ตามกฏการของวีซ่า Schengen คือ
1) อยู่ประเทศใดนานที่สุดให้ขอวีซ่าผ่านสถานทูตประเทศนั้น
2) ถ้าอยู่ทุกประเทศเป็นระยะเวลาเท่าๆกันให้ขอกับประเทศแรกที่เราเดินทางไปถึง
เนื่องจากเราเดินทางหลายประเทศแต่อยู่ที่สวิสเซอร์แลนด์นานที่สุดจึงยื่นของ Schengen visa ผ่านทางสถานทูตสวิสฯ กับ TLS ค่ะ ขอเขียนแบบสรุปเป็นข้อๆดังนี้นะคะ
รายการสิ่งที่ทำก่อนจะลงทะเบียนกับ TLScontact:
1) ทำพาสปอร์ตเล่มใหม่ ที่กรมการกงสุล แจ้งวัฒนะ เนื่องจากมีการเปลี่ยนนามสกุลหลังแต่งงาน เล่มเดิมจึงใช้ไม่ได้ ทำแบบส่งไปรษณีย์ด่วนพิเศษ ทำวันศุกร์ ไปรษณีย์มาถึงวันอังคารถัดไป สะดวกรวดเร็วมากค่ะ ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปรับเอง
2) จองตั๋วเครื่องบินไปกลับ (ชำระเงินแล้ว)
3) ซื้อประกันภัยสำหรับการเดินทาง (ชำระเงินแล้ว)
4) ขอหนังสือรับรองการทำงานจากบริษัทเป็นภาษาอังกฤษ ระบุชื่อนามสกุลตามหน้าพาสปอร์ต ตำแหน่งงานปัจจุบัน เงินเดือน วันที่เริ่มทำงาน ถ้าทางบริษัทสามารถระบุได้ว่าวันลาช่วงที่จะเดินทางได้จะดีมากค่ะ โดยระบุว่าเราลางานวันไหนและจะกลับมาทำงานวันไหน
5) ขอ statement และหนังสือรับรองสถานะการเงินจากทางธนาคาร เป็นภาษาอังกฤษ แนะนำว่าให้ตรวจสอบเอกสารให้เรียบร้อยว่าพนักงานพิมพ์คำนำหน้า ชื่อและนามสกุลถูกต้องตรงตามพาสปอร์ตหรือไม่ ไม่อย่างนั้นต้องกลับไปแก้ไขอีก
6) จองโรงแรมผ่าน booking.com (ยังไม่ชำระเงิน) ให้ครอบคลุมการเดินทางทั้งหมด
7) ซื้อตั๋วรถไฟ (ชำระเงินแล้ว แต่เห็นว่าบางท่านบอกว่าไม่จำเป็นต้องใช้ แต่เราซื้อให้เสร็จเรียบร้อยเลยจะได้หมดกังวลค่ะ)
8) ถ่ายรูป 3.5 cm x 4 cm พื้นหลังสีขาว (เราใส่สูทดำทับเสื้อแขนกุด)
เมื่อเอกสารเรียบร้อยแล้วก็ลงทะเบียนผ่านทาง website ของ TLScontact: (
https://www.tlscontact.com/th2fr/login.php) โดยเรายื่นแทนคุณแม่และสามีด้วย สามารถลงทะเบียนเพียงคนเดียวแต่เพิ่มชื่อผู้ร่วมเดินทางได้หลายคนค่ะ
โดยแบบฟอร์มไม่ค่อยซับซ้อน จึงขอเลือกมาเฉพาะข้อที่เรากรอกผิดแล้วต้องทำการแก้ไขนะคะ
22) Member State(x) of destination: อันนี้เราใส่เฉพาะสวิสฯ แต่จริงๆแล้วต้องใส่ทุกประเทศที่เราจะเดินทางไปค่ะให้ครบค่ะ
31) Surname and first name of the inviting person(s) in the Member State(s). If not applicable, name of hotel(s)
or temporary accommodation(s) in the Member State(s): ข้อนี้สำหรับผู้ที่เดินทางท่องเที่ยวให้ใส่ ชื่อโรงแรมแรกที่จะเข้าพักในสวิสค่ะ เรากรอกผิดใส่เป็นชื่อโรงแรมที่แรกของทริปที่เยอรมัน
เมื่อกรอกฟอร์มเรียบร้อยก็สามารถเลือกนัดวันที่สะดวกได้ เราเลือกนัดช่วงเช้าสุดค่ะเนื่องจากเกรงว่าถ้าสายแล้วคนจะเยอะ
เอกสารที่ต้องเตรียมเรียงลำดับดังนี้ค่ะ โดยสำเนาต้องเป็นขนาด A4 และไม่จำเป็นต้องเซ็นต์รับรองสำเนาถูกต้องค่ะ
1)
ใบสมัครขอวีซ่าฉบับจริง (เมื่อregister เรียบร้อยแล้วจะสามารถปริ๊นท์ใบสมัครออกมาได้เลยค่ะ) ในกรณีของผู้เยาว์ ใบสมัครยื่นขอวีซ่าและหน้าข้อมูลเพิ่มเติมนั้นต้องเซ็นชื่อรับรองโดยผู้ปกครองทั้งสองท่าน.
