สวัสดีเพื่อนๆสมาชิกพันทิพครับ กระทู้นี้เป็นการรีวิวประสบการณ์ท่องเที่ยวครั้งแรกของผม จากปกติที่ได้แต่ด้อมๆ มองๆ กระทู้ของเพื่อนๆ แต่ครั้งนี้ได้มีโอกาสไปสัมผัสบรรยากาศการท่องเที่ยวแบบตัวคนเดียวมา (ฟังดูเคว้งคว้างมาก ฮา) ณ ประเทศเพื่อนบ้านอย่างสิงคโปร์ เลยอยากเอาประสบการณ์และข้อมูลการเที่ยวที่ได้มาแบ่งปันกัน ว่าจริงๆแล้ว การไปเที่ยวคนเดียวมันก็ไม่ยากอย่างที่คิด
ออกตัวก่อนว่าจริงๆ ตอนแรกผมก็ไม่ได้ตั้งใจว่าจะไปเที่ยวคนเดียวนะครับ แต่เนื่องด้วยเพื่อนๆและญาติๆที่ปกติจะไปเที่ยวด้วยกัน เกิดไม่ว่าง หรือว่างแต่มีปัจจัยอื่นทำให้ไปไม่ได้ ผมเลยคิดว่าเป็นโอกาสที่จะได้ลองไปเที่ยวตามลำพังดูสักที (ฟังดูเคว้งกว่าเดิมอีก 555) อีกทั้งลึกๆในใจก็คิดว่าอยากลองอยู่แล้วและไม่น่าจะมีปัญหาหรือน่ากลัวมากมายอะไร เพราะมีแรงบันดาลใจจากหลายคนที่ทำให้อยากจะออกไปท่องโลกกว้างคนเดียวบ้างสักครั้งในชีวิต เช่นคุณ ปั้น The Walking Backpack และคุณ มิ้นท์ I Roam Alone
**สำหรับรีวิวนี้ จะเน้นการเตรียมตัว นำเสนอเฉพาะที่พักและสถานที่เที่ยวหลักๆที่ตั้งเป้าไว้ รวมถึงข้อแนะนำเล็กๆน้อยๆนะครับ ยังไงถ้าข้อมูลขาดตกบกพร่องตรงไหน ขออภัยไว้ล่วงหน้าด้วยนะครับ มือใหม่หัดรีวิวมากๆ 55
เริ่มต้นจากเป้าหมาย
การเตรียมตัวสำหรับเดินทางไปเที่ยวคนเดียวครั้งแรกนี้ ผมเริ่มจากการมองหาเป้าหมาย ว่าเราต้องการจะไปทำอะไร จะเน้นอะไรในการเที่ยวที่เราได้ทำในสิ่งที่ชอบและรู้สึกว่าไปแล้วจะไม่กลับมานั่งคิดว่า เฮ้ย เสียเที่ยวนะ ไปมาเพื่ออะไรเนี่ย ....
