ไม่รู้ว่าจะตั้งเป็นกระทู้คำถามหรือสนทนาดี หลังจากที่นั่งคิด นอนคิด ถามความเห็นเพื่อน ๆ พี่ ๆ หลายคนแล้วก็สรุปว่านี่มันเป็นสิ่งไม่สมควรกระทำ ก็จะไม่ถามความเห็นแล้วล่ะค่ะ เอามาเล่าสู่กันฟัง และเป็นบทเรียน รวมถึงอาจตัดพ้อเล็ก ๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
.
.
.
เรื่องมีอยู่ว่า ในออฟฟิศเล็ก ๆ ของเรา บรรยากาศทำงานก็ดีนะคะ ทำงานสบาย คุยเล่น ๆ ได้ไม่เครียด ชอบแซวเรื่อง...เรียกว่าไงดี เรื่องชู้สาวน่ะค่ะ คนนั้นเป็นกิ๊กคนนี้ คนนี้เป็นสามีฉัน เหมือนขำ ๆ นะคะ (ตอนเรกเราก็ไม่ชิน แบบ อะไรวะ แรงอ่ะ)
เราก็ถูกแซวเหมือนกันค่ะ กับรุ่นน้องคนนึง เข้ามาทำงานหลังเรา 2 ปี ตอนแรกที่ถูกแซวเราหน้าบึ้ง โกรธ และปฏิเสธทันทีเลยค่ะ ไม่ชอบเรื่องแบบนี้ น้องมันก็มีลูกเมียอยู่แล้ว ถ้ามันอยู่ในวงมันก็คงไม่มีปัญหาเพราะเราก็รู้ว่ามันเป็นเรื่องล้อเล่น แต่คำพูด มันคุมให้อยู่วงในได้เหรอคะ ไม่ได้หรอกค่ะ ในที่สุด ขนาดลูกค้ายังมาแซวเราเลย
เราปฏิเสธซะจนเบื่อก็เลยนิ่งไว้ มันก็ซักพักนะคะ หลัง ๆ มาไอ้รุ่นน้องมันชักหนักข้อ ชอบทำหน้าหรือท่าทางแบบ...ยังไงดี หมั่นเขี้ยว...ประมาณนั้นน่ะ นี่มองแง่ดีนะ พูดกันแบบเชิงลบก็หื่นใส่น่ะค่ะ ชอบบอกกับคนอื่นว่า "แฟนผม ๆ" ทุกครั้งเราก็จะทำหน้าเซ็ง
(เอาจริง ๆ นะ ชอบบอกว่า ทำหน้า ส้งติง กันเลยดีกว่า) เหมือนมันเป็นเรื่องธรรมดา เราก็พยายามไม่ใส่ใจ ทั้ง ๆ ที่ไม่ชอบน่ะนะ จนเกิดเรื่อง
.
.
.
วันที่ไปฉลองเลี้ยงส่งบริษัทเก่า (เปลี่ยนบริษัทใหม่ ประมาณถูกขายน่ะค่ะ) ที่คาราโอเกะซิตี้ ไปถึงเราก็กิน ๆ กินอิ่มก็ร้องเพลงบ้าง บอกตามตรงว่าโคตรเซ็ง คือมันไม่ได้สนุกสุด ๆ ไม่ได้สบายใจ ต้องระวังตัว เพราะไอ้รุ่นน้องคนนั้นมันก็ซัดเหล้าเอาเรื่อย ๆ
ขนาดมีสติมันยังลามปาม แล้วตอนเมานี่จะเหลือเรอะ มันเคยมีเคส เคยกินเลี้ยงกันที่นี่แหละ ตอนรุ่นน้องคนนั้นเข้ามาทำงานแรก ๆ (จริง ๆ อยากเรียก "มัน"...ยิ่งเล่ายิ่งของขึ้น)
ก็กินเลี้ยง ร้องเกะกันนี่แหละค่ะ เราก็ร้อง ๆ เต้น ๆ รุ่นน้องมันก็เข้ามาเต้นด้วย ซึ่งปกติเราก็ไม่ชอบนะ แต่พยายามรักษามารยาท ไม่เดินหนี แค่หันหน้าหันตัวหนี แต่...ไม่ไหวอ่ะ เข้ามาเลื้อย...บอกได้ว่า ถ้าไม่รู้จักกันนี่โดน Teen ไปแล้วล่ะค่ะ เคสนั้นบอกมัน (ก็เกือบทะเลาะอ่ะนะ) ตอนนั้นจำเลยค่ะ มันบอกว่า "เห็นเล่นด้วย ก็นึกว่าชอบ" I SADDDD....