2)
รูปถ่ายสีประจำตัวขนาด 3.5 ซม. X 4 ซม. จำนวน 2 รูป (พื้นหลังสีขาว ไม่มีเครื่องประดับ)
3)
หนังสือเดินทางฉบับจริง มีอายุการใช้งานอย่างน้อย 3 เดือนหลังจากช่วงเวลาในการเดินทางในประเทศสวิตเซอร์แลนด์หรือในเขตเชงเก้นสิ้นสุด
4)
สำเนาหนังสือเดินทาง 1 ฉบับ (รวมถึงหน้าที่มีข้อมูลของผู้ถือหนังสือเดินทาง หน่วยงานผู้ออกหนังสือเดินทาง รวมถึงทุกหน้าที่มีวีซ่าหรือตราประทับใดๆ)
5)
ประกันภัยการเดินทาง: ประกันภัยการเดินทางและประกันอุบัติเหตุที่ครอบคลุมในประเทศเขตเชงเก้น
- โดยบริษัทประกันซึ่งมีการจดทะเบียนหรือสาขาในเขตประเทศเชงเก้น
- ประกันภัยการเดินทางต้องครอบคลุมถึงปฏิบัติการการช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉินครอบคลุมถึงค่ารักษาพยาบาลการช่วยเหลือทางการแพทย์และคุ้มครองในกรณีเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง
6)
เอกสารการจองตั๋วเครื่องบินแบบไป - กลับ จาก/ถึง ประเทศไทย ที่ยืนยันเรียบร้อยแล้ว
7)
สำเนาการจองโรงแรมสำหรับตลอดการพำนักในเขตเชงเก้นที่ยืนยันเรียบร้อยแล้ว และ/หรือ จดหมายเชิญส่วนตัวจากบุคคลที่พำนักอาศัยอยู่ในเขตเชงเก้นที่มีลายมือชื่อรับรอง (ใช้ของ booking.com) จะต้องมีการระบุชื่อผู้สมัครทุกท่านลงบนเอกสารการจองโรงแรม
8)
หนังสือรับรองการทำงาน
9)
ต้นฉบับ bank statement สำหรับ 6 เดือนล่าสุดซึ่งมีตราประทับของธนาคาร แบบถ่ายสำเนาเล่มสมุดใช้ไม่ได้นะคะ ต้องปริ๊นท์จากทางธนาคารเท่านั้น หากมีผู้สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเดินทาง กรุณาแสดงหนังสือรับรองค่าใช้จ่ายและต้นฉบับ bank statement ของผู้สนับสนุนค่าใช้จ่ายสำหรับ 6 เดือนล่าสุดซึ่งมีตราประทับของธนาคาร
10)
หนังสือรับรองสถานะทางการเงินจากธนาคารตัวจริงและสำเนาที่ระบุชื่อผู้เดินทาง
11)
แผนการเดินทาง (อันนี้เราใส่เพิ่มเอง เพื่อง่ายต่อการทำความเข้าใจระบุวันที่ เมือง และชื่อโรงแรมที่พักตลอดทริปค่ะ ทาง จนท ก็เก็บไว้ค่ะ)
12)
สำเนาตั๋วรถไฟ (อันนี้เราใส่ไปเพิ่มเองเพราะซื้อเรียบร้อยแล้ว ทาง จนท ก็รับนะคะ)
