สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 35
แจมด้วยครับเพลงของ Peter Paul & Mary
จำไม่ได้ว่าเคยแจมเพลงนี้หรือยัง แต่เวอร์ชั่น
นี้คิดว่าไม่เคยเอามาลง
" The Cruel War "
เมื่อหนุ่มคนรักต้องเข้าสงคราม สาวคนรักห่วงใยขอเฝ้า
ติดตามไป แต่หนุ่มพร่ำปฏิเสธ จนสาวต้องบอกว่าความ
รักที่เธอมีต่อเขา มันมากเกินกว่าสิ่งใดจะบรรยายได้ จึง
ทำให้เขายอมให้เธอตามติดไปได้..
The Cruel War is raging, Johnny has to fight
I want to be with him from morning to night.
I want to be with him, it grieves my heart so,
Won't you let me go with you?
No, my love, no.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
Oh Johnny, oh Johnny, I fear you are unkind
I love you far better than all of mankind.
I love you far better than words can e're express
Won't you let me go with you?
...Yes, my love, yes.
เพื่อให้เข้าบรรยากาศ ขอแจมด้วยภาพเครื่องบินรบไปพ่น
จากงานวันเด็กครับ
Yes, My Love, Yes.
จำไม่ได้ว่าเคยแจมเพลงนี้หรือยัง แต่เวอร์ชั่น
นี้คิดว่าไม่เคยเอามาลง
" The Cruel War "
เมื่อหนุ่มคนรักต้องเข้าสงคราม สาวคนรักห่วงใยขอเฝ้า
ติดตามไป แต่หนุ่มพร่ำปฏิเสธ จนสาวต้องบอกว่าความ
รักที่เธอมีต่อเขา มันมากเกินกว่าสิ่งใดจะบรรยายได้ จึง
ทำให้เขายอมให้เธอตามติดไปได้..
The Cruel War is raging, Johnny has to fight
I want to be with him from morning to night.
I want to be with him, it grieves my heart so,
Won't you let me go with you?
No, my love, no.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
Oh Johnny, oh Johnny, I fear you are unkind
I love you far better than all of mankind.
I love you far better than words can e're express
Won't you let me go with you?
...Yes, my love, yes.
เพื่อให้เข้าบรรยากาศ ขอแจมด้วยภาพเครื่องบินรบไปพ่น
จากงานวันเด็กครับ
Yes, My Love, Yes.
ความคิดเห็นที่ 24
เปิดโอกาสให้น้องผู้พิการสร้าง “ความฝัน” ที่ไม่มีข้อจำกัด เพราะเรารู้ว่าหากฉีกคำว่า “คน”
ออกจากคำว่า “พิการ” แล้วนั้น คนทุกคนก็มีความฝันเหมือนกัน
ร่วมเปลี่ยนแปลงความฝันของน้อง ๆ เพราะ “ความฝันไม่มีวันพิการ”
แค่ดูหนังสั้นเรื่องนี้ 1 วิว = 1 บาท ช่วยเพิ่มโอกาสการศึกษาและอาชีพเพื่อเด็กพิการ
สมทบทุนโดยมูลนิธิเวชดุสิต เริ่มวันนี้ - 31 ตุลาคม 2558
https://www.youtube.com/watch?v=9r-hXGKEyEY&feature=youtu.be
ชว่ยกันเข้าไปดูเยอะๆนะ
ออกจากคำว่า “พิการ” แล้วนั้น คนทุกคนก็มีความฝันเหมือนกัน
ร่วมเปลี่ยนแปลงความฝันของน้อง ๆ เพราะ “ความฝันไม่มีวันพิการ”
