“นาฬิกานั่นเจ๋งมาก อาห์เหม็ด อยากเอามาทำเนียบขาวด้วยมั้ยล่ะ เราควรให้แรงบันดาลใจเด็กๆ อย่างคุณที่ชอบวิทยาศาสตร์ให้มากขึ้น เพราะนั่นสร้างความยิ่งใหญ่ให้อเมริกา” โอบามาเขียนในทวิตเตอร์

เด็กชายอาเหม็ด เรียนอยู่เกรด 9 หรือเทียบเท่า ม.3 โรงเรียนแม็กอาเธอร์ ไฮสคูล ถูกตำรวจในเมืองเออร์วิง รัฐเท็กซัส จับใส่กุญแจมือ ขณะใส่เสื้อยืดองค์การนาซา เมื่อวันจันทร์ เพียงเพราะนำนาฬิกาประดิษฐ์เองมาโรงเรียน ตั้งใจจะให้เพื่อนๆ และครูได้ชม แต่กลับถูกครูเข้าใจผิดว่าเอาระเบิดมา จึงแจ้งตำรวจจับใส่กุญแจมือ จับไปพิมพ์ลายนิ้วมือที่โรงพัก และเรียกผู้ปกครองมารับตัว

จากเหตุไม่คาดคิดดังกล่าว เด็กชายอาห์เหม็ดเขียนเล่าในเฟซบุ๊กว่า "การมีทักษะและความมุ่งมั่นทำอะไรให้มันเจ๋ง ควรจะได้เสียงปรบมือ ไม่ใช่การจับกุม”
ต่อมาเรื่องราวดังกล่าวสะพัดไปทั่วโลกออนไลน์ มีคนเข้ามาให้กำลังใจเด็กชายอย่างล้นหลาม นอกจากประธานาธิบดีโอบามาจะเชิญไปร่วมงานนักบินอวกาศที่ทำเนียบขาวในเดือนหน้าแล้ว มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก บิ๊กบอสเฟซบุ๊ก ยังเชิญไปเยี่ยมสำนักงานเฟซบุ๊กในรัฐแคลิฟอร์เนียด้วย

ด้านโฆษกตำรวจแถลงปฏิเสธคำตำหนิว่า คดีนี้สะท้อนให้เห็นถึงการเหยียดสีผิวและศาสนา โดยเฉพาะอาการหวาดผวาผู้นับถืออิสลามเกินเหตุ ตำรวจอ้างว่า เด็กไม่อธิบายให้ชัด ทำให้ผู้ใหญ่ไม่ไว้ใจและต้องจับกุม เนื่องจากที่ผ่านมาเกิดเหตุร้ายๆ ในโรงเรียนมาแล้ว จึงต้องป้องกันไว้ก่อน อย่างไรก็ตาม คดีนี้ไม่มีการตั้งข้อหาใดๆ ต่อเด็กแล้ว

ลิ้งค์ข่าว http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1442446275

จากเหตุการณ์ด้านบน ส่วนนึงมาจากการประโคมข่าวด้านลบของคนนับถือศาสนาอิสลามมากเกินไป
จนหวาดระแวงกันเอง คนทำงานสื่อและนักเผยแพร่ ไม่มีจรรยาบรรณ ในการนำเสนอ โลกต้องอยู่ในความหวาดกลัว
ระแวง ต่อมุสลิม ไม่เว้นในกรุงเทพหรือเมืองไทย

บอกผมมาสิ ว่าคุณไม่เคยแซวเพื่อนที่เป็นมุสลิม เรื่องระเบิด แม้ว่าเป็นการล้อเล่นก็เถอะ แต่มันไม่สนุกเอาเสียเลย