กระทู้นี้เป็นการตั้งกระทู้ครั้งแรกของผม วิธีการพิมหรือถ่ายถอดอาจจะออกมาไม่ดีเท่าที่ควรแต่ผมจะทำไห้ดีที่สุดนะครับ

เริ่มเลยนะครับ

ผมอยากรู้ว่าทำไมคนไทยเวลาเจอคนที่จะมาขายประกัน ไม่ว่าจะอะไรก้ตามถึงคิดด้านลบไว้ก่อนทั้งๆที่ ประกันมีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเปน สะสมทรัพย์ ประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ ประกันรถ บลาๆๆๆๆๆๆ แต่พอแก่ตัวลงเกิดโรคร้ายแรงหรืออุบัติเหตุก้ต้องมานั่งจ่ายเงินกันเองค่ารักษาพยาบาล ทั้งๆที่ถ้ามีประกัน ก้สามารถช่วยลดหย่อนค่าใช้จ่ายที่เราจะต้องเสีย อย่างน้อยก้ส่วนนึง แล้วถ้าเกิดตายขึ้นมา แล้วผู้ที่ตายเนี้ยเกิดเป็นเสาหลักของครอบครัวพอตายลงทุกคนในครอบครัวจะเป็นอย่างไร คุณหรือเปล่า? ที่เป็นเสาหลักของครอบครัว ถ้าสมมุตติซื้อประกันชีวิตแล้วจ่ายจนครบละคุณไม่ตายเสียก่อน คุณก้ได้เงินก้อนมาสามารถลงทุนกับอะไรก้ได้ที่คุณอยากทำ แต่ถ้าโชคร้ายขี้เกียจหายใจตายไปซะก่อนอย่างน้อยก็มีเงินทำศพไม่ต้องลำบากคนข้างหลัง

หรือคุณคิดว่าการทำงานไปออฟฟิศ นั่งลั้ลลา6-8 ชม.แล้วก้รอรถติดๆกลับบ้านตอนเย็นทุกวัน ละก้รอสิ้นเดือนรับเงินเดือนคือความสุขมันก้โอเคครับ ความสุขคนเราไม่เหมือนกัน แต่ผมอยากรู้ว่าความสุขนี้จะอยุ่กับคุณไปกี่ปี ผมว่าต่ำๆก้จาก 23-60 ปี ตามอายุของคุณ ระหว่างนั้นคุณก้คงจะเลื่อนตำแหน่งบ้างได้เงินโบนัสเงินนู่นนี่นั่น คุณก้คงมีเงินเก็บบ้างซึ่งมันก้เป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าคุณเกิดอุบัติเหตุหนักๆ (สมมุตติดวงตก)คุณก้คงจะต้องเอาเงินที่หามาได้หมดไปกับการรักษาตัวเอง ไม่ได้ใช้ไปกับเรื่องที่ตัวเองอยากทำ แต่อย่างที่บอกสมมุดติมีประกันก้คงไม่จุกมากเวลาเจอบิลค่ารักษา และจะได้เข้ารักษาที่โรงพยาบาลดีๆ มีอุปกรณ์ดีๆรักษา ผมว่าชีวิตเป็นเรื่องไม่แน่นอนนะครับ ความตายหรือการเจ็บตัวส่วนมาก มักจะมาโดยที่เราไม่ทันตั้งตัว ผมรู้ว่าใครๆก้รู้ว่ามันเป็นเช่นนั้นแต่ไม่ได้ตระหนักว่ามันเป็นเช่นนั้น

ส่วนที่คิดว่าประกันคือการโกง อย่างเช่นจ่ายเบี้ยทุกๆปี ทุกๆเดือนควรจะเก็บใบเสร็จไว้ด้วย แล้วพอถึงเวลาเกิดเหตุขึ้นมาประกันตุกติกไม่จ่าย นั่นเป็นเพราะว่า เหตุที่มันเกิดเนี้ยมันตรงเข้ากับเงื่อนไขของการประกันหรือไม่ มีหลักฐานเพรียบพร้อมหรือไม่ เราก้ควรจะต้องอ่านเงื่อนไขอย่างถี่ถ้วนก่อนที่จะเซ็นว่า ข้าพเจ้าได้รับรู้บลาๆๆๆ แล้วพอเกิดเหตุก้มาบอกว่าทำไมไม่จ่าย

