ชื่อกระทู้เขียนผิดแก้ไม่ได้ขออภัยนะคะ
ท่ามกลางสายฝนชุ่มฉ่ำ 3จิ๋ว แบกเป้เที่ยวกระบี่ 3วัน2คืน ด้วยงบ 2500 บาท
สวัสดีค่ะ วันนี้จะมารีวิวการเดินทางของเรา กับการไปเที่ยวกระบี่ 3 วัน 2 คืน ด้วยงบประมาณคนละ 2500 บาท (ไม่รวมค่าตั๋ว)
เป็นการรีวิวครั้งแรก กล้องมือถือ รูปไม่สวยรูปไม่ชัด ต้องขออภัยด้วยนะคะ
เราสามคนได้ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ดอนเมือง-กระบี่ ประมาณคนละ 700 บาท ซึ่งเราจองล่วงหน้ากันไว้ตั้งแต่ช่วงต้นปีแล้ว
เลือกวันได้เหมาะเจาะมาก เดินทางวันที่ 16-17-18 กันยายน 58 พายุฝนโหมกระหน่ำพอดี
ก่อนการเดินทาง 2 วันเรานั่งดูที่พักก่อนจะตกลงปลงใจกันว่า
คืนแรกพักที่ อ่าวนาง อีโค อินน์ (Aonang Eco Inn) ราคาสำหรับ 3 คน 925 บาท
คืนสองพักที่ JP Home & Backpacker ราคาสำหรับ 3 คน 600 บาท
พวกเราตะลึงและลังเลกับราคาห้องพักมาก โดยเฉพาะ JP อะไรจะถูกปานนี้ เพราะเราทำใจกันเอาไว้แล้วว่าอะไรๆจะต้องแพงแน่ๆ
ก็คิดๆกันว่าอาจจะเป็นเพราะหน้า low season แต่ยังไงงบก็มีกันจำกัด จะดีหรือจะแย่ไปลุ้นกันเอา
แล้ววันที่ 16 ก็มาถึง ฝนตกๆหยุดๆตลอด พวกเราไปถึงกระบี่เวลาประมาณ 19:45 นาที พี่แท็กซี่ที่ติดต่อผ่านห้องพักเอาไว้ก็มารอรับอยู่
รถที่พี่เขาเอามารับพวกเราคือรถตู้ ตกลงกันไว้ที่ราคา 600 บาท พี่คนขับชื่อพี่เจมส์ เป็นคนอัธยาศัยดีมากๆ
พี่เขาให้ข้อมูลและคำแนะนำกับพวกเราเยอะมาก ที่ตรงไหนสวย ที่ไหนน่าไป ร้านไหนน่านั่ง เครื่องดื่มที่ไหนขายถูก
แล้วถ้าจะปิ่งย่าง โทรไปยืมเตาปิ้งพี่เจมส์ได้ด้วยจะได้ประหยัด
ในรูป พี่เจมส์ใจดีพาเราขับรถเลยที่พักไป เพื่อไปชี้ให้ดูจุดต่างๆที่น่าสนใจ พาขับไปชมวิวทะเลยามค่ำคืน ก่อนจะวนรถกลับมาส่งพวกเรา
ถึงแล้ว.... ที่พักคืนแรกของเรา อ่าวนาง อีโค อินน์ (Aonang Eco Inn) พนักงงานต้อนรับที่นี่ยิ้มแย้มแจ่มใสดีมาก
ที่พักดูสะอาด อยู่ในทำเลดี สามารถเดินเท้าผ่านร้านค้าต่างๆมากมายเพื่อไปยังทะเลได้
และสิ่งแรกที่พวกเราทำเมื่อถึงห้องพักก็คือ....
