การเดินทางไปเที่ยวน้ำตกเพื่อไปจนถึงชั้นสูงสุดไม่ใช่เรื่องง่ายเท่าไหร่
สำหรับฉันเองกว่าจะเดินไปจนถึงก็เหนื่อยเอาการอยู่
แต่ด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่าน้ำตกแต่ละชั้นหน้าตาเป็นยังไง
ก็เลยพยายามบุกป่าฝ่าดงไปจนครบ 10 ชั้น ที่นำตกแม่สา จ.เชียงใหม่
ระยะทางอาจไม่ยาวมาก และภาพอาจไม่สวยเท่าไหร่
แต่ถ้าเกิดภาพนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้คุณไปเห็นมันด้วยตาตัวเอง
หรือฉันจะสามารถพาน้ำตกแม่สาทั้ง 10 ชั้นมาฝากคนที่ไม่สามารถไปด้วยตนเองได้
ฉันก็ยินดีค่ะ ว่าแล้วไปเที่ยวน้ำตกแม่สาทั้ง 10 ชั้นกันเลยค่ะ
ปล. บางชั้นก็ได้มาแค่ป้ายจริงๆค่ะ ลงไปถ่ายมาฝากไม่ได้ เพราะทางไม่ค่อยดีเลย ต้องขออภัยด้วยนะคะ 555
คราวนี้นั่งรถสองแถวไปเองเลยค่ะ นั่งที่ท่ารถสองแถวช้างเผือกนั่งไปแม่ริม ลงที่วัดแม่ริม 16 บาท
จากนั้นเดินมารอรถที่ถนนข้างๆวัดจะมีรถสองแถววิ่งไปสเมิงมาจอดรับคนไปสเมิง
เราก็ติดไปกับรถคันนี้แหละ บอกพี่คนขับว่าลง "น้ำตกแม่สา" ด้วยนะคะ ค่ารถ 15 บาทค่ะ
แต่ก็ต้องคอยดูทางเองด้วย เพราะบางครั้งพี่คนขับก็ลืมจอดส่งเรา ก็ต้องกดอ๊อดให้เขารู้ด้วยค่ะ
ไม่งั้นได้เลยไปเก็บสตอเบอร์รี่ไกลถึงสเมิงแน่ๆเลย
เจอป้ายน้ำตกแม่สาแบบนี้ก็ลงรถได้เลยค่ะ
เดินเข้าไปอีกนิดเดียวก็ถึงทางเข้าที่ซื้อบัตร วันที่ไปเป็นวันธรรมดาด้วยค่าบัตรลดลงไปอีก 50 %
เหลือเพียง 10 บาทเท่านั้น
เส้นทางสำรวจน้ำตกแม่สาทั้ง 10 ชั้น มาเริ่มกันเลย
ถ่ายกับป้ายหน่อย
ที่นี่เขาวางตำแหน่งป้ายสวยดีนะคะ มีฉากด้านหลังเป็นชั้นน้ำตกที่กำลังไหลลงมาสวยงามทีเดียว
ช่วงที่เราไปมีฝนเบาๆเหมือนกันนะคะ แต่น้ำก็ไม่เยอะเท่าไหร่ สบายๆ ไม่น่ากลัว
จริงๆมาถ่ายรูปน้ำตกตรงนี้จุดเดียวก็ถือว่าคุ้มแล้วนะ
เริ่มเลยที่ชั้น 1 ชื่อว่า ผาลาด
น่าจะมาจากหินที่ลาดๆไป มั้ง??? ไม่รู้เข้าตั้งชื่อกันยังไงเหมือนกัน 555
ชั้น 2 ชื่อว่า วังฝาย
อันนี้มันเหมือนจะตื้นๆ เหมือนฝายเก็บน้ำ
ชั้น 3 ชื่อว่า ผาแตก
อันนี้ไปถ่ายไม่ได้ เพราะมันอยู่ต่ำลงไป สะพานไม้ที่ยื่นไปให้ยืนชม ก็พังแล้วด้วย
ชั้น 4 ชื่อว่า วังสามหมื่น
ตรงนี้จะมีน้ำไหลลงมาจากชั้น 5 ลงมายังที่ๆเหมือนอ่างน้ำกว้างๆ ดูไม่เป็นน้ำตกเท่าไหร่ 555
ชั้น 5 ชื่อว่า วังท้าวพรหมา
ชั้นนี้อลังการสุดละ เพราะมีสะพานเดินข้ามลำนำ ทำให้สามารถชมน้ำตกได้เต็มตาเลย
ชั้น 6 ชื่อว่า ตาดเหมย
ชั้นนี้จะเป็นหินก้อนใหญ่ๆ มีน้ำไม่แรงมาก แต่ถ้าไหลแรงน่าจะสวยน่าดู
ชั้น 7 ชื่อว่า ตาดพนารมย์
ชั้นนี้จะเป็นช่วงแคบๆ แต่โคดหินดูชันและน่ากลัวกว่า ถ้าน้ำมาเยอะๆแรงๆคงดูตื่นเต้นน่าดู