จุดหมายของหลายคนก็อาจจะแตกต่างกันไป แต่เชื่อแน่ๆ ว่าสิ่งที่ทุกคนต้องการเมื่อออกไปเที่ยว คือการได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ ซึ่งสำหรับผม โดยส่วนตัวชื่นชอบการถ่ายภาพวิวเมือง (Cityscape Photography ) ในช่วงเวลาต่างๆ ตั้งแต่ช่วงเช้าไปจนถึงยามค่ำคืน และชอบที่จะนั่งชมบรรยากาศชีวิตผู้คนและบ้านเมืองที่เราไม่เคยเห็น ทำให้ทริปนี้ ผมเลือกวางเป้าหมายหลักๆ ไปที่การถ่ายภาพแสงสีบ้านเมืองสิงคโปร์ในหลายสถานที่และหลายช่วงเวลา ตั้งแต่แสงแรกยามเช้า ไปจนถึงหลังพระอาทิตย์ตก
เริ่มต้นวางแผน จองตั๋ว-ที่พัก-วางโปรแกรมเที่ยว-เตรียมอุปกรณ์เดินทาง
ทริปนี้ผมเลือกจองตั๋วของแอร์ เอเชีย ในช่วงที่มีโปรโมชั่นราคาพิเศษ(แต่ต้องจองข้ามปี) และใช้สิทธิการเป็นสมาชิก BIG แต่การจะได้ของดีราคาย่อมเยานั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเปิดจองตอนตี 3 ผมเลยต้องถ่างตารอ แต่สุดท้ายก็ได้ตั๋วมาสมใจในราคาเบ็ดเสร็จไม่ถึงสองพัน ส่วนที่พักนั้น ผมใช้บริการของ Agoda ในการเปรียบเทียบราคาของ Hostel ต่างๆ
สาเหตุที่เลือก Hostel เป็นเพราะเรื่องงบประมาณเป็นหลักครับ เพราะที่สิงคโปร์ ถ้าเป็นโรงแรมทั่วไป ราคาขั้นต่ำเท่าที่หาเจอก็จะหลักพันกลางๆขึ้นไป ซึ่งถ้าไปหลายคนก็คงจะไม่มีปัญหา แต่การไปคนเดียว นอน Hostel จะประหยัดไปได้มากกว่าครับ ส่วนโรงแรมที่ผมเลือกไปพักครั้งนี้ มีชื่อว่า The Plot Hostel เป็นเหมือนโรงแรมแคปซูล อยู่ในย่าน Tiong Bahru ความดีงามและน่าประทับใจของที่นี่มีหลายอย่าง ดูรายละเอียดได้ในส่วนรีวิวครับ
หลังจากได้ตั๋วและที่พักแล้ว สิ่งสำคัญต่อมาคือการวางโปรแกรมเที่ยวครับ ข้อมูลที่หาได้ หลักๆก็มาจากทั้งเวบพันทิพและเวบ go2singapore (แนะนำข้อมูลเที่ยวด้วยตัวเองละเอียดดีมากๆครับ เข้าอากู๋เสิร์ชเจอเลย) ส่วนโปรแกรมเที่ยวของผมค่อนข้างจะแน่นมาก ถ้าใครสนใจยังไง PM มาถามได้ครับ
เมื่อได้รายละเอียดสถานที่เที่ยวที่ต้องการไปแล้ว ก็หาข้อมูลการเดินทางคร่าวๆเตรียมไว้ครับ กันหลงไว้ก่อน แม้ว่าเวลาไปเที่ยวจริง หลักๆจะใช้แอพในสมาร์ทโฟน สำหรับหาวิธีการเดินทาง ทั้งรถเมล์และรถไฟฟ้า ซึ่งสะดวกมากๆครับ แอพที่ผมใช้ก็มี Google Map แต่มีบางคนแนะนำว่าใช้แอพ SMRTConnect ก็ได้เช่นกันครับ
