เมื่อเวลา 05.30 น. วันที่ 13 ก.ย. ร.ต.ท.สมยงค์ บานเย็น ร้อยเวรสอบสวน สภ.กุยบุรี รับแจ้งอุบัติเหตุรถชนเสาไฟฟ้ามีผู้ได้รับบาดเจ็บและทำให้ไฟฟ้าดับทั้งเมืองกุยบุรี เหตุเกิดบริเวณทางแยกบ้านหนองหมู ม.7 ต.กุยบุรี อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิหลวงพ่อในกุฏิ
ที่เกิดเหตุพบรถกระบะตอนครึ่งยี่ห้อ อีซูซุ สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน ผจ 469 สุราษฎร์ธานี สภาพประตูรถด้านคนขับอัดติดกับเสาไฟฟ้า ในรถพบผู้เสียชีวิต 1 รายทราบชื่อคือ นายภานุมาส เจริญสุข อายุ 41 ปี และนางอุไร เจริญสุข อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 119/5 ม.1 ต.พุมเรียง อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ช่วยกันนำตัวส่งรพ.กุยบุรี
จากสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ทั้งสองคนเดินทางมาจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อจะไปเยี่ยมญาติที่จังหวัดเพชรบุรี แต่เมื่อวิ่งผ่านอำเภอกุยบุรีเกิดมีฝนตกลงมา และพื้นผิวถนนลื่น บวกกับถนนเป็นหลุมบ่อ ทำให้รถเสียหลักหมุนหันกลางถนน และไถลไปชนกับเสาไฟที่อยู่ข้างทาง ชนอัดกับเสาไฟทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
สำหรับถนนเพชรเกษมบริเวณดังกล่าว ชาวบ้านในพื้นที่จะเรียกว่าถนนราบเซียนจะอยู่ในช่วงขาขึ้น ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 275-277 ซึ่งพื้นถนนจะเป็นเหมือนพื้นขัดมัน บางช่วงผิวจราจรหายไปกลายเป็นหลุมทำให้รถต่างถิ่นที่ไม่รู้สภาพถนนจะเกิดอุบัติเหตุบ่อยๆ ซึ่งที่ผ่านมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นหลายครั้งมีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บไปแล้วหลายราย
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1442119321
ขับกระบะฝ่าสายฝน ไถลชนเสาไฟฟ้า บนถนนปราบเซียน-คนขับดับคาที่ ไฟดับทั้งเมือง อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์
ที่เกิดเหตุพบรถกระบะตอนครึ่งยี่ห้อ อีซูซุ สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน ผจ 469 สุราษฎร์ธานี สภาพประตูรถด้านคนขับอัดติดกับเสาไฟฟ้า ในรถพบผู้เสียชีวิต 1 รายทราบชื่อคือ นายภานุมาส เจริญสุข อายุ 41 ปี และนางอุไร เจริญสุข อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 119/5 ม.1 ต.พุมเรียง อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ช่วยกันนำตัวส่งรพ.กุยบุรี
จากสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ทั้งสองคนเดินทางมาจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อจะไปเยี่ยมญาติที่จังหวัดเพชรบุรี แต่เมื่อวิ่งผ่านอำเภอกุยบุรีเกิดมีฝนตกลงมา และพื้นผิวถนนลื่น บวกกับถนนเป็นหลุมบ่อ ทำให้รถเสียหลักหมุนหันกลางถนน และไถลไปชนกับเสาไฟที่อยู่ข้างทาง ชนอัดกับเสาไฟทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
สำหรับถนนเพชรเกษมบริเวณดังกล่าว ชาวบ้านในพื้นที่จะเรียกว่าถนนราบเซียนจะอยู่ในช่วงขาขึ้น ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 275-277 ซึ่งพื้นถนนจะเป็นเหมือนพื้นขัดมัน บางช่วงผิวจราจรหายไปกลายเป็นหลุมทำให้รถต่างถิ่นที่ไม่รู้สภาพถนนจะเกิดอุบัติเหตุบ่อยๆ ซึ่งที่ผ่านมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นหลายครั้งมีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บไปแล้วหลายราย
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1442119321