ผมเพิ่งซื้อคอนโดที่นี่ได้ไม่นานครับ ชอบที่ใกล้ที่ทำงานครับ
ส่วนกลางที่นี่จะมีสระว่ายน้ำอยู่บริเวณชั้น5ของอาคารครับ ด้านหนึ่งของสระน้ำ ทางโครงการได้ทำเป็นห้องนั่งเล่นให้กับลูกบ้าน เพื่อผู้ปกครองอาจจะนั่งดูลูกหลานเล่นสระน้ำได้ในห้องนั่งเล่น เห็นสระน้ำรอบบริเวณ เพราะผนังของห้องเป็นกระจกทั้งสามด้าน
แต่วันนี้(วันอาทิตย์ เวลาประมาณ15.00)
ปัญหามาเกิดจาก ลูกบ้านผู้หญิงคนนึงที่มาใช้บริการห้องนั่งเล่น เค้าไม่นั่งเล่นธรรมดา แต่กลับนอนบนโซฟา เปิดแอร์เย็นฉ่ำ ตอนบ่ายสามโมงเย็น
มันดูเหมือนห้องส่วนตัวมาก ถ้าใครมาซื้อห้องที่นี่แล้วมาดูพื้นที่ส่วนกลางคงตกใจ ผมนั่งอยู่ด้านนอก เห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง คนเดินผ่านไปผ่านมา มีแต่คนชี้ถึงพฤติกรรมผู้หญิงคนนี้ และพูดว่า ทำไม เค้านอนแบบนี้ ทำไมต้องปิดไฟมืดๆ แล้วนอน แล้วคนอื่นจะกล้าใช้ได้ไง มีแต่คนพูดแบบนี้ผ่านหลังผมไปมาตลอด
สักพักผู้หญิงคนนี้ปิดไฟห้องนั่งเล่นเพิ่ม ในส่วนด้านหน้าที่เค้านอน แล้วปิดม่านทั้งห้องแล้วนอนแบบจิงๆจังๆในห้องนั่งเล่น โดยไม่สนใจว่าใครจะกล้ามาใช้ห้องนี้ร่วมด้วยหรือไม่
ผมว่ามันผิดปกติและ ในห้องนี้ยังมีผู้ชายอยู่อีกคน
มันไม่ใช่ห้องส่วนตัวนะที่จะปิดไฟนอนกันในห้องนั่งเล่น
ผมเดินไปหาเจ้าหน้าที่ คอนโด ที่นั่งเฝ้าตรงสระน้ำ ถามพี่เค้าเลย
"พี่ครับ ทำไมห้องนั่งเล่น พี่ถึงปล่อยลูกบ้านคนนั้นปิดไฟปิดม่าน นอนเล่นกันส่วนตัวกันในห้องนั่งเล่นส่วนรวมล่ะครับ แล้วใครจะกล้าใช้ห้องนั้นร่วมกันกับเค้าล่ะครับ"
พี่เค้าตอบผมว่า
"น้องคะ อย่าให้พี่ทำไรเลยค่ะ พี่ไปเตือนเค้าว่าอย่าเอาอาหารเครื่องดื่มมาทานในห้องนั่งเล่นเพราะมันมีกลิ่น
เค้าก็ไปร้องเรียนนิติ บีบพี่ ให้พี่ออกจากงาน ไม่กี่วันพี่ก็ต้องออกแล้วค่ะ พี่ไม่มีกำลังใจจะทำอะไรแล้วค่ะ พี่คงไม่พูดไรกับเค้าแล้วค่ะ น้องเข้าใจพี่นะคะ พี่ขอโทษนะคะ ยังไงลูกบ้านก็ถูกตลอดค่ะ พี่ก็แค่ยาม จะไปสู้อะไร ถ้าลงมติว่าพี่ผิด พี่ก็ต้องผิดค่ะ"
"เฮ้ยพี่ ไม่ถูกนะ ยามก็คน ลูกบ้านก็คน
ถ้าพี่ไม่พูด ผมจัดการเองพี่"
ผมเดินกลับเข้าไปในห้องนั่งเล่นทันที
ไม่สนหมาจะหลับ ควายจะนอน ผมเปิดม่านสองทิศทันที ยกเว้นฝั่งที่แดดส่อง แล้วนั่งบนโซฟาติดกับตัวที่มีสิ่งแปลกปลอมนอนอยู่ พร้อมกับพูดแกล้งพูดโทรศัพท์เสียงดังกว่าปกตินิดนึง
"เออๆ กรูมาดูห้องนั่งเล่นและ มานั่งได้เลย ไม่ใช่ม่านรูดอย่างที่แกเข้าใจ มันห้องส่วนรวมแกจะกัวอะไรกับไอ้พวกไม่เกรงใจคนอื่น สิงนอนแอร์ส่วนรวม"