หลังจากนั้นก็ลงไปเดินหาร้านนั่งกินข้าวกัน ไม่เลือกมากเพราะหิวสุดๆ ร้านราชาซีฟู้ด ร้านนี้ใหญ่ ตกแต่งสวยงามดูเป็นธรรมชาติมากๆ
เราหิวกันเลยไม่ได้ถ่ายบรรยากาศรอบๆ สั่งต้มยำทะเล 1 กระเพราทะเล 1 ข้าวเปล่า 3 พิซซ่า 1 น้ำ 2 ค่าเสียหาย 480 บาท
รสชาติอาหารใช้ได้ ปริมาณกับราคาพอใช้ได้ แต่แป้งพิซซ่าไม่ค่อยโอเค และเสริฟอาหารช้าไปนิด แต่โดยรวมก็ถือว่าโอเคค่ะ
นั่งทานข้าวไป ฟังเพลงร้านข้างๆไป จนอดไม่ได้ที่จะต้องลองไปนั่งดูหน่อย ดนตรีสดร้องดี เพลงก็โดน
ที่นี้เป็นร้านแนวเร้กเก้ และเป็นหนึ่งในร้านที่พี่เจมส์แนะนำ
พอเข้าไปถึงพวกพี่ๆที่แสดงโชว์อยู่ก็ชวนไปร่วมสนุกด้วย
คออ่อนๆอย่างพวกเรา สั่งค็อกเทลไป 1 ราคา 180 บาท เบียร์ขวดเล็ก 1 ราคา 80 บาท อีกคน No แอลกอฮอล์
แล้วพวกพี่ๆที่ร้านก็ยกของเล่นมาให้พวกเราเล่นกันเพลินๆ พวกเราคนนึงดูจะเป็นที่ถูกตาถูกใจของหนุ่มใต้มากเลย
หนุ่มๆพากันแวะเวียนมาขอเล่นเกมส์ด้วยตลอด แต่พวกพี่ๆเขาก็สุภาพกันทุกคนนะคะ
กลับมาที่ห้องพักกันต่อ เพิ่งมาถ่ายรูปเอาตอนเช้า ห้องอาจจะรกไปหน่อยต้องขออภัยด้วยนะคะ
ที่นี้ ห้องพักสะอาด กว้างขวาง เตียงนอนสบาย มีระเบียง แต่เสียดายแอร์ไม่ค่อยเย็นเลย
ห้องน้ำใหญ่ดีค่ะ น้ำไหลแรง เครื่องทำน้ำอุ่นทำงานดี มีสบู่ ยาสระผม ครีมนวด บริการ
จากนั้นเราเดินลงมากดน้ำร้อนกินอาหารเช้ามือประหยัดกัน
ถ่ายรูปหน้าที่พักซะหน่อย เมื่อคืนลืม
แล้วเราก็จะไปตามหาซื้อทัวร์ไปเกาะกัน แล้วฝนตกๆตลอดแบบนี้ทำให้หลายเจ้าไม่กล้าออกเรือ ต่างก็บอกว่าลมพายุแรงมันอันตราย
ใจนึงก็กลัว ใจนึงก็ห่วงเที่ยว แต่สุดท้ายเราก็ได้เจ้านึงที่จะไป ทัวร์ 7 เกาะ ในราคา 500 บาท
อารมณ์ดีแล้วแวะถ่ายรูปก่อน
กลับมาเช็คเอ้าท์ และเรียกคุณลุงตุ๊กๆไปส่งที่พักต่อไป
มาถึงแล้ว JP Home & Backpacker
พี่เจ้าของ ชื่อพี่ฝน เป็นคนนิสัยน่ารัก เป็นกันเองและดูแลพวกเราดีมากๆเลย
เมื่อพวกเราเห็นห้องพัก ก็เอาแต่พูดๆว่า
"ถูกมากเลย ถูกมากเลย พวกหนูก็หวั่นๆว่าห้อง 600 จะเป็นยังไง มาเห็นของจริงแล้วมันโอเคมากๆ"
พี่ฝนก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ พวกเราก็ชอบใจ หารแล้วคนละ 200 บาท
เครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน ห้องใหม่ เฟอร์นิเจอร์ใหม่ด้วย ขนาดกำลังดี มีระเบียง