แค่ดูหนังสั้นเรื่องนี้ 1 วิว = 1 บาท ช่วยเพิ่มโอกาสการศึกษาและอาชีพเพื่อเด็กพิการ
สมทบทุนโดยมูลนิธิเวชดุสิต เริ่มวันนี้ - 31 ตุลาคม 2558
https://www.youtube.com/watch?v=9r-hXGKEyEY&feature=youtu.be
ชว่ยกันเข้าไปดูเยอะๆนะ
ความคิดเห็นที่ 13
ต้องขอบอกกันอย่างตามตรงว่า Coyote Ugly ไม่ใช่ยอดภาพยนตร์ดีที่มีคุณภาพสูงส่ง มีหลายส่วนที่ยังไม่ลงตัว การแสดงอารมณ์ของดาราไม่ถึงขีด หรือความเข้มข้นก็ยังไม่มากมาย แต่รู้อะไรไหมครับ... ผมชอบหนังเรื่องนี้จัง
อย่างที่บอกครับ หนังมันไม่ได้สมบูรณ์ยอดเยี่ยม เพียงแต่มันมีครบทุกองค์ประกอบสำหรับการสร้างความบันเทิงเอาใจผู้ชม ทั้งดาราหนุ่มหล่อสาวสวย, ฉากรักโรแมนติก, ดาราสมทบที่แย่งซีนได้, การเดินเรื่องฉับไว, เพลงประกอบดีๆ ดนตรีเพราะๆ พร้อมบทสรุปที่จบแบบ happy Ending และคนที่อยู่เบื้องหลังหนังเรื่องนี้ก็ไม่ใช่ใครครับ เขาคือ Jerry Bruckheimer ผู้อำนวยการสร้างที่ถนัดทำหนังเอาใจตลาดนั่นเอง
ว่ากันถึงตัวหนังแล้ว ผมว่ามันมีองค์ประกอบดีๆ ครบครับ เพียงแต่การนำเสนอถ่ายทอดยังไม่สุดยอดเข้าเป้าเต็มที่ ส่วนหนึ่งก็อาจเพราะชั่วโมงบินของผู้กำกับ David McNally ยังไม่มาก (เพราะนี่คือหนังเรื่องแรกในชีวิตของเขา) จึงยังไม่สามารถดึงจุดเด่นออกมาเล่นได้อย่างลงตัว จนอดคิดไม่ได้ว่าถ้าเขามือแม่นๆ สักนิด หนังน่าจะเรียกความประทับใจได้แบบสุดๆ แต่ก็ไม่ได้โทษว่าอะไร เพราะเท่าที่ทำได้แฝงความประทับใจเอาไว้มากพอแล้ว
ผมชอบเหล่าสาวโคโยตี้ในเรื่องนะครับ... เปล่าครับ ไม่ใช่ชอบในความงามความฮ็อต แต่ผมชอบภาพของสาวโคโยตี้ที่ไม่ได้มีหน้าที่แค่ชงเหล้าหรือโชว์ทรวดทรง จริงๆ หน้าที่พวกเธอคือเอนเตอร์เทนลูกค้า พร้อมมีกฎชัดว่าขายหน้าตา ขายความเซ็กซี่ แต่ไม่ขายตัว
โดยเนื้อหาแล้วก็คือหนังสูตรสำเร็จของสาวน้อยที่เดินตามความฝันน่ะครับ ในเรื่องนี้สาวคนนั้นมีนามว่าไวโอเล็ต (Piper Perabo) เด็กเสิร์ฟจากชนบทที่มาในเมืองใหญ่เพื่อหาแมวมองและขายผลงานเพลงของเธอ ว่าง่ายๆ คือมาเพื่อแจ้งเกิดในวงการนั่นล่ะน่ะครับ
ภาพสาวๆ โคโยตี้ในเรื่องจึงออกแนวเท่ห์และเซ็กซี่ สวยแต่ไม่ไร้สมอง เพียงแต่การที่สาวๆ แต่ละคนต้องมาทำงานอาชีพนี้ ส่วนหนึ่งก็เพราะยังไปไม่ถึงฝัน หรือไปถึงฝันไม่สำเร็จ อย่างลิลเจ้าของบาร์ที่ก็เหมือนไวโอเล็ตนั่นล่ะครับ สาวจากบ้านนอกมาหาฝันในเมืองใหญ่ แต่ก็หมดแรงสู้ไปเลยหันมาทำอาชีพนี้เพื่อเลี้ยงชีพ... การเดินไปสู่ฝันต้องใช้พลังไม่น้อยจริงๆ ครับ
แต่ถ้าถามว่าพลังสำคัญที่ทำให้ไวโอเล็ตไปถึงฝั่งฝันได้โดยปลอดภัย ไม่ล้มลงและไม่หลงระเริงไปกับแสงสี ส่วนสำคัญก็ต้องยกให้คนใกล้ตัว
