[CR] จากเด็กพลังงานหมด สู่จุดเริ่มต้นของการเดินทางครั้งแรก ไปน้ำตกไทรโยคน้อย ด้วยงบ 300 บาท

สวัสดีครับ ก่อนอื่นเลยต้องขอบอกไว้ก่อนว่านี่เป็นกระทู้รีวิว ครั้งแรกในชีวิตผม ยังไงถ้าติถ้าชมช่วยเบาไม้เบามือกันนิดนึงนะครับ 555 พอดีบอบบาง

แล้วก็ทุกรูปใช้ iPhone 5s + Snapspeed แต่งนะครับ อย่าว่าผมเลย ความสามารถในการถ่ายภาพมีแค่นี้ ใช้แอพช่วยเอานะ T__T

โดยจุดเริ่มต้นในการเที่ยวครั้งนี้ คือผมยังเป็นนักศึกษาอยู่ แต่กลับเป็นคนที่รู้สึกเหนื่อย และไม่ค่อยมีพลังงานเท่าไร นอนหลับพักผ่อน ก็ยังไม่ค่อยดีขึ้น รู้สึกขาดอะไรไปสักอย่าง
เลยตัดสินใจออกเดินทางเพื่อหาแรงบัลดาลใจ

โดยเริ่มจากวันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา ผมได้บอกกับเพื่อนๆว่าผมเหนื่อย ผมอยากออกไปเที่ยวที่ไหนสักที่ ตอนนั้นคิดว่าอยากไปแต่ยังไม่ได้ตัดสินใจอะไร จนกระทั่งตัดสินใจในคืนวันที่ 11 กันยายน ว่าจะออกเดินทางสักครั้ง และได้บอกกับเพื่อนๆ (เผื่อหายเพื่อนจะได้ตามหาได้ถูก 555) แต่ก็ไม่ได้มีแพลนอะไรเลย
เคยอ่านรีวิวมาเยอะแต่ก็ส่วนใหญ่แพงๆทั้งนั้น โดยส่วนตัวผมเองตังก็ไม่ค่อยจะมีอ่ะนะ ถ้ามีก็หมดไปกับเรื่องกินที่ปริมาณไม่ใช่คนปกติกินกัน = =
ผมเลยคิดในใจว่า " ไปตายเอาดาบหน้าล่ะกัน " นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมไปถึง " น้ำตกไทรโยคน้อย " จังหวัดกาญจนบุรี

งั้นเริ่มเลยล่ะกันนะครับ
เพราะผมไม่รู้ว่าผมจะไปไหน จะต้องค้างไหม ระยะไกลแค่ไหน นานไหม ผมเลยเตรียมของไปเท่าที่คิดได้ มีแค่นี้ครับ และเอาทุกอย่างใส่กระเป๋าสะพายข้างไป


หลังจากคืนวันที่ 11 กันยายน ที่ผมเตรียมของ ผมไม่ได้คิดเลยว่าจะไปไหนดี แต่พอมีในหัวอยู่บ้าง ( หัวหิน เมืองกาญ เกาะเต่า ฯ) และผมก็เข้านอนประมาณเกือบตี 1 แล้วดันนอนไม่ค่อยหลับด้วยนี่สิ ( อมยิ้ม20 ) โดยที่ตั้งนาฬิกาปลุกตอนตี 4 ด้วยความที่มันมีอะไรไม่รู้ประมวลผลในสมองเต็มไปหมดระหว่างนอน ทำให้นอนหลับไม่เต็มที่ ประมาณ 03.40 ผมก็สะดุ้งตื่น ( เอิ่มมม อมยิ้ม24 ) โอเค ในเมื่อไม่หลับก็ตื่นเลยล่ะกัน ( เพิ่งไปดูฟรีแลนซ์มา ไม่นอนได้ 12 วัน เราไม่นอนแค่คืนเดียวไม่เป็นไรหรอก 555 ) และก็อาบน้ำ(ร้องเพลงกับฝักบัวด้วยความลุ้นระทึกกับสิ่งที่กำลังจะทำ) จัดหนักปล่อยของเก่าออกให้หมดเพราะกลัวจะไปปล่อยระหว่างรถไฟจะไม่ดีแน่ แฮ่ๆ อมยิ้ม02 พอเตรียมตัวเตรียมร้อย ก็ออกจากห้อง

