ยอดเขา Everest น่าจะเป็นอะไรที่นักท่องเที่ยวแนวผจญภัยหลายๆ คนคิดว่าครั้งหนึ่งในชีวิตจะไปพิชิตให้ได้สักที ผมก็คนนึงล่ะ เพียงแต่อาจจะยังไม่ได้หวังถึงขึ้นยอดเขา ที่ผมเคยไปถึงมาแล้วก็คือ Annapurna Base Camp และการเข้าใกล้ Everest Base Camp ที่ดันไปเจออาการ Altitude Sickness เล่นงานจนต้องลงมาก่อน พอมาได้รู้ข่าวของหนังเรื่องนี้ ผมถึงกับตั้งหน้าตั้งตารอวันฉายเลยทีเดียว พอหนังเข้าฉายรอบพิเศษแถมเข้าโรง IMAX ด้วย มีเหรอที่ผมจะพลาด
Everest เอเวอเรสต์ ไต่ฟ้าท้านรก ได้รับแรงบันดาลใจจากเหตุการณ์จริง ในปี 1996 เรื่องราวของสองกลุ่มนักปีนเขาที่กำลังเดินทางเพื่อพิชิตยอดเขาที่สูงที่สูงที่สุดในโลกอย่างเอเวอเรสต์ แต่พวกเขาต้องพบกับพายุหิมะครั้งร้ายแรงที่สุดเท่าที่เคยพบมา ความกล้าหาญของพวกเขาจึงถูกทดสอบด้วยสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติอันร้ายแรง และเกิดเป็นอุปสรรค์ที่ทำให้พวกเขาต้องดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอด
หนังปูเรื่องราวของกลุ่มนักปีนเขาที่มารวมตัวกันเพื่อทำตามความฝัน ซึ่งหนังไม่ได้ปูเรื่องนานจนเกินไปให้เบื่อ แต่ตัดเข้าเรื่องได้อย่างกระชับรวดเร็ว เข้าสู่จุดหลักของเรื่องได้โดยไม่ต้องยืดเยื้ออะไรมากมาย หนังมีฉากตื่นเต้นให้ลุ้นตลอดเวลา ยิ่งผมดู IMAX 3D ด้วยแล้ว หลายๆ ฉากเหมือนไปปีนเขากับนักแสดงจริงๆ เลยทีเดียว บรรยากาศของหนังเองก็ถือว่าทำออกมาได้เยี่ยม สามารถสร้างความกดดันให้กับคนดูได้อย่างดี ดูอึมครึมและขับความน่ากลัวของธรรมชาติออกมาได้เยี่ยมยอด บางฉากถึงกับขนลุกเลยทีเดียว
จุดที่อาจจะทำให้หนังเรื่องนี้ดร็อปลงอาจจะเป็นเพราะหนังเล่าแบบทื่อไปหน่อย เป็นการเล่าที่ตรงๆ ด้านเดียวไม่มีอะไรพลิกแพลง บางครั้งบางตอนหนังก็เล่าเรื่องเหมือนคนดูรู้แล้วว่าสิ่งที่หนังต้องการสื่อคืออะไร ไม่ได้บอกว่าระยะทางของ Base Camp แต่ละจุดอยู่ใกล้ไกลกันมากน้อยแค่ไหน รวมถึงหนังยังไม่มีจุดพีคที่สามารถบิ๊วอารมณ์ให้คนเชื่อในอารมณ์ ณ ตอนนั้นจริงๆ ว่าเป็นยังไง เลยทำให้หนังมันค่อนข้างจะเดินเป็นเส้นเดียว และก็จบแบบไม่ได้กินใจอะไรมากนัก
นักแสดงทุกคนทำได้ดี แต่บทมันไม่ค่อยส่งเท่าไหร่ ด้วยการที่ตัวละครมันเยอะจนล้นไปหมด และบทก็ไม่ได้มีตัวไหนเด่นขึ้นมามากนัก ก็เลยทำให้คนดูอาจจะจำไม่ได้ตัวละครบางตัวไม่ได้ด้วยซ้ำ
รวมๆ แล้วสำหรับคนที่เคยไปทำอะไรแบบนี้มาแล้วจะเข้าใจและอินมากว่าสิ่งที่หนังพูดถึงมันคืออะไรบ้าง ระดับความสูง อาการ AMS อุปกรณ์ต่างๆ เช่น Crampon หรือทำไมต้องทำอะไรแบบที่ในหนังทำ ที่ถ้าคนไม่เคยไปจะไม่รู้จักสิ่งเหล่านี้เลย ก็อาจจะไม่ได้อินมาก หรือไม่ได้รู้สึกมีส่วนร่วมอะไรกับหนังมากนัก ก็อาจจะสนุกเป็นบางฉาก และนิ่งๆ เป็นบางฉากสลับกันไป แต่สำหรับผม คนเคยไปมาแล้ว ก็จะเข้าใจอารมณ์และความรู้สึกของตัวละครในหลายๆ ฉาก ทำให้อินพอสมควรเลยล่ะครับ
พูดคุยเพิ่มเติมได้ที่นี่ >>>
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/DooNangGunMai
[CR] Everest Sneak Preview - ลุ้น ตื่นเต้น ตลอดเรื่อง คนที่เคยไปน่าจะอินจัด ขาดแค่จุดพีคของเรื่อง แต่คนที่ไม่เคยไปล่ะ??
