จากระทู้ท่านทวดเอง
http://ppantip.com/topic/34189171
ผมรู้สึกคันแข่ว แต่เข้าไปร่วมเสวนาด้วยไม่ได้ เพราะหน้าตาดีเกินไป
จึงต้องตั้งกระทู้นี้ เพื่อขอร่วมสะอิดะเอียนนายไพศาล พืชมงคล ด้วยคนครับ
นายไพศาล ได้ตั้งคำถามลักษณะชี้นำ (คงไม่ต้องบอกว่าชี้นำไปทางใด ถึงใคร) และกล่าวหา
แบบไร้สามัญสำนึก ทำไขสือ เหมือนคนไม่รู้ขั้นตอนทางคดี
นายไพศาล ตั้งคำถามไว้ 5 ข้อ
1. นายคาราดักถูกจับที่ชายแดนและทหารควบคุมตัวตลอดมา เขาเคยพบทนายที่ไหนและตั้งทนายตอนไหน
2. ใครติดต่อหาทนาย ใครว่าจ้าง ใครจ่ายค่าทนาย เพราะนายคาราดักไม่มีเงินในตัว
3. ข้อความที่ทนายแถลงเอามาจากไหน ใครแจ้งข้อความนี้
4. ตอนนี้คดียังไม่ถึงศาล ยังไม่ต้องมีหรือยื่นใบแต่งทนาย ที่ว่าตั้งเป็นทนายตั้งอย่างไร คดีอะไร เพราะใบแต่งทนายต้องมีหมายเลขคดี
5. ถ้าอ้างการมอบอำนาจ มอบกันที่ไหนเมื่อไร ใครเป็นล่ามใครเป็นพยาน
ผมเห็นคำถามนายไพศาลแล้ว ผมไม่ใช่นักกฎหมาย ไม่เคยเรียนกฎหมาย ไม่ได้เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี
ผมยังรู้เลยว่า อะไรเป็นอะไร ไม่เห็นจำเป็นต้องมาตั้งคำถามชี้นำเชิงกล่าวหา สร้างกระแสความสงสัยใด ๆ ให้เสียหมาแก่ตัวเอง
ผมขอสะอิดสะเอียนนายไพศาล ด้วยการตอกหน้านายไพศาลทั้ง 5 ข้อ ดังนี้ ครับ
1. เขาถูกจับตั้งแต่วันที่ 30 ส.ค. 58 ถูกนำตัวฝากขังต่อศาลผลัดแรก 5 ก.ย. 58
15 ก.ย. 58 นายไพศาล ถึงมาตั้งคำถาม ทั้ง ๆ ที่ไม่น่าสงสัยว่าเขาพบทนายที่ไหน ตั้งทนายเมื่อไร
2. คนที่เดินเรื่องทนายให้นายอาเดม คือล่ามครับ
ล่ามคนนี้ เป็นคนที่สถานทูตตุรกีในไทยส่งมาเป็นล่ามในวันฝากขัง (ตามคำบอกเล่าของทนาย)
ทนายความ (นายชูชาติ กันภัย) เล่าว่า เคยทำคดีให้คนตุรกีในประเทศไทยมาก่อน
ถึงคดีนี้ คนตุรกีในไทย คาใจว่า เกี่ยวข้องกับระเบิดจริงหรือ ไม่เชื่อ เลยติดต่อให้นายชูชาติเป็นทนายความให้
3. ที่ทนายแถลง เขาก็เอามาจากนายอาเดมนั่นแหละ จะเอามาจากไหน
เรื่องนี้พิสูจน์ไม่ยาก เพราะนายอาเดมยืนยันว่าเข้าไทยวันที่ 24 ส.ค. (หรือ 21 ส.ค.) หลังเหตุการณ์ระเบิด ย่อมมีหลักฐาน
ในห้องพักไม่มีระเบิดอย่างที่ตำรวจแถลง และนายอาเดมไม่เคยรับสารภาพเรื่องนี้ต่อตำรวจ
4. เรื่องแต่งตั้งทนาย
เรื่องนี้นายไพศาลเจตนาบิดเบือนโกหกสะตอเบอแหลชนิดน่าอายสุด ๆ เลยครับ
กฎหมายไทย ไม่ได้บัญญัติเกี่ยวกับเรื่องการมีทนายของจำเลยไว้ ว่าต้องมีได้เมื่อไร
แต่ตามวิธีพิจารณาความอาญานั้น จำเลยมีสิทธิ์พบทนาย ปรึกษาทนาย ตั้งแต่ชั่วโมงแรกที่โดนตำรวจจับแล้วครับ
ไม่ใช่ต้องรอจนคดีถึงศาลก่อน
การแต่งตั้งทนายตามที่นายไพศาลอ้างนั้น ก็คือการแต่งตั้งทนายอย่างเป็นทางการในการสู้คดีในชั้นศาล
