ใครที่จะไปเที่ยวน้ำตกพลิ้วนะคะ วันนี้ จขกท.มีเรื่องราวที่ไปเจอมา ซึ่งมันทำให้เสียความรู้สึกและแย่มากๆ สำหรับการไปเที่ยวที่น้ำตกที่ขับรถจากกรุงเทพ ไปถึงจันทบุรี นานถึง 4 ชม.แต่ต้องมาเจอเรื่องที่ไม่น่าประทับในการบริการ ของพ่อค้าแม่ค้าและเจ้าหน้าที่ที่ดูแลน้ำตกพลิ้ว
เมื่อ จขกท.เดินทางไปถึงน้ำตกพลิ้วสิ่งแรกที่ชอบสุดๆเลยคือบรรยากาศโดยรอบ พอขับรถเข้าไปถึงบริเวณทางเข้าประตู้น้ำตก ก็มีพ่อค้าคนหนึ่งเดินมาขวางถนน เน้นนะคะ ว่าขวางถนน ทั้งคันรถก็งงกันพอลดกระจกรถลง คุณพ่อค้าก็บอกกับพวกเราว่า
"จอดฟรีครับ ข้างบนเจ้าหน้าที่เค้าไม่ให้เอารถขึ้นไปถ้าไม่ไปค้างคืน จอดที่นี้ได้เลยครับเราดูแลให้ฟรี"
พวกเพื่อนๆของ จขกท.ก็เลี้ยวรถเข้าไปด้วยความงงๆ เนื่องจากพี่แกเล่นยืนขวางถนน แบบไม่ให้ไปไหน พอเลี้ยวรถเข้าไปจอด พี่แกก็พูดขึ้นว่า
"ให้ที่จอดรถแล้วช่วยซื้ออาหารขึ้นไปกินด้วยนะครับ"
.....อืม ด้วยความที่เกรงใจก็ซื้อเจ้าคะ
-รายการอาหาร-
-ข้าวเหนียว 5 ห่อ
-ส้มตำปูปลาร้า 1
-น้ำตกหมู 1
-แป๊บซี่ 1
-น้ำเปล่า 2 ขวด
-น้ำแข็ง 1 กระติก
-ไก่ย่าง 2 ไม้
ราคารวม 515 บาทถ้วน !!!!!!!! [ T^T ] แต่พี่แกให้ยืมตะกร้าและกระติกน้ำแข็งขึ้นไปด้วย แต่เราก็โอเคๆ ราคาอาหารตามสถานที่ท่องเที่ยวคงเป็นเรื่องปกติ และพี่แกก็พูดทิ้งท้ายไว้ว่า
"อย่าลืมเอาตะกร้ากับกระติกน้ำลงมาด้วยนะ" [น้ำเสียงคุณพ่อค้าเปลี่ยนไปนะเคอะ !!หรือคิดไปเองไม่รู้แฮะ]
++แต่ประเด็นมันอยู่ที่ตรงนี้คะ++
พอเดินขึ้นไปที่น้ำตก พวกเราก็กินข้าวและฝากตะกร้าไว้ที่ชั้นวางของของเจ้าหน้าที่ แล้วเจ้าหน้าที่ก็บอกว่าให้เอาของๆเราขึ้นไปให้หมด ให้เหลือไว้แค่ของจากร้านค้าที่ซื้อมาหรือร้านค้าให้มาเท่านั้น [เสื่อที่อิฉันเอาต้องแบกไปด้วยหรือเจ้าคะ =_= ]
ด้วยความที่เป็นเด็กดี จขกท.และเพื่อนๆก็วางตะกร้ากับกระติกน้ำทิ้งไว้และขึ้นไปเล่นน้ำอย่างสบายใจ
จนเล่นน้ำเสร็จพวกเราก็เดินกลับมาที่ชั้นวางของเพื่อที่จะเอาตะกร้าและกระติกน้ำลงไปคืนและจะกลับบ้านกัน
แต่พอเดินมาถึงชั้นวางของปรากฏว่าของหายไป พวกเพื่อนๆก็เลยคิดว่าเจ้าของร้านน่าจะเก็บไปแล้ว ก็เลยเดินลงไปที่ร้าน
ในระหว่างทาง จขกท.ก็พูดกับเพื่อนเล่นๆว่า
"พวกแกรู้สึกแปลกๆปะวะ ฉันว่านะ พอเราลงไปถึงร้านพี่แกก็จะถามว่ากระติกกับตะกร้าไปไหน 555"