ส่วนอุปกรณ์ที่เตรียมไปสำหรับการเดินทางเที่ยวของผมครั้งนี้ นอกจากเสื้อผ้าและอุปกรณ์ถ่ายภาพ (Nikon D610, Nikon 24-85vr, Nikon 20F1.8G, Nikon 50F1.8G, ขาตั้ง Sirui T2005X) ก็มีสมาร์ทโฟน, พาวเวอร์แบงค์, ยาแก้ไข้, ยาทาคลายปวดกล้ามเนื้อ(โชคดีที่เตรียมไป เพราะเดินเยอะมากกกกกก) และผมแนะนำว่าควรเอาผ้าขนหนูผืนเล็กไปเผื่อด้วย (ที่ต้องเตรียมไป เพราะถึงแม้ทาง The Plot Hostels จะมีผ้าขนหนูให้ แต่ในทริปของผม มันเกิดเหตุการณ์ผ้าขนหนูย้ายที่แขวน !! แถมมีกลิ่นกายของผู้อื่นที่แอบหยิบเอาไปใช้ด้วย T-T) ส่วนพวก Universal Adapter ไว้แปลงปลั๊กไฟ บางโรงแรมอาจจำเป็น แต่ที่นี่ไม่จำเป็นครับ เพราะเป็นปลั๊กใช้ได้ทั้งชนิดขากลมและเหลี่ยมเหมือนของไทย
ค่าใช้จ่ายคร่าวๆสำหรับการเที่ยวของผมครั้งนี้
แบ่งเป็น
- ค่าตั๋วแอร์เอเชีย = 1,720 บาท
- ค่าห้องพัก The Plot Hostels 3 คืน พร้อมอาหารเช้า = 2,710.29 บาท
- ค่าบัตร Ezy Link = 800 บาท (เดิมๆ 12 sgd+เติมเงินไป 20 sgd)
- ค่าซิม Singtel = 375 บาท (15 sgd)
- ซื้อขนม-ของฝาก = 850 บาท (34 sgd)
- ค่าอาหาร-น้ำ เช้า-กลางวัน-เย็น = 1930 บาท (77.2 sgd) เฉลี่ยวันละ 600 ตกมื้อละประมาณ 200 (แต่ผมกินบางมื้อถูก บางมื้อแพง)
หมายเหตุ **อัตราแลกเปลี่ยนผมเฉลี่ยเป็น 1 ดอลลาร์สิงคโปร์ ต่อ 25 บาท**
สรุป
ทริปนี้ใช้เงินไปทั้งหมด 8,385 บาท ครับ ถือว่าประสบความสำเร็จในแง่การลงทุน กินอิ่ม นอนสบาย เดินทางสะดวก แฮปปี้มากๆครับ
เริ่มต้นออกผจญภัย
เที่ยวบินแอร์ เอเชีย ที่ผมจอง เดินทางออกจากสนามบินดอนเมืองในเวลา 18.20 น. แต่ไปถึงสนามบิน Changi ของสิงคโปร์เวลา 21.40 น. เนื่องจากเวลาของสิงคโปร์จะเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง
การเตรียมพร้อมเมื่อเดินทางถึงสิงคโปร์
สิ่งแรกที่แนะนำหลังเดินทางถึงสนามบินและผ่าน ตม. มาแล้ว คือการหยิบแผนที่ซึ่งจะมีรายละเอียดเส้นทางรถไฟฟ้าสีต่างๆอยู่ หลังจากนั้นคือหาซื้อซิมโทรศัพท์ มีอยู่หลาย Operator แต่ผมใช้ของ Singtel แบบราคา 15 sgd ครับ และแนะนำว่าให้หาซื้อจากที่สนามบินไปเลย โดยเฉพาะถ้าใช้นาโนซิม เพราะผมไปหาซื้อข้างนอก ตาม 7-11 หาหลายร้านก็บอกหมดแล้ว กว่าจะหาได้ก็วันที่ 2 ของทริปครับ ผลที่ตามมาเมื่อไม่มีซิม ก็คือไม่มีอินเตอร์เนตในการใช้แอพหาวิธีการเดินทางครับ ทำให้เที่ยวลำบากขึ้น (ผมงี้หลงเลย วันแรกเดินหาที่ขึ้นรถไฟฟ้าเพลียมาก 555) ส่วนบัตร โดยสารรถไฟฟ้าและรถเมล์ที่เรียกว่า Ezy Link ซื้อได้ที่เคาท์เตอร์ทางเข้ารถไฟฟ้าเลยครับ