มื้อเที่ยงเรากินข้าวเซเว่นกัน คนละ 40 กว่าๆ แล้วก็แต่งตัวรอทัวร์มารับตอนบ่าย 2 โมง จุดที่เราจะไปขึ้นเรือกันก็คืออ่าวน้ำเมา
ฝนก็หยุดๆตกๆ ดูท้องฟ้าสิ
และนี้คือภาพสุดท้ายก่อนฝนจะเทโครมใหญ่ๆลงมา เปียกปอนไปทั้งตัว
พอฝนซาพวกเราก็ลงเรือกันทั้งๆที่อากาศยังไม่ดี และก็เป็นไปตามความคาดหมาย
พวกเราลอยลำอยู่กลางทะเล ไปต่อไม่ได้ กลับเข้าฝั่งก็ไม่ได้ คลื่นแรงมาก
เด็กเกาหลีตัวเล็กเริ่มกอดแม่แน่นเพราะกลัว แต่คนที่แย่ที่สุดในเรือ คือตัว จขกท นี้เหละพะอืดพะอมสุดๆ
อดทนอดกลั้นมาก ทั้งยากินทั้งยาดมก็เอาไม่อยู่ สุดท้ายก็ต้องแหวะออกมา เรือลอยลำอยู่แบบนั้นประมาณ 40 นาทีฝนเริ่มซา
ไกด์ก็ถามสมาชิกในทัวร์ว่าจะเอายังไง จะไปต่อหรือจะกลับ ถ้าไปต่อจะไปได้แค่ 2 เกาะเท่านั้น
มีการถกเถียงกันซักพักในหมู่ชาวต่างชาติ สุดท้ายก็ลงความเห็นกันว่ากลับเถอะ ทัวร์จะคืนเงินให้เต็มจำนวน
สถาพพวกเราดูไม่จืดเลย จขกท ได้ไข้แถมกลับมาด้วย (อ่อนแออยู่คนเดียว
)
อาบน้ำอาบท่าเสร็จก็ลงมาเช่ารถมอเตอร์ไซค์ข้างๆที่พักพอดี 200 บาท รถใหม่ด้วย แล้วก็ข้ามถนนไปกินข้าวกัน
มื้อนี้อาหารจานเดียว+น้ำ 80 กว่าบาท รสชาติพอได้แต่ที่ถูกใจก็คือแมวอ้วนตัวนี้ ลองเทียบกับขวดน้ำดูสิ ตัวใหญ่มาก
รอฝนหยุดแล้วเราก็แว้นมอเตอร์ไซค์กลับไปที่ทัวร์ร้านเดิมเพื่อรับเงินคืน ด้วยสถาพนี้.....
เพราะมันหนาวเหลือเกิน ฝนตก เสื้อกันหนาวก็เปียกไปแล้วอีก ไปแบบนี้เหละ
รับเงินคืนเสร็จแล้วก็แวะเดินเล่นเลียบริมหาดซื้อของฝากกัน
ตรงนี้ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ ต่างคนต่างเพลียเหลือเกินฝนก็ตกปรอยๆ ของฝากถือว่าไม่แพงเลยนะ ชิ้นเล็กๆก็ 3 ชิ้น 100 บ้าง 50 บาทบ้าง
ชิ้นใหญ่ต่อรองกันได้ ยิ่งคนไทยก็ยิ่งลดกันไปอีก
แล้วก็กลับมาที่พัก คุยกับพี่ฝนเรื่องทัวร์วันพรุ่งนี้ วันสุดท้ายของเราแล้ว ยังไม่ได้เที่ยวเลย
พี่ฝนแนะนำทัวร์ให้ เป็นทัวร์เกาะห้อง ด้วยสปีดโบ๊ท บอกว่าที่นี้ดูแลแขกดี แต่ต้องรอลุ้นว่าพรุ่งนี้เรือจะออกได้หรือเปล่า
เช้าวันสุดท้าย พวกเราตื่นมาพบกับความดีใจ วันนี้เรือออกได้ เราได้ทัวร์นี้ในราคา 900 บาท ไม่รวมค่าอุทยาน 60 บาท มีอาหารให้
