โดนไฟดูด อาการทางกายดีขึ้นตามลำดับ แต่อาการทางใจรักษายังไงดีครับ ไม่กล้าแม้จะกดสวิทช์ไฟห้องน้ำ

กระทู้คำถาม
เมื่อปลายเดือนที่แล้ว  ปีนขึ้นไปเปลี่ยนหลอดไฟเพดานครับ  เนื่องจากผมเป็นคนตัวใหญ่  เลยใช้โครงเหล็กเป็นฐาน(อันตรายมาก  ควรจะใช้เก้าอี้ไม้ตัวใหญ่ๆแทน)  ซึ่งทุกครั้งก็ไม่มีปัญหาอะไร  แต่ครั้งนี้มันต่างไป  ผมเปลี่ยนหลอดไฟเสร็จ  แต่มันก็ยังไม่ติด  เลยคิดว่าน่าจะเป็นที่สตาร์ทเตอร์  เลยจะถอดเอาสตาร์ทเตอร์ออก  พอจับปุ๊บ  โดนดูดเลย (สตาร์ทเตอร์มันแตก  แต่ไม่ทันสังเกต)  ตอนนั้นยังมีสติอยู่  แต่เหมือนทุกอย่างรอบตัวเคลื่อนไหวช้ามาก  รู้สึกเหมือนดึงมือไม่ออก  พยายามดึงแต่ดึงไม่ออก  สุดท้ายก็ปล่อยมือออกมาได้  ร่างกายเหมือนไม่มีแรง  หงายหลัง  และหัวกระแทกกับขอบตู้สูงประมาณเอว  พี่สาวเห็นเหตุการณ์เล่าให้ฟังว่าหัวผมกระแทกแล้วพับไปด้านซ้าย  เพราะตอนล้ม  ตัวเอียงซ้าย  พอจะนึกภาพออกนะครับ  คือคอพับไปด้านซ้าย  ไหล่ขวาชิดกับตู้  พี่สาวผมตกใจมากคิดว่าคอจะหักรึป่าว  ไม่กล้าขยับตัวผม  พยายามโทรหาพี่ชาย  ซักพักผมก็รู้สึกตัวและลุกขึ้นมานั่ง  ตอนนั้นยังไม่มีอาการปวดอะไรซักเท่าไหร่  เพราะมันยังตกใจอยู่  แต่มีอาการหัวใจสั่น เต้นเร็วเป็นช่วงสั้นๆบางเวลา  เลยรีบไปหาหมอ  หมอให้แอดมิทที่ ICU นอนไปซักพัก  รู้สึกหัวใจเต้นเร็วอีก  พยาบาลเดินเข้ามาด้วยท่าทีนิ่งเฉยมาก  ผมยังไม่ทันอ้าปากบอกเลยว่าหัวใจผมสั่นๆ  พยาบาลก็เอายาน้ำซักอย่างมาให้ดูด  เค็มมากๆ เค็มกว่าน้ำปลา  พยาบาลบอกว่าต้องดูดให้หมด  ผมบอกว่าไม่ไหวแล้ว  ก็บังคับว่าต้องดูดให้หมด  ที่พยาบาลเอามาให้ดูด  เพราะที่ตัวผมติดเครื่องวัดคลื่นหัวใจไว้หลายจุด  ซึ่งผมเองก็ยัง งง ว่าติดตั้งแต่เมื่อไหร่  พอหัวใจผมเต้นผิดจังหวะ  พยาบาลก็รู้ได้ทันที  โดยที่ผมไม่ต้องบอก  และมาช่วยผมได้ทันเวลา  นอกจากนี้ที่แขนขวายังติดเครื่องวัดความดัน  ซึ่งมันจะบีบเองทุกชั่วโมง  มันทำให้ผมสะดุ้งตื่นทุกที  ส่วนที่นิ้วก็ติดเครื่องอะไรซักอย่าง  

ห้อง ICU ไม่มีห้องน้ำครับ  จะถ่ายหนักหรือเบา  ต้องให้พยาบาลจัดการให้  ไม่มีทีวี  ห้ามใช้มือถือ  เวลาที่นอนไม่หลับ  ก็นั่งดูพยาบาลไปครับ  เพราะห้องไอซียูจะเป็นช่องๆ  ทุกห้องจะหันหน้ามาที่เคาน์เตอร์พยาบาล  เวลาเราทำอะไรพยาบาลจะเห็นครับ  มีช่วงนึงผมเมื่อยแขนมากๆ  เลยยกขึ้นเพื่อให้หายเมื่อย  พยาบาลเดินเข้ามาทันทีเลยครับ  

อาการใจสั่นไม่กลับมาเป็นอีก  แต่มีปัญหาที่แขนขวาปวดมาก  ฉีดยาแก้ปวดแล้วก็ดีขึ้นไม่มาก  พอวันที่2มีอาการช้าที่มือและแขน  เจ็บใต้รักแร้  ปวดต้นคอ  หมอให้ทำ MRI ใช้เวลาทำ2ชั่วโมง  ต้องฉีดสีด้วย  ผมทนทำได้แค่1ชั่วโมง  ก็ทนต่อไม่ไหว  เพราะปวดมาก  ยังไม่ทันได้ฉีดสี  ก็ต้องหยุดก่อน  

อาการตอนนี้ดีขึ้นตามลำดับ  แต่ที่หนักใจมากคือ  ผมกลัวอุปกรณ์ไฟฟ้า  โดยเฉพาะพวกสวิทช์  ทั้งๆที่เมื่อก่อนไม่กลัวเลย  ทำเกี่ยวกับไฟฟ้าเล็กๆน้อยๆเองทั้งหมด  แต่หลังจากเหตุการณ์  แค่เสียบที่ชาร์ตแบตยังไม่กล้า (ตอนเสียบบางทีมันจะมีไฟแลบออกมา)  เปิดสวิทช์ห้องน้ำมือเปล่าไม่ได้  ต้องใช้ผ้าแห้งมากดสวิทช์

ตอนนี้ยังกลัวอยู่มาก  ควรทำยังไงดีครับ  รู้สึกว่าชีวิตลำบากมากเลย  หรือต้องพบจิตแพทย์ครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่