แผนที่ MRT ทั้งหมดของสิงคโปร์ครับ
ครั้งแรกกับโรงแรมแคปซูล
หลังออกจากสนามบิน ผมก็มุ่งตรงไปที่โรงแรมเลยครับ ซึ่งโรงแรมที่เลือกพักในการเดินทางทริปนี้ มีชื่อว่าโรงแรม The Plot Hostels เป็นโรงแรมแคปซูลอยู่บนถนน Outram Rd ไม่ไกลจากย่าน Tiong Bahru การเดินทาง จากสถานี MRT Outram Park (สายสีเขียว-ม่วง) ออก Exit E มาตามป้ายถนน Outram Rd แล้วเลี้ยวขวาเดินไปข้ามสะพานลอยต่อรถเมล์ มีหลายสายครับ 63, 33, 851 (แต่ชัวร์สุดแนะนำเปิด Google Map นะครับ เผื่อมีข้อมูลเปลี่ยนแปลง) ไปลงที่ป้าย Blk55 แล้วเดินข้ามฝั่งย้อนลงมาจะเห็นโรงแรม Wangz แล้วเลี้ยวซ้ายเดินทะลุซอยแล้วย้อนไปตามตึกแถวไม่ไกลจะเจอโรงแรมครับ (ดูตามแผนที่นะครับเผื่องง)
ภาพด้านหน้าโรงแรม
ความประทับใจในสถานที่
สิ่งแรกที่ได้รับเลย คือความประทับใจในพนักงานครับ พนักงานบริการดียิ้มแย้มให้ความช่วยเหลือแบบเป็นกันเอง ถามข้อมูลที่เที่ยวที่กินก็ให้คำแนะนำเต็มที่ครับ ส่วนตัวโรงแรม มีการตกแต่งออกแนวบูทีค สะอาด ชั้นล่างจะมีลอบบี้และพื้นที่นั่งเล่นรวมสำหรับดูโทรทัศน์และพื้นที่ครัว มีเครื่องกดน้ำให้บริการและมีอาหารกล่องขาย
หลังเช็คอินแล้วทางโรงแรมจะให้ผ้าเช็ดตัวกับสายรัดข้อมือที่ใช้เป็นกุญแจเปิดประตูห้องและประตูเข้าโรงแรม(หากกลับดึกเกินเที่ยงคืนจะมีประตูเล็กด้านข้าง) ส่วนห้องที่ผมพักเป็นแคปซูลรวม 6 เตียง พื้นที่ก็ไม่แคบมากมายครับ มีม่านกั้นได้ความเป็นส่วนตัว ภายในมีล็อคเกอร์ส่วนตัวที่เรากำหนดรหัสเอง และมีปลั๊กให้ 2 จุด ส่วนห้องน้ำแม้จะเป็นห้องน้ำรวม แต่ดีไซน์สวยงามเหมือนตามโรงแรมทั่วไป และค่อนข้างสะอาดครับ
ส่วนอาหารเช้าที่นี่จะให้บริการตั้งแต่ 7 โมง ไปจนถึง 10 โมง แต่จะเป็นอาหารเบา ประเภทซีเรียล นม น้ำส้ม ผลไม้ (ส่วนตัวไม่อิ่มต้องไปหาทานข้างนอกต่อ 555) ทานเสร็จแล้วแขกส่วนใหญ่จะล้างจานเองที่ซิงค์ล้างจานด้านหลัง
อย่างที่บอกครับว่าบริเวณใกล้โรงแรม จะเป็นย่าน Tiong Bahru ซึ่งมีร้านอาหารและร้านขนมเก๋ๆหลายร้านตั้งอยู่ ใครอยากหาร้านนั่งทานขนมกาแฟชิลๆ มาย่านนี้ไม่ผิดหวังครับ
