ไม่ได้จิก่อดราม่านะคะ 55555
จขกท มโนไปเองล้วนๆ (อย่าเพิ่งด่านะ อ่านก่อน ใจเย็นๆ ลงไปอ่าน
Spoil ก่อน ละค่อยไปถกกันหลังกระทู้)
จขกท เล่น FF7 เล่นผ่านๆ ทีเดียว ไม่ได้อิน เพราะไม่ค่อยชอบคลาวด์เท่าไร 555555
ปกติ จขกท เป็นผญ จิตตกอยู่แล้ว เลยไม่ชอบกับพระเอกจิตตกแบบนี้ง่ะ
เห็นหลังทีเซอออก แฟนสองฝั่งเถียงกันเลือดเดือดเรื่องแอริธจะคืนชีพ (ไม่ใช่แค่ในไทยนะคะ)
ฝั่งอวยทีฟาก็บอกว่าทีฟาเป็นคนที่อยู่ข้างๆ นางเป็น "เด็กหญิงผู้รอดชีวิต (แน่ะ เลียนแบบแฮร์รี่มันซะเลย)"
ฝั่งอวยแอริธก็บอกว่าแอริธเป็นรักแรก นางเป็นคนที่คลาวด์รักอยู่ นางควรได้รับการชุบชีวิตตตต นางต้องฟื้นนน
หรือเป็น Forever Love แบบที่คลาวด์ไม่ได้คู่กับทีฟา
คลาวด์จึงเป็นพระเอกที่น่าเซงมากสำหรับสาวติดเกมส์นิสัยแบบเรา (ถ้าเล่นเป็นตัวคลาวด์เองจะชอบนะ)
5555 (โดยส่วนตัวแอบเอียงไปทางแม่ยกทีฟา เพราะนางคอยดูแลอยู่ข้างๆตลอด แต่เชื่อเถอะผู้ชายร้อยละ 80 จะเป็นพ่อยกแอริธ)
อิดราม่ารักสามเศร้าดูท่าจะไม่จบใน 5 ปี 10 ปีนี้หรอกค่ะ เพราะมันดราม่ามาจะ 20 ปีแล้วล่ะ
สแควร์เองยังไม่ยอมตอบให้เบย ต่อให้ซ่อนนัยยะไว้บ่อยๆ หรอยความทรงจำคนนู้นนิด คนนี้หน่อย แต่ก็ยังทำปมไว้ไม่เคลียร์
แต่ จขกท คิดว่า แอริธก็คือความรักที่จบไปแล้วต่อให้จะยังรักอยู่ หรือรักแค่ไหน นางก็ตายไปแล้ว T T
(ตอนเล่น จขกท ช๊อคมากบอกตง แบบ เฮ๊ยยย ไอเทมมมม ตูล่ะ)
ยิ่งเจอแวบๆใน AC ที่นางโผล่มาในจิตใต้สำนึกคลาวด์ก็ยิ่งมั่นใจว่า แอริธจากไปแล้วว ไปกับแซค ล้าววว
แค่คลาวด์ยังรู้สึกรับไม่ได้ รู้สึกผิด
ที่ปกป้องนางไม่ได้ (ถึงขั้นเห็นภาพหลอน) ก็เท่านั้นแหละ
Aerith : You see? Everything's alright.
Cloud : I know. I'm not alone.......not anymore.
(คือตอนท้ายนางก็ยอมรับได้ว่า นางควรอยู่กับปัจจุบัน และไม่ได้อยู่คนเดียวถึงแม้ว่าแอริธจะจากไปแล้ว)
เราคิดว่าสตอรี่จบตรงนี้นะ
Square มักสอนถึงการยอมรับกับปัจจุบัน เกมส์ถึงแมร่งโครตดราม่า
เพราะชีวิตจริง ความเป็นจริงของปัจจุบัน มันดราม่าไง ไม่มีรักนิรันดร์ ไม่มีอัศวินกู้โลก
มีแต่ใช้ชีวิตอยู่อย่างมีความสุขในแบบของตัวเองต่อไป สู้กับใจตัวเองล้วนๆ ยอมรับให้ได้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราคิดว่างั้นนะ
พอดี๊ พอดี ไปเห็นกระทู้ขนนก -...- สีดำ สีแดง ไรนั่น เลยสะกิดขึ้นมาได้
มาวิเคราะห์กันแบบฉบับของ จขกท ดีกว่า เอาความจริงมาแกะทีละประโยค (แบบที่ชอบทำ)
เฉพาะแค่ในทีเซอร์ละกัน
Long ago, we looked upon a foreboding sky.