ชุดที่ใส่ไปคือเสื้อยืดคอวี+กางเกงขาสั้น+รองเท้าแตะ ( ไม่รู้ต้องเจออะไร จะใส่ผ้าไบไปกลัวเจอโคลน เจอน้ำ เดี๋ยวพอดีกัน - -* ) ก่อนไปผมนึกในใจว่า งบมีแค่นี้ ( คือมีแค่นี้จริงๆ ไม่ได้เอาบัตรเอทีเอมมา ไม่มีเพิ่มเติม ไม่มีซุกตามซอกกระเป๋า ) เพราะงั้นทุกบาท ห้ามหาย ห้ามหล่น ห้ามกินเยอะ ( สโลแกน Freelance กำลังอินเลย ) ผมได้ซื้อน้ำเปล่าที่ 7-11 ขวดเล็ก 2 ขวด ทั้งหมด 14 บาท ขนมปัง 20 บาท แล้วก็เดินไปรอรถที่หน้าปากซอย แต่ดันไม่ดูเวลา ตอนนี้รถที่จะไปมันออกมาจากอู่ยังว้าา เอาแล้วไง !! โบกพี่แท๊กเลยล่ะกันจังหวะนั้น T__T พี่แท๊กไปส่งจากที่อยู่ไปหัวลำโพงทั้งหมด 99 บาท ก็คิดไว้ล่ะว่าเอาตัวเองมาลำบากแล้วไง แต่ตอนนั้นเวลา 05.30 เป็นเวลาที่ช่องจำหน่ายตั๋วของสถานีเพิ่งเปิด ผมคิดว่าช่วงเช้าน่าจะง่ายถ้าเราจะไปไหนทั้งทีโดยไม่มีแพลน จะได้มีเวลาเลือกสถานที่ มีเวลาตัดสินใจ ก็เข้าไปซื้อตั๋วเลยจ้า แล้วก็ถามพี่ขายตั๋วเอา บอกพี่เค้าไปตรงๆว่า

" พี่ครับ มีที่ไหนมีรถไฟฟรีไปบ้างอ่ะครับ ( T_T ) "
" น้องจะไปที่ไหนเอ่ย "
" ( ( คิดในใจ ) เอาแล้วไง จะโดนด่าไหมเนี่ย ยังไม่รู้เลยจะไปไหน ) ) ผมยังไม่รู้เลยอ่ะครับ คือเกิดมาไม่เคยนั่งรถไฟด้วยอ่ะครับ เลยอยากลองนั่งดู ( ทำหน้าอ้อนๆ ยิ้มหวานๆ ยังไงพี่เค้าก็เป็นผู้หญิง เป็นคนไทยด้วยกัน ต้องเห็นใจหน่อยล่ะว่ะ ) "
" งั้นน้องลองไปทริปเที่ยวน้ำตกไทรโยคน้อยไหม รถจะออก 06.30 ไปเช้า - เย็นกลับ "

ผมก็มองนาฬิกา > 05.45

" โอเคครับ ไปที่นี่เลยล่ะกันครับพี่ "

หลังจากนั้นก็สอบถามราคา และก็ได้ตั๋วมา มูลค่า 120 บาท ( ตอนนี้เงินในกระเป๋าเหลือเพียง 30 กว่าบาท T__T และนี่คือเรื่องจริง ตอนนั้นคิดอย่างเดียงเดียวคือต้องไปข้างหน้า)

*** ลืมบอกไป ผมมีแสตมป์ 7-11 ตั้ง 30 กว่าบาทนะ ติดอยู่ในกระเป๋า ริลัคคุมะ จะช่วยลูกช้างได้ไหมเนี่ยยย ***

แล้วก็นั่งรถรถไฟในสถานี โดยมีเพื่อนร่วมโลกมากมาย คนข้างๆหลับมียืดขาใส่ด้วย น่ารักจุง 555 เป็นภาพที่ขำๆดีนะครับ แต่ไม่ได้ถ่ายมาด้วยเพราะตอนนั้นก็มึนๆ อึนๆ นั่งรออย่างเดียว เลยเก็บมาได้แค่ภาพเดียว



และหลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงเรียก เลยคิดไว้ เอาวะ ถึงเวลาต้องไปแล้ว บู๊เดี่ยว ครั้งแรกในชีวิต ชีวิตมันต้องใช้ถึงจะมีความสุข เลยเดินไปขึ้นรถไฟ
โดยสภาพรถไฟข้างนอกค่อนข้างเก่า แต่พอเข้าไปข้างใน เก่ากว่าข้างนอกประมาณ 80% แต่อย่าว่ากระนั้นเลย ผมเหมือนคนโรคจิต กลับชอบสภาพแบบนี้นะ รู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่ดูคุ้นเคย แลดูได้อารมณ์ดี แล้วก็นั่งรอรถครับ โดยได้ที่นั่งหมายเลข 19 คันที่ 2 นั่งรอไปก็เปิดเพลงฟังไป โดยเพลงที่เปิดตอนนั้นคือ " The Wrong Direction - Passenger " ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับการเดินทางครั้งนี้เลย แต่รู้สึกว่าจังหวะมันใช่เลย ทำนองแบบนี้ อารมณ์ตอนนี้ มันโดนที่สุดแล้ว เปิดวนประมาณ 10 กว่ารอบ กว่ารถจะออก ระหว่างฟังเพลง ได้เห็นผู้หญิงคนนึงเดินขึ้นมาบนรถดูแล้วเหมือนคนเกาหลี สักพักมีผู้หญิงหน้าไทยๆอีกคนก็ขึ้นมา 2 คนนั้นนั่งตรงข้ามผม ( คิดในใจ ยิ้มไว้ก่อน เค้าน่าจะเคยนั่งรถไฟ น่าจะถามเค้าได้ ) สักพักมีฝรั่งมานั่งข้างๆ ก็ได้มารู้จักกัน แต่ลืมขอถ่ายรูปเอาไว้ เค้าเป็นคนอังกฤษมากับภรรยาแล้วก็เพื่อนที่เป็นคู่สามีภรรยาอีก 2 คน ชื่ออะไรสักอย่าง ( T__T เค้ารู้ว่าเราจำไม่ได้คงจะโกรธมิใช่น้อย )

โอเค ตอนนี้ก็ถึงเวลาออกเดินทางล่ะ รถไฟเลทนิดหน่อย เพราะว่านายสถานีขึ้นมาซ๋อมเบาะ เวลา 06.40 รถไฟก็ออก ( ความคิดในหัวคือ เราเปลี่ยนใจไม่ได้แล้วนะ ชีวิตหลังจากวันนี้จะต้องเปลี่ยนไป ลุยเดี่ยวไปข้างหน้าได้อย่างเดียว ) ตอนรถกำลังวิ่งก็ได้ถ่ายรูปไว้ได้รูปนึง



โอเคหลังจากนี้เราจะไม่เอาแต่หลับบนรถ เราจะเก็บทุกภาพระหว่างทางไปเรื่อยๆ รถก็วิ่งไปเรื่อยๆ มีแวะตามสถานีเพื่อรับผู้โดยสาร

หัวลำโพง > นครปฐม

ถึงล่ะนครปฐม ประมาณ 08.00 พนักงานบนรถไฟมีเวลาให้ลงไปไหว้พระที่องค์พระปฐมเจดีย์ และหาอาหารเช้าลงท้องประมาณ 40 นาที ผมด้วยความที่ตังมีแค่นี้ เอาไงดีๆ ร้องไห้ งั้น ขนมปังที่มียังไม่กินล่ะกัน เก็บไว้ก่อน ดื่มน้ำไป 3-4 อึก ได้แล้วก็ลงไปหาอาหารติดไม้ติดมือ เผื่อเหตุฉุกเฉิน ก็ได้ ข้าวเหนียวหมูมา 2 กล่อง 30 บาท แล้วก็มานั่งคุยโทรศักท์กับคนที่ห่วงอยู่ข้างหลัง 5555 เพื่อน พี่น้อง ทักมาเต็มเลย ไปไหน ทำไมไปคนเดียว ดูแลตัวเองด้วย 5555 ก็เงี่ยแหละครับ คนรักเป็นร้อย ( คนเกลียดเป็นล้าน ล้อเล่นนะครับ 5555 อมยิ้ม16 )