ข้อแนะนำ
การพักห้องแคปซูลซึ่งเป็นห้องรวม ต้องระวังข้าวของและทรัพย์สินมีค่า ควรเก็บใส่ล็อคเกอร์ และสำหรับคุณผู้หญิงที่ไปเที่ยวคนเดียว อยากให้ระวังตัวเองนิดนึงครับ ส่วนของใช้ อย่างผ้าเช็ดตัว ถ้าติดผืนเล็กๆไปก็จะดีครับ เพราะอย่างที่บอกว่าผมเจอกรณีคนอื่นแอบเอาผ้าเช็ดตัวไปใช้แล้วเปลี่ยนที่แขวน (สีผ้าเช็ดตัวเหมือนกันหมด) เลยต้องไปขอผ้าเช็ดตัวใหม่กับเจ้าหน้าที่โรงแรม
[CR] 1st Solo ลุยเดี่ยวตามหาแสงสี ณ สิงคโปร์ ทริปง่าย สบายกระเป๋า
ออกตัวก่อนว่าจริงๆ ตอนแรกผมก็ไม่ได้ตั้งใจว่าจะไปเที่ยวคนเดียวนะครับ แต่เนื่องด้วยเพื่อนๆและญาติๆที่ปกติจะไปเที่ยวด้วยกัน เกิดไม่ว่าง หรือว่างแต่มีปัจจัยอื่นทำให้ไปไม่ได้ ผมเลยคิดว่าเป็นโอกาสที่จะได้ลองไปเที่ยวตามลำพังดูสักที (ฟังดูเคว้งกว่าเดิมอีก 555) อีกทั้งลึกๆในใจก็คิดว่าอยากลองอยู่แล้วและไม่น่าจะมีปัญหาหรือน่ากลัวมากมายอะไร เพราะมีแรงบันดาลใจจากหลายคนที่ทำให้อยากจะออกไปท่องโลกกว้างคนเดียวบ้างสักครั้งในชีวิต เช่นคุณ ปั้น The Walking Backpack และคุณ มิ้นท์ I Roam Alone
**สำหรับรีวิวนี้ จะเน้นการเตรียมตัว นำเสนอเฉพาะที่พักและสถานที่เที่ยวหลักๆที่ตั้งเป้าไว้ รวมถึงข้อแนะนำเล็กๆน้อยๆนะครับ ยังไงถ้าข้อมูลขาดตกบกพร่องตรงไหน ขออภัยไว้ล่วงหน้าด้วยนะครับ มือใหม่หัดรีวิวมากๆ 55
เริ่มต้นจากเป้าหมาย
การเตรียมตัวสำหรับเดินทางไปเที่ยวคนเดียวครั้งแรกนี้ ผมเริ่มจากการมองหาเป้าหมาย ว่าเราต้องการจะไปทำอะไร จะเน้นอะไรในการเที่ยวที่เราได้ทำในสิ่งที่ชอบและรู้สึกว่าไปแล้วจะไม่กลับมานั่งคิดว่า เฮ้ย เสียเที่ยวนะ ไปมาเพื่ออะไรเนี่ย ....
จุดหมายของหลายคนก็อาจจะแตกต่างกันไป แต่เชื่อแน่ๆ ว่าสิ่งที่ทุกคนต้องการเมื่อออกไปเที่ยว คือการได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ ซึ่งสำหรับผม โดยส่วนตัวชื่นชอบการถ่ายภาพวิวเมือง (Cityscape Photography ) ในช่วงเวลาต่างๆ ตั้งแต่ช่วงเช้าไปจนถึงยามค่ำคืน และชอบที่จะนั่งชมบรรยากาศชีวิตผู้คนและบ้านเมืองที่เราไม่เคยเห็น ทำให้ทริปนี้ ผมเลือกวางเป้าหมายหลักๆ ไปที่การถ่ายภาพแสงสีบ้านเมืองสิงคโปร์ในหลายสถานที่และหลายช่วงเวลา ตั้งแต่แสงแรกยามเช้า ไปจนถึงหลังพระอาทิตย์ตก