เมื่อนานมาแล้ว มนุษย์เหม่อมองไปยังท้องฟ้าในยามที่สังหรณ์ว่าจะมีเหตุร้ายเกิดขึ้น
The memory of the star that threatened all, burns eternal in our hearts.
ความทรงจำของดวงดาวที่ยังคมข่มขู่, เผาไหม้ภายในจิตใจของพวกเราอยู่นิจนิรันดร์
In its wake, came an age of silence.
เมื่อมันได้ตื่นขึ้น, ก็ได้นำยุคมืดที่แสนเงียบงันมาเยือน
Yet with each fond remembrance, we knew.
Those encountered, were not forgotten.
ยังคงมีการละลึกถึงความรักความสนุกสนานเหล่านั้น, พวกเราต่างรู้ดี
ผู้ที่เคยได้สัมผัส, ไม่มีทางที่จะลืมเลือน
That someday, we would see them again.
Perhaps it was no more than wishful thinking.
แล้วในวันนึง, พวกเราก็จะพบกับพวกเขาอีกครั้ง
บางทีมันอาจจะไม่มีนอกไปกว่าความคิดถึงอย่างปรารถนา
But after the long calm, there are now the beginnings of a stir.
The reunion at hand may bring joy, it may bring fear.
But let us embrace whatever it brings.
แต่ในท้ายที่สุดหลังจากความสงบสุขอันยาวนาน, ณ เวลานี้มีการเริ่มต้นสัญญาณของการเคลื่อนไหว
การพบกันใหม่อีกครั้งอาจนำมาซึ่งความสุขสนุกสนาน, หรืออาจนำมาซึ่งความหวาดหวั่นพรั่นพรึง
แต่ให้พวกเราได้เป็นส่วนหนึ่งนั้น กับอะไรก็ตามที่จะเกิดขึ้น
<พูดง่ายๆว่ายอมรับเหอะค๊าบ>
For they are coming back.
การหวนกลับมาอีกครั้ง
At last, the promise has been made.
(ประโยคนี้แปลเป็นไทยไม่ได้จริงๆ)
- ในท้ายที่สุดนี้, คำสัญญาก็ได้ถูกรักษาไว้
- ในท้ายที่สุดนี้, คำสัญญาที่ให้ไว้ ก็ได้ถูกทำแล้ว
- คือเอาเป็นว่า Square รักษาสัญญา Remake แล้ว จบนะคะ 5555555555555555555555555
ด้านล่างนี้เป็นแปลทีเซอร์แบบซ่อนนัยยะ ฉบับเจ้าของกระทู้ (แนะนำให้อ่านนะคะ แต่ไม่บังคับ) 5555
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
Long ago, we looked upon a foreboding sky.
<ณ จุดนี้ คิดว่า สแควร์พยายามอินโทรให้เข้าเรื่องเฉยๆ ไม่มีอะไร และคิดว่าเชื่อว่า
เงามืดที่ปรากฏบนท้องฟ้านั้นสามารถบอกเหตุลางร้ายลางดีได้ (นางจะได้เงินเป็นกอบเป็นกำ หรือก่นด่าจากแฟนคลับ)
ก็คงสุดแล้วแต่ดวงแต่เวร แต่กรรม 555555555>
The memory of the star that threatened all, burns eternal in our hearts.
<แฟนคลับไฟนอล 7 ที่เคยได้เล่นสตอรี่นี้ ยังคงอิน และอยากจะเล่นอีกครั้ง
เห็นเรียกร้องกันมาซะเหลือเกิน ก็บอกว่าไม่ทำแล้วๆๆๆ เพราะมันทำยากกกก
เห็นป้ายบอกทางไม๊ เกทเจ็ด ทางนู้นเลยครับ>
In its wake, came an age of silence.
<จนพวกแฟนเกมส์ โปรแกรมเมอร์ชั้นเซียนในโลกใบนี้ทั้งหลายเริ่มรีบิวด์
รีเมคลงรายละเอียดแล้วแจกกันโหลดฟรีโครมๆจนเริ่มอยู่นิ่งๆไม่ได้
เพราะรู้สึกเสียกำไร ขาดรายได้ที่สมควรได้รับแล้วน่ะแหละ เงินทั้งนั้น!!! เขียวๆนั่นอ่ะ>
Yet with each fond remembrance, we knew.
Those encountered, were not forgotten.