ชั้น 8 ชื่อว่า ผาเงิบ
ไม่แน่ใจว่าได้ชื่อนี้มาจากหน้าผาน้ำตกน้อยๆที่เห็นแล้วเงิบเลยรึเปล่า 5555
2 ชั้นสุดท้าย ชั้น 9 ชื่อว่า วัดห่าง และชั้น 10 ชื่อว่า ลานเท
2 ชั้นนี้ เห็นน้ำตกอยู่ไกลจากเราลิบๆ ถ่ายรูปมาฝากไม่ได้เลยค่ะ
ทางเดินลงไปดู เขาก็ปิดซ่อมแซมอยู่ อุตส่าห์เดินไปจนสุดแล้วแท้ๆ อดถ่ายรูปเก็บมาให้ดูเลย
แต่ไม่เป็นไรค่ะ ได้สำรวจธรรมชาติ และเอาชนะใจตัวเองมาได้ขนาดนี้ก็ถือว่าคุ้มมากแล้วที่ได้มาเที่ยวน้ำตกแม่สา
นี่เป็นภาพทางเดินที่เราได้เดินผ่านมา ถูกทำเป็นทางเดิน ขั้นบันไดอย่างดี ระหว่างทางมีต้นไม้ใหญ่น้อย
ธรรมชาติที่สวยงามเพียบ
ยังไงใครสนใจก็อย่าลืมแวะไปเที่ยวน้ำตกแม่สากันได้นะคะ
ที่นี่มีอาหารการกินขายด้วยบริเวณชั้น 2 เดินถือขึ้นไปนั่งกิน ปิคนิคได้ มีเสื่อให้เช่า
จะไปเล่นน้ำ หรือเดินสำรวจธรรมชาติ ไปกับเพื่อนหรือไปคนเดียวก็ไม่ยากอะไรค่ะ
อย่างเราทั้งหมดนี้ก็ไปคนเดียวเหมือนกัน ใช้เวลาเดินขึ้นจนถึงชั้น 10 ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง
ตอนแรกก็กลัวนะคะ เดินเข้าป่าคนเดียว แต่เอาเข้าจริงๆน้ำตกแม่สาก็ไม่น่ากลัวเท่าไหร่
มีทางเดินที่ดี มีผู้คนพอสมควร คลื่นโทรศัพท์ก็มีตลอดการเดินทางค่ะ
ที่สำคัญคือ เดินเสร็จแล้วลงมา รู้สึกกระชับต้นขามากค่ะ
ขาแข็งแรงเลยทีเดียว 5555
พาน้ำตกแม่สาทั้ง 10 ชั้นมาฝากค่ะ
สำหรับฉันเองกว่าจะเดินไปจนถึงก็เหนื่อยเอาการอยู่
แต่ด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่าน้ำตกแต่ละชั้นหน้าตาเป็นยังไง
ก็เลยพยายามบุกป่าฝ่าดงไปจนครบ 10 ชั้น ที่นำตกแม่สา จ.เชียงใหม่
ระยะทางอาจไม่ยาวมาก และภาพอาจไม่สวยเท่าไหร่
แต่ถ้าเกิดภาพนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้คุณไปเห็นมันด้วยตาตัวเอง
หรือฉันจะสามารถพาน้ำตกแม่สาทั้ง 10 ชั้นมาฝากคนที่ไม่สามารถไปด้วยตนเองได้
ฉันก็ยินดีค่ะ ว่าแล้วไปเที่ยวน้ำตกแม่สาทั้ง 10 ชั้นกันเลยค่ะ
ปล. บางชั้นก็ได้มาแค่ป้ายจริงๆค่ะ ลงไปถ่ายมาฝากไม่ได้ เพราะทางไม่ค่อยดีเลย ต้องขออภัยด้วยนะคะ 555
คราวนี้นั่งรถสองแถวไปเองเลยค่ะ นั่งที่ท่ารถสองแถวช้างเผือกนั่งไปแม่ริม ลงที่วัดแม่ริม 16 บาท
จากนั้นเดินมารอรถที่ถนนข้างๆวัดจะมีรถสองแถววิ่งไปสเมิงมาจอดรับคนไปสเมิง
เราก็ติดไปกับรถคันนี้แหละ บอกพี่คนขับว่าลง "น้ำตกแม่สา" ด้วยนะคะ ค่ารถ 15 บาทค่ะ
แต่ก็ต้องคอยดูทางเองด้วย เพราะบางครั้งพี่คนขับก็ลืมจอดส่งเรา ก็ต้องกดอ๊อดให้เขารู้ด้วยค่ะ
ไม่งั้นได้เลยไปเก็บสตอเบอร์รี่ไกลถึงสเมิงแน่ๆเลย
เจอป้ายน้ำตกแม่สาแบบนี้ก็ลงรถได้เลยค่ะ