ควรไปถึงก่อนเวลานัดเล็กน้อยและเรียงเอกสารจากบ้านไปเป็นชุดสำหรับผู้สมัครทุกท่านให้เรียบร้อย ตรวจเอกสารหลายๆครั้ง ดูซ้ำไปซ้ำมาจนกว่าจะแน่ใจว่าไม่มีอะไรผิด โรงแรมต้องมีชื่อผู้สมัครทุกคนและครอบคลุมทุกวันของการเดินทาง ดูการสะกดชื่อนามสกุลให้ละเอียด ชื่อในเอกสารทุกอย่างต้องสะกดตรงกับชื่อบนพาสปอร์ต ไฮไลท์ชื่อแต่ละท่านให้ทาง จนท เห็นชัดเจนจะช่วยให้สะดวกรวดเร็วด้วยค่ะ เนื่องจากด้านหน้า TLS ไม่มีที่นั่งให้เตรียมเอกสาร ทางเดินค่อนข้างแคบถ้าหากจะนั่งเตรียมเอกสารกับพื้นก็จะมีคนเดินเฉียดหัวเราไปเลยค่ะ
การเดินทาง: MRT ลงสถานีลุมพินีแล้วเดินประมาณ 20 นาทีหรือจะนั่งพี่วินไปก็ได้ค่ะ เราเลือกเดินจะได้ซ้อมไว้ก่อนไปเที่ยวจริง แฮ่ๆ โดยศูนย์ TLScontact อยู่ที่ตึกสาทรซิตี้ทาวเวอร์ ชั้น12 ค่ะ (เลยสาทรซอย 7 ไปเล็กน้อย)
โดย:
1) ทุกคนต้องแลกบัตรที่ประชาสัมพันธ์หน้าบันไดเลื่อนเพื่อรับบัตรสำหรับขึ้นอาคารค่ะ
2) เมื่อขึ้นไปชั้น 12 แล้วจะต้องฝากอุปกรณ์สื่อสารทั้งหมดไว้กับ รปภ ด้านหน้าก่อนผ่านเครื่องสแกน ส่วนอาหารและเครื่องดื่มต้องทานให้เรียบร้อยก่อนผ่านเครื่องสแกนนะคะ ไม่สามารถนำผ่านเข้าไปทานข้างในได้ค่ะ
3) เข้าไปด้านในแล้วจะมีเก้าอี้นั่งรอเรียกตามเวลาที่ลงทะเบียนไว้ ขอเราเรียกตรงเวลามาก
4) เมื่อได้ผ่านเคาเตอร์แรกไปแล้ว จะมีชื่อเราขึ้นที่หน้าจอเพื่อบอกว่าไปยื่นเอกสารที่ช่องใด ขั้นตอนนี้จะเร็วมากถ้าเราเตรียมเอกสารมาเรียบร้อย เรียงตามลำดับที่กล่าวไว้แล้วด้านบน สอบถามเล็กน้อย
5) ชำระเงิน
6) ถ่ายรูป สแกนนิ้วมือ (ห้ามใส่คอนแทคเลนส์ big eyes นะจ๊ะ)
=====เสร็จแล้วววววววจ้าาาาาาา======
ง่ายมากเลยใช่ไหมเอ่ย ตัว จขกทไปทำวันศุกร์ พอเช้าวันอังคารเช้าก็ได้เล่มคืนแล้วค่ะ เรื่องอยู่ที่ TLS 1 วันและที่สถานทูต 1 วันรวดเร็วมาก
หวังว่าข้อมูลจะเป็นประโยชน์สำหรับทุกท่านนะคะ
[CR] Review: ประสบการณ์การขอวีซ่า Schengen สวิสเซอร์แลนด์ผ่าน TLSContact
1) อยู่ประเทศใดนานที่สุดให้ขอวีซ่าผ่านสถานทูตประเทศนั้น
2) ถ้าอยู่ทุกประเทศเป็นระยะเวลาเท่าๆกันให้ขอกับประเทศแรกที่เราเดินทางไปถึง
เนื่องจากเราเดินทางหลายประเทศแต่อยู่ที่สวิสเซอร์แลนด์นานที่สุดจึงยื่นของ Schengen visa ผ่านทางสถานทูตสวิสฯ กับ TLS ค่ะ ขอเขียนแบบสรุปเป็นข้อๆดังนี้นะคะ
