มาหลัยชีวิต ตอน ปรัชญาหมูกระทะบุฟเฟ่

ปรัชญาหมูกระทะบุฟเฟ่
ิby DoctorY



วันนี้ DoctorY ได้ไปทานหมูกระทะบุฟเฟ่มา โค-ตะ-ระ อิ่ม
จุกแน่นขึ้นมาเปรียบเปรยได้ว่า "ขึ้นมาจนเกือบจะถึงลิ้นไก่"

อยู่ๆปรัชญาการดำเนินชีวิตที่เกี่ยวของกับหมูกระทะก็พรั่งพรูขึ้นมาตามปริมาณอาหาร

กลั่นออกมาเป็นปรัชญา (จาก) หมูกระทะบุฟเฟ่ 10 ข้อ
1. จงตักแต่พอดี ถ้าเกินพอดี จะเสียค่าปรับ
เห็นทุกที่เลย จะมีป้ายเตือน ไม่ให้เราตักอาหารเยอะเกินไป
ทานไม่หมด ปรับ xxx บาท ทั้งตัวอาหารเอง หรือ แม้แต่น้ำจิ้ม
ซึ่งการเขียนไว้ก่อนแบบนี้ จะช่วยให้ลูกค้าบางคนระวังไม่ตักมากเกินไป
เพราะบางคนอาจจะไม่ทันคิด ตักมาจนทานไม่หมดจริงๆ
เปรียบกับชีวิตจริง การทำอะไรเกินพอดี ย่อมมีค่าปรับที่ต้องจ่ายสักอย่างหนึ่งเสมอ
ดังนั้น เราต้องคิดก่อนจะทำอะไรไป เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเกินคำว่าพอดีไป

2. เลือกทำเลดี มีชัยไปกว่าครึ่ง
การเลือกที่นั่งในการรับประทาน มีผลต่อความสุขในการทาน
ถ้าเลือกที่นั่งที่ใกล้แหล่งตักอาหาร เราก็จะไม่ต้องเดินไกลเกินไป
ถ้าเลือกที่นั่งที่เป็นทางเดินคนอื่น อาจจะรำคาน คนเดินผ่านโต๊ะเราบ่อยๆ
ถ้าเลือกที่นั่งลึกลับซ่อนมุมเกินไป พนังงานเสริฟก็จะไม่ค่อยเดินผ่าน สั่งอะไรไปก็จะยากหน่อย
เปรียบกับชีวิตจริง การเลือกทำเลดี มีผลอย่างยิ่งต่อการทำมาค้าขาย
เพราะ คนเรามักจะเอาอะไรที่ง่ายและสะดวกสำหรับเขาก่อนเสมอ

3. มาไวกว่า ย่อมได้กินอาหารที่สดใหม่ และหลากหลายกว่า
หลายๆครั้ง พวกอาหารบางอย่างเขาจะเอาเสริฟแค่ช่วงแรกๆเท่านั้น
พอของหมดก็จะไม่ยกมาเสริฟเพิ่มเติม
ดังนั้นการไปที่ร้านบุฟเฟ่ ไวกว่าคนอื่นๆ ก็มักจะได้อาหารที่ครบครัน
และสดใหม่กว่าคนที่มาช่วงหลังๆ
เปรียบกับชีวิตจริง การเริ่มทำอะไรก่อนคนอื่น มักจะมีความได้เปรียบในตลาดมากกว่า
ยิ่งทำไว คู่แข่งก็ยังไม่ค่อยมี การเปรียบเทียบก็ยังไม่เยอะ
จึงมีโอกาสในการประสบความสำเร็จที่สูงกว่า การเข้าไปในตลาดที่เริ่มอิ่มตัวแล้ว

4. กินคนเดียว กินไวอิ่มไว กินกับเพื่อน กินช้าแต่สนุก
สังเกตมาหลายครั้งละ คนที่ไปกินหมูกะทะส่วนใหญ่มักจะไปกันหลายๆคน
นั่นเพราะ การไปทานบุฟเฟ่ ถ้ามีเพื่อนไปด้วย จะสนุกในการทานมากกว่า
แต่สิ่งที่พบเจอ คือ กินคนเดียว กินได้เยอะ ตักได้ไว แต่นั่งได้ไม่นาน
กินกับเพื่อน กินได้ไม่เยอะ ตักช้า ข้อห้ามเยอะขึ้น แต่นั่งทานได้นานกว่า
เปรียบกับชีวิตจริง การทำอะไรคนเดียว จะคล่องแคล่วว่องไว ปรับเปลี่ยนได้ง่าย
แต่จะเหนื่อยและทำนานๆไม่ได้ เมื่อไม่ว่างก็ไม่มีคนทำแทน
การทำอะไรเป็นทีม ชักช้า เคลื่อนไหวยาก ปรับเปลี่ยนลำบาก
แต่จะไม่เหนื่อยเท่าคนเดียว สามารถทำได้นานๆ และมีคนมาทำแทนเมือไม่ว่าง