รู้สึกใส่อารมณ์มากไปหน่อย ซู๊ดดดดด (หายใจเข้ายาว ๆ หายใจออกช้า ๆ ทำซ้ำ 3 ครั้ง)
ถึงไหนแล้วเนี่ย (ย้อนกลับไปอ่านแพร็บ - ภาษาไรเนี่ย)
คือพอร้อง ๆ เราก็พยายามเลือกเพลงสนุก ๆ ที่ได้เต้นกัน (ถามคนอื่นยังว่าอยากให้ร้องป่ะ - คำตอบคือไม่ อย่าให้ได้ถือไมค์) พอรุ่นน้องมันเข้ามาใกล้ เราก็จะเดินออกไปห่าง ๆ ทีนี้หลาย ๆ ครั้ง คนก็เริ่มแซวอีกแล้ว ตอนแรกก็ว่าจะหยุดเดินหนีนั่นล่ะ กลัวมันจะเกิดอาการ "หมั่นไส้" วิ่งไล่กอดประชดเอา แต่...คิด ๆ ไป คือ "เอาที่สบายใจ" ก็หลีกเลี่ยงต่อไป
จุดแตกหักมันอยู่ตรงที่ ระหว่างที่กำลังนั่งเลือกเพลงอยู่ (รุ่นน้องต้นเหตุอยู่ส่วนหลังกับทีม) ก็ได้ยินเสียง "เฮ้ย ๆ มาแล้วโว้ย ๆ" ก็คิดล่ะมา มันมาแล้ว จะลุกหนีดีหรือเปล่า สุดท้ายก็ตัดสินใจเดินหนีอ้อมมาอีกฝั่ง
ในมุมมองผู้ชาย หรือคนอื่น คงคิดว่าเรา "เล่น" มั้งคะ เลยมีรุ่นน้องอีกคนเข้ามาสกัดไม่ให้เราหนี คือเดินเข้ามาปิดช่อง ไม่ได้ประจันหน้านะคะ เราก็พยายามที่จะหนี สัญชาตญาณเอาตัวรอดก็ทำงาน ก็เลยซัดหน้าไปเบา ๆ (คิดว่าเบาจริง ๆ นะ คือเหมือนกำหมัดจิ้มไปที่ครึ่งปากครึ่งจมูก ตอนแรกมือกำลังจะเสยเข้าปลายคางด้วยซ้ำ แต่กลัวเป็นเรื่อง)
เราก็ตกใจ น้องมันก็ตกใจ ก็พูดไม่ออกทั้งสองคน พยายามจะแบบว่าขอโทษ แต่ก็ยังไม่ได้พูด ไอ้ตัวต้นเหตุมันก็เข้ามากอดจากข้างหลัง คือตอนนั้นมัวแต่ตกใจที่ชกหน้ารุ่นน้องมัน เลยลืมไอ้นี่ไปเลย รู้ตัวอีกที ได้ยินเสียงโห่แซวกัน ก็โมโหมาก เลยศอกกลับมันไป คราวนี้แรงเลยค่ะ ศอกกลับมุมต่ำค่ะ น่าจะโดนประมาณอกนี่แหละ จริง ๆ อยากเฉียงขึ้นประมาณหน้านะ ถ้ามุมนั้นน่าจะเจ็บเยอะ (รู้งี้น่าซัดมุมนั้น) แต่ตอนนั้นก็มันเหมือนเราจะทำรุนแรงไปไงคะ
พอมันผงะ เราก็ถอยออกและหันกลับไป มันเหมือนจะถลาเข้ามาอีกนะ เราก็เลยยกศอกให้ประมาณว่า "เข้ามาคราวนี้ โดนอีกแน่" มันก็เลยไม่เข้ามา
เราก็เซ็ง ไอ้รุ่นน้องที่โดนต่อยมันก็เงียบ เช็ดจมูกดูว่ามีเลือดกำเดาไหม
คนอื่น อาจไม่รู้หรือไม่สนใจ หรือยังไง แต่ตอนนั้นเราโคตรเซ็ง ก็เลยคว้ากระเป๋า บอกหัวหน้าว่าจะกลับละ (สามทุ่มกว่า) หัวหน้าก็ถาม "เป็นไร ไม่สนุกเหรอ" เราก็บอก "...(ชื่อเรา)ไม่สนุก ถาม (ชื่อรุ่นน้องที่โดนจิ้มหน้า)สิคะ ว่าสนุกหรือเปล่า" แล้วก็ขับรถกลับเลย
ล้อเล่นกันแรงไปหน่อยไหม ไม่ใช่แล้วล่ะ
.