รายการสิ่งที่ทำก่อนจะลงทะเบียนกับ TLScontact:
1) ทำพาสปอร์ตเล่มใหม่ ที่กรมการกงสุล แจ้งวัฒนะ เนื่องจากมีการเปลี่ยนนามสกุลหลังแต่งงาน เล่มเดิมจึงใช้ไม่ได้ ทำแบบส่งไปรษณีย์ด่วนพิเศษ ทำวันศุกร์ ไปรษณีย์มาถึงวันอังคารถัดไป สะดวกรวดเร็วมากค่ะ ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปรับเอง
2) จองตั๋วเครื่องบินไปกลับ (ชำระเงินแล้ว)
3) ซื้อประกันภัยสำหรับการเดินทาง (ชำระเงินแล้ว)
4) ขอหนังสือรับรองการทำงานจากบริษัทเป็นภาษาอังกฤษ ระบุชื่อนามสกุลตามหน้าพาสปอร์ต ตำแหน่งงานปัจจุบัน เงินเดือน วันที่เริ่มทำงาน ถ้าทางบริษัทสามารถระบุได้ว่าวันลาช่วงที่จะเดินทางได้จะดีมากค่ะ โดยระบุว่าเราลางานวันไหนและจะกลับมาทำงานวันไหน
5) ขอ statement และหนังสือรับรองสถานะการเงินจากทางธนาคาร เป็นภาษาอังกฤษ แนะนำว่าให้ตรวจสอบเอกสารให้เรียบร้อยว่าพนักงานพิมพ์คำนำหน้า ชื่อและนามสกุลถูกต้องตรงตามพาสปอร์ตหรือไม่ ไม่อย่างนั้นต้องกลับไปแก้ไขอีก
6) จองโรงแรมผ่าน booking.com (ยังไม่ชำระเงิน) ให้ครอบคลุมการเดินทางทั้งหมด
7) ซื้อตั๋วรถไฟ (ชำระเงินแล้ว แต่เห็นว่าบางท่านบอกว่าไม่จำเป็นต้องใช้ แต่เราซื้อให้เสร็จเรียบร้อยเลยจะได้หมดกังวลค่ะ)
8) ถ่ายรูป 3.5 cm x 4 cm พื้นหลังสีขาว (เราใส่สูทดำทับเสื้อแขนกุด)
เมื่อเอกสารเรียบร้อยแล้วก็ลงทะเบียนผ่านทาง website ของ TLScontact: (https://www.tlscontact.com/th2fr/login.php) โดยเรายื่นแทนคุณแม่และสามีด้วย สามารถลงทะเบียนเพียงคนเดียวแต่เพิ่มชื่อผู้ร่วมเดินทางได้หลายคนค่ะ
โดยแบบฟอร์มไม่ค่อยซับซ้อน จึงขอเลือกมาเฉพาะข้อที่เรากรอกผิดแล้วต้องทำการแก้ไขนะคะ
22) Member State(x) of destination: อันนี้เราใส่เฉพาะสวิสฯ แต่จริงๆแล้วต้องใส่ทุกประเทศที่เราจะเดินทางไปค่ะให้ครบค่ะ
31) Surname and first name of the inviting person(s) in the Member State(s). If not applicable, name of hotel(s)
or temporary accommodation(s) in the Member State(s): ข้อนี้สำหรับผู้ที่เดินทางท่องเที่ยวให้ใส่ ชื่อโรงแรมแรกที่จะเข้าพักในสวิสค่ะ เรากรอกผิดใส่เป็นชื่อโรงแรมที่แรกของทริปที่เยอรมัน