มีสะดุ้งคับ หันมามองคงนึกว่ายามมาเปิด แต่เสียใจลูกบ้านเหมือนกันจ่ายเงินเหมือนกัน ผมไม่เกรงใจกับคนแบบนี้นะ
จ้องหน้าเป็นจ้อง
สักพักเริ่มรู้สึกอาย ค่อยๆเก็บผ้าห่มเดินออกไป
ผมเดินกลับไปคุยกับเจ้าหน้าที่ต่อ พี่เค้าก็ถามว่า เค้าว่าไรน้องไหม
"จะว่าไรพี่ ผมก็จ่ายตังซื้อห้องผมก็ลูกบ้าน ลูกบ้านไม่ใช่พระเจ้าพี่ คนดูถูกคน ทั้งๆที่พี่พยายามทำให้ทุกคนอยู่ในสังคมอย่างเป็นระเบียบ เค้ายังร้องเรียนนิติหาว่าพี่พูดไม่ดีกับเค้า ผมไม่เก็บคนแบบนี้ไว้หรอกพี่ ผมเจอพี่กี่ครั้ง พี่ก็ทำงานดี นิติก็บ้าจี้ เข้าข้างลูกบ้านเกินไป"
นี่คือหนึ่งปัญหาที่ถ้าอยู่คอนโดจะต้องเจอลูกบ้านที่ไม่เข้าใจวิธีการใช้พื้นที่ส่วนกลางร่วมกันกับลูกบ้านท่านอื่นอย่างผู้ดีที่เค้าทำกัน
ทางแก้ คือ ทำใจ หรือ เข้าไปแก้ใข
เมื่อไหร่คนเราจะเข้าใจหน้าที่ของตัวเองเมื่ออยู่กับคนอื่นในสังคมนะ
นิติ จะแก้ปัญหาแบบนี้ยังไง เชื่อลูกบ้านร้องเรียนเจ้าหน้าที่ที่มาห้ามนอนปิดม่านเป็นห้องส่วนตัว หรือจะช่วยเจ้าหน้าที่ดูแลสังคมเดอะทรัสต์ให้น่าอยู่กว่านี้
เลือกเอา
(รายงานความคืบหน้าครั้งที่ 1 ในความเห็นที่ 44 ครับ)
การใช้พื้นที่ส่วนกลางของลูกบ้านบางคนในเดอะทรัสต์ งามวงศ์วาน
ส่วนกลางที่นี่จะมีสระว่ายน้ำอยู่บริเวณชั้น5ของอาคารครับ ด้านหนึ่งของสระน้ำ ทางโครงการได้ทำเป็นห้องนั่งเล่นให้กับลูกบ้าน เพื่อผู้ปกครองอาจจะนั่งดูลูกหลานเล่นสระน้ำได้ในห้องนั่งเล่น เห็นสระน้ำรอบบริเวณ เพราะผนังของห้องเป็นกระจกทั้งสามด้าน
แต่วันนี้(วันอาทิตย์ เวลาประมาณ15.00)
ปัญหามาเกิดจาก ลูกบ้านผู้หญิงคนนึงที่มาใช้บริการห้องนั่งเล่น เค้าไม่นั่งเล่นธรรมดา แต่กลับนอนบนโซฟา เปิดแอร์เย็นฉ่ำ ตอนบ่ายสามโมงเย็น
มันดูเหมือนห้องส่วนตัวมาก ถ้าใครมาซื้อห้องที่นี่แล้วมาดูพื้นที่ส่วนกลางคงตกใจ ผมนั่งอยู่ด้านนอก เห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง คนเดินผ่านไปผ่านมา มีแต่คนชี้ถึงพฤติกรรมผู้หญิงคนนี้ และพูดว่า ทำไม เค้านอนแบบนี้ ทำไมต้องปิดไฟมืดๆ แล้วนอน แล้วคนอื่นจะกล้าใช้ได้ไง มีแต่คนพูดแบบนี้ผ่านหลังผมไปมาตลอด
สักพักผู้หญิงคนนี้ปิดไฟห้องนั่งเล่นเพิ่ม ในส่วนด้านหน้าที่เค้านอน แล้วปิดม่านทั้งห้องแล้วนอนแบบจิงๆจังๆในห้องนั่งเล่น โดยไม่สนใจว่าใครจะกล้ามาใช้ห้องนี้ร่วมด้วยหรือไม่
ผมว่ามันผิดปกติและ ในห้องนี้ยังมีผู้ชายอยู่อีกคน