ส่วนตัวแทนที่จะมาโกงเนี้ยส่วนตัวผมคิดว่าน่าจะมีบ้างที่เก็บเบี้ยแล้วไม่เข้าบริษัท ดังนั้น ก่อนที่จะซื้อประกันกับตัวแทนของบริษัทใดๆก้ตามผมคิดว่า ควรมอง background ของตัวแทนนั้นๆเลยว่าเขาเปนใครมาจากไหนอยู่ที่ไหนตามไปหาเมื่อเกิดเรื่องได้ไหมและควรเก็บข้อมูลของตัวแทนนั้นๆให้พร้อม ถ้าเกิดเรื่องจะได้ไปหาที่บ้านซะเลย

ส่วนคนที่ไม่มีความรู้เรื่องประกันก้ควรจะถามอะไรที่อยากรู้ถามให้หมด เรายังไม่เสียเงินซื้อ ดังนั้นถามให้หมดตัวแทนที่จะขายประกันคุณอย่างน้อยต้องสามารถตอบคำถามทั้งหมดที่คุณอยากรู้ได้แน่นอน และที่สำคัญ ควรจะจด หรือบันทึกเสียง หรือถ่ายวิดีโอไว้เลย จะได้เป็นหลักฐานว่าเราได้ซื้อประกันชนิดนี้กับนายคนนี้ วันที่เท่าไหร่อะไรยังไง ในวันที่ถ่ายอาจจะดูไม่มีอะไรแต่วันที่เกิดเรื่องเนี้ย มันจะได้ใช้เป็นประโยชน์แน่นอน

ผมเคยได้ยินว่า คนไทย 65% ยังไม่ได้ซื้อประกัน (อันที่จิง70%แต่กลัวมันจะดูเยอะไป555555) ยังเหลือที่ 35% ที่ยังไม่ซื้อ ส่วนที่ต่างประเทศ  ส่วนมากเขาซื้อประกันไว้เกือบทุกสิ่งไม่ว่าจะเป็น บ้าน รถ ตู้เย็น เครื่องนั่นๆนี่ๆ ไม่ว่าจะเป็นอะไรที่มีมูลค่า ก้สามารถประกันได้ พวกนักฟุตบอลที่ดังๆเขายังประกันขาตัวเองไว้เลยเพราะนั่นคือสิ่งที่มีค่าสำหรับเขา เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นมา จะได้มีเงินมาทดแทน ไม่ต้องเสียสิ่งนั้นไปฟรีๆ

คิดไหมทำเวลาซื้อคอม โทรศัพท์มือถือราคาแพง รถหรืออะไรก้ตาม  ยังมีประกันเลย แล้วเคยไหมเวลาที่คอม รถ โทรศัพท์ เกิดการเสื่อมสภาพขึ้นมา เรายังยกไปซ่อมไปเปลี่ยนอะไหล่ ที่ศูนย์ ได้อาจจะเสียเงินบ้าง ถ้าเกินเงื่อนไขของประกัน แต่คุณก้ไม่ต้องเสียเต็มๆเพราะมีประกัน

แล้วชีวิตคนเราก้เป็นเช่นนั้นเหมือนกัน ถ้าเกิดอะไรขึ้นมา เราจะได้ยกตัวเราไปเข้า ศูนย์มนุษย์ (โรงพยาบาล) ที่เราจะสามารถรักษาสภาพการผิดปกติของเราได้ ถ้ามีประกัน อย่างน้อยก้เหมือนมีโล่ ที่อาจจะซึมซับ damage ค่ารักษาเราไปได้ ทั้งหมด หรือไม่ทั้งหมด ก้แล้วแต่โล่ที่คุณเลือกมาใช้ว่าคุณภาพเกรดไหนกันอะไรได้บ้าง อย่างว่า ของดีไม่มีถูกของถูก ก้ไม่ใช่ว่าจะไม่ดีเสมอไป แต่แค่ดีไม่เท่าของแพง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าจะซื้ออะไรก้ควรอ่าน เงื่อนไข ให้ถี่ถ้วน (เป็นสิ่งที่สัคัญที่สุดในการเซ็นสัญญาแต่ละฉบับ)


ส่วนเพื่อนๆมีความคิดเห็นอย่างไรบ้างกับ ประกัน บ้างครับ

ปล. ถ้าใครที่จะซื้อประกันและมีคำถามที่เกี่ยวกับประกันอยากติดต่อผมหลังไมค์ ก้สามารถทำได้นะครับ ผมมีตัวแทนที่ เป็นที่ยอมรับว่าดีจากหลายๆคน รวมถึงผมด้วยครับว่า ดูแลเอาใจใส่ลูกค่าได้ดีมาก พร้อมที่จะให้คำปรึกษา ฟรี

สุดท้ายนี้ขอบคุณทุกๆท่านมากนะครับ ที่ พยายามอ่านบทความนี้ของผมจนจบ (อยากจะรู้ว่ามีสักกี่คนนะ ที่ยอมอ่านจนจบ555555)