.
.
เรื่องมีอยู่ว่า ในออฟฟิศเล็ก ๆ ของเรา บรรยากาศทำงานก็ดีนะคะ ทำงานสบาย คุยเล่น ๆ ได้ไม่เครียด ชอบแซวเรื่อง...เรียกว่าไงดี เรื่องชู้สาวน่ะค่ะ คนนั้นเป็นกิ๊กคนนี้ คนนี้เป็นสามีฉัน เหมือนขำ ๆ นะคะ (ตอนเรกเราก็ไม่ชิน แบบ อะไรวะ แรงอ่ะ)
เราก็ถูกแซวเหมือนกันค่ะ กับรุ่นน้องคนนึง เข้ามาทำงานหลังเรา 2 ปี ตอนแรกที่ถูกแซวเราหน้าบึ้ง โกรธ และปฏิเสธทันทีเลยค่ะ ไม่ชอบเรื่องแบบนี้ น้องมันก็มีลูกเมียอยู่แล้ว ถ้ามันอยู่ในวงมันก็คงไม่มีปัญหาเพราะเราก็รู้ว่ามันเป็นเรื่องล้อเล่น แต่คำพูด มันคุมให้อยู่วงในได้เหรอคะ ไม่ได้หรอกค่ะ ในที่สุด ขนาดลูกค้ายังมาแซวเราเลย
เราปฏิเสธซะจนเบื่อก็เลยนิ่งไว้ มันก็ซักพักนะคะ หลัง ๆ มาไอ้รุ่นน้องมันชักหนักข้อ ชอบทำหน้าหรือท่าทางแบบ...ยังไงดี หมั่นเขี้ยว...ประมาณนั้นน่ะ นี่มองแง่ดีนะ พูดกันแบบเชิงลบก็หื่นใส่น่ะค่ะ ชอบบอกกับคนอื่นว่า "แฟนผม ๆ" ทุกครั้งเราก็จะทำหน้าเซ็ง (เอาจริง ๆ นะ ชอบบอกว่า ทำหน้า ส้งติง กันเลยดีกว่า) เหมือนมันเป็นเรื่องธรรมดา เราก็พยายามไม่ใส่ใจ ทั้ง ๆ ที่ไม่ชอบน่ะนะ จนเกิดเรื่อง
.
.
.
วันที่ไปฉลองเลี้ยงส่งบริษัทเก่า (เปลี่ยนบริษัทใหม่ ประมาณถูกขายน่ะค่ะ) ที่คาราโอเกะซิตี้ ไปถึงเราก็กิน ๆ กินอิ่มก็ร้องเพลงบ้าง บอกตามตรงว่าโคตรเซ็ง คือมันไม่ได้สนุกสุด ๆ ไม่ได้สบายใจ ต้องระวังตัว เพราะไอ้รุ่นน้องคนนั้นมันก็ซัดเหล้าเอาเรื่อย ๆ
ขนาดมีสติมันยังลามปาม แล้วตอนเมานี่จะเหลือเรอะ มันเคยมีเคส เคยกินเลี้ยงกันที่นี่แหละ ตอนรุ่นน้องคนนั้นเข้ามาทำงานแรก ๆ (จริง ๆ อยากเรียก "มัน"...ยิ่งเล่ายิ่งของขึ้น) ก็กินเลี้ยง ร้องเกะกันนี่แหละค่ะ เราก็ร้อง ๆ เต้น ๆ รุ่นน้องมันก็เข้ามาเต้นด้วย ซึ่งปกติเราก็ไม่ชอบนะ แต่พยายามรักษามารยาท ไม่เดินหนี แค่หันหน้าหันตัวหนี แต่...ไม่ไหวอ่ะ เข้ามาเลื้อย...บอกได้ว่า ถ้าไม่รู้จักกันนี่โดน Teen ไปแล้วล่ะค่ะ เคสนั้นบอกมัน (ก็เกือบทะเลาะอ่ะนะ) ตอนนั้นจำเลยค่ะ มันบอกว่า "เห็นเล่นด้วย ก็นึกว่าชอบ" I SADDDD....
