เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 3 กันยายน 2558 โบอิ้งและเอมิเรตส์แอร์ไลน์ (طَيَران الإمارات‎ : IATA code = EK , ICAO code = UAE)
ร่วมกันเฉลิมฉลองการส่งมอบเครื่องบินรอบใหญ่ในหน้าประวัติศาสตร์ร่วมกัน นั่นคือรุ่น
777 จำนวน 3 ลำ , 777-300ER จำนวน 2 ลำ และ 777Freighter อีกลำ นับเป็นการส่งมอบเครื่องบินลำที่ 150 ให้กับฝูงบินสายการบินเอมิเรตส์
และยังถือเป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปี ที่ทำการส่งมอบเครื่องบินตระกูล 777 สามรุ่น ในคราวเดียวให้ลูกค้าหนึ่งราย
สายการบินเอมิเรตส์เป็นสายการบินที่ในฝูงบินมีเครื่องบินตระกูล 777 มากที่สุดของโลก
อีกทั้งเป็นสายการบินเดียวที่ทำการบินด้วยเครื่องบินตระกูล 777 มากหลากหลาย ถึง 6 รุ่นด้วย

Sir Tim Clark ประธานสายการบินเอมิเรตส์กล่าวว่า
"เราได้มีสัมพันธไมตรีร่วมกันกับโบอิ้ง เครื่องบินตระกูล 777 มาช้านาน
จากการที่เราเป็นผู้ทำการบินด้วยตระกูล 777 มากที่สุดของโลก
เงินหลายพันล้านเหรียญจึงหมายหมั้น ทุ่มเพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมวิศวกรรมอากาศยานของเครื่องบินตระกูลนี้
เครื่องบินตระกูล 777 ทำให้สายการบินเอมิเรตส์ ทำการบินได้ไกล, มีเสถียรภาพ, ความน่าเชื่อถือ และความยืดหยุ่นคล่องตัว
ในการให้บริการ 100 ปลายทาง 6 ทวีปสารทิศทั่วโลก โดยไม่หยุดพักระหว่างทางไกลจากฐานบิน
เมืองดูไบ (IATA code =DXB , ICAO code = OMDB)
เราภูมิใจที่ได้รับมอบเครื่องบินรุ่น 777 ลำที่ 150 และมุ่งมั่นทำงานร่วมกันกับคณะทำงานโบอิ้งในการพัฒนา 777X ยุคถัดไป
ก็เพื่อฝูงบินสายการบินเอมิเรตส์เอง เช่นฉะนั้นแล"
"การส่งมอบ 3 ประการรวดแด่สายการบินเอมิเรตส์ เป็นความทรงจำครั้งสำคัญในสัมพันธไมตรีของสองเราที่เติบใหญ่เหลือเชื่อตลอด 3 ทศวรรษที่ผ่านมา"
กล่าวโดย Ray Conner ประธานโบอิ้งอากาศยานพาณิชย์และผู้บริหารระดับสูง และยังกล่าวต่อไปว่า
"ตามที่สายการบินเอมิเรตส์รับมอบเครื่องบินตระกูล 777 ลำที่ 150 นั้น
เป็นการขีดเส้นใต้คุณภาพชั้นดีของเครื่องบินตระกูลนี้ เป็นอากาศยานเพื่อทั้งการโดยสารและลำเลียงสินค้า (cargo) โดยไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าใคร
เราเชื่อในความสัมพันธ์อย่างมั่นใจถึงสิ่งที่สายการบินเอมิเรตส์แสดงต่อโบอิ้งเรามา"

สายการบินเอมิเรตส์สั่งซื้อเครื่องบิน 777 รอบแรกกับโบอิ้งเมื่อปี พ.ศ. 2535 รับมอบไปในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2539
แล้วสั่งจองสั่งซื้อเรื่อยมาจนเติบใหญ่ผ่านกาลเวลาหลายๆ ปี มีครั้งที่สั่งเครื่องบินโบอิ้งรุ่น 777-300ER รวดเดียว 50 ลำ
ในงานดูไบแอร์โชว์ และก็ 777X จำนวน 150 ลำ ที่เป็นเวอร์ชั่นรุ่นปี 2013
เครื่องบินโบอิ้งรุ่น 777-300ER ในวันนี้ ที่ได้กลายเป็นส่วนสำคัญใหญ่ที่สุดของฝูงบินสายการบินเอมิเรตส์
เป็นอากาศยานคุ้มต้นทุน ทรงประสิทธิภาพ และใช้เชื้อเพลิงอย่างเห็นคุณค่ามากที่สุดในบรรดาอากาศยานประเภทเดียวกัน
หรือเมื่อเทียบกับอากาศยานทางเดินคู่ ก็จะมีเสถียรภาพสูงสุดเช่นกัน ด้วยสถิติการออกเดินทางได้สำเร็จสมประสงค์สูงที่สุด กล่าวคือร้อยละ 99.5
อีกทั้งยังเป็นอากาศยานลำเลียงสินค้าที่มีความสามารถมากโดยที่ยังคงความเป็นเครื่องบินโดยสาร
ปัจจุบันสายการบินเอมิเรตส์มีสั่งเครื่องบินโบอิ้งรุ่น 777-300ER ไว้อยู่ 46 ลำ

เพราะการส่งมอบในครั้งนี้ สายการบินเอมิเรตส์จึงมีเครื่องบินโบอิ้งรุ่น 777 Freighter จำนวน 13 ลำ
เป็นสายการบินที่มีเครื่องบินลำเลียงสินค้า 2 เครื่องยนต์พิสัยไกล มากที่สุดของโลก
บินได้ไกลถึง 4,900 ไมล์อากาศ หรือ 9,070 กิโลเมตร ทั้งที่ระวางสินค้าเต็มพิกัด ด้วยความหนาแน่นการบรรทุกธรรมดาสามัญ
ความสามารถในพิสัยบินของอากาศยาน สะท้อนการประหยัดต้นทุนดำเนินงานของสายการบินได้อย่างมีนัยเลยทีเดียว
การหยุดแวะพักรายทางน้อยลงสัมพันธ์กับการประหยัดค่าธรรมเนียมสนามบินและค่าร่อนลงจอด
หลีกเลี่ยงการจราจรคับคั่ง ณ สนามบินกลางทาง เพื่อขนถ่ายโอนย้าย, ลดค่าใช้จ่ายการลำเลียงส่งมอบ (handling cost) และลดเวลาด้วยเช่นกัน
โบอิ้งให้บริการสนับสนุนแด่สายการบินเอมิเรตส์ รวมทั้งชิ้นส่วน, อะไหล่ เพื่อการดูแลรักษาสุขภาพอากาศยานอันรวดเร็ว,
บริการข้อมูลนักบิน Jeppesen เพื่อช่วยเกื้อหนุนการจัดตารางบิน และ
AerData STREAM (Secure Technical Records for Electronic Asset Management) เพื่อบันทึกระเบียนและบริหารจัดการฝูงบิน


โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

ท่านสามารถอ่านข่าวต้นฉบับได้จาก
http://boeing.mediaroom.com/index.php?s=20295&item=129513

Source : Boeing
Photo : Boeing , Fersolieslava , Andrei Dimofte , Imre Solt , Umair Shaikh
Last Updated on Monday, 14 September 2015 10:50

http://www.airlinesweek.com/