พวกเรามาทราบที่หลังว่าได้ถูกกว่าคนอื่นๆบนเรือเดียวกันด้วย
"รถมาแล้วค่ะๆๆ" พี่ฝนเรียก พวกเรารีบวิ่งลงมา คุณลุงมารอรับ วันนี้เราจะไปขึ้นเรือกันที่อ่าวท่าเลน
คุณลุงคุยเก่งมากๆชวนคุยไปตลอดทางเลย
วันนี้ฝนไม่ค่อยตกเท่าไหร่ ไกด์บอกว่าน้ำจะขุ่น ไม่ใสนะ มองไม่เห็นปลา เพราะเมื่อวานฝนตกหนักมาก
ถึงแล้วเกาะแรก เกาะผักเบี้ย เราได้เวลาอยู่บนเกาะนี้ 45 นาที
พี่ๆไกด์ใจดีมากๆ มีพี่คนนึงอาสาถ่ายรูปให้พวกเราตลอด แนะนำมุมสวยๆให้ถ่ายรูปไม่ยั้ง สาวๆฟินกันไปเลยค่ะ
ตรงนี้ เวลาน้ำลงเดินถึงกันได้ค่ะ
เกาะต่อไปคือ เกาะเหลาลาดิง หรือ เกาะพาราไดซ์ ที่นี้เรามีเวลา 45 นาทีเช่นกัน
ทัวร์นี้ยังมีคนไทยอีก 2 คนด้วย คือพี่ๆที่นั่งอยู่ข้างหลังนั่งเอง ที่เป็นเพื่อนคุยกับพวกเรา
ต่อไปเป็น อ่าวลากูน
วีดีโอค่ะ จากคลิปจะเห็นว่าสถาพอาการไม่ค่อยดี ฟ้าไม่ใส น้ำก็ไม่ใส แต่ยังสวยอยู่นะคะ
พี่ไกด์ใจดีถ่ายรูปไม่อั้นตามเคย รูปในเครื่องพวกเราเยอะมาก
ตัวอักษรจะเต็มแล้ว เดี๋ยวมาต่อเกาะห้องกันนะคะ
ท่ามกลางสายฝนชุ่มช่ำ 3จิ๋ว แบกเป้เที่ยวกระบี่ 3วัน2คืน ด้วยงบ 2500 บาท
ท่ามกลางสายฝนชุ่มฉ่ำ 3จิ๋ว แบกเป้เที่ยวกระบี่ 3วัน2คืน ด้วยงบ 2500 บาท
สวัสดีค่ะ วันนี้จะมารีวิวการเดินทางของเรา กับการไปเที่ยวกระบี่ 3 วัน 2 คืน ด้วยงบประมาณคนละ 2500 บาท (ไม่รวมค่าตั๋ว)
เป็นการรีวิวครั้งแรก กล้องมือถือ รูปไม่สวยรูปไม่ชัด ต้องขออภัยด้วยนะคะ
เราสามคนได้ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ดอนเมือง-กระบี่ ประมาณคนละ 700 บาท ซึ่งเราจองล่วงหน้ากันไว้ตั้งแต่ช่วงต้นปีแล้ว
เลือกวันได้เหมาะเจาะมาก เดินทางวันที่ 16-17-18 กันยายน 58 พายุฝนโหมกระหน่ำพอดี
ก่อนการเดินทาง 2 วันเรานั่งดูที่พักก่อนจะตกลงปลงใจกันว่า
คืนแรกพักที่ อ่าวนาง อีโค อินน์ (Aonang Eco Inn) ราคาสำหรับ 3 คน 925 บาท
คืนสองพักที่ JP Home & Backpacker ราคาสำหรับ 3 คน 600 บาท
พวกเราตะลึงและลังเลกับราคาห้องพักมาก โดยเฉพาะ JP อะไรจะถูกปานนี้ เพราะเราทำใจกันเอาไว้แล้วว่าอะไรๆจะต้องแพงแน่ๆ
ก็คิดๆกันว่าอาจจะเป็นเพราะหน้า low season แต่ยังไงงบก็มีกันจำกัด จะดีหรือจะแย่ไปลุ้นกันเอา
แล้ววันที่ 16 ก็มาถึง ฝนตกๆหยุดๆตลอด พวกเราไปถึงกระบี่เวลาประมาณ 19:45 นาที พี่แท็กซี่ที่ติดต่อผ่านห้องพักเอาไว้ก็มารอรับอยู่