ยอดเขา Everest น่าจะเป็นอะไรที่นักท่องเที่ยวแนวผจญภัยหลายๆ คนคิดว่าครั้งหนึ่งในชีวิตจะไปพิชิตให้ได้สักที ผมก็คนนึงล่ะ เพียงแต่อาจจะยังไม่ได้หวังถึงขึ้นยอดเขา ที่ผมเคยไปถึงมาแล้วก็คือ Annapurna Base Camp และการเข้าใกล้ Everest Base Camp ที่ดันไปเจออาการ Altitude Sickness เล่นงานจนต้องลงมาก่อน พอมาได้รู้ข่าวของหนังเรื่องนี้ ผมถึงกับตั้งหน้าตั้งตารอวันฉายเลยทีเดียว พอหนังเข้าฉายรอบพิเศษแถมเข้าโรง IMAX ด้วย มีเหรอที่ผมจะพลาด
Everest เอเวอเรสต์ ไต่ฟ้าท้านรก ได้รับแรงบันดาลใจจากเหตุการณ์จริง ในปี 1996 เรื่องราวของสองกลุ่มนักปีนเขาที่กำลังเดินทางเพื่อพิชิตยอดเขาที่สูงที่สูงที่สุดในโลกอย่างเอเวอเรสต์ แต่พวกเขาต้องพบกับพายุหิมะครั้งร้ายแรงที่สุดเท่าที่เคยพบมา ความกล้าหาญของพวกเขาจึงถูกทดสอบด้วยสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติอันร้ายแรง และเกิดเป็นอุปสรรค์ที่ทำให้พวกเขาต้องดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอด
หนังปูเรื่องราวของกลุ่มนักปีนเขาที่มารวมตัวกันเพื่อทำตามความฝัน ซึ่งหนังไม่ได้ปูเรื่องนานจนเกินไปให้เบื่อ แต่ตัดเข้าเรื่องได้อย่างกระชับรวดเร็ว เข้าสู่จุดหลักของเรื่องได้โดยไม่ต้องยืดเยื้ออะไรมากมาย หนังมีฉากตื่นเต้นให้ลุ้นตลอดเวลา ยิ่งผมดู IMAX 3D ด้วยแล้ว หลายๆ ฉากเหมือนไปปีนเขากับนักแสดงจริงๆ เลยทีเดียว บรรยากาศของหนังเองก็ถือว่าทำออกมาได้เยี่ยม สามารถสร้างความกดดันให้กับคนดูได้อย่างดี ดูอึมครึมและขับความน่ากลัวของธรรมชาติออกมาได้เยี่ยมยอด บางฉากถึงกับขนลุกเลยทีเดียว
จุดที่อาจจะทำให้หนังเรื่องนี้ดร็อปลงอาจจะเป็นเพราะหนังเล่าแบบทื่อไปหน่อย เป็นการเล่าที่ตรงๆ ด้านเดียวไม่มีอะไรพลิกแพลง บางครั้งบางตอนหนังก็เล่าเรื่องเหมือนคนดูรู้แล้วว่าสิ่งที่หนังต้องการสื่อคืออะไร ไม่ได้บอกว่าระยะทางของ Base Camp แต่ละจุดอยู่ใกล้ไกลกันมากน้อยแค่ไหน รวมถึงหนังยังไม่มีจุดพีคที่สามารถบิ๊วอารมณ์ให้คนเชื่อในอารมณ์ ณ ตอนนั้นจริงๆ ว่าเป็นยังไง เลยทำให้หนังมันค่อนข้างจะเดินเป็นเส้นเดียว และก็จบแบบไม่ได้กินใจอะไรมากนัก
นักแสดงทุกคนทำได้ดี แต่บทมันไม่ค่อยส่งเท่าไหร่ ด้วยการที่ตัวละครมันเยอะจนล้นไปหมด และบทก็ไม่ได้มีตัวไหนเด่นขึ้นมามากนัก ก็เลยทำให้คนดูอาจจะจำไม่ได้ตัวละครบางตัวไม่ได้ด้วยซ้ำ
รวมๆ แล้วสำหรับคนที่เคยไปทำอะไรแบบนี้มาแล้วจะเข้าใจและอินมากว่าสิ่งที่หนังพูดถึงมันคืออะไรบ้าง ระดับความสูง อาการ AMS อุปกรณ์ต่างๆ เช่น Crampon หรือทำไมต้องทำอะไรแบบที่ในหนังทำ ที่ถ้าคนไม่เคยไปจะไม่รู้จักสิ่งเหล่านี้เลย ก็อาจจะไม่ได้อินมาก หรือไม่ได้รู้สึกมีส่วนร่วมอะไรกับหนังมากนัก ก็อาจจะสนุกเป็นบางฉาก และนิ่งๆ เป็นบางฉากสลับกันไป แต่สำหรับผม คนเคยไปมาแล้ว ก็จะเข้าใจอารมณ์และความรู้สึกของตัวละครในหลายๆ ฉาก ทำให้อินพอสมควรเลยล่ะครับ
พูดคุยเพิ่มเติมได้ที่นี่ >>> [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้