เวลา 08.45 โดยประมาณ รถไฟก็ออกเดินทางอีกครั้งโดยจุดหมายปลายทางที่ 2 คือ สะพานข้ามแม่น้ำแคว โดยบนรถไฟบรรยากาศก็อบอุ่นนะครับ ผมก็นั่งยิ้ม นั่งถ่ายรูป ตลอดทาง ฟังเพลงบ้างคุยกับฝรั่งบ้าง ( สกิลแบบ งูๆปลาๆ ประเด็นคือเป็นงูที่ตายแล้วกับปลาที่ตากแห้งด้วยไง ) ทักษะต่ำมาก สำเนียงแบบ . . . . = = แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะความกล้าผมมีเกิน 300 % คุยไป เปิด Dic ให้ฝรั่งเข้าใจควบคู่ไป 5555 ชีวิตต้องลองใช้นะครับ จะรู้ว่ามันสนุกแค่ไหน


ส่วนนี่เป็นภาพระหว่างทางที่กำลังจะเข้าจังหวัดกาญจนบุรีนะครับ

รู้ตัวอีกทีก็อยู่ที่สะพานข้ามแม่น้ำแควล่ะ โดยรถจะจอดให้เข้าห้องน้ำ ให้ถ่ายรูป ประมาณ 25 นาที เอาล่ะสิ งานเข้ารอบที่เท่าไรล่ะว่ะเนี่ย อยากได้รูปสวยๆบนสะพาน
แต่ . . . .  ไม่มีคนถ่ายรูปให้ T__T คนโสดต้องทำใจ สกิลความกล้าก็เพิ่มพูนเข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัว

" พี่ครับ รบกวนช่วยถ่ายรูปให้ผมหน่อยได้ปะครับ "
" Can u take a photo ? "


ไทยก็มี ฝรั่งก็มา แต่ไม่โชคร้ายขนาดนั้น มีนางฟ้ามาโปรด พี่ผู้หญิงที่หน้าเหมือนเกาหลี ที่เจอบนรถไฟ เดินมาแล้วบอกผมว่า

" เราถ่ายให้เอาเปล่า ตอนอยู่บนรถไฟเราแอบถ่ายตั้งหลายครั้ง เห็นมุมมันสวยดี "

หืมมมมมม . . . ?
แอบถ่าย เอาแล้วไง ตอนนั่งไม่ได้เกรงใจคนในขบวนด้วย เพราะฝรั่งที่นั่งข้างๆ ย้ายไปนั่งกับภรรยาเค้าแล้วด้วย
โอเค๊ !!! มีคนถ่ายให้ล่ะ รีบถ่ายก่อน เพราะเค้ามากับเพื่อนเดี๋ยวคงไปถ่ายกันต่อ ก็เลยได้มาจนได้ครับ

หลังจากนั้นตามประสาคนโสด ก็ทำเป็นถ่ายวิว ถ่ายนู้น ถ่ายนี่แก้เขิลไปงั้นแหละครับ 55555 แต่ก็ได้ภาพสวยๆ ( คิดเอาเองว่าสวย 555 ) มาบ้างนะครับ





เสียงหวูดของรถไฟส่งสัญญาณให้ไปต่อ ทุกคนก็เดินขึ้นรถกัน ผมก็ดีใจล่ะมีภาพตัวเองล่ะเว้ย แต่ก็นะพอลงภาพตัวเองปุ๊ป เพื่อนๆถามว่า

" ไปคนเดียว แต่ใครถ่าย "
เอิ่มมมม = = ขอให้เค้าถ่ายสิครัช !!!!!!!!