เริ่มต้นวางแผน จองตั๋ว-ที่พัก-วางโปรแกรมเที่ยว-เตรียมอุปกรณ์เดินทาง
ทริปนี้ผมเลือกจองตั๋วของแอร์ เอเชีย ในช่วงที่มีโปรโมชั่นราคาพิเศษ(แต่ต้องจองข้ามปี) และใช้สิทธิการเป็นสมาชิก BIG แต่การจะได้ของดีราคาย่อมเยานั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเปิดจองตอนตี 3 ผมเลยต้องถ่างตารอ แต่สุดท้ายก็ได้ตั๋วมาสมใจในราคาเบ็ดเสร็จไม่ถึงสองพัน ส่วนที่พักนั้น ผมใช้บริการของ Agoda ในการเปรียบเทียบราคาของ Hostel ต่างๆ
สาเหตุที่เลือก Hostel เป็นเพราะเรื่องงบประมาณเป็นหลักครับ เพราะที่สิงคโปร์ ถ้าเป็นโรงแรมทั่วไป ราคาขั้นต่ำเท่าที่หาเจอก็จะหลักพันกลางๆขึ้นไป ซึ่งถ้าไปหลายคนก็คงจะไม่มีปัญหา แต่การไปคนเดียว นอน Hostel จะประหยัดไปได้มากกว่าครับ ส่วนโรงแรมที่ผมเลือกไปพักครั้งนี้ มีชื่อว่า The Plot Hostel เป็นเหมือนโรงแรมแคปซูล อยู่ในย่าน Tiong Bahru ความดีงามและน่าประทับใจของที่นี่มีหลายอย่าง ดูรายละเอียดได้ในส่วนรีวิวครับ
หลังจากได้ตั๋วและที่พักแล้ว สิ่งสำคัญต่อมาคือการวางโปรแกรมเที่ยวครับ ข้อมูลที่หาได้ หลักๆก็มาจากทั้งเวบพันทิพและเวบ go2singapore (แนะนำข้อมูลเที่ยวด้วยตัวเองละเอียดดีมากๆครับ เข้าอากู๋เสิร์ชเจอเลย) ส่วนโปรแกรมเที่ยวของผมค่อนข้างจะแน่นมาก ถ้าใครสนใจยังไง PM มาถามได้ครับ
เมื่อได้รายละเอียดสถานที่เที่ยวที่ต้องการไปแล้ว ก็หาข้อมูลการเดินทางคร่าวๆเตรียมไว้ครับ กันหลงไว้ก่อน แม้ว่าเวลาไปเที่ยวจริง หลักๆจะใช้แอพในสมาร์ทโฟน สำหรับหาวิธีการเดินทาง ทั้งรถเมล์และรถไฟฟ้า ซึ่งสะดวกมากๆครับ แอพที่ผมใช้ก็มี Google Map แต่มีบางคนแนะนำว่าใช้แอพ SMRTConnect ก็ได้เช่นกันครับ
ส่วนอุปกรณ์ที่เตรียมไปสำหรับการเดินทางเที่ยวของผมครั้งนี้ นอกจากเสื้อผ้าและอุปกรณ์ถ่ายภาพ (Nikon D610, Nikon 24-85vr, Nikon 20F1.8G, Nikon 50F1.8G, ขาตั้ง Sirui T2005X) ก็มีสมาร์ทโฟน, พาวเวอร์แบงค์, ยาแก้ไข้, ยาทาคลายปวดกล้ามเนื้อ(โชคดีที่เตรียมไป เพราะเดินเยอะมากกกกกก) และผมแนะนำว่าควรเอาผ้าขนหนูผืนเล็กไปเผื่อด้วย (ที่ต้องเตรียมไป เพราะถึงแม้ทาง The Plot Hostels จะมีผ้าขนหนูให้ แต่ในทริปของผม มันเกิดเหตุการณ์ผ้าขนหนูย้ายที่แขวน !! แถมมีกลิ่นกายของผู้อื่นที่แอบหยิบเอาไปใช้ด้วย T-T) ส่วนพวก Universal Adapter ไว้แปลงปลั๊กไฟ บางโรงแรมอาจจำเป็น แต่ที่นี่ไม่จำเป็นครับ เพราะเป็นปลั๊กใช้ได้ทั้งชนิดขากลมและเหลี่ยมเหมือนของไทย