ซึ่งจำเลยและทนายต้องรายงานให้ศาลทราบ ด้วยการกรอกแบบฟอร์มของศาล ว่าจะมอบอำนาจให้ทนายความแค่ไหนในการสู้คดี
ร้อยทั้งร้อยก็มักจะมอบอำนาจให้ทนายเต็มที่แหละครับ เพราะจำเลยต้องอาศัยหมอความในการสู้ดคี
นายไพศาลจงใจบิดเบือน ว่าคดียังไม่ถึงศาลแล้วมีทนายได้อย่างไร
น่าอายมากครับ
น่าอายเพราะ
หนึ่ง เจตนาบิดเบือนเพื่อต้องการกล่าวหาใส่ร้ายและชี้นำ
สอง หากไม่เจตนาสะตอเบอแหล ก็ยิ่งน่าอายเพราะตัวเองเป็นนักกฎหมาย จบกฎหมายจากธรรมศาสตร์ แต่ดันไม่รู้เรืองทนาย
5. เรื่องมอบอำนาจทนาย คงไม่ต้องสาธยาย ข้อ 4 บอกขั้นตอนไว้หมดแล้ว
ผมเล่นเฟซบุคไม่เป็น แต่ก็เห็นข่าวเกี่ยวกับเฟซบุคของนายไพศาลเนือง ๆ จากสื่อทั่วไป
ก็แปลกใจหลายหนครับ
ว่ากลัวไม่มีคนกดไลค์หรืออย่างไร ถึงได้เขียนอะไร ๆ ที่บิดเบือน ใส่ร้าย สร้างเรื่อง เพื่อสร้างแรงดึงดูดไลค์จากสลิ่ม
ทำไมต้องโกหกต่อสาธารณะก็ไม่รู้
แทนที่จะเขียนเพจด้วยความจริง ด้วยข้อมูล และเหตุผลที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ
กลับมีแต่การมอมเมาด้วยข้อมูลครึ่ง ๆ กลาง ๆ เท็จ ๆ เทียม ๆ เพื่อหลอกสลิ่มไปวัน ๆ
ไม่อาย ไม่มีสำนึกผิดชอบชั่วดี
แปลกใจจริง ๆ ครับ
เซา เว้าหลายข้อยอยากสิฮาก
ท่านทวดเองครับ ผมขอเสวนาเรื่องนายไพศาล พืชมงคล ด้วยสักนิดนะครับ เพราะผมก็รู้สึกสะอิดสะเอียนเหมือนกันครับ
ผมรู้สึกคันแข่ว แต่เข้าไปร่วมเสวนาด้วยไม่ได้ เพราะหน้าตาดีเกินไป
จึงต้องตั้งกระทู้นี้ เพื่อขอร่วมสะอิดะเอียนนายไพศาล พืชมงคล ด้วยคนครับ
นายไพศาล ได้ตั้งคำถามลักษณะชี้นำ (คงไม่ต้องบอกว่าชี้นำไปทางใด ถึงใคร) และกล่าวหา
แบบไร้สามัญสำนึก ทำไขสือ เหมือนคนไม่รู้ขั้นตอนทางคดี
นายไพศาล ตั้งคำถามไว้ 5 ข้อ
1. นายคาราดักถูกจับที่ชายแดนและทหารควบคุมตัวตลอดมา เขาเคยพบทนายที่ไหนและตั้งทนายตอนไหน
2. ใครติดต่อหาทนาย ใครว่าจ้าง ใครจ่ายค่าทนาย เพราะนายคาราดักไม่มีเงินในตัว
3. ข้อความที่ทนายแถลงเอามาจากไหน ใครแจ้งข้อความนี้
4. ตอนนี้คดียังไม่ถึงศาล ยังไม่ต้องมีหรือยื่นใบแต่งทนาย ที่ว่าตั้งเป็นทนายตั้งอย่างไร คดีอะไร เพราะใบแต่งทนายต้องมีหมายเลขคดี
5. ถ้าอ้างการมอบอำนาจ มอบกันที่ไหนเมื่อไร ใครเป็นล่ามใครเป็นพยาน
ผมเห็นคำถามนายไพศาลแล้ว ผมไม่ใช่นักกฎหมาย ไม่เคยเรียนกฎหมาย ไม่ได้เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี
ผมยังรู้เลยว่า อะไรเป็นอะไร ไม่เห็นจำเป็นต้องมาตั้งคำถามชี้นำเชิงกล่าวหา สร้างกระแสความสงสัยใด ๆ ให้เสียหมาแก่ตัวเอง
ผมขอสะอิดสะเอียนนายไพศาล ด้วยการตอกหน้านายไพศาลทั้ง 5 ข้อ ดังนี้ ครับ
