=========เมื่อชายหนุ่มสองคนเดินทางจากกทม.ไปภูทับเบิก.... ดันถึง ทับแหลก===========

สืบเนื่องเรื่องราวมาจากกระทู้นี้...
http://ppantip.com/topic/34205610

มุมมองในเรื่องนี้ผมค่อนข้างมองต่างจากหลายๆท่าน...
เอาเป็นว่าเป็นความเห็นส่วนตัวก็แล้วกันนะครับ...

ผมอ่านกระทู้นี้มาตั้งแต่แรก....เริ่มอ่านครั้งแรกก็ยังไม่เข้าใจว่าสองคนนี้ ทำอะไรมีเจตนาอะไร...
อ่านไปก็นึกตำหนิอยู่อยู่ในใจเหมือนที่หลายๆท่านตำหนินั่นแหละ
พออ่านกระทู้จบ ย้อนกลับไปดูหัวกระทู้ใหม่อีกรอบนึง...ก็เลยเข้าใจ....(คิดว่านะ...คิดว่าตัวเองเข้าใจ)

*ก่อนอื่นต้องขออธิบายจุดประสงค์และเจตนารมณ์ในการออกเดินทางครั้งนี้
การเดินทางครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อที่จะเปิดมุมมองใหม่ๆในการโบกรถเที่ยว
เพื่อที่จะต้องการถ่ายทอดความมีน้ำใจของคนไทยให้ได้รับรู้กันว่าคนไทยอีกจำนวนไม่น้อยที่มีน้ำใจ*


บางส่วนจากหัวกระทู้...
ลองอ่านดู แล้วลองพิจารณาตีโจทย์ให้แตก ... เป้าหมายของกระทู้นี้คืออะไร?

เราต้องยอมรับความจริงอย่างหนึ่งว่า สังคมไทยปัจจุบันนี้
เป็นสังคมที่ความเอื้ออาทร ความมีน้ำใจช่วยเหลือซึ่งกันและกัน  เริ่มจะหดหายลงไปทุกขณะ
ความเห็นแก่ตนเริ่มมีบทบาทสูงขึ้นทุกที จนบางครั้งถึงขั้น...แล้งน้ำใจ..

มีให้เห็นมากมาย  ในทุกเรื่องราว

คนสองคน...ต้องการทดสอบสภาวะจิตของผู้คนในสังคมในแง่มุมที่พวกเค้าสงสัย...
และต้องการพิสูจน์ความสงสัยนั้นว่า มันเป็นจริงหรือไม่...

บทพิสูจน์มันจึงต้องเริ่มต้น
แน่นอนละว่า บทพิสูจน์มันมีหลายรูปแบบ ทำได้หลายอย่างหลายวิธี
แต่เค้าสองคนเลือกวิธีนี้....

แต่บทพิสูจน์ในเรื่องนี้ไม่ว่าจะใช้วิธีไหนก็ตาม  มันหนีไม่พ้น คือเรื่องของการ...เบียดเบียน...
เบียดเบียน  เพื่อให้ผู้ที่ถูกเบียดเค้าแสดงความรู้สึกออกมาให้ชัด  ว่ายินดี หรือ ไม่ยินดี ต่อการให้ความช่วยเหลือ

ตรงนี้คือการตอบโจทย์

แต่อย่าลืมว่า การกระทำของคนสองคนนี้ กระทำเพื่อพิสูจน์ความจริง
แล้วนำมาตีแผ่ต่อสังคมให้รับรู้ถึงสิ่งที่เค้าสองคนประสบมา

เป็นถ่ายทอดให้สังคมได้รับรู้ว่า  สิ่งดียังมีอยู่  น้ำใจที่ใสสะอาดของผู้คน ยังมีอยู่
ดังนั้นใครก็ตาม ไม่อาจใช้คำสบประมาทได้เลยว่า...."คนไทยแล้งน้ำใจ"


ลองพิจารณา คำเปรยหัวกระทู้ของเค้าดูอีกสักครั้ง แล้วจะเข้าใจ...!!
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่