สวัสดีค่า ห่างหายจากการรีวิวสถานที่ท่องเที่ยวไปนาน วันนี้เราขอพาเพื่อนๆไปท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ ในช่วง New normal แบบฉบับคนมีรถ
แม้เวลานี้ จะยังอยู่ในช่วงป้องกันตัวเองให้ห่างไกลจาก Covid-19 แต่ต้องบอกว่าธรรมชาติบ้านเรานั้นได้รับการฟื้นฟูที่ดีขึ้น ส่วนจะดีอย่างไรนั้น คงต้องให้เพื่อนๆดูจากรูปที่เราถ่ายมาค่า
เราเดินทางไปกระบี่โดยรถยนต์ส่วนตัว ด้วยเหตุผลที่ว่า ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเช่ารถ อีกทั้งมีสถานที่ท่องเที่ยวที่อยากไปหลายที่และต้องการชมธรรมชาติข้างทาง แต่ก็ใช้เวลาในการเดินทางมากขึ้นเช่นกัน
Day 1 : 15 พ.ย.2563
เราออกเดินทางจาก กทม. ในเวลาตีห้า (05.00น.) ซึ่งจากการเปิด GPS ทาง GoogleMap คำนวณเวลาไว้ที่ 10 ชั่วโมง บวกลบเวลาทานอาหารระหว่างทางทำให้เราไปถึงกระบี่ในเวลา 5 โมงเย็น
เราเลือกพักที่ โรงแรมศรีสวารา คาซา (Srisawara Casa Hotel) ซึ่งอยู่ในตัวเมืองกระบี่และใกล้สถานที่ท่องเที่ยวอย่าง ถนนคนเดินกระบี่,ลานปูดำและปากน้ำกระบี่ซึ่งมีท่าเรือสำหรับให้นักท่องซื้อทัวร์วันเดย์ทริปไปยังหมู่เกาะต่างๆ ด้วยความที่เราไปถึงเย็นเเล้วทำให้ไม่สามารถถ่ายรูปมาได้ ในช่วงหลังจะมีรูปที่เราไปถ่ายตอนเช้ามาให้ดูค่า สำหรับใครที่มองหาที่พักกระบี่ในราคาไม่แพงและมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เราว่าโรงแรมนี้น่าสนใจไม่น้อยเลยค่ะ ขอลงรูปที่ถ่ายไว้เผื่อเป็นตัวเลือกให้ทุกๆท่านนะคะ (ปล.ไม่ใช่หน้าม้านะคะ 5555)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
มีผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดผม
WiFi อยู่ที่คีย์การ์ด (หาตั้งนานแน่ะ)
น้ำดื่ม กาแฟ ฟรีค่า
เครื่องทำน้ำอุ่น แชมพู สบู่เหลว ไดร์เป่าผมพร้อมค่า
เราพักที่ศรีสวรา 3 วัน 2 คืน รวมอาหารเช้าแล้ว 3 วัน (ทุกๆ วัน แม่บ้านที่ทำความสะอาดจะนำผ้าเช็ดตัว น้ำดื่มและทิชชู่มาเปลี่ยนให้โดยวางที่หน้าห้องเราค่ะ เนื่องจากเราไม่อยู่ พวกขยะสามารถนำมาวางไว้หน้าห้องได้เลยเดี๋ยวเเม่บ้านจัดการให้ค่า)
อันนี่เป็นวิวที่เราเดินข้ามถนนหน้าโรงแรม ตอนนี้เป็นเวลาเย็นเเล้วแสงจะน้อยหน่อย
เดินสักพักก็ถึงถนนคนเดินปูดำ ตอนแรกเราคิดว่าเป็นถนนคนเดินกระบี่ แต่จริงๆไม่ใช่ค่ะ คนละที่กัน แต่เค้าอยู่ไม่ไกลกันนะคะ เดินเลยอ้อมไปด้านหลังถึงเป็นถนนคนเดินกระบี่ค่า ของกินละลานตามากๆ แต่...เราก็ยังอยากรู้ว่าถนนคนเดินกระบี่ของจะเยอะไหม จะแตกต่างกันหรือไม่ สุดท้ายลากสังขารไป แล้วก็แตกต่างกันจริงๆค่ะ ถนนคนเดินกระบี่ร้านค้าค่อนข้างบางตา อาจจะช่วง Covid ด้วย เราเลยเดินกลับมาที่ถนนคนเดินปูดำ ซึ่งแต่ละร้านค้าก็เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งซะส่วนใหญ่ด้วย อีกทั้งตลาดได้เปรียบเพราะอยู่ติดถนนข้างหน้าเลย คนเดินถนนเลยครึกครื้นกว่า สุดท้ายเราก็ฝากท้องมื้อเย็นไว้ที่นี่ค่า เราไม่ได้ถ่ายรูปมาเลย (หิวจัด..)
