามาเห็น ถึงกับต้องร้อง “ว้าววววววววววววววววววว” บรรยากาศใช้ได้เลยค่ะทุกคนนนนนน เหมือนหลุดไปอยู่อีกยุคนึงของประเทศ เราเดินดูบ้านเรือนริมน้ำ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ พร้อมกับเสพงานอาร์ตข้างทางไปเรื่อยๆ ถือเป็นบ่ายที่สโลบ่ายนึงของเราเลยยยยย (ใครอยากหาข้อมูลเพิ่มเติมของชุมชนนี้ก็ลิ้งค์นี้เลยค่ะ http://www.paiduaykan.com/76_province/east/chanthaburi/taluang.html )
คาดว่าเพราะเป็นวันอาทิตย์ ร้านค้าเลยเปิดกันไม่ครบค่ะ แต่ไม่เป็นไรแค่นี้ก็ดูจนเพลินแล้ว ร้านที่สะดุดตาเราร้านแรกเลยคือ “ท่ามาจัน” ความจริงที่นี่เป็นโฮมสเตย์ แต่ข้างล่างก็เปิดเป็นร้านอาหารด้วย ตกแต่งในสไตล์ไทยฟิวชั่น วันหยุดใครว่างๆไม่รู้จะไปพักผ่อนที่ไหน เราแนะนำค่ะ