เมื่อกรอกฟอร์มเรียบร้อยก็สามารถเลือกนัดวันที่สะดวกได้ เราเลือกนัดช่วงเช้าสุดค่ะเนื่องจากเกรงว่าถ้าสายแล้วคนจะเยอะ
เอกสารที่ต้องเตรียมเรียงลำดับดังนี้ค่ะ โดยสำเนาต้องเป็นขนาด A4 และไม่จำเป็นต้องเซ็นต์รับรองสำเนาถูกต้องค่ะ
1) ใบสมัครขอวีซ่าฉบับจริง (เมื่อregister เรียบร้อยแล้วจะสามารถปริ๊นท์ใบสมัครออกมาได้เลยค่ะ) ในกรณีของผู้เยาว์ ใบสมัครยื่นขอวีซ่าและหน้าข้อมูลเพิ่มเติมนั้นต้องเซ็นชื่อรับรองโดยผู้ปกครองทั้งสองท่าน.
2) รูปถ่ายสีประจำตัวขนาด 3.5 ซม. X 4 ซม. จำนวน 2 รูป (พื้นหลังสีขาว ไม่มีเครื่องประดับ)
3) หนังสือเดินทางฉบับจริง มีอายุการใช้งานอย่างน้อย 3 เดือนหลังจากช่วงเวลาในการเดินทางในประเทศสวิตเซอร์แลนด์หรือในเขตเชงเก้นสิ้นสุด
4) สำเนาหนังสือเดินทาง 1 ฉบับ (รวมถึงหน้าที่มีข้อมูลของผู้ถือหนังสือเดินทาง หน่วยงานผู้ออกหนังสือเดินทาง รวมถึงทุกหน้าที่มีวีซ่าหรือตราประทับใดๆ)
5) ประกันภัยการเดินทาง: ประกันภัยการเดินทางและประกันอุบัติเหตุที่ครอบคลุมในประเทศเขตเชงเก้น
- โดยบริษัทประกันซึ่งมีการจดทะเบียนหรือสาขาในเขตประเทศเชงเก้น
- ประกันภัยการเดินทางต้องครอบคลุมถึงปฏิบัติการการช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉินครอบคลุมถึงค่ารักษาพยาบาลการช่วยเหลือทางการแพทย์และคุ้มครองในกรณีเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง
6) เอกสารการจองตั๋วเครื่องบินแบบไป - กลับ จาก/ถึง ประเทศไทย ที่ยืนยันเรียบร้อยแล้ว
7) สำเนาการจองโรงแรมสำหรับตลอดการพำนักในเขตเชงเก้นที่ยืนยันเรียบร้อยแล้ว และ/หรือ จดหมายเชิญส่วนตัวจากบุคคลที่พำนักอาศัยอยู่ในเขตเชงเก้นที่มีลายมือชื่อรับรอง (ใช้ของ booking.com) จะต้องมีการระบุชื่อผู้สมัครทุกท่านลงบนเอกสารการจองโรงแรม
8) หนังสือรับรองการทำงาน
9) ต้นฉบับ bank statement สำหรับ 6 เดือนล่าสุดซึ่งมีตราประทับของธนาคาร แบบถ่ายสำเนาเล่มสมุดใช้ไม่ได้นะคะ ต้องปริ๊นท์จากทางธนาคารเท่านั้น หากมีผู้สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเดินทาง กรุณาแสดงหนังสือรับรองค่าใช้จ่ายและต้นฉบับ bank statement ของผู้สนับสนุนค่าใช้จ่ายสำหรับ 6 เดือนล่าสุดซึ่งมีตราประทับของธนาคาร