รถที่พี่เขาเอามารับพวกเราคือรถตู้ ตกลงกันไว้ที่ราคา 600 บาท พี่คนขับชื่อพี่เจมส์ เป็นคนอัธยาศัยดีมากๆ
พี่เขาให้ข้อมูลและคำแนะนำกับพวกเราเยอะมาก ที่ตรงไหนสวย ที่ไหนน่าไป ร้านไหนน่านั่ง เครื่องดื่มที่ไหนขายถูก
แล้วถ้าจะปิ่งย่าง โทรไปยืมเตาปิ้งพี่เจมส์ได้ด้วยจะได้ประหยัด
ในรูป พี่เจมส์ใจดีพาเราขับรถเลยที่พักไป เพื่อไปชี้ให้ดูจุดต่างๆที่น่าสนใจ พาขับไปชมวิวทะเลยามค่ำคืน ก่อนจะวนรถกลับมาส่งพวกเรา
ถึงแล้ว.... ที่พักคืนแรกของเรา อ่าวนาง อีโค อินน์ (Aonang Eco Inn) พนักงงานต้อนรับที่นี่ยิ้มแย้มแจ่มใสดีมาก
ที่พักดูสะอาด อยู่ในทำเลดี สามารถเดินเท้าผ่านร้านค้าต่างๆมากมายเพื่อไปยังทะเลได้
และสิ่งแรกที่พวกเราทำเมื่อถึงห้องพักก็คือ....
หลังจากนั้นก็ลงไปเดินหาร้านนั่งกินข้าวกัน ไม่เลือกมากเพราะหิวสุดๆ ร้านราชาซีฟู้ด ร้านนี้ใหญ่ ตกแต่งสวยงามดูเป็นธรรมชาติมากๆ
เราหิวกันเลยไม่ได้ถ่ายบรรยากาศรอบๆ สั่งต้มยำทะเล 1 กระเพราทะเล 1 ข้าวเปล่า 3 พิซซ่า 1 น้ำ 2 ค่าเสียหาย 480 บาท
รสชาติอาหารใช้ได้ ปริมาณกับราคาพอใช้ได้ แต่แป้งพิซซ่าไม่ค่อยโอเค และเสริฟอาหารช้าไปนิด แต่โดยรวมก็ถือว่าโอเคค่ะ
นั่งทานข้าวไป ฟังเพลงร้านข้างๆไป จนอดไม่ได้ที่จะต้องลองไปนั่งดูหน่อย ดนตรีสดร้องดี เพลงก็โดน
ที่นี้เป็นร้านแนวเร้กเก้ และเป็นหนึ่งในร้านที่พี่เจมส์แนะนำ
พอเข้าไปถึงพวกพี่ๆที่แสดงโชว์อยู่ก็ชวนไปร่วมสนุกด้วย
คออ่อนๆอย่างพวกเรา สั่งค็อกเทลไป 1 ราคา 180 บาท เบียร์ขวดเล็ก 1 ราคา 80 บาท อีกคน No แอลกอฮอล์
แล้วพวกพี่ๆที่ร้านก็ยกของเล่นมาให้พวกเราเล่นกันเพลินๆ พวกเราคนนึงดูจะเป็นที่ถูกตาถูกใจของหนุ่มใต้มากเลย
หนุ่มๆพากันแวะเวียนมาขอเล่นเกมส์ด้วยตลอด แต่พวกพี่ๆเขาก็สุภาพกันทุกคนนะคะ
กลับมาที่ห้องพักกันต่อ เพิ่งมาถ่ายรูปเอาตอนเช้า ห้องอาจจะรกไปหน่อยต้องขออภัยด้วยนะคะ
ที่นี้ ห้องพักสะอาด กว้างขวาง เตียงนอนสบาย มีระเบียง แต่เสียดายแอร์ไม่ค่อยเย็นเลย
ห้องน้ำใหญ่ดีค่ะ น้ำไหลแรง เครื่องทำน้ำอุ่นทำงานดี มีสบู่ ยาสระผม ครีมนวด บริการ
จากนั้นเราเดินลงมากดน้ำร้อนกินอาหารเช้ามือประหยัดกัน
ถ่ายรูปหน้าที่พักซะหน่อย เมื่อคืนลืม