มันไม่ใช่ห้องส่วนตัวนะที่จะปิดไฟนอนกันในห้องนั่งเล่น
ผมเดินไปหาเจ้าหน้าที่ คอนโด ที่นั่งเฝ้าตรงสระน้ำ ถามพี่เค้าเลย
"พี่ครับ ทำไมห้องนั่งเล่น พี่ถึงปล่อยลูกบ้านคนนั้นปิดไฟปิดม่าน นอนเล่นกันส่วนตัวกันในห้องนั่งเล่นส่วนรวมล่ะครับ แล้วใครจะกล้าใช้ห้องนั้นร่วมกันกับเค้าล่ะครับ"
พี่เค้าตอบผมว่า
"น้องคะ อย่าให้พี่ทำไรเลยค่ะ พี่ไปเตือนเค้าว่าอย่าเอาอาหารเครื่องดื่มมาทานในห้องนั่งเล่นเพราะมันมีกลิ่น
เค้าก็ไปร้องเรียนนิติ บีบพี่ ให้พี่ออกจากงาน ไม่กี่วันพี่ก็ต้องออกแล้วค่ะ พี่ไม่มีกำลังใจจะทำอะไรแล้วค่ะ พี่คงไม่พูดไรกับเค้าแล้วค่ะ น้องเข้าใจพี่นะคะ พี่ขอโทษนะคะ ยังไงลูกบ้านก็ถูกตลอดค่ะ พี่ก็แค่ยาม จะไปสู้อะไร ถ้าลงมติว่าพี่ผิด พี่ก็ต้องผิดค่ะ"
"เฮ้ยพี่ ไม่ถูกนะ ยามก็คน ลูกบ้านก็คน
ถ้าพี่ไม่พูด ผมจัดการเองพี่"
ผมเดินกลับเข้าไปในห้องนั่งเล่นทันที
ไม่สนหมาจะหลับ ควายจะนอน ผมเปิดม่านสองทิศทันที ยกเว้นฝั่งที่แดดส่อง แล้วนั่งบนโซฟาติดกับตัวที่มีสิ่งแปลกปลอมนอนอยู่ พร้อมกับพูดแกล้งพูดโทรศัพท์เสียงดังกว่าปกตินิดนึง
"เออๆ กรูมาดูห้องนั่งเล่นและ มานั่งได้เลย ไม่ใช่ม่านรูดอย่างที่แกเข้าใจ มันห้องส่วนรวมแกจะกัวอะไรกับไอ้พวกไม่เกรงใจคนอื่น สิงนอนแอร์ส่วนรวม"
มีสะดุ้งคับ หันมามองคงนึกว่ายามมาเปิด แต่เสียใจลูกบ้านเหมือนกันจ่ายเงินเหมือนกัน ผมไม่เกรงใจกับคนแบบนี้นะ
จ้องหน้าเป็นจ้อง
สักพักเริ่มรู้สึกอาย ค่อยๆเก็บผ้าห่มเดินออกไป
ผมเดินกลับไปคุยกับเจ้าหน้าที่ต่อ พี่เค้าก็ถามว่า เค้าว่าไรน้องไหม
"จะว่าไรพี่ ผมก็จ่ายตังซื้อห้องผมก็ลูกบ้าน ลูกบ้านไม่ใช่พระเจ้าพี่ คนดูถูกคน ทั้งๆที่พี่พยายามทำให้ทุกคนอยู่ในสังคมอย่างเป็นระเบียบ เค้ายังร้องเรียนนิติหาว่าพี่พูดไม่ดีกับเค้า ผมไม่เก็บคนแบบนี้ไว้หรอกพี่ ผมเจอพี่กี่ครั้ง พี่ก็ทำงานดี นิติก็บ้าจี้ เข้าข้างลูกบ้านเกินไป"
นี่คือหนึ่งปัญหาที่ถ้าอยู่คอนโดจะต้องเจอลูกบ้านที่ไม่เข้าใจวิธีการใช้พื้นที่ส่วนกลางร่วมกันกับลูกบ้านท่านอื่นอย่างผู้ดีที่เค้าทำกัน
ทางแก้ คือ ทำใจ หรือ เข้าไปแก้ใข
เมื่อไหร่คนเราจะเข้าใจหน้าที่ของตัวเองเมื่ออยู่กับคนอื่นในสังคมนะ
นิติ จะแก้ปัญหาแบบนี้ยังไง เชื่อลูกบ้านร้องเรียนเจ้าหน้าที่ที่มาห้ามนอนปิดม่านเป็นห้องส่วนตัว หรือจะช่วยเจ้าหน้าที่ดูแลสังคมเดอะทรัสต์ให้น่าอยู่กว่านี้
เลือกเอา
(รายงานความคืบหน้าครั้งที่ 1 ในความเห็นที่ 44 ครับ)