ทาวน์เฮ้าส์ เคซี รามอินทรา 7

สำหรับคนที่อยากมีบ้านเป็นของตัวเองและกำลังจะเลือกซื้อบ้านพร้อมหนี้สินระยะยาวครับ ผมอยากจะแชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับการยื่นเรื่องซื้อบ้านครั้งแรกของผม เพื่อที่คนไม่ค่อยมีความรู้หรือประสบการณ์ในการซื้อบ้านควรจะทราบไว้และไม่พลาดท่าแบบผม

เริ่มแรกครับ ผมคิดอยากจะซื้อบ้านเพราะปัจจุบันเช่าอพาทเมนต์อยู่ ก็สงสารลูกชายไม่มีพื้นที่วิ่งเล่นห้องที่อยู่ก็เล็ก ผมหาบ้านที่ราคาไม่แพงเพราะเงินเดือนน้อย หาอยู่หลายที่ ไปดูมาเกือบทั่วกรุงเทพฯรวมไปถึงปริมณฑล ใช้เวลาอยู่หลายเดือน


จนวันเสาร์ที่ 8 สิงหาคาม 2558 ผมก็ได้เข้าไปดูหมู่บ้านเคซี รามอินทรา 7 ก็ได้คุยกับเซลล์ชื่อน้ำ (เป็นกระเทย) วันนั้นเค้าก็พานั่งรถกอล์ฟไปดูบ้านครับ ปกติดีไม่มีอะไร พอดูเสร็จกลับมาที่สำนักงานขาย ผมก็เริ่มถามรายละเอียดต่างๆ โดยบ้านที่ผมสนใจเป็นทาวน์เฮ้าส์ 16 ตรว. ราคาอยู่ที่ประมาณ 1.39 ล้านบาท
โปรโมชั่นก็โอเค ฟรีดาวน์ ฟรีโอน แถมแอร์ 1 ตัว ถือว่าเยอะกว่าที่อื่นๆ และราคาก็ถูกกว่าหลายๆที่

ผม : ถ้าผมจะขอคุยกับเจ้าหน้าที่ของธนาคารที่ประจำอยุ่ที่โครงการก่อนได้ไหมครับ อยากปรึกษาก่อน กลัวเงินเดือนจะไม่พอสำหรับยื่นกู้
เซลล์ : ต้องวางเงินจองก่อนค่ะ 5,000 บาท เดี๋ยวน้ำดูให้ก่อนก็ได้ เงินเดือนเท่าไร
ผม : เงินเดือน 15,000 บาท ค่าน้ำมัน 4,000 บาท
เซลล์ : น่าจะได้อยู่แล้ว
ผม : งั้นขอลองกลับไปคิดดูก่อนนะครับ พี่หยุดวันไหนครับ เดี๋ยวผมเข้ามาวางเงินจองอีกที
เซลล์ : ลองโทรมาก่อนละกัน เพราะวันหยุดไม่แน่นอน

หลังจากปรึกษากับแฟนแล้ว พอวันจันทร์ที่ 10 สิงหาคม 2558 ก็โทรหาเซลล์ว่าจะเข้าไปวางเงินจอง เซลล์บอกว่าวันนี้หยุด (ทำไมไม่บอกตั้งแต่วันเสาร์) โอเคไม่เป็นไรงั้นพรุ่งนี้เดี๋ยวผมเข้าไปครับ (ผมก็เป็นเซลล์เข้าใจเพื่อนร่วมอาชีพ จริงๆมีเซลล์อีกคนเข้าไปติดต่อกับเค้าก็ได้)

วันอังคารที่ 11 สิงหาคม 2558 ผมเข้าไปวางเงินจอง 5,000 บาท เตรียมเอกสารไปพร้อม ผมเข้าใจว่ายื่นเรื่องเลย แต่ยังยื่นไม่ได้ เพราะต้องนัดเซ็นสัญญาก่อน แล้วเซลล์ก็ถามว่ารีบเข้าอยู่ไหม ขอเวลาเก็บบ้าน 1 เดือนได้ไหม ผมก็โอเค (ตัวบ้านเสร็จหมดแล้ว เหลือเก็บงานก็พวกทาสีทับรอยแตก ประตูหน้าต่าง) แล้วก็นัดผมไปเซ็นสัญญาซื้อขายวันอังคารที่ 18 สิงหาคม 2558