That someday, we would see them again.
Perhaps it was no more than wishful thinking.
<พวกที่ติดตราตรึงใจในความสนุกของเนื้อเรื่อง และผู้ที่เคยเล่น
แล้ววันนึงที่อยากจะพบกับตัวละครบางตัวอีกครั้ง ซึ่งคงไม่มีอะไรมากไปกว่าความคิดถึงและปรารถนาที่จะพบ
ยกตัวอย่างเช่น แอริธ สาวดอกไม้ที่ถูกสั่งตายแล้วตายซ้ำ กลับมาได้แค่เพียงความฝัน
ก็ถูกบริษัทสแควร์จับกลับมารีโมเดลใหม่ (แอริธอาจเป็นคนรักของใครซักคนในทีมผู้จัดทำก็ได้นะ)
แต่เป็นสิ่งที่แน่นอนว่าแอริธลูกรัก ต้องออกมาหน้าตาสวยงามขั้นสุด จขกท ฟันธง
เพราะถึงขั้นใช้คำว่า wishful thinking >
But after the long calm, there are now the beginnings of a stir.
The reunion at hand may bring joy, it may bring fear.
But let us embrace whatever it brings.
<แต่หลังจากที่สแควร์อิ่มเอมเปรมปรีกับธุรกิจหลากหลายกระทั่ง Cafe นิ่งๆมาตั้งนานแล้วก็
ออกเกมส์ใหม่มาเจ๊งโครมๆ เนื่องด้วยขายจากชื่อ Final Fantasy (โอเคสตอรี่ก็มีดี แต่ไม่ฟินเท่ารุ่นเก่า)
พวกแฟนคลับแก่ๆก็เรียกร้องให้ความสงบนั้นยุติลง Stir แปลว่ากวน คน แกว่ง หรือเริ่มขยับเคลื่อนไหว
การรวมตัวกัน (รียูเนียน) ไม่ว่าจะหมายถึงในเชิงของผู้จัดทำ หรือตัวละคร สามารถที่จะนำมาซึ่งความสนุกสนาน
หรือความเจ๊งกระบ้ง (หรือถูกก่นด่าจากแฟนคลับ)ได้หมด ซึ่งพวกเราก็ต้องยอมรับสิ่งนี้ 555555
ใช้คำว่า embrace ที่แปลว่า โอบอุ้ม เบยอ่ะ คิดดู๊วว
คหสต เกมส์ยุคก่อน จะมีจิตนาการสูง เพราะภาพไม่ชัด ตัวต่อเลโก้ รวมทั้ง World Map ที่เปิดกว้าง
ขนาดภาพเลโก้เลโก้ทั้งหลาย ยังกินแผ่นดิสก์เยอะมาก ในการเปิด Open Map ซึ่งในการผูกเรื่อง
ของ FF VII / FF VIII / FF IX / FF X ที่แฟนๆเรียกร้องให้ Re-make แต่ให้คงสเต็ปการเล่นแบบเดิมนั้น
แทบจะไม่มีความสามารถจากคอมพิวเตอร์ตัวไหนมารองรับความละเอียด ของกราฟฟิคที่ต้องเอามารวมๆกัน
อย่างสวยสดงดงามเลย (อาจต้องใช้เมนเฟรมแบบตู้เย็นกันเลยทีเดียว)
และถ้าทำไม่ดี ละเอียด กราฟฟิคไม่สมใจแฟนๆ ก็จะถูกด่าอีกเช่นกัน 555 ซึ่งยอมรับว่าค่อนข้างยากสำหรับสแควร์มากๆ
นอคติสพี่ถึงยังเป็นหมันแล้วเป็นหมันอีก (คือสแควร์ทำได้ แต่คนเล่นซื้อเครื่องอ่านมาเล่นไม่ได้)
เพราะหลังจากที่เราแกะเกมส์ FF9 เราพบว่า Final เก่าๆ แอบซ่อนบท ซ่อนของ ซ่อนฉาก ซ่อนไอเทม
ซ่อนอะไรไว้เยอะมากๆ มากจนนึกไม่ถึงเลย ในการเลือกคำตอบแต่ละตัวเลือก
แล้วลูกรักที่ทำให้ดังไปทั่วโลกอย่าง FF VII ไม่มีทางที่สแควร์จะทำออกมาชุ่ยๆได้ คือห้ามชุ่ยเลย
ไม่งั้นคือเละ นางถึงบอกอยู่สงบๆก็ไม่ได้ 555>
For they are coming back.