คุณพ่อของไวโอเล็ต (John Goodman ที่แสดงบทพ่อได้น่ารักเสมอ) ที่รักลูกอย่างมาก และคอยให้กำลังใจลูก อาจมีบ้างที่ไม่เข้าใจกัน แต่คนเป็นพ่อก็พร้อมเสมอที่จะให้อภัยลูก จริงๆ คุณพ่อห่วงไวโอเล็ตมากนะครับ ในใจลึกๆ เขาไม่อยากให้ลูกต้องจากไป การห่วงว่าลูกจะทำได้ไหมนั้นไม่เท่าไรครับ แต่ห่วงว่าลูกต้องไปเจออะไร ลูกจะรับไหวไหมกับโลกแห่งความจริงที่ไม่ได้สวยงามไปเสียทั้งหมด
แต่เมื่อลูกตัดสินใจจะไป พ่อก็เคารพการตัดสินใจนั้นเสมอ
อีกหนึ่งคนเคียงข้างไวโอเล็ตคือ กลอเรีย (Melanie Lynskey) เพื่อนซี้ตั้งแต่สมัยเด็กที่ไม่เคยห่างกัน ครั้นพอเพื่อนต้องจากไกลก็อดอาลัยไม่ได้
กลอเรียเป็นตัวละครที่ผมชอบที่สุดในหนังเรื่องนี้ครับ เธอน่ารักและเป็นคนตรงไปตรงมา และประโยคที่ได้ใจผมมากๆ คือตอนที่เธอทราบว่าพ่อของไวโอเล็ตประสบอุบัติเหตุ แม้คืนนั้นจะเป็นคืนแต่งงาน แต่เธอก็ยังรีบตรงมาเพื่อดูอาการและให้กำลังใจไวโอเล็ต
"เธอมาทำไม นี่มันคืนแต่งงานของเธอนะ" ไวโอเล็ต พูดกับเพื่อนซี้
กลอเรียตอบว่า "แดนนี่เพิ่งจะเป็นครอบครัวฉันได้แค่ 5 นาที แต่เธอเป็นครอบครัวฉันมาชั่วชีวิต"
ประโยคเดียว ได้ใจเต็มๆ!
ตอนที่ผมยังไม่ได้เริ่มรีวิวหนังในห้องนี้ ผมเคยเอาเพลงประกอบอย่าง Can't Fight the Moonlight มาแปะในห้องเพลง และนั้นเป็นจุดเริ่ม ที่ทำให้ผมคิดว่าจะเริ่มทำสิ่งดีๆให้กับห้องเพลง อย่างเช่นคนอื่นบ้าง แต่จะไปเอาสาระมากมายหรือเรื่องหนักๆมาลงก็ดูจะไม่เหมาะ การรีวิวหนังจึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมและไม่ทับทางใคร
ขอบคุณ ไวโอเล็ต สแตนฟอร์ด สาวน้อยที่สอนให้รู้ว่า อย่าได้ล่ะทิ้งความฝันแม้มันจะมีอุปสรรคมากมาย
ขอบคุณกลอเรีย ที่สอนให้รู้ว่า เพื่อนแท้นั้นทำกันอย่างไร
และขอบคุณเหล่าสาวๆโคโยตี้ทุกคนที่เกิดมาบนโลกใบนี้ ที่ทำให้หนุ่มใหญ่หัวใจสะออนอย่างผม รู้สึกหัวใจเต้นแรงทุกครั้ง ที่ได้ดูพวกเธอ
นี้คืออีกหนังหนังเรื่องโปรดของผม ที่อยากแนะนำให้ทุกท่านได้ลองชมกัน
เกิน 10 โพสต์แระ ทำเรื่องสาระก่อน เดี๋ยวค่อยทำตัวไร้สาระตามเดิม
ต้องขอบอกกันอย่างตามตรงว่า Coyote Ugly ไม่ใช่ยอดภาพยนตร์ดีที่มีคุณภาพสูงส่ง มีหลายส่วนที่ยังไม่ลงตัว การแสดงอารมณ์ของดาราไม่ถึงขีด หรือความเข้มข้นก็ยังไม่มากมาย แต่รู้อะไรไหมครับ... ผมชอบหนังเรื่องนี้จัง
อย่างที่บอกครับ หนังมันไม่ได้สมบูรณ์ยอดเยี่ยม เพียงแต่มันมีครบทุกองค์ประกอบสำหรับการสร้างความบันเทิงเอาใจผู้ชม ทั้งดาราหนุ่มหล่อสาวสวย, ฉากรักโรแมนติก, ดาราสมทบที่แย่งซีนได้, การเดินเรื่องฉับไว, เพลงประกอบดีๆ ดนตรีเพราะๆ พร้อมบทสรุปที่จบแบบ happy Ending และคนที่อยู่เบื้องหลังหนังเรื่องนี้ก็ไม่ใช่ใครครับ เขาคือ Jerry Bruckheimer ผู้อำนวยการสร้างที่ถนัดทำหนังเอาใจตลาดนั่นเอง