ค่าใช้จ่ายคร่าวๆสำหรับการเที่ยวของผมครั้งนี้
แบ่งเป็น
- ค่าตั๋วแอร์เอเชีย = 1,720 บาท
- ค่าห้องพัก The Plot Hostels 3 คืน พร้อมอาหารเช้า = 2,710.29 บาท
- ค่าบัตร Ezy Link = 800 บาท (เดิมๆ 12 sgd+เติมเงินไป 20 sgd)
- ค่าซิม Singtel = 375 บาท (15 sgd)
- ซื้อขนม-ของฝาก = 850 บาท (34 sgd)
- ค่าอาหาร-น้ำ เช้า-กลางวัน-เย็น = 1930 บาท (77.2 sgd) เฉลี่ยวันละ 600 ตกมื้อละประมาณ 200 (แต่ผมกินบางมื้อถูก บางมื้อแพง)
หมายเหตุ **อัตราแลกเปลี่ยนผมเฉลี่ยเป็น 1 ดอลลาร์สิงคโปร์ ต่อ 25 บาท**
สรุป
ทริปนี้ใช้เงินไปทั้งหมด 8,385 บาท ครับ ถือว่าประสบความสำเร็จในแง่การลงทุน กินอิ่ม นอนสบาย เดินทางสะดวก แฮปปี้มากๆครับ
เริ่มต้นออกผจญภัย
เที่ยวบินแอร์ เอเชีย ที่ผมจอง เดินทางออกจากสนามบินดอนเมืองในเวลา 18.20 น. แต่ไปถึงสนามบิน Changi ของสิงคโปร์เวลา 21.40 น. เนื่องจากเวลาของสิงคโปร์จะเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง
การเตรียมพร้อมเมื่อเดินทางถึงสิงคโปร์
สิ่งแรกที่แนะนำหลังเดินทางถึงสนามบินและผ่าน ตม. มาแล้ว คือการหยิบแผนที่ซึ่งจะมีรายละเอียดเส้นทางรถไฟฟ้าสีต่างๆอยู่ หลังจากนั้นคือหาซื้อซิมโทรศัพท์ มีอยู่หลาย Operator แต่ผมใช้ของ Singtel แบบราคา 15 sgd ครับ และแนะนำว่าให้หาซื้อจากที่สนามบินไปเลย โดยเฉพาะถ้าใช้นาโนซิม เพราะผมไปหาซื้อข้างนอก ตาม 7-11 หาหลายร้านก็บอกหมดแล้ว กว่าจะหาได้ก็วันที่ 2 ของทริปครับ ผลที่ตามมาเมื่อไม่มีซิม ก็คือไม่มีอินเตอร์เนตในการใช้แอพหาวิธีการเดินทางครับ ทำให้เที่ยวลำบากขึ้น (ผมงี้หลงเลย วันแรกเดินหาที่ขึ้นรถไฟฟ้าเพลียมาก 555) ส่วนบัตร โดยสารรถไฟฟ้าและรถเมล์ที่เรียกว่า Ezy Link ซื้อได้ที่เคาท์เตอร์ทางเข้ารถไฟฟ้าเลยครับ
แผนที่ MRT ทั้งหมดของสิงคโปร์ครับ
ครั้งแรกกับโรงแรมแคปซูล