At last, the promise has been made.
< แต่ช่างมันเถอะ สุดท้าย(สแควร์) ก็ทำตามสัญญาแล้วล่ะนะ รอดูกันเถอะค่ะ >
คหสต ภาพขนนกข้างดอกไม้นั่น น่าจะหมายถึง ดาบ-เสียบ-อก-แอริธ อีกครั้งที่กราฟฟิคชัดขึ้น สวยงามขึ้น
และคงจะเป็นฝันร้ายของเกมส์เมอร์อย่างน่าจดจำอีกครั้ง สแควร์แค่ออกมาเตือนเบาะๆแค่นั้นแหละ >w<
แบบ อยากเจอนักใช่ไหม ได้!เอาไปเลยยย ชัดๆ จะๆ
ปล. เงาในน้ำนั่นเป็นรูปปั้นนางฟ้าปีกข้างเดียว หรือก็คือ One wing angle นะจ๊ะ
Final Fantasy VII Remake - การซ่อนนัยยะของ Square Enix
จขกท มโนไปเองล้วนๆ (อย่าเพิ่งด่านะ อ่านก่อน ใจเย็นๆ ลงไปอ่าน Spoil ก่อน ละค่อยไปถกกันหลังกระทู้)
จขกท เล่น FF7 เล่นผ่านๆ ทีเดียว ไม่ได้อิน เพราะไม่ค่อยชอบคลาวด์เท่าไร 555555
ปกติ จขกท เป็นผญ จิตตกอยู่แล้ว เลยไม่ชอบกับพระเอกจิตตกแบบนี้ง่ะ
เห็นหลังทีเซอออก แฟนสองฝั่งเถียงกันเลือดเดือดเรื่องแอริธจะคืนชีพ (ไม่ใช่แค่ในไทยนะคะ)
ฝั่งอวยทีฟาก็บอกว่าทีฟาเป็นคนที่อยู่ข้างๆ นางเป็น "เด็กหญิงผู้รอดชีวิต (แน่ะ เลียนแบบแฮร์รี่มันซะเลย)"
ฝั่งอวยแอริธก็บอกว่าแอริธเป็นรักแรก นางเป็นคนที่คลาวด์รักอยู่ นางควรได้รับการชุบชีวิตตตต นางต้องฟื้นนน
หรือเป็น Forever Love แบบที่คลาวด์ไม่ได้คู่กับทีฟา
คลาวด์จึงเป็นพระเอกที่น่าเซงมากสำหรับสาวติดเกมส์นิสัยแบบเรา (ถ้าเล่นเป็นตัวคลาวด์เองจะชอบนะ)
5555 (โดยส่วนตัวแอบเอียงไปทางแม่ยกทีฟา เพราะนางคอยดูแลอยู่ข้างๆตลอด แต่เชื่อเถอะผู้ชายร้อยละ 80 จะเป็นพ่อยกแอริธ)
อิดราม่ารักสามเศร้าดูท่าจะไม่จบใน 5 ปี 10 ปีนี้หรอกค่ะ เพราะมันดราม่ามาจะ 20 ปีแล้วล่ะ
สแควร์เองยังไม่ยอมตอบให้เบย ต่อให้ซ่อนนัยยะไว้บ่อยๆ หรอยความทรงจำคนนู้นนิด คนนี้หน่อย แต่ก็ยังทำปมไว้ไม่เคลียร์
แต่ จขกท คิดว่า แอริธก็คือความรักที่จบไปแล้วต่อให้จะยังรักอยู่ หรือรักแค่ไหน นางก็ตายไปแล้ว T T
(ตอนเล่น จขกท ช๊อคมากบอกตง แบบ เฮ๊ยยย ไอเทมมมม ตูล่ะ)
ยิ่งเจอแวบๆใน AC ที่นางโผล่มาในจิตใต้สำนึกคลาวด์ก็ยิ่งมั่นใจว่า แอริธจากไปแล้วว ไปกับแซค ล้าววว
แค่คลาวด์ยังรู้สึกรับไม่ได้ รู้สึกผิด ที่ปกป้องนางไม่ได้ (ถึงขั้นเห็นภาพหลอน) ก็เท่านั้นแหละ
Aerith : You see? Everything's alright.
Cloud : I know. I'm not alone.......not anymore.