ว่ากันถึงตัวหนังแล้ว ผมว่ามันมีองค์ประกอบดีๆ ครบครับ เพียงแต่การนำเสนอถ่ายทอดยังไม่สุดยอดเข้าเป้าเต็มที่ ส่วนหนึ่งก็อาจเพราะชั่วโมงบินของผู้กำกับ David McNally ยังไม่มาก (เพราะนี่คือหนังเรื่องแรกในชีวิตของเขา) จึงยังไม่สามารถดึงจุดเด่นออกมาเล่นได้อย่างลงตัว จนอดคิดไม่ได้ว่าถ้าเขามือแม่นๆ สักนิด หนังน่าจะเรียกความประทับใจได้แบบสุดๆ แต่ก็ไม่ได้โทษว่าอะไร เพราะเท่าที่ทำได้แฝงความประทับใจเอาไว้มากพอแล้ว
ผมชอบเหล่าสาวโคโยตี้ในเรื่องนะครับ... เปล่าครับ ไม่ใช่ชอบในความงามความฮ็อต แต่ผมชอบภาพของสาวโคโยตี้ที่ไม่ได้มีหน้าที่แค่ชงเหล้าหรือโชว์ทรวดทรง จริงๆ หน้าที่พวกเธอคือเอนเตอร์เทนลูกค้า พร้อมมีกฎชัดว่าขายหน้าตา ขายความเซ็กซี่ แต่ไม่ขายตัว
โดยเนื้อหาแล้วก็คือหนังสูตรสำเร็จของสาวน้อยที่เดินตามความฝันน่ะครับ ในเรื่องนี้สาวคนนั้นมีนามว่าไวโอเล็ต (Piper Perabo) เด็กเสิร์ฟจากชนบทที่มาในเมืองใหญ่เพื่อหาแมวมองและขายผลงานเพลงของเธอ ว่าง่ายๆ คือมาเพื่อแจ้งเกิดในวงการนั่นล่ะน่ะครับ
ภาพสาวๆ โคโยตี้ในเรื่องจึงออกแนวเท่ห์และเซ็กซี่ สวยแต่ไม่ไร้สมอง เพียงแต่การที่สาวๆ แต่ละคนต้องมาทำงานอาชีพนี้ ส่วนหนึ่งก็เพราะยังไปไม่ถึงฝัน หรือไปถึงฝันไม่สำเร็จ อย่างลิลเจ้าของบาร์ที่ก็เหมือนไวโอเล็ตนั่นล่ะครับ สาวจากบ้านนอกมาหาฝันในเมืองใหญ่ แต่ก็หมดแรงสู้ไปเลยหันมาทำอาชีพนี้เพื่อเลี้ยงชีพ... การเดินไปสู่ฝันต้องใช้พลังไม่น้อยจริงๆ ครับ
แต่ถ้าถามว่าพลังสำคัญที่ทำให้ไวโอเล็ตไปถึงฝั่งฝันได้โดยปลอดภัย ไม่ล้มลงและไม่หลงระเริงไปกับแสงสี ส่วนสำคัญก็ต้องยกให้คนใกล้ตัว
คุณพ่อของไวโอเล็ต (John Goodman ที่แสดงบทพ่อได้น่ารักเสมอ) ที่รักลูกอย่างมาก และคอยให้กำลังใจลูก อาจมีบ้างที่ไม่เข้าใจกัน แต่คนเป็นพ่อก็พร้อมเสมอที่จะให้อภัยลูก จริงๆ คุณพ่อห่วงไวโอเล็ตมากนะครับ ในใจลึกๆ เขาไม่อยากให้ลูกต้องจากไป การห่วงว่าลูกจะทำได้ไหมนั้นไม่เท่าไรครับ แต่ห่วงว่าลูกต้องไปเจออะไร ลูกจะรับไหวไหมกับโลกแห่งความจริงที่ไม่ได้สวยงามไปเสียทั้งหมด
แต่เมื่อลูกตัดสินใจจะไป พ่อก็เคารพการตัดสินใจนั้นเสมอ
อีกหนึ่งคนเคียงข้างไวโอเล็ตคือ กลอเรีย (Melanie Lynskey) เพื่อนซี้ตั้งแต่สมัยเด็กที่ไม่เคยห่างกัน ครั้นพอเพื่อนต้องจากไกลก็อดอาลัยไม่ได้
กลอเรียเป็นตัวละครที่ผมชอบที่สุดในหนังเรื่องนี้ครับ เธอน่ารักและเป็นคนตรงไปตรงมา และประโยคที่ได้ใจผมมากๆ คือตอนที่เธอทราบว่าพ่อของไวโอเล็ตประสบอุบัติเหตุ แม้คืนนั้นจะเป็นคืนแต่งงาน แต่เธอก็ยังรีบตรงมาเพื่อดูอาการและให้กำลังใจไวโอเล็ต
"เธอมาทำไม นี่มันคืนแต่งงานของเธอนะ" ไวโอเล็ต พูดกับเพื่อนซี้
กลอเรียตอบว่า "แดนนี่เพิ่งจะเป็นครอบครัวฉันได้แค่ 5 นาที แต่เธอเป็นครอบครัวฉันมาชั่วชีวิต"
ประโยคเดียว ได้ใจเต็มๆ!