ไอเราก็เริ่มเพลินกับการแต่งรูป แล้วพี่คนที่แอบถ่ายก็ส่งรูปให้ผม มองไปมองมา สวยดีอ่ะ


พี่ยิ้มเจ๋งว่ะ แต่ . . . ขาใหญ่ไปนะพี่ = = แต่ก็ขอบคุณนะครับ

หลังจากนั้นพี่ก็ขอย้ายมานั่งมุมเราบ้าง 5555 ก็เงี่ยได้มุมดี ก็เลยเอากันใหญ่เลย ความสนุกก็เริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ 5555 อมยิ้ม21
แล้วเราก็ได้เดินทางมาถึง ทางรถไฟสายมรณะแบบ 100 % ซึ่งประวัติน่าขนลุกมาก เพราะไม้หมอน 1 อัน คือคนตาย 1 คน โห
แล้วระยะทางโคตรไกล เท่ากับว่าคนตายนับไม่ถ้วนเลยนะเจ้าหน้าที่ก็เล่าประวัติให้ฟัง โดยถ้ารวมๆแล้ว ทางรถไฟสายนี้มีคนเสียชีวิตประมาณ 600,000 คน หูยยยยย ฟังแล้วน่ากลัวแฮะ
แล้วก็มีแจกของ เล่นเกมส์กันบนรถด้วยนะครับ
ความเกรียน และความเป็นคนยิ้มเก่งของผม ผมก็แซวคนนู้นคนนี้บ้าง สนุกดีครับ เริ่มรู้จักกับผู้คนมากขึ้น ทำให้ทริปนี้มีความสุขมากครับ
ระหว่างทาง ถ้าใครนั่งข้างซ้าย จะได้เห็นแม่น้ำอะเมซอนไทยแลนด์



ถ้านั่งข้างขวา จะได้คุยกับหน้าผา แล้วเศษหิน และแน่นอนครับ ผมนั่งข้างขวา อมยิ้ม20 และเจ้าหน้าที่ยังบอกอีกว่าถ้าใครอยากได้รูปสวยๆ ให้ถ่ายด้านซ้าย แต่สำหรับด้านขวาจะมีหน้าผา ถ้าใครเอามือไปแตะที่หน้าผา แล้วเอามาแตะหน้าผากตัวเองจะโชคดี แน่นอนครับ ผมไม่รอช้า เอามือไปแตะเลย แล้วก็อธิษฐาน

" ขอให้โลกสงบสุข  << นี่คือพระเอก นางเอกในหนัง ปกป้องโลกนะครับ " แต่กับผมไม่ใช่ 5555

ผมขอให้คนที่ผมรู้จักกับคนรอบๆตัวมีความสุข 555 ยังดูดีอยู่นะครับ
และแล้ว เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าหน้าผาจะอยู่ข้างหน้านะครับ ใครอยากแตะเตรียมตัว
ผม . . . . . แล้วที่แตะแล้วอธิษฐาเมื่อกี้คืออะไร   *(&*+&%&%@234
อมยิ้ม20
คิดในใจ ไม่เป็นไร หน้าผาระแวกเดียวกัน พรน่าจะเชื่อมถึงกันหมด 555




เห็นมือไหมครับ นั่นแหละ 5555 มัวแต่แย่งกัน ต้องแตะก่อนแบบผมสิ ไม่ต้องแย่งใคร 5555

แล้วก็ขอพี่เค้าถ่ายรูปด้านซ้ายบ้าง พอกำลังจะหันไปขอ



Oop !! เอิ่ม หน้าต่างเต็ม ไม่เป็นไรจ้าพี่ๆ ผมเห็นพี่ๆมีความสุข ผมก็ยินดีด้วย 555 ไม่ถ่ายก็ได้ว้าาาา
แต่พี่ๆเค้าก็ยังให้ผมเข้าไปถ่ายนะครับ แต่รูปดันเบลอ เออ ไม่เอาก็ได้ว้า 555 กลับไปคุยกับหน้าผาดีฟ่าา


ติดตามกันต่อนะครับ เนื้อที่เต็มล่ะ 55555

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

ช่วงนี้เป็นช่วงแรกของการหัดถ่ายภาพ แต่งภาพนะครับ ยังไงลองเข้าไปดูในไอจี หรือ ในเฟสบุ๊คผมได้ครับ

https://instagram.com/than.im/

https://www.facebook.com/Than.IMple

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ชื่อสินค้า:   เที่ยวคนเดียว
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่