“แม่เบี้ย” เป็นผลงานมาสเตอร์พีซของนักเขียนรางวัลซีไรต์ "วาณิช จรุงกิจอนันต์" ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสุดยอดวรรณกรรมไทยร่วมสมัย จนถูกหยิบยกมาสร้างเป็นภาพยนตร์หลายเวอร์ชั่นด้วยกัน
โดยเวอร์ชั่นล่าสุด กำกับโดย ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล หรือ"หม่อมน้อย" ซึ่งหลังจากเปิดฉายรอบปฐมทัศน์เมื่อวันที่ 14 ก.ย. ที่ผ่านมา ก็เริ่มมีกระแสจากผู้ชมหลากหลายวงการด้วยกัน โดยหนึ่งในนั้นคือ "ศิโรตม์ คล้ามไพบูรณ์" นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว Sirote Klampaiboon โดยระบุว่า
ข้อดีที่สุดของแม่เบี้ยฉบับหม่อมน้อยคือ การเตือนให้เห็นความยอดเยี่ยมของนวนิยายและความ "ล้ำ" ของวาณิชผู้ประพันธ์งานชิ้นนี้ ถัดจากนั้นคือการทำให้สรุปอย่างไม่ต้องลังเลว่า หม่อมน้อยคือผู้กำกับที่เราควรเขียนประวัติครอบคลุมแค่งานที่เคยทำก่อน พ.ศ.2533 เท่านั้น
เพราะงานหลังจากนั้นวนเวียนอยู่กับการเอาวรรณกรรมชิ้นดีมาเล่าใหม่ ด้วยประเด็นซ้ำซากตั้งแต่รักซ่อนเร้น ปมลูกขาดพ่อ ความริษยาของผู้ดี การกลับสู่รากเหง้าที่โดยเนื้อแท้แล้วก็เละเทะและ
หมือนกันหมด ซึ่งแม้จะน่าชื่นชมหม่อมน้อยในแง่เป็นผู้กำกับร่วมสมัยรายเดียว ที่เห็นความสำคัญของวรรณกรรมชั้นเลิศอย่างต่อเนื่อง แต่หม่อมน้อยก็ทำให้วรรณกรรมกลายเป็นร่างทรงของเรื่องเล่าอันซ้ำซากพอๆ กับฉากเซ็กซ์ที่วนเวียนอยู่กับการโชว์บั้นท้ายของนักแสดงชายและลีลาบดเอวกับนักแสดงหญิงโดยปราศจากอารมณ์
ท้ายที่สุดความปรารถนาที่ได้จากการชมแม่เบี้ยฉบับหม่อมน้อยคือการแอบอธิษฐานว่าหม่อมน้อยจะไม่มีเวลาสนใจวรรณกรรมชั้นดีเล่มไหนอีกโดยเฉพาะงานของนักเขียนสำคัญของยุคอย่างศรีบูรพาที่หลายเรื่องมีฉากและวัตถุดิบซึ่งตรงกับรสนิยมในการแปลงเรื่องของหม่อมน้อยเหลือเกิน
ทั้งนี้ "แม่เบี้ย" จะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์วันที่ 17 กันยายน นำแสดงโดย อ้อม-กานต์พิศชา, ชาคริต แย้มนาม, แม็กกี้ อาภา และฮัท จิรวิชญ์
ข่าวจาก : มติชนออนไลน์
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1442317516
นักรัฐศาสตร์มอง"แม่เบี้ย"ฉบับหม่อมน้อย วนอยู่กับบั้นท้ายชาย ขออย่าแตะวรรณกรรมดีๆ
“แม่เบี้ย” เป็นผลงานมาสเตอร์พีซของนักเขียนรางวัลซีไรต์ "วาณิช จรุงกิจอนันต์" ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสุดยอดวรรณกรรมไทยร่วมสมัย จนถูกหยิบยกมาสร้างเป็นภาพยนตร์หลายเวอร์ชั่นด้วยกัน
โดยเวอร์ชั่นล่าสุด กำกับโดย ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล หรือ"หม่อมน้อย" ซึ่งหลังจากเปิดฉายรอบปฐมทัศน์เมื่อวันที่ 14 ก.ย. ที่ผ่านมา ก็เริ่มมีกระแสจากผู้ชมหลากหลายวงการด้วยกัน โดยหนึ่งในนั้นคือ "ศิโรตม์ คล้ามไพบูรณ์" นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว Sirote Klampaiboon โดยระบุว่า
ข้อดีที่สุดของแม่เบี้ยฉบับหม่อมน้อยคือ การเตือนให้เห็นความยอดเยี่ยมของนวนิยายและความ "ล้ำ" ของวาณิชผู้ประพันธ์งานชิ้นนี้ ถัดจากนั้นคือการทำให้สรุปอย่างไม่ต้องลังเลว่า หม่อมน้อยคือผู้กำกับที่เราควรเขียนประวัติครอบคลุมแค่งานที่เคยทำก่อน พ.ศ.2533 เท่านั้น
เพราะงานหลังจากนั้นวนเวียนอยู่กับการเอาวรรณกรรมชิ้นดีมาเล่าใหม่ ด้วยประเด็นซ้ำซากตั้งแต่รักซ่อนเร้น ปมลูกขาดพ่อ ความริษยาของผู้ดี การกลับสู่รากเหง้าที่โดยเนื้อแท้แล้วก็เละเทะและหมือนกันหมด ซึ่งแม้จะน่าชื่นชมหม่อมน้อยในแง่เป็นผู้กำกับร่วมสมัยรายเดียว ที่เห็นความสำคัญของวรรณกรรมชั้นเลิศอย่างต่อเนื่อง แต่หม่อมน้อยก็ทำให้วรรณกรรมกลายเป็นร่างทรงของเรื่องเล่าอันซ้ำซากพอๆ กับฉากเซ็กซ์ที่วนเวียนอยู่กับการโชว์บั้นท้ายของนักแสดงชายและลีลาบดเอวกับนักแสดงหญิงโดยปราศจากอารมณ์
ท้ายที่สุดความปรารถนาที่ได้จากการชมแม่เบี้ยฉบับหม่อมน้อยคือการแอบอธิษฐานว่าหม่อมน้อยจะไม่มีเวลาสนใจวรรณกรรมชั้นดีเล่มไหนอีกโดยเฉพาะงานของนักเขียนสำคัญของยุคอย่างศรีบูรพาที่หลายเรื่องมีฉากและวัตถุดิบซึ่งตรงกับรสนิยมในการแปลงเรื่องของหม่อมน้อยเหลือเกิน
ทั้งนี้ "แม่เบี้ย" จะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์วันที่ 17 กันยายน นำแสดงโดย อ้อม-กานต์พิศชา, ชาคริต แย้มนาม, แม็กกี้ อาภา และฮัท จิรวิชญ์
ข่าวจาก : มติชนออนไลน์
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1442317516