ตอนนั้นพูดขำๆกันนะคะ พวกเพื่อนๆก็หัวเราะกัน
พอพวกเราเดินไปยังไม่ถึงหน้าร้านดีด้วยซ้ำคุณพ่อค้าก็ก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ พร้อมถามว่า
"ตะกร้ากับกระติกไปไหนครับ"เน้น! ก้มหน้าอยู่ขณะถาม ไม่ได้คิดไปเองนะเจ้าคะ แต่อิฉันสังเกตตั้งแต่มองเห็นพี่แกไกลๆแล้ว
"อ้าว !พี่ไม่ได้เก็บลงมาเหรอคะ"
"ไม่ครับ เอารถมอไซค์ผมขึ้นไปเอามาเลยครับ"
"คือมันหาไม่เจออะคะพี่ เราเลยนึกว่าพี่เอาลงมาแล้ว"
"ขับรถขึ้นไปถามเจ้าหน้าที่ดูเลยครับ" อืม....เพื่อนผู้ชายเราเลยขับรถขึ้นไปถามเจ้าหน้าที่และได้คำตอบว่า
"เจ้าหน้าที่บอกว่าไม่ทราบครับ บอกว่าสงสัยคนอื่นหยิบผิดไป"
สุดท้ายเราก็เสียตังค์ไปกับค่าปรับของกระติกและตะกร้าไป 150 บาท
จขกท. ไม่ได้เสียดายเงิน 150 บาทนะคะ แต่คือของหาย เจ้าหน้าที่ไม่เดือดร้อน หรือกระตือรือร้นเพื่อที่จะช่วยนักท่องเที่ยวเลย เสียความรู้สึกตรงนี้มากๆเลยคะ อีกอย่างคือร้านค้าก็มีไม่กี่ร้านนะคะ ตะกร้าก็มีไม่กี่ร้าน ถ้าลูกค้าหยิบมาผิดจริงๆพ่อค้าแม่ค้าคงเอาไปคืนที่ร้านกันเอง เพราะตะกร้าทุกใบมีการเขียนชื่อร้านไว้ที่ตะกร้าและกระติกไว้ ยังไงก็ฝากถึงคนที่อยากไปเที่ยวและกำลังจะไปเที่ยวน้ำตกพลิ้วด้วยคะ !
เที่ยวน้ำตกพลิ้ว ไปเที่ยวเพื่อความสนุกแต่ต้องเจอเรื่องแย่ๆ
เมื่อ จขกท.เดินทางไปถึงน้ำตกพลิ้วสิ่งแรกที่ชอบสุดๆเลยคือบรรยากาศโดยรอบ พอขับรถเข้าไปถึงบริเวณทางเข้าประตู้น้ำตก ก็มีพ่อค้าคนหนึ่งเดินมาขวางถนน เน้นนะคะ ว่าขวางถนน ทั้งคันรถก็งงกันพอลดกระจกรถลง คุณพ่อค้าก็บอกกับพวกเราว่า
"จอดฟรีครับ ข้างบนเจ้าหน้าที่เค้าไม่ให้เอารถขึ้นไปถ้าไม่ไปค้างคืน จอดที่นี้ได้เลยครับเราดูแลให้ฟรี"
พวกเพื่อนๆของ จขกท.ก็เลี้ยวรถเข้าไปด้วยความงงๆ เนื่องจากพี่แกเล่นยืนขวางถนน แบบไม่ให้ไปไหน พอเลี้ยวรถเข้าไปจอด พี่แกก็พูดขึ้นว่า
"ให้ที่จอดรถแล้วช่วยซื้ออาหารขึ้นไปกินด้วยนะครับ"
.....อืม ด้วยความที่เกรงใจก็ซื้อเจ้าคะ
-รายการอาหาร-
-ข้าวเหนียว 5 ห่อ
-ส้มตำปูปลาร้า 1
-น้ำตกหมู 1
-แป๊บซี่ 1
-น้ำเปล่า 2 ขวด
-น้ำแข็ง 1 กระติก
-ไก่ย่าง 2 ไม้
ราคารวม 515 บาทถ้วน !!!!!!!! [ T^T ] แต่พี่แกให้ยืมตะกร้าและกระติกน้ำแข็งขึ้นไปด้วย แต่เราก็โอเคๆ ราคาอาหารตามสถานที่ท่องเที่ยวคงเป็นเรื่องปกติ และพี่แกก็พูดทิ้งท้ายไว้ว่า