(คือตอนท้ายนางก็ยอมรับได้ว่า นางควรอยู่กับปัจจุบัน และไม่ได้อยู่คนเดียวถึงแม้ว่าแอริธจะจากไปแล้ว)
เราคิดว่าสตอรี่จบตรงนี้นะ
Square มักสอนถึงการยอมรับกับปัจจุบัน เกมส์ถึงแมร่งโครตดราม่า
เพราะชีวิตจริง ความเป็นจริงของปัจจุบัน มันดราม่าไง ไม่มีรักนิรันดร์ ไม่มีอัศวินกู้โลก
มีแต่ใช้ชีวิตอยู่อย่างมีความสุขในแบบของตัวเองต่อไป สู้กับใจตัวเองล้วนๆ ยอมรับให้ได้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราคิดว่างั้นนะ
พอดี๊ พอดี ไปเห็นกระทู้ขนนก -...- สีดำ สีแดง ไรนั่น เลยสะกิดขึ้นมาได้
มาวิเคราะห์กันแบบฉบับของ จขกท ดีกว่า เอาความจริงมาแกะทีละประโยค (แบบที่ชอบทำ)
เฉพาะแค่ในทีเซอร์ละกัน
Long ago, we looked upon a foreboding sky.
เมื่อนานมาแล้ว มนุษย์เหม่อมองไปยังท้องฟ้าในยามที่สังหรณ์ว่าจะมีเหตุร้ายเกิดขึ้น
The memory of the star that threatened all, burns eternal in our hearts.
ความทรงจำของดวงดาวที่ยังคมข่มขู่, เผาไหม้ภายในจิตใจของพวกเราอยู่นิจนิรันดร์
In its wake, came an age of silence.
เมื่อมันได้ตื่นขึ้น, ก็ได้นำยุคมืดที่แสนเงียบงันมาเยือน
Yet with each fond remembrance, we knew.
Those encountered, were not forgotten.
ยังคงมีการละลึกถึงความรักความสนุกสนานเหล่านั้น, พวกเราต่างรู้ดี
ผู้ที่เคยได้สัมผัส, ไม่มีทางที่จะลืมเลือน
That someday, we would see them again.
Perhaps it was no more than wishful thinking.
แล้วในวันนึง, พวกเราก็จะพบกับพวกเขาอีกครั้ง
บางทีมันอาจจะไม่มีนอกไปกว่าความคิดถึงอย่างปรารถนา
But after the long calm, there are now the beginnings of a stir.
The reunion at hand may bring joy, it may bring fear.
But let us embrace whatever it brings.
แต่ในท้ายที่สุดหลังจากความสงบสุขอันยาวนาน, ณ เวลานี้มีการเริ่มต้นสัญญาณของการเคลื่อนไหว
การพบกันใหม่อีกครั้งอาจนำมาซึ่งความสุขสนุกสนาน, หรืออาจนำมาซึ่งความหวาดหวั่นพรั่นพรึง
แต่ให้พวกเราได้เป็นส่วนหนึ่งนั้น กับอะไรก็ตามที่จะเกิดขึ้น
<พูดง่ายๆว่ายอมรับเหอะค๊าบ>
For they are coming back.
การหวนกลับมาอีกครั้ง
At last, the promise has been made.
(ประโยคนี้แปลเป็นไทยไม่ได้จริงๆ)
- ในท้ายที่สุดนี้, คำสัญญาก็ได้ถูกรักษาไว้
- ในท้ายที่สุดนี้, คำสัญญาที่ให้ไว้ ก็ได้ถูกทำแล้ว
- คือเอาเป็นว่า Square รักษาสัญญา Remake แล้ว จบนะคะ 5555555555555555555555555
ด้านล่างนี้เป็นแปลทีเซอร์แบบซ่อนนัยยะ ฉบับเจ้าของกระทู้ (แนะนำให้อ่านนะคะ แต่ไม่บังคับ) 5555
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
คหสต ภาพขนนกข้างดอกไม้นั่น น่าจะหมายถึง ดาบ-เสียบ-อก-แอริธ อีกครั้งที่กราฟฟิคชัดขึ้น สวยงามขึ้น
และคงจะเป็นฝันร้ายของเกมส์เมอร์อย่างน่าจดจำอีกครั้ง สแควร์แค่ออกมาเตือนเบาะๆแค่นั้นแหละ >w<
แบบ อยากเจอนักใช่ไหม ได้!เอาไปเลยยย ชัดๆ จะๆ
ปล. เงาในน้ำนั่นเป็นรูปปั้นนางฟ้าปีกข้างเดียว หรือก็คือ One wing angle นะจ๊ะ