Day 2 : 16 พ.ย. 2563
เราตื่นมาทานอาหารเช้าตอนเวลา 7.00 น. เนื่องจากซื้อ One day Trip ไปเกาะพีพี จากทางบริษัทพีพีทัวร์ไว้ (ไม่ต้องกังวลว่ารายชื่อจะตกหล่น ทางบริษัททัวร์จะโทรมาคอนเฟิร์มเวลาที่มารับล่วงหน้า 1 วัน) ช่วงนี้เราแนะนำ ทำธุระตัวเองให้เรียบร้อย ใครจะลงกันแดด แต่งชุดเปลี่ยนเสื้อผ้าสามารถทำได้เลย เพราะค่อนข้างสะดวกกว่า
รถตู้จากพีพีทัวร์มารับเราไปส่งที่ท่าเรือตรงเวลานัดเลย คือ 8.00 น. (เราว่าขับรถค่อนข้างเหวี่ยงไปนิดนึง อาจจะเพราะเราเมารถง่าย T_T) หลังจากถึงท่าเรือ จะมีของว่างให้รับประทานระหว่างรอขึ้นเรือ มียาแก้เมาเรือด้วยค่ะ ถ้าใครเมาเรือทานไว้ล่วงหน้าเลย ไกด์แนะนำ
ประมาณ 9.00 น. ไกด์จะเรียกแต่ละทริปขึ้นเรือค่ะ
สังเกตน้ำทะเลไว้นะคะ เดี๋ยวตอนเรากลับมา น้ำจะลดลงจนราวบันไดเอียงลงไปเลยค่า
Let's go เกาะพีพีไปเลยยยยยยยย
สีสันน้ำทะเลสวยบาดใจเรามาก กลิ่นทะเลสดชื่นจริงๆ ตรงนี้คือไร่เลย์นะคะ
หลังรับผู้โดยสารเพิ่มเเล้ว เราก็ออกจากไร่เลย์ มุ่งหน้าไปที่เกาะพีพีกัน
ระหว่างทางไกด์พาแวะชมถ้ำไวกิ้ง(Viking Cave) เป็นเพิงผาถ้ำมุมทางทิศใต้ของเกาะพีพีเลย์ " Pi Pi Lay " ตรงกันข้ามกับอ่าวมาหยา
สัมปทานรังนกนี้ใครได้ไปเราคงทราบได้จากสัญลักษณ์
เดินทางต่อไปที่ปิเละ ลากูนกันค่า
ตื่นเต้นๆ ขอเอาหัวโผล่มาถ่ายรูปหน่อยค่า
เราว่าตรงนี้น่าจะเป็น Signature ของการมาเที่ยวหมู่เกาะพีพีเลยนะคะ เป็นจุดที่คนนิยมถ่ายรูปมาก ทางไกด์เองก็จะจอดเรือเพื่อให้เราได้เก็บภาพกันจนครบ จนกว่าทุกท่านจะพอใจ ช่วงนี้ควรถ่ายรูปเยอะๆเลยค่า ยังไม่ลงไปดำน้ำ หน้ายังเป๊ะกันอยู่
ใครมาคนเดียวไม่ต้องกังวลค่ะ ไกด์ใจดีถ่ายรูปให้เสมอ เอากี่แอ็คจัดไปโลด
มาคู่ก็ไม่ต้องพะวง ไกด์เค้าใจดีเช่นเคย (ไกด์น่ารักมากๆ) วันที่เราไปถือว่าโชคดีมากค่ะ คนไม่เยอะ ทุกคนไม่เเย่งกันถ่ายรูปมีความเป็นระเบียบมาก คลื่นลมก็สงบ ลงตัวมากๆเลย
บ๊ายบาย ปิเละ ลากูน
เรือเดินทางต่อมาที่ภูเขาหินปูนด้านหลังอ่าวมาหยา ในบริเวณที่เรียกกันว่า "อ่าวโละซามะ"
บันไดไม้พาดผ่านแนวกำแพงหินเพื่อให้สะดวกในการผ่านอ่าวโละซามะเข้าไปที่อ่าวมาหยาจากทางด้านนี้ของเกาะ ซึ่ง.....ไม่ค่ะ ลำบากเกินไป นั่งเรือไปน่าจะดีกว่า(ล้อเล่นค่า เดี๋ยวไปดูเหตุผลที่เราต้องนั่งเรือไปอ่าวมาหยากันค่ะ)
มาถึงอ่าวมาหยา สถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง The Beach ที่คุณ leonardo dicaprio แสดง
ซึ่งปกติแล้วจะให้นักท่องเที่ยวลงไปดำน้ำและถ่ายรูปได้ แต่....ตอนนี้อ่าวมาหยาปิดค่ะ ด้วยเหตุผลที่ว่า เมื่อมีนักท่องเที่ยวมาจำนวนมาก ธรรมชาติย่อมเสื่อมโทรม (ไม่เเน่ใจว่าจะเปิดอ่าววันที่เท่าไหร่นะคะ จำได้ว่าข่าวบอกไว้ว่า 2 ปี เราไม่ทราบว่าครบกำหนดหรือยัง) แต่เราก็เห็นด้วยที่จะให้มีการฟื้นฟูธรรมชาติค่ะ
เรือสามารถจอดได้ หลังทุ่นไข่ปลาที่เป็นแนวกั้น แต่ไกด์ก็ยังพยายามหามุมสวยๆให้ได้ถ่ายรูปเช่นเคย