5. การมีของให้เลือกหลายอย่างมากเกินไป เราจะกินสิ่งที่ชอบจริงๆได้น้อย
การที่เรามีของให้เลือกมากเกินไป เราจะอยากลองให้หมดทุกอย่าง
เมื่อเราลองจนครบ เราก็จะเริ่มอิ่มๆละ ทำให้ทานสิ่งที่เราชอบจริงๆ
สิ่งที่เราตั้งใจจะกินแต่แรก ได้น้อยลงไปอย่างเห็นได้ชัด
เปรียบกับชีวิตจริง  การที่เราทำทุกสิ่งทุกอย่างโดยไม่มีการโฟกัส
พลังงาน ความมุ่งมัน สติ และอีกหลายๆอย่าง มันจะเริ่มลดน้อยลงไป
จนเมื่อเราจะทำในสิ่งที่เราอยากทำจริงๆ ร่างกายก็หมดสภาพไปก่อนละนั่นเอง

6. อย่าทานเยอะเกินไป เพราะเราจะเบื่อในสิ่งนั้นๆได้
การทานเยอะเกินไป แม้จะเป็นในสิ่งที่เราชอบก็ตามที เราอาจจะเบื่อมันก็ได้
คำว่า "จำเจ" หรือ "routine" เป็นสิ่งที่พบเจอกับการทานบุฟเฟ่อย่างเลี่ยงไม่ได้
ผมเองยังเคยตักแต่เนื้อหมูหมักมาอย่างเดียว กินอย่างเดียว จนเอียนไปเลย
แรกๆก็อร่อย เพราะเป็นของที่ชอบ หลังๆเบื่อหมูไปเลยพักใหญ่
เปรียบกับชีวิตจริง การที่เราทำแต่สิ่งเดิมๆ ไม่มีการพัฒนาหรือทำให้ดีขึ้น
ไม่ใช่เพียงแต่ลูกค้าที่รับสินค้าเรา ตัวผู้ผลิตเองก็จะเริ่มเบื่อในการทำ
และเริ่มหมดสนุกในการทำมัน ไม่แปลกเลยที่สินค้าหลายๆตัวมีการพัฒนารุ่นใหม่มาเสมอ

7.  การกินสิ่งที่อยู่นอกบุฟเฟ่ มันต้องเสียตังค์เพิ่มนะ
การสั่งเมนูอื่นที่น่ากิน หรือพิเศษหน่อย ของเหล่านั้นมักจะอยู่นอกรายการบุฟเฟ่
และมักจะต้องเพิ่มเงินจากราคาบุฟเฟ่เมื่อเราต้องการจะกินมัน
เปรียบกับชีวิตจริง การเพิ่มออฟชั่นพิเศษ เป็นฟังก์ชั่นเสริม
จะสามารถเพิ่มยอดขายสินค้าเราได้เป็นอย่างดี
ตัวอย่างวิธีนี้ เช่น การเพิ่มขนาดสินค้า พวกเฟรนฟราย เป็นต้น

8. เมื่อหมดไฟ ต้องรีบเติม เดี๋ยวขาดตอน
การกินหมูกะทะ ความเร็วในการปิ้งย่าง คือ ความร้อนจากเตาถ่าน (พบเห็นได้ทั่วไป)
น้อยร้านจะใช้เป็นเตาแก๊ส เพราะมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่านั่นเอง
การใช้เตาถ่าน เมื่อถ่านเริ่มมอด มันก็จะร้อนน้อยลง เพนื้อปิ้งก็จะสุกช้าลง
ถ้าเราไม่เติมถ่าน เราก็จะใช้เวลาปิ้งต่อชิ้นนานขึ้นทำให้ขาดตอนความสนุกได้
เปรียบกับชีวิตจริง  การหมดไฟ หรือกำลังใจ จะทำให้การทำงานด้อยประสิทธิภาพลงไป
เราต้องเติมไฟให้ตัวเองอยู่เสมอ เพราะมันมอดได้ตลอดเวลา
เพื่อจะได้ทำงานต่อไป ได้อย่างเต็มที่ สุดกำลัง

9. ถ้าเราทำไรแล้วไม่สนใจ เนื้อปิ้งจะไหม้เสียหายได้
บางที เราปิ้งไปคุยไป คุยเพลินไป ลืมพลิกเนื้อ มันก็อาจจะไหม้ได้
และมักจะเกิดขึ้นเสมอๆ ในการทานหมูกระทะบุฟเฟ่ ใครไม่ไหม้เลยถือว่าเทพมากครับ
เปรียบกับชีวิตจริง การที่เราปล่อยปละละเลยอาจจะทำให้เกิดปัญหาขึ้นได้
ถ้าเราไม่สนใจในงาน ก็อาจจะทำให้งานเสียหาย และเกิดปัญหางานงอกได้

10. นอกจากปิ้งแล้ว การต้มก็ทำให้เราได้กินเนื้อ (หาช่องทางรายได้เยอะๆ)
จะสื่อว่า การทำให้เนื้อสุก ไม่ได้มีแค่วิธีปิ้งวิธีเดียว
เมื่อมันมีคนกินเยอะ การปิ้งอาจจะไม่ทันท่วงที
การมีทางเลือกอื่นเช่นการต้ม ก็จะช่วยเพิ่มเนื้อที่สุกพร้อมรับประทานได้
เปรียบกับชีวิตจริง การมีช่องทางรายได้มากกว่าหนึ่งทาง
ย่อมดีกว่าการหวังแค่รายได้จากทางเดียว ยิ่งมีเยอะยิ่งดีกว่านะจ๊ะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่