ตอนที่ผมยังไม่ได้เริ่มรีวิวหนังในห้องนี้ ผมเคยเอาเพลงประกอบอย่าง Can't Fight the Moonlight มาแปะในห้องเพลง และนั้นเป็นจุดเริ่ม ที่ทำให้ผมคิดว่าจะเริ่มทำสิ่งดีๆให้กับห้องเพลง อย่างเช่นคนอื่นบ้าง แต่จะไปเอาสาระมากมายหรือเรื่องหนักๆมาลงก็ดูจะไม่เหมาะ การรีวิวหนังจึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมและไม่ทับทางใคร
ขอบคุณ ไวโอเล็ต สแตนฟอร์ด สาวน้อยที่สอนให้รู้ว่า อย่าได้ล่ะทิ้งความฝันแม้มันจะมีอุปสรรคมากมาย
ขอบคุณกลอเรีย ที่สอนให้รู้ว่า เพื่อนแท้นั้นทำกันอย่างไร
และขอบคุณเหล่าสาวๆโคโยตี้ทุกคนที่เกิดมาบนโลกใบนี้ ที่ทำให้หนุ่มใหญ่หัวใจสะออนอย่างผม รู้สึกหัวใจเต้นแรงทุกครั้ง ที่ได้ดูพวกเธอ
นี้คืออีกหนังหนังเรื่องโปรดของผม ที่อยากแนะนำให้ทุกท่านได้ลองชมกัน
ขอบคุณครับ
นายพระรอง
นายพระรอง
ความคิดเห็นที่ 1
สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ ห้องเพลง
กีฬา กีฬา เป็นยาวิเศษ แต่ไม่ใช่กีฬาสีเสื้อ ที่กำลังเล่นกันจน
บ้านเมืองพังนะคะ 6 โมงตรง เคารพธงชาติไทยเสร็จ เราก็เปลี่ยนช่องทีวี
ดูรายการถ่ายทอดกีฬา กันเป็นประจำ ...555
วันนี้เสนอเพลง "กราวกีฬา" อ่านประวัติแล้ว ก่อนพี่สาวเกิดอีก .....