เดินเข้าไปอีกนิดเดียวก็ถึงทางเข้าที่ซื้อบัตร วันที่ไปเป็นวันธรรมดาด้วยค่าบัตรลดลงไปอีก 50 %
เหลือเพียง 10 บาทเท่านั้น
เส้นทางสำรวจน้ำตกแม่สาทั้ง 10 ชั้น มาเริ่มกันเลย
ถ่ายกับป้ายหน่อย
ที่นี่เขาวางตำแหน่งป้ายสวยดีนะคะ มีฉากด้านหลังเป็นชั้นน้ำตกที่กำลังไหลลงมาสวยงามทีเดียว
ช่วงที่เราไปมีฝนเบาๆเหมือนกันนะคะ แต่น้ำก็ไม่เยอะเท่าไหร่ สบายๆ ไม่น่ากลัว
จริงๆมาถ่ายรูปน้ำตกตรงนี้จุดเดียวก็ถือว่าคุ้มแล้วนะ
เริ่มเลยที่ชั้น 1 ชื่อว่า ผาลาด
น่าจะมาจากหินที่ลาดๆไป มั้ง??? ไม่รู้เข้าตั้งชื่อกันยังไงเหมือนกัน 555
ชั้น 2 ชื่อว่า วังฝาย
อันนี้มันเหมือนจะตื้นๆ เหมือนฝายเก็บน้ำ
ชั้น 3 ชื่อว่า ผาแตก
อันนี้ไปถ่ายไม่ได้ เพราะมันอยู่ต่ำลงไป สะพานไม้ที่ยื่นไปให้ยืนชม ก็พังแล้วด้วย
ชั้น 4 ชื่อว่า วังสามหมื่น
ตรงนี้จะมีน้ำไหลลงมาจากชั้น 5 ลงมายังที่ๆเหมือนอ่างน้ำกว้างๆ ดูไม่เป็นน้ำตกเท่าไหร่ 555
ชั้น 5 ชื่อว่า วังท้าวพรหมา
ชั้นนี้อลังการสุดละ เพราะมีสะพานเดินข้ามลำนำ ทำให้สามารถชมน้ำตกได้เต็มตาเลย
ชั้น 6 ชื่อว่า ตาดเหมย
ชั้นนี้จะเป็นหินก้อนใหญ่ๆ มีน้ำไม่แรงมาก แต่ถ้าไหลแรงน่าจะสวยน่าดู
ชั้น 7 ชื่อว่า ตาดพนารมย์
ชั้นนี้จะเป็นช่วงแคบๆ แต่โคดหินดูชันและน่ากลัวกว่า ถ้าน้ำมาเยอะๆแรงๆคงดูตื่นเต้นน่าดู
ชั้น 8 ชื่อว่า ผาเงิบ
ไม่แน่ใจว่าได้ชื่อนี้มาจากหน้าผาน้ำตกน้อยๆที่เห็นแล้วเงิบเลยรึเปล่า 5555
2 ชั้นสุดท้าย ชั้น 9 ชื่อว่า วัดห่าง และชั้น 10 ชื่อว่า ลานเท
2 ชั้นนี้ เห็นน้ำตกอยู่ไกลจากเราลิบๆ ถ่ายรูปมาฝากไม่ได้เลยค่ะ
ทางเดินลงไปดู เขาก็ปิดซ่อมแซมอยู่ อุตส่าห์เดินไปจนสุดแล้วแท้ๆ อดถ่ายรูปเก็บมาให้ดูเลย
แต่ไม่เป็นไรค่ะ ได้สำรวจธรรมชาติ และเอาชนะใจตัวเองมาได้ขนาดนี้ก็ถือว่าคุ้มมากแล้วที่ได้มาเที่ยวน้ำตกแม่สา
นี่เป็นภาพทางเดินที่เราได้เดินผ่านมา ถูกทำเป็นทางเดิน ขั้นบันไดอย่างดี ระหว่างทางมีต้นไม้ใหญ่น้อย
ธรรมชาติที่สวยงามเพียบ
ยังไงใครสนใจก็อย่าลืมแวะไปเที่ยวน้ำตกแม่สากันได้นะคะ
ที่นี่มีอาหารการกินขายด้วยบริเวณชั้น 2 เดินถือขึ้นไปนั่งกิน ปิคนิคได้ มีเสื่อให้เช่า
จะไปเล่นน้ำ หรือเดินสำรวจธรรมชาติ ไปกับเพื่อนหรือไปคนเดียวก็ไม่ยากอะไรค่ะ
อย่างเราทั้งหมดนี้ก็ไปคนเดียวเหมือนกัน ใช้เวลาเดินขึ้นจนถึงชั้น 10 ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง
ตอนแรกก็กลัวนะคะ เดินเข้าป่าคนเดียว แต่เอาเข้าจริงๆน้ำตกแม่สาก็ไม่น่ากลัวเท่าไหร่
มีทางเดินที่ดี มีผู้คนพอสมควร คลื่นโทรศัพท์ก็มีตลอดการเดินทางค่ะ
ที่สำคัญคือ เดินเสร็จแล้วลงมา รู้สึกกระชับต้นขามากค่ะ
ขาแข็งแรงเลยทีเดียว 5555