หลังออกจากสนามบิน ผมก็มุ่งตรงไปที่โรงแรมเลยครับ ซึ่งโรงแรมที่เลือกพักในการเดินทางทริปนี้ มีชื่อว่าโรงแรม The Plot Hostels เป็นโรงแรมแคปซูลอยู่บนถนน Outram Rd ไม่ไกลจากย่าน Tiong Bahru การเดินทาง จากสถานี MRT Outram Park (สายสีเขียว-ม่วง) ออก Exit E มาตามป้ายถนน Outram Rd แล้วเลี้ยวขวาเดินไปข้ามสะพานลอยต่อรถเมล์ มีหลายสายครับ 63, 33, 851 (แต่ชัวร์สุดแนะนำเปิด Google Map นะครับ เผื่อมีข้อมูลเปลี่ยนแปลง) ไปลงที่ป้าย Blk55 แล้วเดินข้ามฝั่งย้อนลงมาจะเห็นโรงแรม Wangz แล้วเลี้ยวซ้ายเดินทะลุซอยแล้วย้อนไปตามตึกแถวไม่ไกลจะเจอโรงแรมครับ (ดูตามแผนที่นะครับเผื่องง)
ภาพด้านหน้าโรงแรม
ความประทับใจในสถานที่
สิ่งแรกที่ได้รับเลย คือความประทับใจในพนักงานครับ พนักงานบริการดียิ้มแย้มให้ความช่วยเหลือแบบเป็นกันเอง ถามข้อมูลที่เที่ยวที่กินก็ให้คำแนะนำเต็มที่ครับ ส่วนตัวโรงแรม มีการตกแต่งออกแนวบูทีค สะอาด ชั้นล่างจะมีลอบบี้และพื้นที่นั่งเล่นรวมสำหรับดูโทรทัศน์และพื้นที่ครัว มีเครื่องกดน้ำให้บริการและมีอาหารกล่องขาย
หลังเช็คอินแล้วทางโรงแรมจะให้ผ้าเช็ดตัวกับสายรัดข้อมือที่ใช้เป็นกุญแจเปิดประตูห้องและประตูเข้าโรงแรม(หากกลับดึกเกินเที่ยงคืนจะมีประตูเล็กด้านข้าง) ส่วนห้องที่ผมพักเป็นแคปซูลรวม 6 เตียง พื้นที่ก็ไม่แคบมากมายครับ มีม่านกั้นได้ความเป็นส่วนตัว ภายในมีล็อคเกอร์ส่วนตัวที่เรากำหนดรหัสเอง และมีปลั๊กให้ 2 จุด ส่วนห้องน้ำแม้จะเป็นห้องน้ำรวม แต่ดีไซน์สวยงามเหมือนตามโรงแรมทั่วไป และค่อนข้างสะอาดครับ
ส่วนอาหารเช้าที่นี่จะให้บริการตั้งแต่ 7 โมง ไปจนถึง 10 โมง แต่จะเป็นอาหารเบา ประเภทซีเรียล นม น้ำส้ม ผลไม้ (ส่วนตัวไม่อิ่มต้องไปหาทานข้างนอกต่อ 555) ทานเสร็จแล้วแขกส่วนใหญ่จะล้างจานเองที่ซิงค์ล้างจานด้านหลัง
อย่างที่บอกครับว่าบริเวณใกล้โรงแรม จะเป็นย่าน Tiong Bahru ซึ่งมีร้านอาหารและร้านขนมเก๋ๆหลายร้านตั้งอยู่ ใครอยากหาร้านนั่งทานขนมกาแฟชิลๆ มาย่านนี้ไม่ผิดหวังครับ
ข้อแนะนำ
การพักห้องแคปซูลซึ่งเป็นห้องรวม ต้องระวังข้าวของและทรัพย์สินมีค่า ควรเก็บใส่ล็อคเกอร์ และสำหรับคุณผู้หญิงที่ไปเที่ยวคนเดียว อยากให้ระวังตัวเองนิดนึงครับ ส่วนของใช้ อย่างผ้าเช็ดตัว ถ้าติดผืนเล็กๆไปก็จะดีครับ เพราะอย่างที่บอกว่าผมเจอกรณีคนอื่นแอบเอาผ้าเช็ดตัวไปใช้แล้วเปลี่ยนที่แขวน (สีผ้าเช็ดตัวเหมือนกันหมด) เลยต้องไปขอผ้าเช็ดตัวใหม่กับเจ้าหน้าที่โรงแรม