รู้สึกใส่อารมณ์มากไปหน่อย ซู๊ดดดดด (หายใจเข้ายาว ๆ หายใจออกช้า ๆ ทำซ้ำ 3 ครั้ง)
ถึงไหนแล้วเนี่ย (ย้อนกลับไปอ่านแพร็บ - ภาษาไรเนี่ย)
คือพอร้อง ๆ เราก็พยายามเลือกเพลงสนุก ๆ ที่ได้เต้นกัน (ถามคนอื่นยังว่าอยากให้ร้องป่ะ - คำตอบคือไม่ อย่าให้ได้ถือไมค์) พอรุ่นน้องมันเข้ามาใกล้ เราก็จะเดินออกไปห่าง ๆ ทีนี้หลาย ๆ ครั้ง คนก็เริ่มแซวอีกแล้ว ตอนแรกก็ว่าจะหยุดเดินหนีนั่นล่ะ กลัวมันจะเกิดอาการ "หมั่นไส้" วิ่งไล่กอดประชดเอา แต่...คิด ๆ ไป คือ "เอาที่สบายใจ" ก็หลีกเลี่ยงต่อไป
จุดแตกหักมันอยู่ตรงที่ ระหว่างที่กำลังนั่งเลือกเพลงอยู่ (รุ่นน้องต้นเหตุอยู่ส่วนหลังกับทีม) ก็ได้ยินเสียง "เฮ้ย ๆ มาแล้วโว้ย ๆ" ก็คิดล่ะมา มันมาแล้ว จะลุกหนีดีหรือเปล่า สุดท้ายก็ตัดสินใจเดินหนีอ้อมมาอีกฝั่ง
ในมุมมองผู้ชาย หรือคนอื่น คงคิดว่าเรา "เล่น" มั้งคะ เลยมีรุ่นน้องอีกคนเข้ามาสกัดไม่ให้เราหนี คือเดินเข้ามาปิดช่อง ไม่ได้ประจันหน้านะคะ เราก็พยายามที่จะหนี สัญชาตญาณเอาตัวรอดก็ทำงาน ก็เลยซัดหน้าไปเบา ๆ (คิดว่าเบาจริง ๆ นะ คือเหมือนกำหมัดจิ้มไปที่ครึ่งปากครึ่งจมูก ตอนแรกมือกำลังจะเสยเข้าปลายคางด้วยซ้ำ แต่กลัวเป็นเรื่อง)
เราก็ตกใจ น้องมันก็ตกใจ ก็พูดไม่ออกทั้งสองคน พยายามจะแบบว่าขอโทษ แต่ก็ยังไม่ได้พูด ไอ้ตัวต้นเหตุมันก็เข้ามากอดจากข้างหลัง คือตอนนั้นมัวแต่ตกใจที่ชกหน้ารุ่นน้องมัน เลยลืมไอ้นี่ไปเลย รู้ตัวอีกที ได้ยินเสียงโห่แซวกัน ก็โมโหมาก เลยศอกกลับมันไป คราวนี้แรงเลยค่ะ ศอกกลับมุมต่ำค่ะ น่าจะโดนประมาณอกนี่แหละ จริง ๆ อยากเฉียงขึ้นประมาณหน้านะ ถ้ามุมนั้นน่าจะเจ็บเยอะ (รู้งี้น่าซัดมุมนั้น) แต่ตอนนั้นก็มันเหมือนเราจะทำรุนแรงไปไงคะ
พอมันผงะ เราก็ถอยออกและหันกลับไป มันเหมือนจะถลาเข้ามาอีกนะ เราก็เลยยกศอกให้ประมาณว่า "เข้ามาคราวนี้ โดนอีกแน่" มันก็เลยไม่เข้ามา
เราก็เซ็ง ไอ้รุ่นน้องที่โดนต่อยมันก็เงียบ เช็ดจมูกดูว่ามีเลือดกำเดาไหม
คนอื่น อาจไม่รู้หรือไม่สนใจ หรือยังไง แต่ตอนนั้นเราโคตรเซ็ง ก็เลยคว้ากระเป๋า บอกหัวหน้าว่าจะกลับละ (สามทุ่มกว่า) หัวหน้าก็ถาม "เป็นไร ไม่สนุกเหรอ" เราก็บอก "...(ชื่อเรา)ไม่สนุก ถาม (ชื่อรุ่นน้องที่โดนจิ้มหน้า)สิคะ ว่าสนุกหรือเปล่า" แล้วก็ขับรถกลับเลย