กราวกีฬา ต้นฉบับ
https://www.youtube.com/watch?v=FLZQdgl5190
กราวกีฬา เป็นเพลงที่นิยม ใช้ในการเชียร์กีฬา ประพันธ์คำร้องโดย ครูเทพ เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี
หรือ นามจริง สนั่น เทพหัสดิน ณ อยุธยา ส่วนทำนองประพันธ์โดย นารถ ถาวรบุตร ซึ่งประพันธ์ขึ้นเมื่อ
พ.ศ. 2437 เพื่อใช้ในการแข่งกีฬาสีของนักเรียนโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ต่อมาเพลงนี้ได้รับความ
นิยมและแพร่หลายออกไปสู่การแข่งขันกีฬาทั่วไป
กราวกีฬาภาษาอีสาน
https://www.youtube.com/watch?v=3Ep4Bk2OaRs
การแข่งขันกีฬาแห่งชาติ (อังกฤษ: Thailand National Games) เป็นการแข่งขันกีฬาหลายประเภท
ระหว่างภูมิภาคในประเทศไทย โดยการกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นผู้อำนวยการจัดแข่งขัน และมีกลุ่ม
นักกีฬาจาก 77 จังหวัดในประเทศไทยเข้าร่วม ปัจจุบันจัดการแข่งขันเป็นประจำทุกปี จากนั้นตั้งแต่
การแข่งขันครั้งที่ 46 ประจำปี พ.ศ. 2561 จะปรับลดกำหนดแข่งขันลงเป็น 2 ปีต่อครั้ง
นักกีฬาทีมชาติไทย หลายๆคน ก็เป็นช้างเผือกที่เราได้มาจาก การแข่งขันกีฬาแห่งชาติ
หากไม่มีการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ เราจะไปพบช้างเผือกเหล่านี้ได้อย่างไร
และเพราะเป็นกีฬาแห่งชาติกระมังคะ เขาก็เลยมี "กราวกีฬา" ภาษาอีสาน กะเขาด้วย
เสียดาย ไม่เห็นภาษาเหนือ หรือภาษาใต้ เลยเก็บมาให้ฟังกันไม่ได้
ไหนๆ ก็ส่งเพลงกราวกีฬา มาให้ฟังกัน แปะ link ข่าว กีฬา ไทยรัฐ
มาให้แฟนกีฬาตามไปอ่านกันเอง ก็แล้วกันนะคะ
http://www.thairath.co.th/sport
กีฬา กีฬา เป็นยาวิเศษ แต่ไม่ใช่กีฬาสีเสื้อ ที่กำลังเล่นกันจน
บ้านเมืองพังนะคะ 6 โมงตรง เคารพธงชาติไทยเสร็จ เราก็เปลี่ยนช่องทีวี
ดูรายการถ่ายทอดกีฬา กันเป็นประจำ ...555
วันนี้เสนอเพลง "กราวกีฬา" อ่านประวัติแล้ว ก่อนพี่สาวเกิดอีก .....
กราวกีฬา ต้นฉบับ
https://www.youtube.com/watch?v=FLZQdgl5190
กราวกีฬา เป็นเพลงที่นิยม ใช้ในการเชียร์กีฬา ประพันธ์คำร้องโดย ครูเทพ เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี
หรือ นามจริง สนั่น เทพหัสดิน ณ อยุธยา ส่วนทำนองประพันธ์โดย นารถ ถาวรบุตร ซึ่งประพันธ์ขึ้นเมื่อ
พ.ศ. 2437 เพื่อใช้ในการแข่งกีฬาสีของนักเรียนโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ต่อมาเพลงนี้ได้รับความ
นิยมและแพร่หลายออกไปสู่การแข่งขันกีฬาทั่วไป
กราวกีฬาภาษาอีสาน
https://www.youtube.com/watch?v=3Ep4Bk2OaRs
การแข่งขันกีฬาแห่งชาติ (อังกฤษ: Thailand National Games) เป็นการแข่งขันกีฬาหลายประเภท
ระหว่างภูมิภาคในประเทศไทย โดยการกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นผู้อำนวยการจัดแข่งขัน และมีกลุ่ม