แล้วเราก็จะไปตามหาซื้อทัวร์ไปเกาะกัน แล้วฝนตกๆตลอดแบบนี้ทำให้หลายเจ้าไม่กล้าออกเรือ ต่างก็บอกว่าลมพายุแรงมันอันตราย
ใจนึงก็กลัว ใจนึงก็ห่วงเที่ยว แต่สุดท้ายเราก็ได้เจ้านึงที่จะไป ทัวร์ 7 เกาะ ในราคา 500 บาท
อารมณ์ดีแล้วแวะถ่ายรูปก่อน
กลับมาเช็คเอ้าท์ และเรียกคุณลุงตุ๊กๆไปส่งที่พักต่อไป
มาถึงแล้ว JP Home & Backpacker
พี่เจ้าของ ชื่อพี่ฝน เป็นคนนิสัยน่ารัก เป็นกันเองและดูแลพวกเราดีมากๆเลย
เมื่อพวกเราเห็นห้องพัก ก็เอาแต่พูดๆว่า
"ถูกมากเลย ถูกมากเลย พวกหนูก็หวั่นๆว่าห้อง 600 จะเป็นยังไง มาเห็นของจริงแล้วมันโอเคมากๆ"
พี่ฝนก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ พวกเราก็ชอบใจ หารแล้วคนละ 200 บาท
เครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน ห้องใหม่ เฟอร์นิเจอร์ใหม่ด้วย ขนาดกำลังดี มีระเบียง
มื้อเที่ยงเรากินข้าวเซเว่นกัน คนละ 40 กว่าๆ แล้วก็แต่งตัวรอทัวร์มารับตอนบ่าย 2 โมง จุดที่เราจะไปขึ้นเรือกันก็คืออ่าวน้ำเมา
ฝนก็หยุดๆตกๆ ดูท้องฟ้าสิ
และนี้คือภาพสุดท้ายก่อนฝนจะเทโครมใหญ่ๆลงมา เปียกปอนไปทั้งตัว
พอฝนซาพวกเราก็ลงเรือกันทั้งๆที่อากาศยังไม่ดี และก็เป็นไปตามความคาดหมาย
พวกเราลอยลำอยู่กลางทะเล ไปต่อไม่ได้ กลับเข้าฝั่งก็ไม่ได้ คลื่นแรงมาก
เด็กเกาหลีตัวเล็กเริ่มกอดแม่แน่นเพราะกลัว แต่คนที่แย่ที่สุดในเรือ คือตัว จขกท นี้เหละพะอืดพะอมสุดๆ
อดทนอดกลั้นมาก ทั้งยากินทั้งยาดมก็เอาไม่อยู่ สุดท้ายก็ต้องแหวะออกมา เรือลอยลำอยู่แบบนั้นประมาณ 40 นาทีฝนเริ่มซา
ไกด์ก็ถามสมาชิกในทัวร์ว่าจะเอายังไง จะไปต่อหรือจะกลับ ถ้าไปต่อจะไปได้แค่ 2 เกาะเท่านั้น
มีการถกเถียงกันซักพักในหมู่ชาวต่างชาติ สุดท้ายก็ลงความเห็นกันว่ากลับเถอะ ทัวร์จะคืนเงินให้เต็มจำนวน
สถาพพวกเราดูไม่จืดเลย จขกท ได้ไข้แถมกลับมาด้วย (อ่อนแออยู่คนเดียว )
อาบน้ำอาบท่าเสร็จก็ลงมาเช่ารถมอเตอร์ไซค์ข้างๆที่พักพอดี 200 บาท รถใหม่ด้วย แล้วก็ข้ามถนนไปกินข้าวกัน
มื้อนี้อาหารจานเดียว+น้ำ 80 กว่าบาท รสชาติพอได้แต่ที่ถูกใจก็คือแมวอ้วนตัวนี้ ลองเทียบกับขวดน้ำดูสิ ตัวใหญ่มาก
รอฝนหยุดแล้วเราก็แว้นมอเตอร์ไซค์กลับไปที่ทัวร์ร้านเดิมเพื่อรับเงินคืน ด้วยสถาพนี้.....