"อย่าลืมเอาตะกร้ากับกระติกน้ำลงมาด้วยนะ" [น้ำเสียงคุณพ่อค้าเปลี่ยนไปนะเคอะ !!หรือคิดไปเองไม่รู้แฮะ]
++แต่ประเด็นมันอยู่ที่ตรงนี้คะ++
พอเดินขึ้นไปที่น้ำตก พวกเราก็กินข้าวและฝากตะกร้าไว้ที่ชั้นวางของของเจ้าหน้าที่ แล้วเจ้าหน้าที่ก็บอกว่าให้เอาของๆเราขึ้นไปให้หมด ให้เหลือไว้แค่ของจากร้านค้าที่ซื้อมาหรือร้านค้าให้มาเท่านั้น [เสื่อที่อิฉันเอาต้องแบกไปด้วยหรือเจ้าคะ =_= ]
ด้วยความที่เป็นเด็กดี จขกท.และเพื่อนๆก็วางตะกร้ากับกระติกน้ำทิ้งไว้และขึ้นไปเล่นน้ำอย่างสบายใจ
จนเล่นน้ำเสร็จพวกเราก็เดินกลับมาที่ชั้นวางของเพื่อที่จะเอาตะกร้าและกระติกน้ำลงไปคืนและจะกลับบ้านกัน
แต่พอเดินมาถึงชั้นวางของปรากฏว่าของหายไป พวกเพื่อนๆก็เลยคิดว่าเจ้าของร้านน่าจะเก็บไปแล้ว ก็เลยเดินลงไปที่ร้าน
ในระหว่างทาง จขกท.ก็พูดกับเพื่อนเล่นๆว่า
"พวกแกรู้สึกแปลกๆปะวะ ฉันว่านะ พอเราลงไปถึงร้านพี่แกก็จะถามว่ากระติกกับตะกร้าไปไหน 555"
ตอนนั้นพูดขำๆกันนะคะ พวกเพื่อนๆก็หัวเราะกัน
พอพวกเราเดินไปยังไม่ถึงหน้าร้านดีด้วยซ้ำคุณพ่อค้าก็ก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ พร้อมถามว่า
"ตะกร้ากับกระติกไปไหนครับ"เน้น! ก้มหน้าอยู่ขณะถาม ไม่ได้คิดไปเองนะเจ้าคะ แต่อิฉันสังเกตตั้งแต่มองเห็นพี่แกไกลๆแล้ว
"อ้าว !พี่ไม่ได้เก็บลงมาเหรอคะ"
"ไม่ครับ เอารถมอไซค์ผมขึ้นไปเอามาเลยครับ"
"คือมันหาไม่เจออะคะพี่ เราเลยนึกว่าพี่เอาลงมาแล้ว"
"ขับรถขึ้นไปถามเจ้าหน้าที่ดูเลยครับ" อืม....เพื่อนผู้ชายเราเลยขับรถขึ้นไปถามเจ้าหน้าที่และได้คำตอบว่า
"เจ้าหน้าที่บอกว่าไม่ทราบครับ บอกว่าสงสัยคนอื่นหยิบผิดไป"
สุดท้ายเราก็เสียตังค์ไปกับค่าปรับของกระติกและตะกร้าไป 150 บาท
จขกท. ไม่ได้เสียดายเงิน 150 บาทนะคะ แต่คือของหาย เจ้าหน้าที่ไม่เดือดร้อน หรือกระตือรือร้นเพื่อที่จะช่วยนักท่องเที่ยวเลย เสียความรู้สึกตรงนี้มากๆเลยคะ อีกอย่างคือร้านค้าก็มีไม่กี่ร้านนะคะ ตะกร้าก็มีไม่กี่ร้าน ถ้าลูกค้าหยิบมาผิดจริงๆพ่อค้าแม่ค้าคงเอาไปคืนที่ร้านกันเอง เพราะตะกร้าทุกใบมีการเขียนชื่อร้านไว้ที่ตะกร้าและกระติกไว้ ยังไงก็ฝากถึงคนที่อยากไปเที่ยวและกำลังจะไปเที่ยวน้ำตกพลิ้วด้วยคะ !