ไกด์เล่าให้ฟังว่า มีโครงการจะสร้างท่าเทียบเรืออ่าวโล๊ะซามะ (หลังอ่าวมาหยาที่มีบันไดในรูปที่เเล้ว) เพื่อป้องกันไม่ให้เรือไปจอดเทียบท่าที่หน้าอ่าวแล้วส่งผลกระทบต่อธรรมชาติเหมือนช่วงก่อนปิดอ่าว (เราไม่ได้ตามข่าวโครงการนี้เช่นกัน ใครพอทราบข้อมูล บอกเล่ามาได้เลยนะคะ ไว้เป็นความรู้ค่า)
ไกด์แนะว่าควรถ่ายรูปไว้เยอะๆ เพราะต่อไปเราจะไปดำน้ำดูปะการังกัน
ไกด์พาเราไปดำน้ำที่อ่าวโจร หรือมาหยาน้อย (เราไม่แน่ใจว่าจำถูกไหม ต้องขออภัยด้วยที่ข้อมูลไม่แน่นค่า) มีการสอนใช้ Snorkel ก่อนลงน้ำค่ะ (เลือกได้นะคะ บางคนไม่ดำน้ำก็มีค่า) เราถ่ายวิดีโอใต้น้ำมา ด้วยความที่มือใหม่ เพิ่งจะหัดดำน้ำครั้งแรก หยิบจับอะไรยังไม่ค่ลอง รูปออกมาไม่ดีเลย ขอแก้ตัวรอบหน้าตอนบ่าย
เดินทางต่อเพื่อไปรับประทานอาหารกลางวันที่ เกาะพีพีดอน
ไกด์พาแวะดูน้องลิงก่อนถึงเกาะด้วยค่ะ
ได้ข้อมูลมาว่า ก่อน Covid มา นักท่องเที่ยวเยอะ น้องไม่ออกมานะคะ ยากมากที่จะเจอ แต่ตอนนี้เริ่มมีมาให้เห็นบ้างตัวสองตัว
มาถึงเกาะพีพีดอนแล้ว
เกาะพีพีดอน ถือเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของหมู่เกาะพีพีเลยค่ะ มีโรงแรม ห้องพักร้านอาหาร สะดวก ครบครัน
เรารับประทานอาหารกลางวันซึ่งเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ เจ้าของกระทู้เป็นคนแพ้อาหารทะเล แต่ไม่มีปัญหาอะไรเพราะอาหารหลากหลาย ทั้งต้มยำไก่ ไก่ทอด ผัดผัก ผลไม้ ขนมปัง ของคาวหวานครบเลยค่า (ไม่ได้ถ่ายรูปอาหารมาฝากอีกแล้ว เวลาหิวนี่ลืมตัวจริงๆ
)
หลังมื้อกลางวัน ระหว่างรอไกด์ซึ่งนัดไว้บ่ายโมงกว่าๆ เราสามารถเดินกินลมชมวิวเพื่อดูธรรมชาติที่เกาะพีพีดอนได้ เราว่ามุมถ่ายรูปค่อนข้างเยอะนะคะ มีค่าเฟ่ต์ โขดหิน น้ำทะเลใสๆ บรรยากาศดี ไม่วุ่นวายค่ะ
ได้เวลาออกจากพีพีดอนเเล้ว เราจะไปดำน้ำที่อ่าวโละลาน่ากัน
ระหว่างทางไป ไกด์พาไปดู....จำไม่ได้อีกแล้วววว่าไกด์เรียกว่าอะไร แต่เหมือนมันจะมีช่องที่ดูดน้ำเข้าไปไว้แล้วก็มีแรงดันทำให้น้ำพุ่งออกมาเหมือนน้ำพุเลย เป็นปรากฏการณทางธรรมชาติที่สวยงามมากๆ
ช่วงน้ำพุ่งออกมาแรงๆ (เค้าบอกอันนี้ยังพุ่งน้อยนะคะ)
เศร้าใจ ลืมได้ลืมดี
[
[CR] [Review] เที่ยวกระบี่แบบชิลล์ๆ ฉบับคนมีรถ เที่ยวทั้งทีต้องไปให้คุ้ม.เกาะพีพี.เกาะห้อง.ทะเลหมอกโรแมนติกที่ดินดอยแดงฯลฯ
แม้เวลานี้ จะยังอยู่ในช่วงป้องกันตัวเองให้ห่างไกลจาก Covid-19 แต่ต้องบอกว่าธรรมชาติบ้านเรานั้นได้รับการฟื้นฟูที่ดีขึ้น ส่วนจะดีอย่างไรนั้น คงต้องให้เพื่อนๆดูจากรูปที่เราถ่ายมาค่า
เราเดินทางไปกระบี่โดยรถยนต์ส่วนตัว ด้วยเหตุผลที่ว่า ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเช่ารถ อีกทั้งมีสถานที่ท่องเที่ยวที่อยากไปหลายที่และต้องการชมธรรมชาติข้างทาง แต่ก็ใช้เวลาในการเดินทางมากขึ้นเช่นกัน
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้