10) หนังสือรับรองสถานะทางการเงินจากธนาคารตัวจริงและสำเนาที่ระบุชื่อผู้เดินทาง
11) แผนการเดินทาง (อันนี้เราใส่เพิ่มเอง เพื่อง่ายต่อการทำความเข้าใจระบุวันที่ เมือง และชื่อโรงแรมที่พักตลอดทริปค่ะ ทาง จนท ก็เก็บไว้ค่ะ)
12) สำเนาตั๋วรถไฟ (อันนี้เราใส่ไปเพิ่มเองเพราะซื้อเรียบร้อยแล้ว ทาง จนท ก็รับนะคะ)
ควรไปถึงก่อนเวลานัดเล็กน้อยและเรียงเอกสารจากบ้านไปเป็นชุดสำหรับผู้สมัครทุกท่านให้เรียบร้อย ตรวจเอกสารหลายๆครั้ง ดูซ้ำไปซ้ำมาจนกว่าจะแน่ใจว่าไม่มีอะไรผิด โรงแรมต้องมีชื่อผู้สมัครทุกคนและครอบคลุมทุกวันของการเดินทาง ดูการสะกดชื่อนามสกุลให้ละเอียด ชื่อในเอกสารทุกอย่างต้องสะกดตรงกับชื่อบนพาสปอร์ต ไฮไลท์ชื่อแต่ละท่านให้ทาง จนท เห็นชัดเจนจะช่วยให้สะดวกรวดเร็วด้วยค่ะ เนื่องจากด้านหน้า TLS ไม่มีที่นั่งให้เตรียมเอกสาร ทางเดินค่อนข้างแคบถ้าหากจะนั่งเตรียมเอกสารกับพื้นก็จะมีคนเดินเฉียดหัวเราไปเลยค่ะ
การเดินทาง: MRT ลงสถานีลุมพินีแล้วเดินประมาณ 20 นาทีหรือจะนั่งพี่วินไปก็ได้ค่ะ เราเลือกเดินจะได้ซ้อมไว้ก่อนไปเที่ยวจริง แฮ่ๆ โดยศูนย์ TLScontact อยู่ที่ตึกสาทรซิตี้ทาวเวอร์ ชั้น12 ค่ะ (เลยสาทรซอย 7 ไปเล็กน้อย)
โดย:
1) ทุกคนต้องแลกบัตรที่ประชาสัมพันธ์หน้าบันไดเลื่อนเพื่อรับบัตรสำหรับขึ้นอาคารค่ะ
2) เมื่อขึ้นไปชั้น 12 แล้วจะต้องฝากอุปกรณ์สื่อสารทั้งหมดไว้กับ รปภ ด้านหน้าก่อนผ่านเครื่องสแกน ส่วนอาหารและเครื่องดื่มต้องทานให้เรียบร้อยก่อนผ่านเครื่องสแกนนะคะ ไม่สามารถนำผ่านเข้าไปทานข้างในได้ค่ะ
3) เข้าไปด้านในแล้วจะมีเก้าอี้นั่งรอเรียกตามเวลาที่ลงทะเบียนไว้ ขอเราเรียกตรงเวลามาก
4) เมื่อได้ผ่านเคาเตอร์แรกไปแล้ว จะมีชื่อเราขึ้นที่หน้าจอเพื่อบอกว่าไปยื่นเอกสารที่ช่องใด ขั้นตอนนี้จะเร็วมากถ้าเราเตรียมเอกสารมาเรียบร้อย เรียงตามลำดับที่กล่าวไว้แล้วด้านบน สอบถามเล็กน้อย
5) ชำระเงิน
6) ถ่ายรูป สแกนนิ้วมือ (ห้ามใส่คอนแทคเลนส์ big eyes นะจ๊ะ)
=====เสร็จแล้วววววววจ้าาาาาาา======
ง่ายมากเลยใช่ไหมเอ่ย ตัว จขกทไปทำวันศุกร์ พอเช้าวันอังคารเช้าก็ได้เล่มคืนแล้วค่ะ เรื่องอยู่ที่ TLS 1 วันและที่สถานทูต 1 วันรวดเร็วมาก หวังว่าข้อมูลจะเป็นประโยชน์สำหรับทุกท่านนะคะ