1. เขาถูกจับตั้งแต่วันที่ 30 ส.ค. 58 ถูกนำตัวฝากขังต่อศาลผลัดแรก 5 ก.ย. 58
15 ก.ย. 58 นายไพศาล ถึงมาตั้งคำถาม ทั้ง ๆ ที่ไม่น่าสงสัยว่าเขาพบทนายที่ไหน ตั้งทนายเมื่อไร
2. คนที่เดินเรื่องทนายให้นายอาเดม คือล่ามครับ
ล่ามคนนี้ เป็นคนที่สถานทูตตุรกีในไทยส่งมาเป็นล่ามในวันฝากขัง (ตามคำบอกเล่าของทนาย)
ทนายความ (นายชูชาติ กันภัย) เล่าว่า เคยทำคดีให้คนตุรกีในประเทศไทยมาก่อน
ถึงคดีนี้ คนตุรกีในไทย คาใจว่า เกี่ยวข้องกับระเบิดจริงหรือ ไม่เชื่อ เลยติดต่อให้นายชูชาติเป็นทนายความให้
3. ที่ทนายแถลง เขาก็เอามาจากนายอาเดมนั่นแหละ จะเอามาจากไหน
เรื่องนี้พิสูจน์ไม่ยาก เพราะนายอาเดมยืนยันว่าเข้าไทยวันที่ 24 ส.ค. (หรือ 21 ส.ค.) หลังเหตุการณ์ระเบิด ย่อมมีหลักฐาน
ในห้องพักไม่มีระเบิดอย่างที่ตำรวจแถลง และนายอาเดมไม่เคยรับสารภาพเรื่องนี้ต่อตำรวจ
4. เรื่องแต่งตั้งทนาย
เรื่องนี้นายไพศาลเจตนาบิดเบือนโกหกสะตอเบอแหลชนิดน่าอายสุด ๆ เลยครับ
กฎหมายไทย ไม่ได้บัญญัติเกี่ยวกับเรื่องการมีทนายของจำเลยไว้ ว่าต้องมีได้เมื่อไร
แต่ตามวิธีพิจารณาความอาญานั้น จำเลยมีสิทธิ์พบทนาย ปรึกษาทนาย ตั้งแต่ชั่วโมงแรกที่โดนตำรวจจับแล้วครับ
ไม่ใช่ต้องรอจนคดีถึงศาลก่อน
การแต่งตั้งทนายตามที่นายไพศาลอ้างนั้น ก็คือการแต่งตั้งทนายอย่างเป็นทางการในการสู้คดีในชั้นศาล
ซึ่งจำเลยและทนายต้องรายงานให้ศาลทราบ ด้วยการกรอกแบบฟอร์มของศาล ว่าจะมอบอำนาจให้ทนายความแค่ไหนในการสู้คดี
ร้อยทั้งร้อยก็มักจะมอบอำนาจให้ทนายเต็มที่แหละครับ เพราะจำเลยต้องอาศัยหมอความในการสู้ดคี
นายไพศาลจงใจบิดเบือน ว่าคดียังไม่ถึงศาลแล้วมีทนายได้อย่างไร
น่าอายมากครับ
น่าอายเพราะ
หนึ่ง เจตนาบิดเบือนเพื่อต้องการกล่าวหาใส่ร้ายและชี้นำ
สอง หากไม่เจตนาสะตอเบอแหล ก็ยิ่งน่าอายเพราะตัวเองเป็นนักกฎหมาย จบกฎหมายจากธรรมศาสตร์ แต่ดันไม่รู้เรืองทนาย
5. เรื่องมอบอำนาจทนาย คงไม่ต้องสาธยาย ข้อ 4 บอกขั้นตอนไว้หมดแล้ว
ผมเล่นเฟซบุคไม่เป็น แต่ก็เห็นข่าวเกี่ยวกับเฟซบุคของนายไพศาลเนือง ๆ จากสื่อทั่วไป
ก็แปลกใจหลายหนครับ
ว่ากลัวไม่มีคนกดไลค์หรืออย่างไร ถึงได้เขียนอะไร ๆ ที่บิดเบือน ใส่ร้าย สร้างเรื่อง เพื่อสร้างแรงดึงดูดไลค์จากสลิ่ม
ทำไมต้องโกหกต่อสาธารณะก็ไม่รู้
แทนที่จะเขียนเพจด้วยความจริง ด้วยข้อมูล และเหตุผลที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ
กลับมีแต่การมอมเมาด้วยข้อมูลครึ่ง ๆ กลาง ๆ เท็จ ๆ เทียม ๆ เพื่อหลอกสลิ่มไปวัน ๆ
ไม่อาย ไม่มีสำนึกผิดชอบชั่วดี
แปลกใจจริง ๆ ครับ
เซา เว้าหลายข้อยอยากสิฮาก