เพราะมันหนาวเหลือเกิน ฝนตก เสื้อกันหนาวก็เปียกไปแล้วอีก ไปแบบนี้เหละ
รับเงินคืนเสร็จแล้วก็แวะเดินเล่นเลียบริมหาดซื้อของฝากกัน
ตรงนี้ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ ต่างคนต่างเพลียเหลือเกินฝนก็ตกปรอยๆ ของฝากถือว่าไม่แพงเลยนะ ชิ้นเล็กๆก็ 3 ชิ้น 100 บ้าง 50 บาทบ้าง
ชิ้นใหญ่ต่อรองกันได้ ยิ่งคนไทยก็ยิ่งลดกันไปอีก
แล้วก็กลับมาที่พัก คุยกับพี่ฝนเรื่องทัวร์วันพรุ่งนี้ วันสุดท้ายของเราแล้ว ยังไม่ได้เที่ยวเลย
พี่ฝนแนะนำทัวร์ให้ เป็นทัวร์เกาะห้อง ด้วยสปีดโบ๊ท บอกว่าที่นี้ดูแลแขกดี แต่ต้องรอลุ้นว่าพรุ่งนี้เรือจะออกได้หรือเปล่า
เช้าวันสุดท้าย พวกเราตื่นมาพบกับความดีใจ วันนี้เรือออกได้ เราได้ทัวร์นี้ในราคา 900 บาท ไม่รวมค่าอุทยาน 60 บาท มีอาหารให้
พวกเรามาทราบที่หลังว่าได้ถูกกว่าคนอื่นๆบนเรือเดียวกันด้วย
"รถมาแล้วค่ะๆๆ" พี่ฝนเรียก พวกเรารีบวิ่งลงมา คุณลุงมารอรับ วันนี้เราจะไปขึ้นเรือกันที่อ่าวท่าเลน
คุณลุงคุยเก่งมากๆชวนคุยไปตลอดทางเลย
วันนี้ฝนไม่ค่อยตกเท่าไหร่ ไกด์บอกว่าน้ำจะขุ่น ไม่ใสนะ มองไม่เห็นปลา เพราะเมื่อวานฝนตกหนักมาก
ถึงแล้วเกาะแรก เกาะผักเบี้ย เราได้เวลาอยู่บนเกาะนี้ 45 นาที
พี่ๆไกด์ใจดีมากๆ มีพี่คนนึงอาสาถ่ายรูปให้พวกเราตลอด แนะนำมุมสวยๆให้ถ่ายรูปไม่ยั้ง สาวๆฟินกันไปเลยค่ะ
ตรงนี้ เวลาน้ำลงเดินถึงกันได้ค่ะ
เกาะต่อไปคือ เกาะเหลาลาดิง หรือ เกาะพาราไดซ์ ที่นี้เรามีเวลา 45 นาทีเช่นกัน
ทัวร์นี้ยังมีคนไทยอีก 2 คนด้วย คือพี่ๆที่นั่งอยู่ข้างหลังนั่งเอง ที่เป็นเพื่อนคุยกับพวกเรา
ต่อไปเป็น อ่าวลากูน
วีดีโอค่ะ จากคลิปจะเห็นว่าสถาพอาการไม่ค่อยดี ฟ้าไม่ใส น้ำก็ไม่ใส แต่ยังสวยอยู่นะคะ
พี่ไกด์ใจดีถ่ายรูปไม่อั้นตามเคย รูปในเครื่องพวกเราเยอะมาก
ตัวอักษรจะเต็มแล้ว เดี๋ยวมาต่อเกาะห้องกันนะคะ