นักกีฬาจาก 77 จังหวัดในประเทศไทยเข้าร่วม ปัจจุบันจัดการแข่งขันเป็นประจำทุกปี จากนั้นตั้งแต่
การแข่งขันครั้งที่ 46 ประจำปี พ.ศ. 2561 จะปรับลดกำหนดแข่งขันลงเป็น 2 ปีต่อครั้ง
นักกีฬาทีมชาติไทย หลายๆคน ก็เป็นช้างเผือกที่เราได้มาจาก การแข่งขันกีฬาแห่งชาติ
หากไม่มีการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ เราจะไปพบช้างเผือกเหล่านี้ได้อย่างไร
และเพราะเป็นกีฬาแห่งชาติกระมังคะ เขาก็เลยมี "กราวกีฬา" ภาษาอีสาน กะเขาด้วย
เสียดาย ไม่เห็นภาษาเหนือ หรือภาษาใต้ เลยเก็บมาให้ฟังกันไม่ได้
ไหนๆ ก็ส่งเพลงกราวกีฬา มาให้ฟังกัน แปะ link ข่าว กีฬา ไทยรัฐ
มาให้แฟนกีฬาตามไปอ่านกันเอง ก็แล้วกันนะคะ
http://www.thairath.co.th/sport
ความคิดเห็นที่ 15
สวัสดีค่ะพี่ๆทุกท่าน
ขอฟ้า - Vivico ( วีวี่โค )
วีวี่โค (VIVICO) เป็นวงดนตรีสัญชาติไทยภายใต้สังกัด "ออนป้า" เปิดตัวเมื่อปี 2541 โดยมีเพลงเปิดตัวคือ "โตในรถ"
เป็นเกิร์ลกรุปสัญชาติไทยประกอบด้วยสมาชิกคือ
เมย์ จีระนันท์ กิจประสาน, เชอร์รี่ อัจฉราศรี เจริญโสภา, กุ๊กกิ๊ก วิจิตรา อัศนีวุฒิกร, มะเหมี่ยว ศิลป์สิริ ประภาวงศ์ และจิ้ง กมลรจน์ เอกวัฒนกิจ
เมย์ หลังจากยุบวงลง เธอได้เป็นศิลปินเดี่ยวสังกัดอาร์เอส โดยออกอัลบั้มเต็ม 1 ชุด และอัลบั้มอีพีถึง 2 ชุดด้วยกัน มีเพลงฮิตเช่น คนเดียวไม่เหงาเท่า3คน, ก่อนจะเป็นแฟนเก่า, นอนไม่หลับ (ถ้าไม่กลับพร้อมเธอ), ไม่อยากเป็นแค่กิ๊ก และอีกมากมาย ภายหลังออกจากวงการไปเปิดขายเสื้อผ้าแบรนด์เนมอยู่หลายสาขาเช่น สาขาพารากอน, สาขาพระราม 9 ชื่อร้าน "April & May"
จิ้ง เธอเกือบได้เป็นนักแสดงและนักร้องภายใต้สังกัดเอ็กแซ็กท์ โดยมีงานแถลงข่าวอัลบั้มแล้ว แต่เพลงไม่ได้ถูกปล่อย ภายหลังเป็นพิธีกรรายการ เม้าท์มันส์ บันเทิง รายการ อาสากล้าดี (พิธีกรภาคสนาม) และรายการ Colourful Colour แสดงละครบ้างประปราย
มะเหมี่ยว เคยออกเพลง2ซิงเกิ้ลชื่อว่า วันละครั้งสองครั้ง และ ที่พักใจของเธอ ในอัลบั้ม First Destination ปัจจุบันเป็นอาจารย์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา โดยเปลี่ยนชื่อเป็น "ศุภรดา ประภาวงศ์"
กุ๊กกิ๊ก เป็นนักร้องภายใต้ชื่อวง ศูนย์ ศูนย์ หนึ่ง (001) ร่วมกับพี่สาวของเธออีกสองคน โดยมีเพลงฮิตคือเพลง "ยอมตั้งแต่หน้าประตู" และได้มีผลงานตามมาอีกมากมายก่อนที่จะออกจากวงการ เช่น เป็นหนึ่งในนักร้องอัลบั้ม Buzz Music มีเพลงฮิตคือ "รอ (หนึ่งคนที่ฉันฝัน)"
เชอร์รี่ หลังจากที่วงยุบไปเธอได้ไปศึกษาต่อ และได้แต่งงานมีบุตร 1 คน เมื่อปี พ.ศ. 2558
ที่มาค่ะ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ขำขำค่ะ !!!