วันจันทร์ที่ 17 สิงหาคม 2558 ก่อนวันเซ็นสัญญา ทีเด็ดเลยครับโทรไปหาเซลล์

ผม : สวัสดีครับ ผม(ชื่อจริงผม) นะครับ จะปรึกษาหน่อยครับ
เซลล์ : (จำผมไม่ได้) ใครอะ จำไม่ได้
ผม : ผมคนที่นัดเซ็นสัญญาพรุ่งนี้ครับ ที่วางเงินจองไปวันอังคารที่แล้ว (ภายในอาทิตย์ที่ผ่านมาไม่น่าจะมีใครวางเงินจองเยอะแยะขนาดนั้น)
เซลล์ : อ่อๆ นัดพรุ่งนี้หรอ ไม่ใช่วันพุธหรอ (โอ้โห ซุปเปอร์เซลล์)
ผม : อ้าวพี่นัดผมเอง ผมลางานไปแล้วครับ
เซลล์ : อ่อ ไม่เป็นไรเดี๋ยวมีเจ้าหน้าที่อีกคนจัดการให้
ผม : (ก็ปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องเอกสารทะเบียนบ้าน)

วันอังคารที่ 18 สิงหาคม 2558 ผมก็เข้าไปเซ็นสัญญา เจ้าหน้าที่บอกจะซื้อเอกสารกับธนาคารอะไร ผมก็แจ้งไปว่าธนาคารอาคารสงเคราะ ปรากฏว่าเพิ่งทราบวันนั้นว่าไม่มีเจ้าหน้าที่ของธนาคารประจำอยู่ที่โครงการ กั๊กครับไม่บอกผมตั้งแต่แรกอีกแล้ว แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ไม่อยากมีปัญหาคิดว่าไม่เป็นไรมั้งน่าจะกู้ได้ แล้วเจ้าหน้าที่โครงการคนนี้ก็บอกว่าจะส่งเอกสารให้ธนาคารวันพฤหัสที่ 20 สิงหาคม 2558 ใช้เวลาประมาณ 1 อาทิตย์หลังจากยื่นเอกสาร เดี๋ยวธนาคารจะติดต่อมาเอง

วันพฤหัสที่ 24 สิงหาคม 2558 ร้อนใจครับอยากทราบผลละว่าผ่านไหมเพราะยื่นไปแค่ธนาคารเดี่ยว เลยโทรสอบถามเซลล์ ตามสเต็ปบอกชื่อไปแล้วจำผมไม่ได้เหมือนเดิมก็ร่ายให้ฟังเหมือนเดิมว่าเราคือคนไหน สรุปเอกสารส่งไปที่ธนาคารอาคารสงเคราะสาขาเพชรบุรีตัดใหม่ ก็เลยหาเบอร์โทรศัพท์และโทรไปถาม เจ้าหน้าที่ธนาคารก็ดีครับบอกว่าขอดูเอกสารก่อนนะคะเดี๋ยวติดต่อกลับไป แล้วภายในวันนั้นก็ติดต่อกลับมาแล้วก็แจ้งว่าผมกู้ได้ไม่ถึงโดยกู้ได้ที่ 1.18 ล้านบาท (ย้อนกลับไปนึกถึงคำพูดของเซลล์นะครับ น่าจะกู้ได้อยู่แล้ว คุณน้ำเค้าใช้คำว่า"น่าจะ" อืม...ผมโง่เองแหละ)

วันศุกร์ที่ 25 สิงหาคม 2558 เข้าไปธนาคารก็คุยรายละเอียดอีกที แล้วก็บอกว่าผมขอเอกสารกลับนะครับ ผมไม่ได้ไม่พอใจนะครับ แค่อยากไปลองคุยกับธนาคารอื่นดูว่าข้อเสนอเป็นยังไง เพราะใบรับรองเงินเดือนและเอกสารอื่นๆ ทางธนาคารอาคารสงเคราะเค้าใช้ตัวจริง เลยต้องเอาชุดนี้ไปคุยกับธนาคารอื่น เพราะตอนแรกเข้าใจว่ามีเจ้าหน้าที่ของธนาคารมากกว่า 1 ธนาคาร ประจำอยู่ที่สำนักงานขาย อย่างที่บอกครับเซลล์กั๊กข้อมูลไม่ยอมบอก

สรุปวันจันทร์ที่ 31 กันยายน 2558 ก็เอาเอกสารกลับไปที่ธนาคารอาคารสงเคราะสาขาเพชรบุรีตัดใหม่เหมือนเดิม โดยพาแม่ผมไปยื่นกู้ร่วมด้วย

แม่ต้องยื่นเอกสารเพิ่มเติมหลายอย่าง เพราะแม่ใช้ธนาคารกรุงเทพ การขอสเตทเมนต์ต้องใช้เวลาประมาณ 3-4 วันทำการ และต้องไปรับที่สาขาที่เปิดบัญชีคือที่สาขาหมาทุน เพลินจิต ผมเลยวิ่งเอกสารสนุกสนานทั้งอาทิตย์เลยครับ ต้องไปหาลูกค้าแถบพุทธมณฑล (ทำงาน) แล้วก็มาเอาสเตทเมนต์ที่เพลินจิตแล้วก็เอาไปให้ธนาคารที่เพชรบุรีตัดใหม่ (มีอย่างอื่นอีกหลายอย่าง แต่เป็นเพราะทางผมเอกสารไม่พร้อมเองครับ) อยากให้เดินเรื่องเสร็จเร็วๆเลยต้องอดทนครับ

จนเอกสารครบเจ้าหน้าที่ธนาคารก็ถามว่าบ้านเสร็จยังค่ะ ไม่เห็นเค้าโทรมาบอกเลย ต้องรอให้ทางโครงการแจ้งมาว่าบ้านเสร็จถึงจะนัดประเมินบ้านได้ ผมเลยบอกว่าเดี๋ยวลองโทรไปถามดูให้นะครับ

วันที่เสาร์ที่ 12 กันยายน 2558 ครับวันนี้ก็ทีเด็ดครับ โทรไปถามเซลล์ครับ

ผม : สวัสดีครับ ผม(ชื่อผม) นะครับ
เซลล์ : (อ่า เค้าจำผมได้ละ) จะถามเรื่องบ้านหรอ ยังไม่เสร็จเลย พอดีผู้รับเหมาทำอยู่ซอยอื่น
ผม : อ้าว แล้วเมื่อไรเสร็จอะครับ (เริ่มอารมเสียนิดๆ)
เซลล์ : ต้องเป็นกลางเดือนตุลาคมเลย เพราะช่างทาสีไม่ได้ ฝนตก แล้วช่วงนี้ผู้รับเหมาไม่ค่อยมี
ผม : ฝนมันเพิ่งจะมาตกอาทิตย์นี้นะครับ เพิ่งตกไม่กี่วันเอง
เซลล์ : พอดีสีหมด ต้องรอสีเข้ามาตอนสิ้นเดือน (อ้าวเมื่อกี้บอกทาสีไม่ได้ เพราะฝนตกไหลไปเรื่อย สมชื่อ)
ผม : แล้วตอนวางเงินทำไมบอกผมว่า 1 เดือน นี่เลื่อนทีเป็นเดือนเลยนะ
เซลล์ : ก็ต้องเข้าใจด้วยว่าสีมันไม่มี แล้วฝนก็ตก ทาสีไม่ได้ (พูดเหมือนเพิ่งเซ็นสัญญาวางเงินเมื่อวาน แล้วผมจะเร่งให้เสร็จวันนี้)

สรุปได้มา 4 เหตุผลที่เก็บงานไม่เสร็จ
1.ผู้รับเหมาเก็บงานอยู่ซอยอื่น (พอรู้แหละครับว่าไปเร่งทำเฟสใหม่ ที่อยู่ในโครงการเดียวกัน)
2.ฝนตก ทาสีไม่ได้ (ซึ่งจะไปสอดคล้องกับข้อ 3)
3.สีไม่มี
4.ช่วงนี้ผู้รับเหมาหายาก

คิดแล้วครับ คุยไปก็ไม่รู้เรื่อง เดี๋ยวจะได้ข้อแก้ตัวเท่ๆมาเพิ่มอีก เลยโทรไปหาเจ้าหน้าโครงการชื่อคุณนุช แล้วเค้าก็โทรกลับ(ไม่ได้ยิงไปนะครับ โทรไปขึ้นว่าปิดเครื่อง)

คุณนุชนี่ก็เป็นคนที่แนวสุดๆ ก็แจ้งผมมาว่าสีหมดต้องรอสิ้นเดือนสีเข้า เดี๋ยวจะเร่งให้

ผม : แล้วทำไมไม่บอกผมตั้งแต่วันวางเงินจองครับ
คุณนุช : ก็ไม่รู้อะค่ะ ว่าตกลงกับเซลล์ยังไง
ผม : ก็ตกลงกันไว้เดือนนึงอะครับ
คุณนุช : ก็สีไม่มีค่ะ ต้องรอสิ้นเดือน แล้วช่วงนี้ฝนก็ตก ทาสีไม่ได้ (มา ตรรกะ เดียวกันเลยไม่รู้ตกลงว่าทาไม่ได้เพราะฝนตก หรือสีไม่มี) แล้วก็ต้องนัดเผื่อไว้เป็นกลางเดือนหน้า เพราะถ้านัดเร็วกว่านี้ แล้วถึงเวลาจริงๆไม่เสร็จน้องก็โทรมาด่าอีก (กรรม)
ผม : ผมไปด่าอะไรตอนไหนครับ (ฟังความลูกน้องข้างเดียว ดีจริงๆ)

สรุปก็ต้องรอครับ ถ้ากลางเดือนหน้ายังไม่เสร็จ ก็ต้องรอครับเพราะต้องเกรงใจคุณนุชกับคุณน้ำด้วย

ฝากไว้ให้สำหรับคนที่ไม่มีความรู้หรือประสบการณ์ในการซื้อบ้านอย่างผมนะครับ ผมคิดว่าผมศึกษามาดีพอแล้วแต่ก็ยังพลาดท่า

ข้อมูลสำคัญแนะนำเพิ่มเติม
1.สอบถามกับเซลล์เลยครับก่อนวางเงินจอง ถึงบางที่จะเงินจองน้อยก็ตาม
   - ร่วมกับธนาคารอะไรบ้าง มีเจ้าหน้าทีธนาคารประจำที่สำนักงานขายไหม (ส่วนใหญ่เซลล์แทบทุกที่จะบอกข้อมูลเยอะมาก เพราะเค้าเป็นเซลล์จริงๆครับ)
   - โปรโมชั่นอะไรบ้าง
   - ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าโอน ค่าส่วนกลาง ค่าประเมิน เท่าไร

2.แนะนำให้เตรียมเอกสารเข้าไปปรึกษากับธนาคารหลายๆที่เองก่อนที่จะวางเงินจองครับ

3.การขอสเตทเมนต์ของธนาคารกรุงเทพต้องใช้เวลา ประมาณ 3-4 วันทำการนะครับ และต้องไปรับเอกสารสเตทเมนต์ที่สาขาที่เปิดบัญชีเท่านั้น แต่ไปยื่นขอที่สาขาไหนก็ได้ครับ (ที่เจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงเทพแจ้งมาเป็นแบบนี้นะครับ ถ้าผิดพลาดขออภัยครับ)

4.กรณีของผมค่าน้ำมันที่ได้เพิ่มในแต่ละเดือน ธนาคาเค้าไม่คิดรวมเป็นรายได้ให้นะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่