วิจารณ์ฉากต่อฉาก "รอยรักแรงแค้น"...ฉากถอดเกิบตบ

ความรู้สึกของป้าบุญรอดที่ได้ชมฉากไฮไลต์ของวันนี้ คือ...ฉากถอดเกิบตบ...ในช่วงท้ายของวันนี้  ถือว่าเป็นการนำเอาตัวละครเดินเรื่องทั้งทั้ง 5 คน มาตะลุมบอน ปล่อยของใส่กันชนิดไม่ยั้ง ใครมีฝีมือ มีทักษะทางการแสดงมากน้อยแค่ไกนก็ปล่อยจองใส่กันไม่ยั้ง อารมณ์ในขณะนั้นมันช่างได้อรรถรสเช่นเดียวกับ ตอนที่ได้ชมฉากชุมนุมชาวยุทธ ในอมตะนิยายกำลังภายในของปู่กิมย้ง...




อารมณ์จินตนาการไปว่า ฉากประชันฝีปากระหว่างผู้ชายอกสามศอกอย่าง คิมหันต์ vs ธาดา มันช่างดุเด็ดเผ็ดมันส์ประหนึ่งเหทิอนการประลองฝีมือระหว่าง ก๊วยเจ๋ง vs ราชครูจักรทอง...ที่ต่างงัดเอาสุดยอดวิชาในสาย hard-core อย่าง 18 กระบวนท่าฝ่ามือสยบมังกร (โดยคิมหันต์) และพลังหมัดคชสาร (โดยธาดา)...ที่ทั้งสองคนต่างส่งอารมณ์ แอคติ้ง ภาษา ได้ดิบเถื่อน โหดสัสรัสเซีย ฮาร์ดคอร์กันสุดๆ ทั้งมะรึง-กรู วะ-เว้ย ซึ่งในสถานการณ์จริงๆมันต้องอย่างนี้แหละ...เป๊ะมาก เรียล สมชื่อยี่ห้อ ตั้ว ศรัณยู อาร์ทตัวพ่อ

มาดูตอนประชันคารมของ  พักตรา vs ดวงดาว  บ้างนะทีนี้...หญิงหนึ่งอารมณ์พลุ่งพล่าน เดือดดาล ร้ายกาจ แต่ในขณะที่อีกหญิงหนึ่งพร้อมตั้งรับสู้ด้วยสติที่รู้ทุกจังหวะย่างก้าวของศัตรู...มันได้อารมณ์เหมือนครั้งที่ดูฉาก ลี้หมกโช้ว vs อึ้งย้ง ประชันฝีมือกันในครั้งที่แย่งชิงทารกน้อยก๊วยเซียง ณ ทางขึ้นหุยเขาดอกรัก ที่ฝ่ายหนึ่งซัดเข็มพิษหยกเย็นใส่อย่างบ้าคลั่ง ในขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งแอ่นอกที่ซุกซ่อนหมั่นโถวรับเข็มพิษอย่างมีสติ มันช่างพ้องกับจังหวะที่พักตราเดินลงจากรถ เดินรี่ๆเข้าไปหาดวงดาว พร้อมกับถอดเกิบเตรียมลุยเข้าไปตบอย่างย้าคลั่งตัวสั่นเทา ในขณะที่ดวงดาวก็ดูออกว่านางกำลังจะเข้ามาจู่โจมเธอพร้อมกับวิ่งเข้าไปคว้ากีตาร์เพื่อเตรียมตั้งรับต่อสู้...มันส์พะยะค่ะ  ไม่ค่อยได้เห็นฉากการประชันจู่โจมที่รวดเร็ว ดุเดือด และ เสมือนจริงในสถานการณ์ตอนนั้นมากๆ ซึ่งคุณตั้ว ตีโจทย์นี้ได้แตกและนำเสนอได้แปลกใหม่มากๆ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งฉากเด็ดอมตะของละครไทยก็ว่าได้ ที่สำคัญ  ป้าได้เห็นน้องโบ เธอได้ปลดปล่อยพลังการแสดงครั้งสำคัญและน่าทึ่งอีกครั้ง (ครั้งแรกก็เคยทึ่ง ตะลึง อึ้ง กับเธอในฉากที่ คุณหนูแพรวาทะเลาะกับตะวันฉายแฟนหนุ่มของเธอในรถ จนตะวันฉายต้องปล่อยเธอทิ้งไว้ข้างทาง จากเรือง สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย ในครั้งนั้น)