เรื่อง รอได้แน่ๆถึงเธอจะนานแค่ไหน ( มโนเองนะคะ )
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ขอฟ้า - Vivico ( วีวี่โค )
วีวี่โค (VIVICO) เป็นวงดนตรีสัญชาติไทยภายใต้สังกัด "ออนป้า" เปิดตัวเมื่อปี 2541 โดยมีเพลงเปิดตัวคือ "โตในรถ"
เป็นเกิร์ลกรุปสัญชาติไทยประกอบด้วยสมาชิกคือ
เมย์ จีระนันท์ กิจประสาน, เชอร์รี่ อัจฉราศรี เจริญโสภา, กุ๊กกิ๊ก วิจิตรา อัศนีวุฒิกร, มะเหมี่ยว ศิลป์สิริ ประภาวงศ์ และจิ้ง กมลรจน์ เอกวัฒนกิจ
เมย์ หลังจากยุบวงลง เธอได้เป็นศิลปินเดี่ยวสังกัดอาร์เอส โดยออกอัลบั้มเต็ม 1 ชุด และอัลบั้มอีพีถึง 2 ชุดด้วยกัน มีเพลงฮิตเช่น คนเดียวไม่เหงาเท่า3คน, ก่อนจะเป็นแฟนเก่า, นอนไม่หลับ (ถ้าไม่กลับพร้อมเธอ), ไม่อยากเป็นแค่กิ๊ก และอีกมากมาย ภายหลังออกจากวงการไปเปิดขายเสื้อผ้าแบรนด์เนมอยู่หลายสาขาเช่น สาขาพารากอน, สาขาพระราม 9 ชื่อร้าน "April & May"
จิ้ง เธอเกือบได้เป็นนักแสดงและนักร้องภายใต้สังกัดเอ็กแซ็กท์ โดยมีงานแถลงข่าวอัลบั้มแล้ว แต่เพลงไม่ได้ถูกปล่อย ภายหลังเป็นพิธีกรรายการ เม้าท์มันส์ บันเทิง รายการ อาสากล้าดี (พิธีกรภาคสนาม) และรายการ Colourful Colour แสดงละครบ้างประปราย
มะเหมี่ยว เคยออกเพลง2ซิงเกิ้ลชื่อว่า วันละครั้งสองครั้ง และ ที่พักใจของเธอ ในอัลบั้ม First Destination ปัจจุบันเป็นอาจารย์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา โดยเปลี่ยนชื่อเป็น "ศุภรดา ประภาวงศ์"
กุ๊กกิ๊ก เป็นนักร้องภายใต้ชื่อวง ศูนย์ ศูนย์ หนึ่ง (001) ร่วมกับพี่สาวของเธออีกสองคน โดยมีเพลงฮิตคือเพลง "ยอมตั้งแต่หน้าประตู" และได้มีผลงานตามมาอีกมากมายก่อนที่จะออกจากวงการ เช่น เป็นหนึ่งในนักร้องอัลบั้ม Buzz Music มีเพลงฮิตคือ "รอ (หนึ่งคนที่ฉันฝัน)"
เชอร์รี่ หลังจากที่วงยุบไปเธอได้ไปศึกษาต่อ และได้แต่งงานมีบุตร 1 คน เมื่อปี พ.ศ. 2558
ที่มาค่ะ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ขำขำค่ะ !!!
เรื่อง รอได้แน่ๆถึงเธอจะนานแค่ไหน ( มโนเองนะคะ )
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
ห้องเพลง**คนรากหญ้า** พักยกการเมือง มุมเสียงเพลง มุมนี้ไม่มีสี ไม่มีกลุ่ม............มีแต่เสียง 20/9/2015
***สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ห้องราชดำเนินทุกคน***
กระทู้นี้ เป็นมุมพักผ่อน มุมนี้ไม่มีสี ไม่มีกลุ่ม.........แต่มีเสียง...................
หลังจากพิธีศพผู้หญิงคนหนึ่งเสร็จพวกผู้ช่วยสัปเหร่อก็รี่กันมาช่วยแบกโลงออกไปนอกศาลา
ทันใดนั้นเองพวกแบกโลงเกิดเสียหลักโลงเฃไปกระแทกกําแพง ก็ได้มีเสียงครางเบาๆ ดังเล็ดลอดออกมา
พอทั้งหมดช่วยกันยกฝาโลงออกมาก็เห็นคุณผู้หญิงฟื้นขึ้นมาจึงช่วยกันประคองกลับขึ้นมา ปรากฎว่า
เจ้าหล่อนอยู่มาได้อีก ๕ ปีถึงตาย หลังจากพิธีศพพวกผู้ชายสัปเหร่อก็ตรงเข้ามาแบกโลงจะออกนอกศาลา
เช่นเคยขณะแบกโลงออกไปตามทางเดินระหว่างแถวม้านั่งใกล้กําแพง สามีคุณผู้หญิงตะโกนด้วยเสียงดังได้ยินทั่วกันว่า "ระวังกําแพง"
ห้องเพลงคนรากหญ้าเปิดขึ้นมามีวัตถุประสงค์ เพื่อ
1. มีพื้นที่ให้เพื่อนๆ ได้มาพบปะ พูดคุยระหว่างกัน ในภาวะที่ต้องระมัดระวังการโพสการเมืองอย่างเคร่งครัด
2. เป็นพื้นที่ พักผ่อน ลดความเครียดทางการเมือง ให้เพื่อนๆ มีกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกัน
3. สร้างมิตรภาพและความปรองดอง ซึ่งเราหวังให้สังคมไทยเป็นเช่นนี้ แม้นคิดต่างกัน แต่เมื่อคุยกันแล้วก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม