ในสมัยก่อนนั้น วิทยาศาสต์ค้นพบ อตอมและบอกว่าอตอมนั้นเล็กที่สุด และข้างในกลวงโบ๋
แต่เวลาผ่านไปการศึกษาทางวิทยาศาสต์ก็ค้นพบกับแกนของ อตอม และเจอ ควาร์กในที่สุด
เล็กที่สุดจนมองไม่เห็น ไม่สามรถค้นหาและตรวจจับได้แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันไม่มีจริง
"ทุกอย่างบนโลกใบนี้ไม่เคยหายไปไหนแต่มันแค่แหลกสลายเล็กลงจนเรามองไม่เห็นเท่านั้น(ครูของผมเคยพูดในชั้นเรียน)
จากที่ผมเกริ่นมา สิ่งที่มีความใหญ่มากไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่เล็กมากได้ เช่นเดียวกันกับสิ่งที่เล็กมากๆของมากๆ
ก็ไม่สามารถเห็นสิ่งที่ใหญ่ได้และไม่สามารถอธิบายได้ว่าที่กำลังเห็นนั่นคืออะไร
ในสมัยก่อนนั้น ก่อนที่จะมีวิทยาศาสตน์และวิทยาการต่างๆ
ผมเชื่อว่ามนุษย์นั้นไม่รู้ว่าตัวเองนั้นกำลังอาศัยอยู่ในโลก(อาศัยอยู่บนดวงดาว) เพราะว่าโลกนั้นกว้างใหญ่มากๆจนเกิน
จินตนาการได้ว่าโลกนั้นกลม เช่นเดียวกันเพราะว่าเราเล็กมากๆเมื่อเปรีบเทียบกับจักรวาล เราจึงมองไม่ออกว่าจักรวาลคืออะไร
และใหญ่แค่ไหน
ผมมีความคิดว่าจักรวาลที่เรากำลังอาศัยอยู่นี้=ภายในร่างกาย ดวงดาว=เซลล์ สิ่งมีชีวิตที่อยู่ในดวงดาว=แบคทีเรียที่อาศัยในเซลล์
bigbang คือการปฏิสนธิ เกิดการ bigbang คล้ายกับการเกิดทารก
(ตอนแรกมีแค่ใข่ของเพศแม่แต่พอมีสเปิร์มของเพศพ่อเข้ามาผสมกัน ก็ทำให้เกิดชีวิต หรือก็คือ การระเบิดครั้งใหญ่(bigbang)ในร่างกาย(จักรวาล))
ที่จักรวาลกำลังขยายอย่างต่อเนื่องที่นักวิทยาศาสตร์หลายคนเคยพูดกันนั้น ผม มโนเอาเองว่า การที่จักรวาลกำลังขยายนั้นก็คือร่างกายกำลังเติมโต
แบคทีเรียในร่างกายเรามันจะรู้มั้ยนะว่ามันอาศัยอยู่ในร่างกายเรา เหมือนกับเราก็ไม่รู้ว่าข้างนอกนั่นมีอะไรอยู่ ข้างนอกอวากาศ
ที่ห่างไกล
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ต่ออีกนิดนึงครับ แฮะๆ
หรือว่าเราอาศัยอยู่ในตัวเราเอง คล้ายๆกับการฝันซ้อนฝันแต่ซ้อนจนไม่มีที่สิ้นสุดถ้าเราตัวโตกว่าจักรวาลเราอาจทะลุออกมาจากร่างกายใครซักคนก็ได้นะครับ มิติที่ทับซ้อนกันมากจนเราไม่สามารถเข้าใจมันได้ เพราะในโลกแห่งความจริงนั้นมีแค่ 3 มิติที่เราคุ้นเคย แกน X Y Z แค่นั้นเอง
คำถามที่ผมนำมาตั้งในกระทู้นี้ผมไม่ได้อิงมาจากวิทยาศาสต์วิชาการ และผมไม่มีความรู้ด้านวิชาการวิทยาศาสตร์
ผมตั้งคำถามจากจินตาการณ์เท่านั้น ผมอยากให้งดมาม่าน่ะครับ
ถ้าผมเข้าใจผิดพลาด ข้อไหนด้านได้ ผมก็ขอคำแนะนำด้วยครับ ขอบคุณครับ
มีความเป็นไปได้มั้ยจักรวาลที่เรากำลังอาศัยอยู่นี้เป็นเพียงเซลล์ 1 เซลล์ของสิ่งมีชีวิต
แต่เวลาผ่านไปการศึกษาทางวิทยาศาสต์ก็ค้นพบกับแกนของ อตอม และเจอ ควาร์กในที่สุด
เล็กที่สุดจนมองไม่เห็น ไม่สามรถค้นหาและตรวจจับได้แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันไม่มีจริง
"ทุกอย่างบนโลกใบนี้ไม่เคยหายไปไหนแต่มันแค่แหลกสลายเล็กลงจนเรามองไม่เห็นเท่านั้น(ครูของผมเคยพูดในชั้นเรียน)
จากที่ผมเกริ่นมา สิ่งที่มีความใหญ่มากไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่เล็กมากได้ เช่นเดียวกันกับสิ่งที่เล็กมากๆของมากๆ
ก็ไม่สามารถเห็นสิ่งที่ใหญ่ได้และไม่สามารถอธิบายได้ว่าที่กำลังเห็นนั่นคืออะไร
ในสมัยก่อนนั้น ก่อนที่จะมีวิทยาศาสตน์และวิทยาการต่างๆ
ผมเชื่อว่ามนุษย์นั้นไม่รู้ว่าตัวเองนั้นกำลังอาศัยอยู่ในโลก(อาศัยอยู่บนดวงดาว) เพราะว่าโลกนั้นกว้างใหญ่มากๆจนเกิน
จินตนาการได้ว่าโลกนั้นกลม เช่นเดียวกันเพราะว่าเราเล็กมากๆเมื่อเปรีบเทียบกับจักรวาล เราจึงมองไม่ออกว่าจักรวาลคืออะไร
และใหญ่แค่ไหน
ผมมีความคิดว่าจักรวาลที่เรากำลังอาศัยอยู่นี้=ภายในร่างกาย ดวงดาว=เซลล์ สิ่งมีชีวิตที่อยู่ในดวงดาว=แบคทีเรียที่อาศัยในเซลล์
bigbang คือการปฏิสนธิ เกิดการ bigbang คล้ายกับการเกิดทารก
(ตอนแรกมีแค่ใข่ของเพศแม่แต่พอมีสเปิร์มของเพศพ่อเข้ามาผสมกัน ก็ทำให้เกิดชีวิต หรือก็คือ การระเบิดครั้งใหญ่(bigbang)ในร่างกาย(จักรวาล))
ที่จักรวาลกำลังขยายอย่างต่อเนื่องที่นักวิทยาศาสตร์หลายคนเคยพูดกันนั้น ผม มโนเอาเองว่า การที่จักรวาลกำลังขยายนั้นก็คือร่างกายกำลังเติมโต
แบคทีเรียในร่างกายเรามันจะรู้มั้ยนะว่ามันอาศัยอยู่ในร่างกายเรา เหมือนกับเราก็ไม่รู้ว่าข้างนอกนั่นมีอะไรอยู่ ข้างนอกอวากาศ
ที่ห่างไกล
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
คำถามที่ผมนำมาตั้งในกระทู้นี้ผมไม่ได้อิงมาจากวิทยาศาสต์วิชาการ และผมไม่มีความรู้ด้านวิชาการวิทยาศาสตร์
ผมตั้งคำถามจากจินตาการณ์เท่านั้น ผมอยากให้งดมาม่าน่ะครับ
ถ้าผมเข้าใจผิดพลาด ข้อไหนด้านได้ ผมก็ขอคำแนะนำด้วยครับ ขอบคุณครับ