และในฉากของการประชันของตัวละครทั้ง 5 นี่แหละ ที่จะมีตัวละครเพียงตัวเดียวที่ใช้หลักการ นิ่งสยบเคลื่อนไหว  คือ มุกริน  ที่ยืนนิ่งสังเวชในความเป็นไปของ 4 คน แต่ด้วยความนิ่งของเธอกลับไม่ทำให้เธอดูดร้อปหรือถูกกลบลงไปแต่อย่างใด งานนี้ต้องชื่นชมการแสดงของปุ้กลุ๊ก ที่เข้าใจถึงแก่นแท้ของหลักการ "นิ่งสยบเคลื่อนไหว" แม้กระทั่งจังหวะที่พักตรากำลังจะโผเข้ามาจู่โจมเธอในระยะประชิดตัว...มันช่างดูคล้ายฉากการประลองฝีมือระหว่าง ราชครูจักรทอง vs เซียวเล่งนึ้ง  ที่ราชครูจักรทองเปรยแกมขู่ไว้ก่อนลงมือว่า "แม่นางน้อยท่านนี้ใยไม่กลัวจะพ่ายแพ้แก่เราใน 30 กระบวนท่าอย่างนั้นหรือ"...ซึ่งในตอนนั้นนางตอบกลับไปด้วยอารมณ์นิ่งเฉยไม่สะทกสะท้านว่า "ได้คือได้  ไม่ได้คือไม่ได้ ใยต้องวิตกกังวลกลัว" ด้วยความเรียบเฉยจนสร้างความหวาดหวั่นให้ราชครูจักรทองและเหล่าชาวยุทธไปไม่น้อย และการประลองก็ยืดเยื้อมาจวนจะครบ 1000 กระบวนท่า จนเอี๊ยก้วยต้องสอดเจ้ามาช่วยแก้ใขสถานการณ์ ซึ่งเหมือนกับจังหวะที่ทุกคนรีบสอดเข้ามาช่วย มุกริน ในจังหวะนั่นอย่างพร้อมเพรียงกัน เพื่อไม่ให้พลาดท่าแก่ยัยพักตรา...ซึ่งอารมณ์เรียบเฉยแบบนี้แหละที่ปุ้กลุ๊ก ทำได้ดีมากๆ แม้รู้ว่าภัยกำลังเข้ามาใกล้ตัว บางทีการแสดงแบบนิ่งๆและไหลลึกมันก็เป็นการยากอยู่นะสำหรับคำว่า "นักแสดง"

ต้องขอเปรียบเปรยบรรยายของความเข้มข้นของฉากนี้ แบบนี้ละกันนะคะ มันถึงจะสามารถ่ายทอดออกมาเป็นจินตภาพในเชิงเปรียบให้เห็นภาพได้ชัดเจนยิ่งขึ้น  ถือว่านานๆจะได้เจอฉากปล่อยของสาดพลังใส่กันได้อย่างไม่ยั้งของนักแสดงที่เข้าฉากทั้งหมดได้ชนิดที่ไม่มีใครกินกันไม่ลง ทุกคนองค์ลงในคาแรคเตอร์ของตัวละครนั้นๆได้อย่างดี...งานนี้ต้องขอชื่นชมนักแสดงทั้ง 5 คน ที่ตีโจทย์สมการของฉากนี้ที่คุณตั้ว ศรัณยู ตั้งสมการให้ทั้ง 5 คนข่วยกันแก้โจทย์แบบทีมเวิร์คได้อย่างน่าทึ่ง ตรึงใจ และแตกกระจุยกระจาย ทั้ง  ไมค์ โน๊ต โบ ปุ้กลุ๊ก และ พลอย
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่